- Details
- Category: หุ้นเด่นวันนี้
- Published: Wednesday, 05 November 2014 10:10
- Hits: 2928
ภาวะตลาดหุ้นไทย : แนวโน้ม ดัชนีเช้าปรับตัวลงตามภูมิภาคหลัง EU ปรับลด GDP-กลุ่มพลังงานถ่วง
นายถนอมศักดิ์ สหรัตน์ชัย ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการและหัวหน้าฝ่ายวิจัย บล.เคที ซีมิโก้ กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยเช้านี้มี
โอกาสที่จะอยู่ในแดนลบมากกว่า แต่โดยรวมภาพยังเป็นลักษณะของการแกว่งในกรอบจำกัด เนื่องจากทาง EU ได้มีการปรับลดประมาณการตัวเลข GDP ลงเหลือโต 0.8% ในปีนี้ จากเดิมที่คาดโต 1.2% และปีหน้า(2558)ลดลงเหลือโต 1.1% จากเดิมที่คาดโต 1.7%
นอกจากนี้ ยังมีกลุ่มพลังงานที่ถ่วงตลาดอยู่ เนื่องจากราคาน้ำมันได้ปรับตัวลงมาทำ New Low ในรอบ 4 ปี ส่วนการ
ประชุมธนาคารกลางยุโรป(ECB)ใน 6 พ.ย.นี้ ตลาดฯก็คาดว่าอาจจะไม่มีอะไร ดังนั้นเมื่อไม่มีปัจจัยหนุนอะไรก็อาจจะมีแรงขายทำกำไรออกมาได้ ด้านตลาดภูมิภาคเอเชียเช้านี้ส่วนใหญ่จะอยู่ในแดนลบ
สำหรับ เศรษฐกิจไทยในงวดไตรมาส 3/57 ก็อาจจะไม่ค่อยดี พร้อมให้แนวรับ 1,575-1,570 จุด ส่วนแนวต้าน 1,592-1,595 จุด
ประเด็นของการพิจารณาการลงทุน :
- ตลาดหุ้นนิวยอร์คล่าสุด(4 พ.ย.)ดัชนีดาวโจนส์ปิดที่ 17,383.84 จุด เพิ่มขึ้น 17.60 จุด(+0.10%),ดัชนี NASDAQ ปิดที่ 4,623.64 จุด ลดลง 15.27 จุด(-0.33%),ดัชนี S&P500 ปิดที่ 2,012.10 จุด ลดลง 5.71 จุด(-0.28%)
- ตลาดหุ้นเอเชียเปิดเช้าวันนี้ ดัชนี NIKKEI 225 ตลาดหุ้นญี่ปุ่น ลดลง 77.03 จุด, ดัชนี SSE Composite ตลาดหุ้นจีน เพิ่มขึ้น 1.49 จุด, ดัชนี HSI ตลาดหุ้นฮ่องกง เพิ่มขึ้น 1.18 จุด, ดัชนี TAIEX ตลาดหุ้นไต้หวัน เพิ่มขึ้น 8.58 จุด, ดัชนี KOSPI ตลาดหุ้นเกาหลีใต้ เพิ่มขึ้น 3.42 จุด, ดัชนี FTSE STI ตลาดหุ้นสิงคโปร์ ลดลง 5.58 จุด และดัชนี FBMKLCI ตลาดหุ้นมาเลเซีย ลดลง 2.61 จุด
- ตลาดหุ้นไทยปิดล่าสุด(4 พ.ย.)1,585.15 จุด เพิ่มขึ้น 5.97 จุด(+0.38%)
- นักลงทุนต่างชาติซื้อสุทธิ 321.86 ล้านบาท เมื่อวันที่ 4 พ.ย.57
- ราคาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือน ธ.ค.ในตลาดไนเม็กซ์ปิดทำการล่าสุด(4 พ.ย.)ที่ 77.19 ดอลลาร์/บาร์เรล ร่วงลง 1.59 ดอลลาร์
- ค่าการกลั่นอ้างอิงตลาดสิงคโปร์ปิดล่าสุด(4 พ.ย.)ที่ 6.26 เหรียญสหรัฐฯ/บาร์เรล
- เงินบาทเปิด 32.67/69 จับตาประชุมกนง.วันนี้
