- Details
- Category: หุ้นเด่นวันนี้
- Published: Tuesday, 04 November 2014 10:15
- Hits: 2820
ภาวะตลาดหุ้นไทย : แนวโน้มดัชนีเช้านี้แกว่งทรงตัว รอดูการประชุม ECB-ตัวเลขแรงงานของสหรัฐฯ
นายเกียรติก้อง เดโช นักกลยุทธ์ บล.ซีไอเอ็มบี (ประเทศไทย) กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยเช้านี้คาดว่าจะแกว่งตัวทั้งในแดนบวก-ลบในลักษณะทรง ๆ ตัว เนื่องจากตลาดหุ้นอื่นในภูมิภาคเอเชียเช้านี้ส่วนใหญ่จะอยู่ในแดนลบหลังจากที่ได้ปรับตัวขึ้นต่อเนื่องในช่วงที่ผ่านมา ขานรับเรื่องมาตรการ QE ของญี่ปุ่น
อย่างไรก็ดี ขณะนี้ตลาดฯกำลังรอดูการประชุมธนาคารกลางยุโรป(ECB)ในวันที่ 6 พ.ย.นี้ ว่าจะมีมาตรการ QE เหมือนอย่างญี่ปุ่นหรือเปล่า และรอดูตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตร และตัวเลขการว่างงานของสหรัฐฯในวันศุกร์นี้ด้วย ซึ่งหากตัวเลขดังกล่าวของสหรัฐฯออกมาดีก็อาจจะทำให้ตลาดฯหวั่นว่าจะมีการขึ้นอัตราดอกเบี้ยเร็วขึ้นได้อีก
พร้อมให้แนวรับ 1,574-1,568 จุด ส่วนแนวต้าน 1,584-1,588 จุด
ประเด็นของการพิจารณาการลงทุน :
- ตลาดหุ้นนิวยอร์คล่าสุด(3 พ.ย.)ดัชนีดาวโจนส์ปิดที่ 17,366.24 จุด ลดลง 24.28 จุด(-0.14%),ดัชนี NASDAQ ปิดที่ 4,638.91 จุด เพิ่มขึ้น 8.17 จุด(+0.18%),ดัชนี S&P500 ปิดที่ 2,017.81 จุด ลดลง 0.24 จุด(-0.01%)
- ตลาดหุ้นเอเชียเปิดเช้าวันนี้ ดัชนี NIKKEI 225 ตลาดหุ้นญี่ปุ่นเปิดเพิ่มขึ้น 319.09 จุด, ดัชนี TAIEX ตลาดหุ้นไต้หวันเปิดเพิ่มขึ้น 26.10 จุด, ดัชนี FTSE STI ตลาดหุ้นสิงคโปร์เปิดเพิ่มขึ้น 1.26 จุด, ดัชนี S&P/ASX 200 ตลาดหุ้นออสเตรเลียเปิดไม่เปลี่ยนแปลง ดัชนี KOSPI ตลาดหุ้นเกาหลีใต้เปิดลดลง 2.82 จุด, ดัชนี FBMKLCI ตลาดหุ้นมาเลเซียเปิดลดลง 1.47 จุด, ดัชนี HSI ตลาดหุ้นฮ่องกงเปิดลดลง 66.25 จุด, ดัชนี SSE Composite ตลาดหุ้นจีนเปิดลดลง 1.76 จุด
- ตลาดหุ้นไทยปิดล่าสุด(3 พ.ย.)1,579.18 จุด ลดลง 4.98 จุด(-0.31%)
- นักลงทุนต่างชาติขายสุทธิ 94.32 ล้านบาท เมื่อวันที่ 3 พ.ย.57
- ราคาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือน ธ.ค.ในตลาดไนเม็กซ์ปิดทำการล่าสุด(3 พ.ย.)ที่ 78.78 ดอลลาร์/บาร์เรล ร่วงลง 1.76 ดอลลาร์ ปิดที่ 78.78 ดอลลาร์/บาร์เรล
- ค่าการกลั่นอ้างอิงตลาดสิงคโปร์ปิดล่าสุด(3 พ.ย.)ที่ 4.60 เหรียญสหรัฐฯ/บาร์เรล
- เงินบาทเปิด 32.70/72 อ่อนค่าสุดในรอบ 4 เดือนหลังญี่ปุ่นประกาศเพิ่ม QE
