- Details
- Category: หุ้นเด่นวันนี้
- Published: Tuesday, 11 November 2014 12:31
- Hits: 2409
ภาวะตลาดหุ้นไทย : แนวโน้มดัชนีเช้านี้ลุ้นรีบาวด์ตามตลาดหุ้นทั่วโลก, ยังคงเก็งกำไรตามงบฯ
นายอภิชาติ ผู้บรรเจิดกุล ผู้อำนวยการสายงานวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.ทิสโก้ กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยเช้านี้มีโอกาสที่จะรีบาวด์ได้แต่คงไม่แรงมากนัก เป็นไปในทิศทางเดียวกับตลาดหุ้นทั่วโลก ทั้งตลาดสหรัฐและตลาดหุ้นอื่นในภูมิภาคเอเชียที่ปรับตัวขึ้นกันถ้วนหน้า เป็นผลจากความคาดหวังตัวเลขเศรษฐกิจหลักๆ ของสหรัฐน่าจะดี และผลประกอบการบริษัทฯในสหรัฐฯก็ออกมาดีกว่าคาดด้วย
ส่วนบ้านเราก็คาดว่าหุ้น PTT น่าจะฟื้นตัวขึ้นได้หลังจากเมื่อวานนี้ปรับตัวลงไปแรง นอกจากนี้ ยังมีหุ้นหลายตัวที่เข้าไปในการคำนวณของ MSCI น่าจะช่วยหนุนตลาดฯได้บ้าง อย่างไรก็ดี ผลประกอบการของบริษัทจดทะเบียนงวดไตรมาส 3/57 ส่วนใหญ่ออกมาต่ำกว่าคาด โดยมี 42% ออกมาแย่กว่าคาด, 32% ออกมาเป็นไปตามคาด และ 26% ออกมาดีกว่าคาด ดังนั้น ระหว่างเทรดอาจมีแรงขายทำกำไรออกมาบางส่วน
อย่างไรก็ดี ตลาดฯคงยังเป็นลักษณะการเก็งกำไรรายตัวตามความคาดหวังงบฯ หากออกมาแย่ก็คงจะมีแรงขาย พร้อมให้แนวรับ 1,565-1,567 จุด ส่วนแนวต้าน 1,578-1,580 จุด
ประเด็นของการพิจารณาการลงทุน :
- ตลาดหุ้นนิวยอร์คล่าสุด(10 พ.ย.)ดัชนีดาวโจนส์ปิดที่ 17,613.74 จุด เพิ่มขึ้น 39.81 จุด (+0.23%),ดัชนี NASDAQ ปิดที่ 4,651.62 จุด เพิ่มขึ้น 19.09 จุด(+0.41%),ดัชนี S&P500 ปิดที่ 2,038.26 จุด เพิ่มขึ้น 6.34 จุด(+0.31%)
- ตลาดหุ้นเอเชียเปิดเช้าวันนี้ ดัชนี NIKKEI 225 ตลาดหุ้นญี่ปุ่น เพิ่มขึ้น 88.96 จุด, +0.53% ดัชนี KOSPI ตลาดหุ้นเกาหลีใต้ ลดลง 0.36 จุด, -0.02% ดัชนี TAIEX ตลาดหุ้นไต้หวัน เพิ่มขึ้น 17.56 จุด, +0.19% ดัชนี FBMKLCI ตลาดหุ้นมาเลเซีย เพิ่มขึ้น 3.10 จุด, +0.17% ดัชนี FTSE STI ตลาดหุ้นสิงคโปร์ เพิ่มขึ้น 5.68 จุด, +0.17%, ดัชนี HSI ตลาดหุ้นฮ่องกง เพิ่มขึ้น 64.71 จุด, +0.27% ดัชนี SSE Composite ตลาดหุ้นจีน เพิ่มขึ้น 9.98 จุด, +0.40% ดัชนี PSE Composite ตลาดหุ้นฟิลิปปินส์ เพิ่มขึ้น 2.42 จุด, +0.03% ดัชนี S&P/ASX 200 ตลาดหุ้นออสเตรเลียไม่เปลี่ยนแปลง
- ตลาดหุ้นไทยปิดล่าสุด(10 พ.ย.)1,567.34 จุด ลดลง 11.03 จุด(-0.70%)
- นักลงทุนต่างชาติซื้อสุทธิ 963.18 ล้านบาท เมื่อวันที่ 10 พ.ย.57
- ราคาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือน ธ.ค.ในตลาดไนเม็กซ์ปิดทำการล่าสุด(10 พ.ย.)ที่ 77.4 ดอลลาร์/บาร์เรล ร่วงลง 1.25 ดอลลาร์