- กกร.ประเมินส่งออกปีนี้โตแค่ 0-0.5% จีดีพี 1-1.5% หวังส่งออกปีหน้า แรงขับเคลื่อนดันเศรษฐกิจส่งออกขยายตัว จี้รัฐบาลแก้กฎระเบียบดึงต่างชาติตั้งสำนักงานในไทยฐานการลงทุนประเทศเพื่อนบ้าน ค้านลงนามสัตยาบันอนุสัญญาองค์การแรงงานระหว่างประเทศฉบับที่ 87 และ 98 ห่วงความมั่นคงของประเทศ ชี้ ยังไม่มีความพร้อมต้องพึ่งพาแรงงานต่างด้าว
- นายสมหมาย ภาษี รมว.คลัง เปิดเผยว่า จะเสนอร่าง พ.ร.บ.ภาษีรับมรดกให้คณะรัฐมนตรี (ครม.) พิจารณาในวันที่ 11 พ.ย.นี้ หลังผ่านการตรวจร่างจากกฤษฎีกาแล้ว โดยสาระสำคัญยังเหมือนเดิม คือ เก็บจากผู้รับมรดกในส่วนที่เกินกว่า 50 ล้านบาท อัตราภาษีเดียวที่ 10%
- ตลาดหลักทรัพย์เผยสถิติหุ้นร้อนยังพุ่งต่อเนื่อง บจ.ชี้แจงข้อมูลทะลุ 163 ครั้ง สูงสุดเป็นประวัติการณ์ เหตุตลาดหุ้นคึกคักทำนักลงทุนเก็งกำไรหุ้นเล็ก ห่วงนักลงทุนเห็นความเสี่ยงเป็นเรื่องปกติ ชี้มาตรการคุมหุ้นร้อนอยู่ในระดับเดียวกับประเทศเพื่อนบ้าน
- ศูนย์วิจัยเศรษฐกิจและธุรกิจ ธนาคารไทยพาณิชย์ วิเคราะห์กรณีธนาคารกลางญี่ปุ่น (บีโอเจ) ขยายมาตรการซื้อสินทรัพย์(คิวอี) จาก 60-70 ล้านล้านเยน เป็น 80 ล้านล้านเยน/ปี ว่า จะไม่กระทบตลาดการเงินของไทยมากนัก เนื่องจากมีมูลค่าการซื้อสินทรัพย์เพิ่มขึ้นเพียง 10-20 ล้านล้านเยน/ปี จากวงเงินเดิม
- ครม.รับทราบผลเบิกจ่ายงบประมาณเดือนแรก (1-31 ต.ค.) ปี 58 ทะลุ 367,707.67 ล้าน สูงกว่าช่วงเดียวกันกว่าแสนล้าน
*หุ้นเด่นวันนี้
- KTB(เมย์แบงก์ กิมเอ็ง)"ทยอยสะสม"เป้า 27 บาท กลุ่มแบงก์ได้อานิสงส์เงินทุนต่างชาติมีแนวโน้มไหลกลับเข้าตลาดหุ้นเอเชียเกิดใหม่ รวมถึงไทย ทิศทางสินเชื่อ 4Q57 เติบโตสูงคาดใกล้เคียงกับเป้าหมายทั้งปี 6-8%(9M57 เติบโต +6.3% YTD)จากแรงหนุนสินเชื่อโครงการขนาดใหญ่ภาครัฐจากเร่งเบิกจ่ายงบประมาณเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจ คาดกำไรสุทธิปี 58 เติบโต +12.9% yoy เป็น 38,054 ล้านบาท และมี Valuation ยังไม่สูงมากนัก
- AP(เมย์แบงก์ กิมเอ็ง)"ซื้อเก็งกำไร"เป้า 8.20 บาท รายงานงบ 3Q57 ใน 12 พ.ย.คาดกำไรจะเติบโตสูง +134.5% yoy และ +33.6% qoq เป็น 951 ล้านบาท จากการรับรู้ฯโครงการ Asipire สุขุมวิท 48 และ Aspire พระราม 9 และคาดงบจะออกมาดีกว่าคาด และมี Valuation น่าสนใจ ซื้อขายระดับ PER 58 เพียง 7.5 เท่า ต่ำกว่าค่าเฉลี่ยของกลุ่มอสังหาริมทรัพย์ที่ 10.4 เท่า และให้ Dividend Yield ในเกณฑ์ดีที่ 5.3% ในปี 58 และเพิ่มขึ้นเป็น 6.3% ในปี 59