- ม.ร.ว.ปรีดิยาธร เทวกุล รองนายกรัฐมนตรี กล่าวปาฐกถาพิเศษในงานสัมมนาเออีซี+3 ซัมมิท ว่า เศรษฐกิจไทยในปี 2558 จะขยายตัวได้ 4-5% จากการลงทุนของภาครัฐและการใช้จ่ายในประเทศ โดยเฉพาะหากแผนการลงทุนในระบบคมนาคมขนส่ง เช่นระบบรถไฟทางคู่ และโครงการรถไฟฟ้า เดินหน้าไปตามแผนงานที่วางไว้
- นางอัมพวัน พิชาลัย รองปลัดกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยว่า ดัชนีราคาผู้บริโภคทั่วไปของประเทศ (เงินเฟ้อ) ในเดือน ต.ค. 2557 เท่ากับ 107.32 สูงขึ้น 1.48% ถือเป็นอัตราขยายตัวต่ำสุดในรอบ12 เดือน นับตั้งแต่เดือน ต.ค. 2556 ที่ขยายตัว 1.46% แต่ลดลง 0.10% เมื่อเทียบกับ ก.ย. 2557 ส่งผลให้อัตราเงินเฟ้อตั้งแต่เดือน ม.ค.-ต.ค.สูงขึ้น 2.08% เทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่ผ่านมา
- "สมหมาย ภาษี" รมว.คลัง ได้ชี้แจงกับสถาบันการเงินและนักลงทุนจากสหรัฐ ว่า รัฐบาลไทยจะเน้นการลงทุนให้มีความต่อเนื่องไปจนถึงปีงบประมาณ 2559 ซึ่งไม่ว่ารัฐบาลไหนจะเข้ามาบริหารประเทศต่อจากนี้ จะจัดทำงบประมาณและแผนการลงทุนให้สอดคล้องกับเม็ดเงินลงทุนต่างชาติที่กำลังจะเข้ามา ซึ่งจะเป็นโอกาสลงทุนเพื่อเพิ่มขีดความสามารถการแข่งขันของประเทศ
- นายชายน้อย เผื่อนโกสุม รักษาการผู้อำนวยการสถาบันบริหารกองทุนพลังงาน(องค์การมหาชน) เปิดเผยว่า ขณะนี้กองทุนน้ำมันเชื้อเพลิงมีฐานะสุทธิเป็นบวก 827 ล้านบาท หลังจากที่ติดลบมีรายจ่ายมากกว่ารายรับมายาวนานต่อเนื่องถึง 11 เดือน จากที่เคยเป็นบวกในเดือน ธ.ค. 2556
- จากรายงานแนวโน้มธุรกิจไตรมาส 4 ของปี 2557 โดยธนาคารแห่งประเทศไทย(ธปท.) ซึ่งสำรวจมุมมองนักธุรกิจไทยทั่วประเทศ พบว่า แม้ผู้ประกอบการส่วนใหญ่จะเชื่อมั่นต่อภาวะเศรษฐกิจในไตรมาสสุดท้ายมากขึ้น แต่ก็ยังไม่วางใจและไม่กล้าขึ้นราคาสินค้าแม้ต้นทุนจะปรับเพิ่มขึ้น เนื่องจากรายได้เกษตรกรที่ลดลงตามราคาพืชผล และภาวะหนี้ครัวเรือนที่ยังคงพุ่งสูง
*หุ้นเด่นวันนี้
- MONO-W1(ใบสำคัญแสดงสิทธิที่จะซื้อหุ้นสามัญบมจ.โมโน เทคโนโลยี (MONO)เทรดวันนี้วันแรก มีจำนวน 1,500,002,627 หน่วยอัตราการใช้สิทธิ 1 ใบสำคัญแสดงสิทธิ : 1 หุ้นสามัญใหม่ ราคาการใช้สิทธิ 2.50 บาทต่อหุ้น อายุใบสำคัญแสดงสิทธิ 5 ปีนับจากวันที่ออกใบสำคัญแสดงสิทธิ (วันที่ออกคือ 17 ต.ค.57)ราคาใบสำคัญแสดงสิทธิ 0.00 บาทต่อหน่วย วันใช้สิทธิครั้งแรก 30 ธ.ค. 2557 ส่วนวันใช้สิทธิครั้งสุดท้าย 17 ต.ค. 2562