- ค่าการกลั่นอ้างอิงตลาดสิงคโปร์ปิดล่าสุด(10 พ.ย.)ที่ 7.57 เหรียญสหรัฐฯ/บาร์เรล
- เงินบาทเปิด 32.81/82 อ่อนค่าเล็กน้อย รอปัจจัยใหม่หนุน
- "ประยุทธ์"ชูนโยบาย"ไทย+1"ดึงนักลงทุนต่างชาติ เตรียมเพิ่มเขตเศรษฐกิจพิเศษ 7 จุดในปีหน้า ขณะถกธุรกิจยักษ์ใหญ่ในวงการไอทีโลกของจีน"หัวเว่ย-แซดทีอี"ร่วมลงทุนบรอดแบนด์แห่งชาติ หนุนเศรษฐกิจดิจิทัล ขณะกลุ่มอุตสาหกรรมยางฯเตรียมทำคณะเยือนไทยสำรวจตั้งโรงงานแปรรูปยางพารา
- หอการค้าร่วมต่างประเทศในไทยเตรียมพบ"ประยุทธ์"ปลายเดือนนี้ รับฟังยุทธศาสตร์บริหารประเทศ พร้อมเสนอแนวทางขับเคลื่อนเศรษฐกิจ แจงรัฐเดินถูกทางเชื่อมโยงเพื่อนบ้าน-เศรษฐกิจดิจิทัล แนะเปิดกว้างต่างชาติร่วมทุนพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานจี้นิยามต่างด้าวต้องชัด หวั่นต่างชาติสวมรอยตั้งนอมินีหาประโยชน์ภายใต้กรอบเออีซี ระบุไตรมาสสี่สัญญาณลงทุนต่างชาติในไทยเริ่มฟื้น
- นายสมหมาย ภาษี รมว.คลัง เปิดเผยว่า กระทรวงการคลังอยู่ระหว่างพิจารณามาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจระยะปานกลางเตรียมประกาศใช้ในช่วงเดือน ธ.ค.นี้ อาทิ การปล่อยสินเชื่อรายย่อยในรูปแบบของนาโนไฟแนนซ์ ซึ่งกระทรวงการคลังจะสนับสนุนให้เอกชนจัดตั้งบริษัทสินเชื่อรายย่อย(บย.)
- รมว.คลัง เผย 12 พ.ย.นี้ คลังจะเสนอให้คณะรัฐมนตรี(ครม.)เห็นชอบร่าง พ.ร.บ.ภาษีการรับมรดก โดยมีสาระสำคัญให้เก็บภาษีจากผู้รับมรดกในส่วนที่เกิน 50 ล้านบาทในอัตราภาษีเพดานไม่เกิน 10% ส่วนจะเก็บจริงเท่าไรขึ้นอยู่กับการพิจารณาของสภานิติบัญญัติแห่งชาติ(สนช.)แต่กระทรวงการคลังจะผลักดันให้เก็บในอัตรา 10% เพราะเป็นอัตราที่ต่ำ เมื่อเทียบกับประเทศสหรัฐอเมริกาและอังกฤษเก็บภาษีมรดก 40% และญี่ปุ่นเก็บ 55% โดยการเก็บภาษีมรดกของไทยจะเก็บจากผู้รับมรดกที่เป็นชั้นลูกกับหลาน
- สำนักงานสถิติแห่งชาติเปิดเผยถึงผลการสำรวจภาวะการทำงานของประชากรในเดือนต.ค.2557 พบว่า มีการว่างงาน 2.89 แสนคน เพิ่มขึ้น 5.2 หมื่นคน เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันปีก่อนที่มีผู้ว่างงาน 2.37 แสนคน และคิดเป็นอัตราว่างงาน 0.8% อย่างไรก็ตามเมื่อเทียบกับเดือนก่อนหน้า จำนวนผู้ว่างงานลดลง 2.2 หมื่นคน โดยจำนวนผู้ว่างงานในปีนี้ลดลงต่อเนื่องมาเป็นเดือน ที่ 4 นับตั้งแต่เดือน มิ.ย.2557 ที่มีผู้ว่างงานมากที่สุดในปีนี้ 4.48 แสนคน
*หุ้นเด่นวันนี้
- NCL(บมจ.เอ็นซีแอล อินเตอร์เนชั่นแนล โลจิสติกส์)เริ่มซื้อขายวันนี้ บล.ฟินันเซีย ไซรัส ประเมินราคาเป้าหมายปี 2015 ที่ 2.30 บาท (PE 12 เท่า)โดยคาดทำให้รายได้ปี 2015 โต 24% และกำไรสุทธิโต 47.6%