- MAJOR(บัวหลวง)"ซื้อ"เป้า 31.50 บาท ปรับเพิ่มประมาณการกำไรปี 58 ขึ้น 11% เป็น 1.3 พันล้านบาท เชื่อว่าหน้าหนังทึ่โดดเด่นในปีหน้าช่วยหนุนยอดขายตั๋วและรายได้อาหาร-เครื่องดื่มในปี 58 ซึ่งคาดการณ์ไว้ที่ 6.05 พันล้านบาท เพิ่มขึ้น 11% YoY ส่วนการปรับลดต้นทุนจะเริ่มเห็นผลครึ่งหลังปี 57 และคาดจะลดลง 20% ในปี 2558 ส่งผลให้อัตรากำไรขั้นต้นน่าจะขยายตัวเป็น 35.8% ในปี 58 และ 36.1% ในปี 59 และบริษัทมีแผนขยายสาขาโรงภาพยนตร์อย่างต่อเนื่อง โดยในระยะยาวบริษัทตั้งเป้าว่าจะต้องมีโรงภาพยนตร์ 1,000 โรงในประเทศภายในสิ้นปี 63
- AAV(ฟินันเซีย ไซรัส)"ซื้อเก็งกำไร"เป้าปี 58 ที่ 5.40 บาท แนวโน้มพลิกกลับมาเป็นกำไรได้ 4Q14 ใน High season และยิ่งดีขึ้นใน 1Q15 โดยกำไรปีหน้าคาดกลับสู่ภาวะปกติ โตก้าวกระโดด 1,916% Y-Y ทั้งนี้ผลงาน 3Q14 คาดขาดทุนเพิ่มขึ้นจากไตรมาสก่อนเล็กน้อยเป็น 190 ล้านบาท เพราะค่าตั๋วโดยสารปรับลงต่อจากภาวะการแข่งขันที่รุนแรงของตลาดในประเทศ และหนี้สินรอตัดบัญชีเพิ่มขึ้นตามการรับมอบเครื่องบินอีก 3 ลำ จึงปรับประมาณการกำไรปีนี้ลง
ตลาดหุ้นเอเชียปรับตัวลงเช้านี้ หลังหุ้นกลุ่มพลังงานร่วงลง
ตลาดหุ้นเอเชียปรับตัวลดลงในช่วงเช้าวันนี้ หลังหุ้นกลุ่มพลังงานร่วงลง เนื่องจากราคาน้ำมันซื้อขายใกล้ระดับต่ำสุดในรอบ 3 ปี
ดัชนี MSCI Asia Pacific ลดลง 0.2% เมื่อเวลา 10.08 น.ตามเวลาโตเกียว
ดัชนี NIKKEI 225 ตลาดหุ้นญี่ปุ่นเปิดวันนี้ที่ 16,785.44 จุด ลดลง 77.03 จุด, ดัชนี SSE Composite ตลาดหุ้นจีนเปิดวันนี้ที่ 2,432.17 จุด เพิ่มขึ้น 1.49 จุด, ดัชนี HSI ตลาดหุ้นฮ่องกงเปิดวันนี้ที่ 23,846.84 จุด เพิ่มขึ้น 1.18 จุด, ดัชนี TAIEX ตลาดหุ้นไต้หวันเปิดวันนี้ที่ 8,997.76 จุด เพิ่มขึ้น 8.58 จุด, ดัชนี KOSPI ตลาดหุ้นเกาหลีใต้เปิดวันนี้ที่ 1,938.61 จุด เพิ่มขึ้น 3.42 จุด, ดัชนี FTSE STI ตลาดหุ้นสิงคโปร์เปิดวันนี้ที่ 3,275.99 จุด ลดลง 5.58 จุด และดัชนี FBMKLCI ตลาดหุ้นมาเลเซียเปิดวันนี้ที่ 1,844.75 จุด ลดลง 2.61 จุด
นักลงทุนเทขายหุ้นกลุ่มพลังงาน หลังจากมีรายงานว่า การปิโตรเลียมซาอุดิอาระเบียได้ปรับลดราคาน้ำมันดิบที่ส่งออกให้กับสหรัฐ โดยเทรดเดอร์ระบุว่าความเคลื่อนไหวของซาอุดิอาระเบียในครั้งนี้มีเป้าหมายที่จะชิงส่วนแบ่งในตลาดน้ำมันโลกซึ่งมีการแข่งขันสูง รวมทั้งข่าวที่ว่าปริมาณการผลิตน้ำมันของกลุ่มประเทศผู้ส่งออกน้ำมัน (โอเปค) ปรับตัวสูงขึ้น 53,000 บาร์เรล สู่ระดับ 30.974 ล้านบาร์เรลต่อวัน ซึ่งเป็นระดับสูงสุดในรอบ 14 เดือน
ภาวะตลาดหุ้นลอนดอน: ฟุตซี่ปิดลบ 34 จุด เหตุวิตกศก.โลกฉุดหุ้นพลังงาน