- CHG(ดีบีเอส วิคเคอร์ส)"ซื้อ"เป้า 21.30 บาท เล็งขยายธุรกิจโรงพยาบาลใกล้นิคมอุตสาหกรรม เพราะมองว่านิคมอุตสาหกรรมเกิดขึ้นใหม่หลายที่ และมีผู้ต้องการใช้บริการโรงพยาบาลมากขึ้น จึงเห็นเป็นโอกาสที่จะขยายธุรกิจเข้าไปในพื้นที่เหล่านี้ โดยขณะนี้เล็งที่จะสร้างโรงพยาบาลแห่งใหม่ที่ปราจีนบุรี และเจรจาเข้าซื้อกิจการเพิ่มเติม สำหรับแผนขยายเตียงผู้ป่วยจาก 414 เป็น 688 เตียงในปี 60 เป็นไปตามแผน และเรายังคงคาดการณ์ EPS Growth เฉลี่ย 20% ต่อปีในช่วงปี 56-58 (ไม่รวม M&A ที่จะเกิดใหม่)
- TUF(ดีบีเอส วิคเคอร์ส)"ซื้อ"เป้า 88 บาท เดินหน้าทำ M&A ต่อเนื่อง ทาง TUF ได้มีการซื้อหุ้น 100% ในสองบริษัทคือ Mer Alliance and King Oscar คาดว่าจะส่งผลดีกับ TUF ในงวดปีหน้า เกี่ยวกับการขยายฐานลูกค้าได้กว้างขึ้น ทั้งนี้ ปี 58 มีแนวโน้มเติบโตได้ดี โดยหลักมาจากการเข้าซื้อกิจการ, มาร์จิ้นมีโอกาสดีและเสถียรขึ้นจากการเพิ่มสัดส่วนธุรกิจปลายน้ำ, มีการกระจายความเสี่ยงที่ดีทั้งด้านสินค้า ที่ตั้งโรงงาน และฐานลูกค้า
- BH(ฟินันเซีย ไซรัส)คาดกำไรสุทธิ 3Q14 ทำ New high +21% Q-Q, +10% Y-Y จากจำนวนผู้ป่วยทั้งไทยและต่างชาติที่กลับมาเพิ่มขึ้นอีกครั้ง แนวโน้มยังดีต่อเนื่องถึงปีหน้า แต่ราคาหุ้นปรับขึ้นมาจนเหลือ upside แคบ แนะนำ"เก็งกำไร"ผลประกอบการ
ตลาดหุ้นเอเชียพุ่งขึ้นเช้านี้ หลังตลาดหุ้นญี่ปุ่นทะยานรับมาตรการบีโอเจ
ตลาดหุ้นเอเชียปรับตัวขึ้นเป็นส่วนใหญ่ในช่วงเช้าวันนี้ เพราะได้แรงหนุนจากดัชนีนิกเกอิตลาดหุ้นโตเกียวที่ทะยานขึ้นกว่า 600 จุดหลังจากที่ตลาดเปิดทำการได้ไม่นาน อันเนื่องมาจากการที่นักลงทุนขานรับมาตรการผ่อนคลายเพิ่มเติมของธนาคารกลางญี่ปุ่น (บีโอเจ)
ดัชนี MSCI Asia Pacific พุ่งขึ้น 1.4% เมื่อเวลา 09:56 น.ตามเวลาโตเกียว
ดัชนี NIKKEI 225 ตลาดหุ้นญี่ปุ่นเปิดที่ 16,732.85 จุด เพิ่มขึ้น 319.09 จุด, +1.94% ดัชนี TAIEX ตลาดหุ้นไต้หวันเปิดที่ 9,030.96 จุด เพิ่มขึ้น 26.10 จุด, +0.29% ดัชนี FTSE STI ตลาดหุ้นสิงคโปร์เปิดที่ 3,292.10 จุด เพิ่มขึ้น 1.26 จุด, +0.04%
ส่วนดัชนี S&P/ASX 200 ตลาดหุ้นออสเตรเลียเปิดที่ 5,506.90 จุด ไม่เปลี่ยนแปลง ดัชนี KOSPI ตลาดหุ้นเกาหลีใต้เปิดที่1,950.15 จุด ลดลง 2.82 จุด, -0.14% ดัชนี FBMKLCI ตลาดหุ้นมาเลเซียเปิดที่ 1,851.87 จุด ลดลง 1.47 จุด, -0.08% ดัชนี HSI ตลาดหุ้นฮ่องกงเปิดที่ 23,849.72 จุด ลดลง 66.25 จุด, -0.28% ดัชนี SSE Composite ตลาดหุ้นจีนเปิดที่ 2,428.27 จุด ลดลง 1.76 จุด, -0.07%
