- Details
- Category: หุ้นเด่นวันนี้
- Published: Thursday, 06 November 2014 11:26
- Hits: 2275
ภาวะตลาดหุ้นไทย: แนวโน้มดัชนีเช้ารีบาวน์ ผลเลือกตั้งวุฒิสภา-ตัวเลขจ้างงานสหรัฐฯหนุน/รอECB
นายอภิชาติ ผู้บรรเจิดกุล ผู้อำนวยการสายงานวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.ทิสโก้ กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยวันนี้น่าจะรีบาวน์ได้ แต่จะไม่เกิน 1,590 จุดซึ่งเป็นแนวต้าน โดยภาพรวมตลาดหุ้นทั่วโลกก็ปรับตัวขึ้นได้ ขานรับพรรครีพับลิกันชนะการเลือกตั้งวุฒิสภาเกินกึ่งหนึ่งของสภาซึ่งเป็นครึ่งแรกในรอบ 8 ปี เพราะนักลงทุนคาดหวังพรรครีพับลิกันเข้ามาแก้ภาษีและกฎระเบียบที่เกี่ยวข้องกับภาคธุรกิจที่เอื้อประโยชน์ ซึ่งถ้ามีการเปลี่ยนแปลงทางการเมืองนักลงทุนก็มีความเชื่อมั่น
ขณะที่ตัวเลขจ้างงานภาคเอกชนสหรัฐปรับตัวดีขึ้นแป็น 2.3 แสนตำแหน่งในเดือน ต.ค. สูงกว่าเดือนที่แล้ว
"มอง SET มีโอกาสดีดกลับ แต่ไม่น่าจะเกินแนวต้าน 1,590 จุด ภาพรวมเรายังมองว่า sideway สร้างฐานอยู่ ซึ่งรอผลประชุม ECB ซึ่งเราจะรู้ผลประชุมช่วงบ่ายวันนี้"นายอภิชาติ กล่าว
ให้แนวรับไว้ที่ 1,570-1,575 จุด แนวต้านที่ 1,590 จุด
ประเด็นของการพิจารณาการลงทุน :
- ตลาดหุ้นนิวยอร์คล่าสุด(5 พ.ย.)ดัชนีดาวโจนส์ปิดที่ 17,484.53 จุด เพิ่มขึ้น 100.69 จุด(+0.58%),ดัชนี NASDAQ ปิดที่ 4,620.72 จุด ลดลง 2.92 จุด(-0.06%),ดัชนี S&P500 ปิดที่ 2,023.57 จุด เพิ่มขึ้น 11.47 จุด(+0.57%)
- ตลาดหุ้นเอเชียเปิดเช้าวันนี้ ดัชนี NIKKEI 225 ตลาดหุ้นญี่ปุ่นเปิด เพิ่มขึ้น 56.14 จุด, ดัชนี SSE Composite ตลาดหุ้นจีนเปิด เพิ่มขึ้น 0.37 จุด, ดัชนี HSI ตลาดหุ้นฮ่องกงเปิด เพิ่มขึ้น 42.14 จุด, ดัชนี TAIEX ตลาดหุ้นไต้หวันเปิด เพิ่มขึ้น 6.19 จุด, ดัชนี KOSPI ตลาดหุ้นเกาหลีใต้เปิด เพิ่มขึ้น 2.02 จุด, ดัชนี FTSE STI ตลาดหุ้นสิงคโปร์เปิด เพิ่มขึ้น 0.05 จุด และดัชนี FBMKLCI ตลาดหุ้นมาเลเซียเปิด ลดลง 0.40 จุด
- ตลาดหุ้นไทยปิดล่าสุด(5 พ.ย.)1,577.40 จุด ลดลง 7.75 จุด(-0.49%)
- นักลงทุนต่างชาติซื้อสุทธิ 2,559.33 ล้านบาท เมื่อวันที่ 5 พ.ย.57
- ราคาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือน ธ.ค.ในตลาดไนเม็กซ์ปิดทำการล่าสุด(5 พ.ย.)ที่ 77.14 ดอลลาร์/บาร์เรล ลดลง 5 เซนต์
- ค่าการกลั่นอ้างอิงตลาดสิงคโปร์ปิดล่าสุด(5 พ.ย.)ที่ 6.40 เหรียญสหรัฐฯ/บาร์เรล