NCL บริษัทเป็นผู้ให้บริการด้านโลจิสติกส์ครบวงจร รายได้ 85% มาจากบริการขนส่งทางเรือระหว่างประเทศไปยังจุดหมายปลายทาง 180 ประเทศทั่วโลก และอีก 14% มาจากการขนส่งในประเทศด้วยหัวรถลาก จุดเด่นคือบริการที่ต่อเนื่องเชื่อมโยงทั้งขนส่งระหว่างประเทศและในประเทศแบบ One-Stop-Service ทำให้รายได้โตเฉลี่ย 20-25% ในช่วง 3 ปีที่ผ่านมา เงินที่ได้จาก IPO จะนำไปลงทุนซื้อหัวรถลากเพิ่มอีกเท่าตัว คืนหนี้บางส่วน และใช้เป็นเงินทุนหมุนเวียน
- KCE(โกลเบล็ก)"ซื้อ"เป้า consensus สูงสุดที่ 53 บาท Consensus คาดกำไร Q3/14F ที่ 520 ล้านบาท เติบโตขึ้นทั้ง YoY และ QoQ จากยอดขาย PCB กลุ่มยานยนต์เพิ่มขึ้น และได้อนิสงค์จากค่าเงินบาทที่อ่อนตัวลง แนวโน้มกำไร Q4/14 ยังเติบโต จากกำลังการผลิตโรงงานใหม่เฟส 1 เข้ามา เพิ่มกำลังการผลิตอีก 7 แสนตารางฟุต/เดือน พร้อมตั้งเป้ารายได้เติบโต 100% ใน 3 ปี จากกำลังการผลิตใหม่ที่เข้ามาทั้งหมดปลายปี 2559
- CK(ฟินันเซีย ไซรัส)"ซ์อ"เป้าปี 2015 ที่ 30 บาท ราคาหุ้น 4QTD underperform ผู้รับเหมารายใหญ่ โดยเฉพาะ ITD ทั้งที่ CK มี Backlog 1 แสนล้านบาท น้อยกว่า ITD ครึ่งหนึ่งแต่มากกว่า STEC กว่า 2 เท่า และมีโอกาสได้รับงานเพิ่มอีกมากจากการเร่งลงทุนของภาครัฐปีหน้า และมีการกระจายรายได้ไปในธุรกิจอื่น (BECL, BMCL, TTW, CKP) ที่ให้ส่วนแบ่งกำไรที่ดี ขณะที่กำไรสุทธิ 3Q14 จะโดดเด่นเพราะมีกำไรจากการขาย BMCL 800 ล้านบาท และ 4Q14 มีกำไรขาย CKP ประมาณ 200 ล้านบาท
- PTTEP(ทรีนีตี้)"ซื้อ"เป้า 183 บาท ราคาสะท้อนปัจจัยลบแล้ว ปี 58 สดใส ลุ้นประมูลสัปทานรอบใหม่
ตลาดหุ้นเอเชียปรับตัวขึ้นเช้านี้ ขานรับดาวโจนส์,S&P 500 พุ่งทำนิวไฮ
ตลาดหุ้นเอเชียปรับตัวขึ้นในช่วงเช้านี้ เพราะได้แรงหนุนจากดัชนีดาวโจนส์ และ S&P 500 ที่พุ่งขึ้นแตะระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์เมื่อคืนนี้ เนื่องจากนักลงทุนมีมุมมองที่เป็นบวกต่อผลประกอบการของบริษัทเอกชน
ดัชนี MSCI Asia Pacific Index ปรับตัวขึ้นเกือบ 0.1% แตะที่ 140.96 จุด เมื่อเวลา 09.04 น.ตามเวลาโตเกียว
ดัชนี NIKKEI 225 ตลาดหุ้นญี่ปุ่นเปิดที่ 16,869.49 จุด เพิ่มขึ้น 88.96 จุด, +0.53% ดัชนี KOSPI ตลาดหุ้นเกาหลีใต้เปิดที่ 1,957.87 จุด ลดลง 0.36 จุด, -0.02% ดัชนี TAIEX ตลาดหุ้นไต้หวันเปิดวันนี้ที่ 9,067.54 จุด เพิ่มขึ้น 17.56 จุด, +0.19% ดัชนี FBMKLCI ตลาดหุ้นมาเลเซียเปิดที่ 1,831.03 จุด เพิ่มขึ้น 3.10 จุด, +0.17% ดัชนี FTSE STI ตลาดหุ้นสิงคโปร์เปิดที่ 3,306.68 จุด เพิ่มขึ้น 5.68 จุด, +0.17%
