- Details
- Category: หุ้นเด่นวันนี้
- Published: Friday, 07 November 2014 17:38
- Hits: 2474
โบรกฯ คาดสัปดาห์หน้า SET ผันผวน นลท.หันเก็งกำไรหุ้นกลาง-เล็ก แต่ระวังเงินไหลออก หลังดอลล์แข็งค่า
โบรกฯ คาดสัปดาห์หน้าหุ้นไทยแกว่งตัวแคบ หุ้นใหญ่นิ่ง นลท.เก็งกำไรหุ้นขนาดกลาง-เล็ก พร้อมรอดูช่วงสุดท้ายประกาศงบ Q3/57 ในกลุ่มส่งออก อาหารและอสังหาริมทรัพย์ เตือนระวังเงินไหลออก หลังเงินดอลล์แข็งค่าต่อเนื่อง แนะทยอยซื้อ PTTEP-BBL ประเมินแนวรับ 1,560-1,555 จุด แนวต้าน 1,590 จุด
นายวิกิจ ถิรวรรณรัตน์ ผู้อำนวยการสายงานวิจัยลูกค้าบุคคล บล.บัวหลวง เปิดเผยว่า ดัชนีหุ้นไทยแกว่งตัวแคบอิงทางลบ เนื่องจากในช่วงสองสัปดาห์ที่ผ่านมา ดัชนีฯ ปรับตัวเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง จึงเห็นการปรับตัวลงบ้าง แม้จะมีปัจจัยบวกจากผลการประชุมธนาคารกลางยุโรป (ECB) ที่มีความชัดเจนเกี่ยวกับมาตราการกระตุ้นเศรษฐกิจเพิ่มเติมมากขึ้น ทำให้นักลงทุนหันไปเก็งกำไรในหุ้นที่มีประเด็นข่าวเฉพาะตัว อย่าง PTT ที่มีการปรับโครงสร้างราคาพลังงาน และการเตรียมบริษัทลูกเข้าซื้อขายในตลาดหุ้นช่วงปีหน้า รวมถึง EA-DELTA-TUF ที่ถูกนำเข้าคำนวณในดัชนี MSCI จึงทำให้ราคาปรับตัวเพิ่มขึ้นถ้วนหน้า อีกทั้งเกิดการเก็งกำไรในหุ้นขนาดกลางและขนาดเล็กมากขึ้น ซึ่งสังเกตุจากหุ้นหลาย ๆ ตัวที่ค่อนข้างจะนิ่ง ก็จะหวือหวามากขึ้นในช่วงที่ผ่านมา
สำหรับ สัปดาห์หน้า คาดหุ้นไทยแกว่งตัวผันผวนกรอบแคบ เนื่องจากดัชนีฯ ปรับเพิ่มขึ้นมาพอสมควร หุ้นขนาดใหญ่ค่อนข้างเคลื่อนไหวแคบ ทำให้นักลงทุนหันไปเก็งกำไรหุ้นที่มีประเด็นข่าว และหุ้นขนาดกลาง-เล็กมากขึ้น อีกทั้งให้ติดตามหุ้นที่จะประกาศผลดำเนินการ Q3/57 ในช่วงสุดท้ายที่จะประกาศออกมาอีกหลายบริษัท ส่วนทางเทคนิค มองว่าหากปรับตัวลงก็ไม่น่าจะลงแรงไปกว่า 1,560-1,555 จุด ซึ่งเป็นจุดที่สามารถเข้าซื้อเพื่อเก็งกำไรได้ ส่วน Upside ก็จำกัดเช่นกัน ไม่น่าจะทะลุแนวต้าน 1,600 จุดได้
ด้านกลยุทธ์ แนะทยอยซื้อหุ้นขนาดใหญ่ เพื่อเก็งกำไรไว้ขายช่วงต้นปีหน้า อาทิ PTTEP-BB โดยประเมินแนวรับ 1,560-1,555 จุด แนวต้าน 1,590 จุด