- เงินบาทเปิด 32.78/80 เข้าสู่ช่วงพักฐาน มองกรอบวันนี้ 32.75-32.90
- แบงก์ชาติ ยอมรับอาจปรับลดจีดีพีลงอีก หลังพบลงทุนภาครัฐ-การส่งออก ปีนี้ฟื้นตัวช้ากว่าที่คาด ด้าน "โฆสิต" เตือนรัฐอย่าใช้การบริโภคกระตุ้นเศรษฐกิจห่วงหนี้ครัวเรือนเพิ่ม จำกัดการเติบโตภายในประเทศ ขณะที่มติ "กนง." 6 ต่อ 1 คงดอกเบี้ย 2% เชื่อนโยบายการเงินไม่เป็นอุปสรรคต่อการฟื้นตัวเศรษฐกิจหนึ่งเสียงเสนอลด 0.25% หวังกระตุ้นเศรษฐกิจ มั่นใจ "บีโอเจ-อีซีบี" ผ่อนคลายนโยบายการเงินไม่กระทบไทย เชื่อ "แครี่เทรด" มีน้อย
- "ซูเปอร์บอร์ด" อนุมัติกองทุนอินฟราฯ กฟผ. 2 หมื่นล้าน เป็นโครงการนำร่องคาด "ทอท." จ่อออกตาม ตั้ง"ปรีดิยาธร" หารือรัฐมนตรีต้นสังกัดทบทวนบาทรัฐวิสาหกิจรายตัว ควรปรับปรุงหรือยุบพร้อมสั่ง 56 แห่ง เปิดเผยข้อมูลเทียบเท่าบริษัทจดทะเบียนในตลาดหุ้นไทย
- ลุยลอยตัวดีเซล รัฐบาลส่งสัญญาณเลิกตรึงราคา ปรับใหญ่ภาษีน้ำมัน-ก๊าซเริ่มธ.ค. กลุ่มเบนซิน-แก๊สโซฮอล์ลดแน่ พลังงานเอาจริงเลิกตรึงดีเซล 30 บาท ปรับภาษีให้เท่ากัน พร้อมขยับก๊าซหุงต้ม
- ม.ร.ว.ปรีดิยาธร เทวกุล รองนายกรัฐมนตรี ปาฐกถาพิเศษข้อ "ประเทศไทยกับการพัฒนาเพื่อก้าวไปสู่ Trading Nation" ว่า ขณะนี้รัฐบาลกำลังเร่งปรับแก้กฎเกณฑ์การค้าให้มีความคล่องตัวขึ้น ซึ่งจะต้องปรับระบบภาษี ระบบการเงินให้เอื้อต่อการยกระดับประเทศไทยให้เป็นศูนย์กลางการค้า (เทรดดิ้ง เนชั่น) ซึ่งคาดว่าน่าจะใช้เวลาในการผลักดันให้เป็นรูปร่างได้ภายใน 1 เดือนนี้ พร้อมที่จะเชิญชวนให้นักธุรกิจต่างชาติเข้ามาลงทุนตั้งสำนักงานใหญ่ และดึงบริษัทข้ามชาติมาตั้งบริษัทเทรดดิ้ง คัมพานี ในประเทศไทย เพื่อก้าวสู่เทรดดิ้ง เนชั่น
- นายอานุภาพ เกษรสุวรรณ์ อธิบดีกรมการท่องเที่ยว เปิดเผยว่า ในช่วง 10 เดือนแรกของปีนี้ (ม.ค.-ต.ค.) มีนักท่องเที่ยวต่างประเทศเดินทางเข้าประเทศไทย 19.7 ล้านคน ลดลง 8.72% เทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน สร้างรายได้ 9.05 แสนล้านบาทลดลง 6.13% เทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนซึ่งเป็นผลจากสถานการณ์ความวุ่นวายทางการเมืองภายในประเทศยืดเยื้อมากว่าครึ่งปี
- ตลาดหลักทรัพย์คาดหุ้นไอพีโอทั้งปีทะลุ 50 ตัวมาร์เก็ตแคปเกิน 3 แสนล้านบาท ชี้มีบริษัทจดทะเบียนเตรียมเข้าอีกจำนวนมากปรับเกณฑ์รับต่างชาติเข้าจดทะเบียนตลาดหุ้นไทย หวังดึงกลุ่มบริษัทลุ่มน้ำโขง