ส่วนดัชนี HSI ตลาดหุ้นฮ่องกงเปิดที่ 23,809.41 จุด เพิ่มขึ้น 64.71 จุด, +0.27% ดัชนี SSE Composite ตลาดหุ้นจีนเปิดที่ 2,483.65 จุด เพิ่มขึ้น 9.98 จุด, +0.40% ดัชนี PSE Composite ตลาดหุ้นฟิลิปปินส์เปิดที่ 7,194.54 จุด เพิ่มขึ้น 2.42 จุด, +0.03% ดัชนี S&P/ASX 200 ตลาดหุ้นออสเตรเลียเปิดที่ 5,524.00 จุด ไม่เปลี่ยนแปลง
ตลาดหุ้นส่วนใหญ่ในเอเชียดีดตัวขึ้นเช้านี้ ขานรับดัชนีดาวโจนส์ และ S&P 500 ที่พุ่งขึ้นแตะระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์เมื่อคืนนี้ เนื่องจากนักลงทุนมีมุมมองที่เป็นบวกต่อแนวโน้มเศรษฐกิจของสหรัฐ และผลประกอบการของภาคเอกชน
ทั้งนี้ เนื่องจากฤดูการจับจ่ายใช้สอยในเทศกาลวันหยุดของสหรัฐกำลังใกล้เข้ามา นักลงทุนจึงจับตาดูรายงานยอดขายของบริษัทค้าปลีกรายใหญ่ รวมถึงวอล-มาร์ท และเมซี ซึ่งมีกำหนดจะเปิดเผยผลประกอบการในสัปดาห์นี้ โดยตัวเลขการใช้จ่ายผู้บริโภคนั้น คิดเป็นสัดส่วนสูงถึง 70% ของผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (จีดีพี) ของสหรัฐ
ภาวะตลาดหุ้นลอนดอน: หุ้นกลุ่มค้าปลีกหนุนฟุตซี่ปิดบวก 44.01 จุด
ตลาดหุ้นลอนดอนปิดปรับขึ้นเมื่อคืนนี้ (10 พ.ย.) หลังจากหุ้นกลุ่มค้าปลีกปรับตัวสดใส ขานรับรายงานเกี่ยวกับภาวะตลาดที่ดีขึ้นของอังกฤษในช่วงหลายเดือนที่ผ่านมา
ดัชนี FTSE 100 เพิ่มขึ้น 44.01 จุด หรือ 0.67% ปิดที่ 6,611.25 จุด
ตลาดได้รับแรงหนุนจากการปรับตัวขึ้นของหุ้นกลุ่มค้าปลีก หลังจากบริษัทแฮมเมอร์สัน ซึ่งเป็นเจ้าของศูนย์การค้าหลายแห่ง ได้รายงานถึงภาวะตลาดที่ดีขึ้นในอังกฤษในช่วงต้นเดือนก.ค.-ต้นเดือนพ.ย. ซึ่งได้ช่วยหนุนหุ้นเทสโก้ให้พุ่งขึ้น 4.6%
ส่วนหุ้นมาร์คส์ แอนด์ สเปนเซอร์ ดีดตัวขึ้น 2.3% และหุ้นดับเบิลยูเอ็ม มอร์ริสัน ปรับขึ้น 1.3%
ภาวะตลาดหุ้นยุโรป: ผลประกอบการเอกชนสดใส หนุนตลาดหุ้นยุโรปปิดบวก
ตลาดหุ้นยุโรปปิดบวก (10 พ.ย.) เพราะได้แรงหนุนจากรายงานผลประกอบการที่สดใสของบริษัทเอกชน รวมถึงบริษัทคาร์ลสเบิร์ก
ดัชนี Stoxx Europe 600 เพิ่มขึ้น 0.7% ปิดที่ 337.71 จุด
ดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมันปิดที่ 9,351.87 จุด เพิ่มขึ้น 60.04 จุด หรือ +0.65% ดัชนี CAC-40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศสปิดที่ 4,222.82 จุด เพิ่มขึ้น 32.93 จุด หรือ +0.79% ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 6,611.25 จุด เพิ่มขึ้น 44.01 จุด หรือ +0.67%
หุ้นคาร์ลสเบิร์ก ซึ่งเป็นผู้ผลิตเบียร์รายใหญ่ของรัสเซีย พุ่งขึ้น 3.1% หลังจากบริษัทเปิดเผยว่าส่วนแบ่งตลาดภายในประเทศปรับตัวสูงขึ้น และผลประกอบการรายไตรมาสก็ปรับตัวเพิ่มขึ้นเกินคาด
หุ้นลอนมิน ซึ่งเป็นผู้ผลิตพลาตินัมรายใหญ่ระดับโลก พุ่งขึ้น 4.1% หลังจากผู้บริหารของบริษัทยืนยันว่ายังไม่จำเป็นต้องระดมทุนในขณะนี้