นายสุกิจ อุดมศิริกุล กรรมการผู้จัดการสายงานวิจัยหลักทรัพย์ บริษัทหลักทรัพย์ เมย์แบงก์ กิมเอ็ง (ประเทศไทย)เปิดเผยว่า บรรยากาศตลาดหุ้นไทยวันนี้แกว่งตัวผันผวน เหตุเพราะยังไม่มีปัจจัยใหม่เข้ามาสนับสนุนและผลการประชุมของธนาคารกลางยุโรป (ECB) ซึ่งเป็นเรื่องคาดหวังที่สำคัญของนักลงทุน ว่าจะมีนโยบายทางการเงินเพิ่มเติมเพื่อช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจที่กำลังชะลอตัวแต่กลับไม่เป็นไปตามคาดการณ์ แม้ดัชนีฯ จะมีการปรับตัวขึ้นบ้างในระหว่างวันแต่มาจากการเข้าเก็งกำไรของนักลงทุนในระยะสั้นจากหุ้นขนาดเล็ก ซึ่งเป็นการปรับตัวขึ้นแบบไม่ยั่งยืน ก่อนจะปิดตัวลงในแดนลบที่ระดับ 1,576.66 จุด -4.11 จุด หรือคิดเป็น -0.26%
"ยังไม่มีปัจจัยใหม่ ๆ ที่จะดันให้ดัชนีฯ ปรับตัวขึ้น เนื่องจากเรื่องสำคัญ อาทิ ผลการประชุม ECB ตลาดรับข่าวไปก่อนหน้านี้แล้วและผลที่ออกมาก็ไม่เป็นไปตามคาดการณ์ ที่เห็นว่าดัชนีฯ ยังแกว่งบวกอยู่ได้บางช่วงเป็นเพราะหุ้นขนาดเล็กที่มีประเด็นและดัชนีฯ ฟื้นตัวตามตลาดหุ้นต่างประเทศ ซึ่งเป็นปัจจัยเหล่านี้เป็นเรื่องไม่ยั่งยืน"นายสุกิจ กล่าว
สำหรับ บรรยากาศในสัปดาห์หน้า คาดว่า ดัชนีฯ ยังคงแกว่งผันผวนในกรอบจำกัด รอติดตามปัจจัยภายในประเทศเรื่องการประกาศผลการประกอบการไตรมาส 3/2557 ของบริษัทจดทะเบียน ซึ่งคาดว่าหุ้นกลุ่มที่จะมีตัวเลขกำไรออกมาดีกว่าคาด อาทิ กลุ่มส่งออก อาหารและอสังหาริมทรัพย์ อีกทั้งยังต้องติดตามในมาตรการต่าง ๆ ของรัฐบาลว่าสามารถกระตุ้นเศรษฐกิจได้จริงหรือไม่
ด้านปัจจัยภายนอกเรื่องของค่าเงินดอลลาร์ที่มีแนวโน้มว่าจะยังคงแข็งค่าอย่างต่อเนื่อง มองว่า เป็นเพราะตัวเลขเศรษฐกิจของสหรัฐฯออกมาดี อีกทั้งหลายประเทศยังคงมีตัวเลขเศรษฐกิจที่ชะลอตัวสวนทางกับเศรษฐกิจสหรัฐฯ จึงเป็นปัจจัยบวกที่ส่งผลต่อการแข็งค่าของเงินดอลลาร์ ด้านค่าเงินบาทก็ยังคงอ่อนตัว ดังนั้น ต้องระวังเม็ดเงินที่จะไหลกลับไปที่สหรัฐฯ จำนวนมาก โดยกลยุทธ์การลงทุน แนะนำให้เข้าซื้อเมื่อดัชนีฯ อ่อนตัวลง
สำนักข่าวอีไฟแนนซ์ไทย