- สมาคมบล.ขอความร่วมมือโบรกเกอร์ลดวงเงินบัญชีที่เทรดหุ้นผิดปกติลง 20-50% หลังมองเกณฑ์แคชบาลานซ์ไม่เพียงพอ เหตุนักลงทุนมีเงินลงทุนมากขึ้น เบื้องต้นคาดว่านโยบายนี้จะสอดคล้องกับมาตรการใหม่ของตลาดที่เตรียมประชุมบอร์ดกลางเดือนพ.ย.นี้ ขณะที่ตลาดหวังงานเซ็ทอินเดอะซิตี้ขยายฐานนักลงทุน
*หุ้นเด่นวันนี้
- PTT (เมย์แบงก์ กิมเอ็ง) "ซื้อเก็งกำไร" เป้า 393.00 บาท มีมุมมองเชิงบวก หลังวานนี้ รมว.พลังงานให้ความเห็นว่าเตรียมปรับราคาพลังงานทุกประเภทขึ้นในเดือน ธ.ค. ประเมินเบื้องต้นหากมีการปรับเพิ่มราคาหน้าโรงแยกก๊าซขึ้นทุก US$50.00/ตัน จากปัจจุบันที่ US$330.00/ตัน จะเป็นบวกต่อประมาณการกำไรของ PTT ราว 2,900 ล้านบาท ขณะที่การปรับเพิ่มราคา NGV ขึ้นทุก 1.00 บาท / ก.ก. จะส่งผลบวกต่อประมาณการกำไรของ PTT ราว 3,200 ล้านบาท แต่หากคงราคา NGV กลุ่มสาธารณะไว้ที่ 8.50 บาทต่อ ก.ก.จะส่งผลบวกให้ลดลงเหลือ 2,400 ล้านบาท
- PS (เคเคเทรด) "ซื้อ"เป้า 39.00 บาท มียอดขายเดือน ต.ค. ที่ 2.6 พันล้านบาท ลดลง 38% MoM เนื่องจาก PS เปิดโครงการใหม่เพียง 1 แห่ง เป็นสินค้าแนวราบมูลค่าเพียง 1.1 พันล้านบาทเท่านั้น รวม 10 เดือนของปีนี้ PS มียอดขายสะสม 3.3 หมื่นล้านบาท ขณะที่เราคาดว่ายอดขายช่วงที่เหลือของปีจะเติบโตมากขึ้นจากการเปิดโครงการใหม่ราว 5-10 โครงการ มูลค่าราว 7 พันล้านบาท ถึง 1 หมื่นล้านบาท ที่จะช่วยกระตุ้นยอดขาย ทำให้ในปี 2557 PS จะมียอดขายราว 4.1 หมื่นล้านบาท ใกล้เคียงกับเป้าหมาย 4.3 หมื่นล้านบาท ที่ PS คาดไว้
- KCE (ดีบีเอสวิคเกอร์) "ซื้อ" เป้า 50 บาท คาดการณ์กำไร 3Q57 สูงสุดในรอบปีและทำสถิติสูงสุดใหม่เป็น 523 ล้านบาท (EPS 0.95 บาท) เติบโต 9%QoQ และ 59%YoY แรงผลักดันมาจากอัตรากำไรขั้นต้นที่สูงขึ้นเป็น 32% จาก 2Q57 ที่ 31.4% และอัตราการใช้กำลังการผลิตที่มากขึ้นเป็น 100% โดยสามารถทำรายได้สูงสุดเป็นประวัติการณ์ที่ 94 ล้านเหรียญสหรัฐ ใน 3Q57 คิดเป็นการเติบโต 8% QoQ และ 14% YoY
ตลาดหุ้นเอเชียส่วนใหญ่บวกขึ้นเช้านี้ ขานรับภาคเอกชนสหรัฐจ้างงานเพิ่ม
ตลาดหุ้นเอเชียส่วนใหญ่ปรับตัวเพิ่มขึ้นในช่วงเช้าวันนี้ หลังตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดพุ่งขึ้นเมื่อคืนนี้ ขานรับภาคเอกชนสหรัฐเพิ่มการจ้างงานมากกว่าที่คาดการณ์
ดัชนี MSCI Asia Pacific Index (MXAP) เคลื่อนไหวเล็กน้อยที่ระดับ 141 จุด เมื่อเวลา 9.02 น.ตามเวลาโตเกียว