ตลาดหุ้นลอนดอนปิดปรับตัวลงเมื่อคืนนี้ (4 พ.ย.) นำโดยหุ้นกลุ่มพลังงาน หลังจากราคาน้ำมันดิบเบรนท์ร่วงลง เนื่องจากนักลงทุนวิตกเกี่ยวกับการขยายตัวของเศรษฐกิจโลก
ดัชนี FTSE 100 ลดลง 34.00 จุด หรือ 0.52% ปิดที่ 6,453.97 จุด
นอกเหนือจากความกังวลเกี่ยวกับเศรษฐกิจโลกแล้ว ตลาดยังได้รับแรงกดดันจากการที่คณะกรรมาธิการยุโรป (อีซี) ได้ปรับลดคาดการณ์การขยายตัวของเศรษฐกิจยูโรโซนในปีนี้ และปีหน้า
อีซี คาดว่าผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (จีดีพี) ของประเทศที่ใช้สกุลเงินยูโร 18 ประเทศจะขยายตัวเพียง 0.8% ในปี 2557 จากเดิมที่คาดเอาไว้ที่ 1.2% และคาดว่าเศรษฐกิจในปี 2558 จะขยายตัว 1.1% ซึ่งลดลงจากระดับ 1.7% ในการคาดการณ์ก่อนหน้านี้
การปรับลดคาดการณ์จีดีพีในครั้งนี้ มีสาเหตุมาจากการขาดแคลนอุปสงค์ภายในประเทศ และโดยเฉพาะการลงทุน ซึ่งถือเป็นแรงขับเคลื่อนการขยายตัวที่สำคัญ
หุ้นทูลโลว์ ออยล์ และหุ้นรอยัล ดัทช์ เชลล์ ร่วงลงกว่า 2.5% โดยอยู่ในกลุ่มหุ้นที่ปรับตัวย่ำแย่ที่สุดในตลาด
ภาวะตลาดหุ้นยุโรป : หุ้นยุโรปปิดลบ หลังคณะกก.ยุโรปลดคาดการณ์ศก.ยูโรโซน
ตลาดหุ้นยุโรปปิดร่วงลงเมื่อคืนนี้ (4 พ.ย.) หลังจากคณะกรรมาธิการยุโรป (อีซี) ได้ปรับลดคาดการณ์การขยายตัวของเศรษฐกิจยูโรโซนในปีนี้ และปีหน้า นอกจากนี้ ตลาดยังได้รับแรงกดดันจากการร่วงลงของหุ้นกลุ่มพลังงาน หลังจากราคาน้ำมันดิบปรับตัวลดลงอย่างต่อเนื่อง
ดัชนี Stoxx 600 ร่วงลง 1% ปิดที่ 330.88 จุด
ดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมันปิดที่ 9,166.47 จุด ลดลง 85.23 จุด หรือ -0.92% ดัชนี CAC-40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศสปิดที่ 4,130.19 จุด ลดลง 63.84 จุด หรือ -1.52% ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 6,453.97 จุด ลดลง 34.00 จุด หรือ -0.52%
ตลาดหุ้นยุโรปร่วงลง หลังจากคณะกรรมาธิการยุโรปได้ปรับลดคาดการณ์การขยายตัวของเศรษฐกิจยูโรโซนในปีนี้ และปีหน้า โดยคาดว่าผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (จีดีพี) ของประเทศที่ใช้สกุลเงินยูโร 18 ประเทศจะขยายตัวเพียง 0.8% ในปี 2557 จากเดิมที่คาดเอาไว้ที่ 1.2% และคาดว่าเศรษฐกิจในปี 2558 จะขยายตัว 1.1% ซึ่งลดลงจากระดับ 1.7% ในการคาดการณ์ก่อนหน้านี้
สำหรับ การปรับลดคาดการณ์จีดีพีในครั้งนี้ มีสาเหตุมาจากการขาดแคลนอุปสงค์ภายในประเทศ และโดยเฉพาะการลงทุน ซึ่งถือเป็นแรงขับเคลื่อนการขยายตัวที่สำคัญ นอกจากนี้ รายงานยังได้คาดการณ์อัตราการขยายตัวของเศรษฐกิจยูโรโซนในปี 2559 ที่ระดับ 1.7%