นักลงทุนจับตาดูข้อมูลเศรษฐกิจที่สำคัญประเทศยุโรปในสัปดาห์นี้ รวมถึงการผลิตภาคอุตสาหกรรมของสหภาพยุโรปเดือนก. ย. ดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) เดือนต.ค.ของเยอรมนี ฝรั่งเศส และอิตาลี และจีดีพีเบื้องต้นช่วงไตรมาส 3/2557 ของฝรั่งเศส เยอรมนี และอิตาลี
ภาวะตลาดหุ้นนิวยอร์ก: ดาวโจนส์ปิดบวก 39.81 จุด รับมุมมองเศรษฐกิจสดใส
ดัชนี ดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดบวกเมื่อคืนนี้ (10 พ.ย.) โดยดัชนีดาวโจนส์ และ S&P 500 ปิดที่ระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ เพราะได้แรงหนุนจากการที่นักลงทุนมีมุมมองที่เป็นบวกต่อแนวโน้มเศรษฐกิจของสหรัฐ และผลประกอบการของภาคเอกชน
ดัชนี เฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 17,613.74 จุด เพิ่มขึ้น 39.81 จุด หรือ +0.23% ดัชนี NASDAQ ปิดที่ 4,651.62 จุด เพิ่มขึ้น 19.09 จุด หรือ +0.41% ดัชนี S&P500 ปิดที่ 2,038.26 จุด เพิ่มขึ้น 6.34 จุด หรือ +0.31%
ตลาดหุ้นนิวยอร์กดีดตัวขึ้นขานรับมุมมองที่เป็นบวกต่อเศรษฐกิจของสหรัฐ หลังจากกระทรวงแรงงานสหรัฐเปิดเผยว่า ตัวเลขจ้างงานนอกภาคเกษตรของสหรัฐในเดือนต.ค.เพิ่มขึ้น 214,000 ราย ขณะที่อัตราว่างงานในเดือนต.ค.ร่วงลงแตะระดับ 5.8% ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดในรอบ 6 ปี
นอกจากนี้ ตลาดยังได้แรงหนุนจากผลประกอบการที่สดใสของภาคเอกชน โดยสำนักข่าวซินหัวรายงานโดยอ้างข้อมูลล่าสุดจากธอมสัน รอยเตอร์ว่า 90% ของบริษัทที่จดทะเบียนในดัชนี S&P 500 นั้น ได้รายงานผลประกอบการไตรมาส 3 แล้ว ซึ่ง 74.6% ในจำนวนนั้น มีผลประกอบการที่สูงกว่าการคาดการณ์ของนักวิเคราะห์
ทั้งนี้ เนื่องจากฤดูการจับจ่ายใช้สอยในเทศกาลวันหยุดของสหรัฐกำลังใกล้เข้ามา นักลงทุนจึงจับตาดูรายงานยอดขายของบริษัทค้าปลีกรายใหญ่ รวมถึงวอล-มาร์ท และเมซี ซึ่งมีกำหนดจะเปิดเผยผลประกอบการในสัปดาห์นี้ โดยตัวเลขการใช้จ่ายผู้บริโภคนั้น คิดเป็นสัดส่วนสูงถึง 70% ของผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (จีดีพี) ของสหรัฐ
หุ้นอาลีบาบา พุ่งขึ้น 4.01% หลังจากบริษัทประกาศเปิดตัวงาน "Single's Day Sales" ในวันอังคารนี้ ซึ่งคาดว่าจะทำยอดขายพุ่งสูงสุดเป็นประวัติการณ์
นักลงทุนจับตาดูข้อมูลเศรษฐกิจที่สำคัญของสหรัฐในสัปดาห์นี้ รวมถึงสต็อกสินค้าและยอดค้าส่งเดือนก.ย., จำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานครั้งแรกรายสัปดาห์ ยอดค้าปลีกเดือนต.ค. และดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคสหรัฐช่วงต้นเดือนพ.ย.จากรอยเตอร์/มหาวิทยาลัยมิชิแกน
อินโฟเควสท์