ดัชนี NIKKEI 225 ตลาดหุ้นญี่ปุ่นเปิดวันนี้ที่ 16,993.46 จุด เพิ่มขึ้น 56.14 จุด, ดัชนี HSI ตลาดหุ้นฮ่องกงเปิดวันนี้ที่ 23,737.76 จุด เพิ่มขึ้น 42.14 จุด, ดัชนี TAIEX ตลาดหุ้นไต้หวันเปิดวันนี้ที่ 8,968.79 จุด เพิ่มขึ้น 6.19 จุด, ดัชนี KOSPI ตลาดหุ้นเกาหลีใต้เปิดวันนี้ที่ 1,933.45 จุด เพิ่มขึ้น 2.02 จุด, ดัชนี FTSE STI ตลาดหุ้นสิงคโปร์เปิดวันนี้ที่ 3,287.59 จุด เพิ่มขึ้น 0.05 จุด และดัชนี FBMKLCI ตลาดหุ้นมาเลเซียเปิดวันนี้ที่ 1,838.89 จุด ลดลง 0.40 จุด
ADP ซึ่งเป็นบริษัทวิจัยตลาดแรงงานสหรัฐ ระบุว่า ตัวเลขจ้างงานของภาคเอกชนสหรัฐปรับตัวขึ้น 230,000 ตำแหน่งในเดือนต.ค. ซึ่งสูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ว่าจะเพิ่มขึ้น 220,000 ตำแหน่ง และนับเป็นเดือนที่ 7 ติดต่อกันที่ตัวเลขจ้างงานของภาคเอกชนสหรัฐเพิ่มขึ้นเกิน 200,000 ตำแหน่ง
นอกจากนี้ ตลาดหุ้นเอเชียยังได้รับแรงหนุนจากรายงานที่ว่า พรรครีพับลิกันสามารถคว้าฐานอำนาจในการควบคุมวุฒิสภาจากพรรคเดโมแครตได้เป็นครั้งแรกในรอบ 8 ปี และยังสามารถครองเสียงส่วนใหญ่ในสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐด้วยเช่นกัน
นักวิเคราะห์กล่าวว่า พรรครีพับลิกันมีนโยบายที่เป็นมิตรต่อการทำธุรกิจมากกว่า ตลาดจึงขานรับผลการเลือกตั้งในครั้งนี้ นอกจากนั้น ชัยชนะของพรรครีพับลิกันได้จุดประกายความหวังเกี่ยวกับความคืบหน้าในการเจรจาการค้าเสรีในภูมิภาคแปซิฟิกระหว่างสหรัฐและญี่ปุ่นด้วย
ภาวะตลาดหุ้นลอนดอน : หุ้นค้าปลีกดันฟุตซี่ปิดพุ่ง 85.17 จุด
ตลาดหุ้นลอนดอนปิดทะยานขึ้นเมื่อคืนนี้ (5 พ.ย.) นำโดยหุ้นมาร์คส์ แอนด์ สเปนเซอร์ หลังจากบริษัทปรับเพิ่มคาดการณ์ผลประกอบการ
ดัชนี FTSE 100 เพิ่มขึ้น 85.17 จุด หรือ 1.32% ปิดที่ 6,539.14 จุด
หุ้นมาร์คส์ แอนด์ สเปนเซอร์ ซึ่งเป็นบริษัทค้าปลีกเสื้อผ้ารายใหญ่ที่สุดของอังกฤษ พุ่งขึ้นกว่า 9% หลังจากบริษัทระบุว่าธุรกิจเสื้อผ้าได้ส่งสัญญาณของการฟื้นตัว
นอกจากนี้ ตลาดยังได้รับปัจจัยบวกจากมุมมองบวกเกี่ยวกับตลาดแรงงานสหรัฐ หลังจาก ADP ซึ่งเป็นบริษัทวิจัยตลาดแรงงานสหรัฐ เปิดเผยว่า ตัวเลขจ้างงานของภาคเอกชนสหรัฐปรับตัวขึ้น 230,000 ตำแหน่งในเดือนต.ค. ซึ่งสูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ว่าจะเพิ่มขึ้น 220,000 ตำแหน่ง และนับเป็นเดือนที่ 7 ติดต่อกันที่ตัวเลขจ้างงานของภาคเอกชนสหรัฐเพิ่มขึ้นเกิน 200,000 ตำแหน่ง