หุ้นกลุ่มพลังงานร่วงลงตามราคาน้ำมันดิบในตลาดโลก โดยหุ้นซีดริล ร่วงลง 8.6% หุ้นเฟอโกร เอ็นวี ดิ่งลง 12% และหุ้นฮัทติ้ง ปรับตัวลง 5.1%
หุ้นลอรีอัล ซึ่งเป็นผู้ผลิตเครื่องสำอางรายใหญ่ระดับโลก ร่วงลง 1.3% หลังากบริษัทเปิดเผยยอดขายไตรมาส 3 เพิ่มขึ้นเพียง 2.3% น้อยกว่าที่นักวิเคราะห์คาดว่าจะเพิ่มขึ้น 3.8%
ภาวะตลาดเงินนิวยอร์ก : ดอลล์อ่อนค่า หลังข้อมูลการค้าสหรัฐย่ำแย่
ดอลลาร์สหรัฐปรับตัวลงเมื่อเทียบสกุลเงินหลักอื่นๆเมื่อคืนนี้ (4 พ.ย.) เนื่องจากข้อมูลการส่งออกที่ย่ำแย่ส่งผลให้ยอดขาดดุลการค้าของสหรัฐเพิ่มสูงเกินคาดในเดือนก.ย. ซึ่งสร้างความวิตกกังวลว่าอุปสงค์ทั่วโลกที่ชะลอตัวอาจจะบั่นทอนการขยายตัวทางเศรษฐกิจของสหรัฐ
ค่าเงินยูโรแข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบดอลลาร์สหรัฐที่ระดับ 1.2556 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 1.2489 ดอลลาร์ ขณะที่เงินปอนด์เพิ่มขึ้นที่ 1.6004 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 1.5974 ดอลลาร์
ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐปรับลงเทียบกับสกุลเงินเยนที่ 113.57 เยน เทียบกับระดับ 113.78 เยน และลดลงเมื่อเทียบกับฟรังค์สวิสที่ระดับ 0.9595 ฟรังค์ จาก 0.9650 ฟรังค์
ค่าเงินดอลลาร์ออสเตรเลียปรับขึ้นเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐที่ระดับ 0.8744 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 0.8685 ดอลลาร์
ดอลลาร์อ่อนค่าลงจากข้อมูลการค้าที่อ่อนแรง โดยกระทรวงพาณิชย์สหรัฐเปิดเผยเมื่อคืนนี้ว่า ยอดขาดดุลการค้าเดือนก.ย.ปรับตัวสูงขึ้น 7.6% แตะที่ 4.303 หมื่นล้านดอลลาร์ ซึ่งมากกว่าที่นักวิเคราะห์คาดว่าจะอยู่ที่ 4 หมื่นล้านดอลลาร์ หลังจากยอดส่งออกร่วงลงแตะระดับต่ำสุดในรอบ 5 เดือน
ทั้งนี้ นับเป็นครั้งแรกในรอบ 4 เดือนที่ยอดขาดดุลการค้าของสหรัฐได้เพิ่มสูงขึ้น ขณะที่นักวิเคราะห์ระบุว่าการขยายตัวทางเศรษฐกิจที่ชะลอลงในต่างประเทศและดอลลาร์สหรัฐที่แข็งค่าขึ้นทำให้อุปสงค์ด้านสินค้าและบริการของสหรัฐอ่อนแอลง
ขณะเดียวกัน กระทรวงพาณิชย์สหรัฐได้รายงานว่า ยอดสั่งซื้อภาคโรงงานเดือนก.ย.ปรับตัวลง 0.6% สู่ระดับ 4.994 แสนล้านดอลลาร์ ซึ่งเป็นการปรับตัวลงติดต่อกัน 2 เดือน
ดอลลาร์สหรัฐได้รับแรงกดดัน เนื่องจากนักลงทุนมองว่าข้อมูลเศรษฐกิจที่อ่อนแอเป็นสัญญาณบ่งชี้ว่าการขยายตัวทางเศรษฐกิจของสหรัฐอาจจะชะลอลงในช่วงไตรมาส 4 ปีนี้
อินโฟเควสท์