หุ้นทูลโลว์ ออยล์ ดีดขึ้น 6.90% ขณะที่หุ้นมอร์ริสสัน ซูเปอร์มาร์เก็ตส์ ปรับขึ้น 5.94% และหุ้นแอสโซซิเอเต็ด บริติช ฟูดส์ เพิ่มขึ้น 5.71%
ภาวะตลาดหุ้นยุโรป: ผลประกอบการเอกชนสดใส หนุนตลาดหุ้นยุโรปปิดพุ่ง
ตลาดหุ้นยุโรปปิดพุ่งขึ้นเมื่อคืนนี้ (5 พ.ย.) ขานรับผลประกอบการที่แข็งแกร่งของบริษัทเอกชน รวมถึงมาร์ค แอนด์ สเปนเซอร์ นอกจากนี้ ตลาดยังได้รับปัจจัยหนุนจากรายงานที่ว่าภาคเอกชนของสหรัฐได้เพิ่มการจ้างงานในอัตราที่สูงกว่าการคาดการณ์ของนักวิเคราะห์
ดัชนี Stoxx Europe 600 พุ่งขึ้น 1.7% ปิดที่ 336.36 จุด
ดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมันปิดที่ 9,315.48 จุด พุ่งขึ้น 149.01 จุด หรือ +1.63% ดัชนี CAC-40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศสปิดที่ 4,208.42 จุด เพิ่มขึ้น 78.23 จุด หรือ +1.89% ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 6,539.14 จุด เพิ่มขึ้น 85.17 จุด หรือ +1.32%
ภาวะการซื้อขายในตลาดหุ้นยุโรปเป็นไปอย่างคึกคัก หลังจาก ADP ซึ่งเป็นบริษัทวิจัยตลาดแรงงานสหรัฐ เปิดเผยว่า ตัวเลขจ้างงานของภาคเอกชนสหรัฐปรับตัวขึ้น 230,000 ตำแหน่งในเดือนต.ค. ซึ่งสูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ว่าจะเพิ่มขึ้น 220,000 ตำแหน่ง และนับเป็นเดือนที่ 7 ติดต่อกันที่ตัวเลขจ้างงานของภาคเอกชนสหรัฐเพิ่มขึ้นเกิน 200,000 ตำแหน่ง
นอกจากนี้ ผลประกอบการที่สดใสของบริษัทเอกชนยังเป็นอีกปัจจัยที่หนุนตลาดหุ้นยุโรปพุ่งขึ้นด้วย โดยหุ้นมาร์ค แอนด์ สเปนเซอร์ พุ่งขึ้น 9.7% หลังจากบริษัทเปิดเผยผลกำไรช่วงครึ่งปีแรกเพิ่มขึ้นแตะระดับ 268 ล้านปอนด์ สูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ไว้ที่ 253 ล้านปอนด์
หุ้น Natixis ซึ่งเป็นบริษัทจัดการกองทุน ปรับตัวขึ้น 2.3% หลังจากบริษัทเปิดเผยรายได้สุทธิเพิ่มขึ้น 10% แตะที่ 281 ล้านยูโรในไตรมาส 3 สูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ไว้ที่ 275 ล้านยูโร
หุ้น ING Groep ซึ่งเป็นธนาคารรายใหญ่ของเนเธอร์แลนด์ พุ่งขึ้น 2.8% เนื่องจากนักลงทุนขานรับผลประกอบการของธนาคาร ส่วนหุ้น Lafarge SA พุ่งขึ้น 2.9% เพราะได้แรงหนุนจากผลประกอบการที่ดีเกินคาดของบริษัท
นักลงทุนจับตาดูการประชุมของธนาคารกลางยุโรป (อีซีบี) และถ้อยแถลงของนายมาริโอ ดรากิ ประธานอีซีบีในวันนี้ เพื่อดูว่าอีซีบีจะส่งสัญญาณใช้มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจอีกหรือไม่
ภาวะตลาดหุ้นนิวยอร์ก : ดาวโจนส์ปิดพุ่ง 100.69 จุด ขานรับภาคเอกชนสหรัฐเพิ่มการจ้างงาน
ดัชนี ดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดพุ่งขึ้นเมื่อคืนนี้ (5 พ.ย.) โดยดัชนีดาวโจนส์ และ S&P 500 ต่างก็ปิดที่ระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ เนื่องจากนักลงทุนขานรับรายงานที่ว่า ภาคเอกชนของสหรัฐได้เพิ่มการจ้างงานในอัตราที่สูงกว่าการคาดการณ์ของนักวิเคราะห์ นอกจากนี้ ตลาดยังได้แรงหนุนจากรายงานที่ว่า พรรครีพับลิกันสามารถคว้าชัยชนะในการเลือกตั้งสมาชิกสภาคองเกรสในศึกเลือกตั้งกลางเทอมของสหรัฐ
ดัชนี เฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 17,484.53 จุด เพิ่มขึ้น 100.69 จุด หรือ +0.58% ดัชนี S&P500 ปิดที่ 2,023.57 จุด เพิ่มขึ้น 11.47 จุด หรือ +0.57% ดัชนี NASDAQ ปิดที่ 4,620.72 จุด ลดลง 2.92 จุด หรือ -0.06%
ตลาดหุ้นนิวยอร์กได้รับแรงหนุนจากรายงานที่ว่า พรรครีพับลิกันสามารถคว้าฐานอำนาจในการควบคุมวุฒิสภาจากพรรคเดโมแครตได้เป็นครั้งแรกในรอบ 8 ปี และยังสามารถครองเสียงส่วนใหญ่ในสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐด้วยเช่นกัน
นักวิเคราะห์กล่าวว่า พรรครีพับลิกันมีนโยบายที่เป็นมิตรต่อการทำธุรกิจมากกว่า ตลาดจึงขานรับผลการเลือกตั้งในครั้งนี้ นอกจากนั้น ชัยชนะของพรรครีพับลิกันได้จุดประกายความหวังเกี่ยวกับความคืบหน้าในการเจรจาการค้าเสรีในภูมิภาคแปซิฟิกระหว่างสหรัฐและญี่ปุ่นด้วย
นอกจากนี้ ตลาดหุ้นนิวยอร์กยังได้รับปัจจัยบวกจากรายงานของ ADP ซึ่งเป็นบริษัทวิจัยตลาดแรงงานสหรัฐ ระบุว่า ตัวเลขจ้างงานของภาคเอกชนสหรัฐปรับตัวขึ้น 230,000 ตำแหน่งในเดือนต.ค. ซึ่งสูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ว่าจะเพิ่มขึ้น 220,000 ตำแหน่ง และนับเป็นเดือนที่ 7 ติดต่อกันที่ตัวเลขจ้างงานของภาคเอกชนสหรัฐเพิ่มขึ้นเกิน 200,000 ตำแหน่ง
นักลงทุนจับตาดูข้อมูลเศรษฐกิจของสหรัฐในสัปดาห์นี้ โดยในคืนนี้ตามเวลาไทย สหรัฐจะเปิดเผยประสิทธิภาพการผลิตและต้นทุนแรงงานต่อหน่วยเบื้องต้นในไตรมาส 3 และจำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานครั้งแรกรายสัปดาห์ ส่วนในวันศุกร์ สหรัฐจะเปิดเผยตัวเลขจ้างงานนอกภาคการเกษตรเดือนต.ค. และสินเชื่อผู้บริโภคสหรัฐเดือนก.ย.
อินโฟเควสท์