ภาวะการซื้อขายในตลาดหุ้นเอเชียได้รับปัจจัยบวกจากดัชนีนิกเกอิตลาดหุ้นโตเกียวที่พุ่งขึ้นกว่า 600 จุดหลังจากตลาดเปิดทำการได้ไม่นาน หลังจากบีโอเจได้สร้างความประหลาดใจแก่ตลาดเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา ด้วยการปรับเพิ่มเป้าหมายสำหรับการขยายฐานเงินมาอยู่ที่ราว 80 ล้านล้านเยนต่อปี เพื่อสกัดการคาดการณ์เงินฝืด
ภาวะตลาดหุ้นยุโรป : หุ้นยุโรปปิดลบ เหตุวิตกภาคการผลิตยูโรโซนซบเซา
ตลาดหุ้นยุโรปปิดลบเมื่อคืนนี้ (3 พ.ย.) เพราะได้รับแรงกดดันจากความวิตกกังวลเกี่ยวกับภาวะซบเซาของภาคการผลิตในยูโรโซน และผลประกอบการที่อ่อนแอของบริษัทหลายแห่ง รวมถึงบริษัท PostNL
ดัชนี Stoxx Europe 600 ปรับตัวลง 0.8% ปิดที่ 334.25 จุด
ดัชนี CAC-40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศสปิดที่ 4,194.03 จุด ลดลง 39.06 จุด หรือ -0.92% ดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมันปิดที่ 9,251.70 จุด ลดลง 75.17 จุด หรือ -0.81% ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 6,487.97 จุด ลดลง 58.50 จุด หรือ -0.89%
ตลาดหุ้นยุโรปปรับตัวลงหลังจากผลสำรวจของมาร์กิตระบุว่า ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคการผลิตของยูโรโซนในเดือนต.ค.ปรับตัวขึ้นแตะ 50.6 ในเดือนต.ค. จากระดับต่ำสุดในรอบ 14 เดือนที่ 50.3 ในเดือนก.ย. แต่ขยับลงจากตัวเลขเบื้องต้นเดือนต.ค.ที่ระดับ 50.7 บ่งชี้ว่าภาคการผลิตของยูโรโซนยังคงเข้าใกล้ภาวะชะงักงัน
ตลาดได้รับแรงกดดันจากผลประกอบการที่อ่อนแอของบริษัทหลายแห่ง โดยหุ้น Holcim ซึ่งเป็นบริษัทผลิตซีเมนต์รายใหญ่ ร่วงลง 2.6% หลังจากบริษัทเปิดเผยผลประกอบการที่น้อยเกินคาด เนื่องจากความผันผวนของสกุลเงินในกลุ่มตลาดเกิดใหม่ได้ส่งผลกระทบต่อรายได้ของบริษัท
หุ้น PostNL ดิ่งลง 13% หลังจากบริษัทเปิดเผยรายได้สุทธิไตรมาส 3 อยู่ที่ 12 ล้านยูโร น้อยกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ไว้สูงถึง 26 ล้านยูโร
อย่างไรก็ตาม หุ้นไรอันแอร์ โฮลดิงส์ พุ่งขึ้น 7.7% หลังจากบริษัทได้ปรับเพิ่มคาดการณ์ผลประกอบการปี 2557 ขณะที่หุ้นโปรตุกัล เทเลคอม ทะยานขึ้น 4.1%
ภาวะตลาดหุ้นลอนดอน : ฟุตซี่ปิดลบ 58.50 จุด เหตุวิตกเศรษฐกิจยูโรโซนอ่อนแอ
ตลาดหุ้นลอนดอนปิดปรับตัวลงเมื่อคืนนี้ (3 พ.ย.) โดยได้รับแรงกดดันจากข้อมูลภาคการผลิตที่อ่อนแอของภูมิภาคยูโรโซน
ดัชนี FTSE 100 ลดลง 58.50 จุด หรือ 0.89% ปิดที่ 6,487.97 จุด
ตลาดปรับตัวลงจากความวิตกเกี่ยวกับภาวะเศรษฐกิจของยุโรป ขณะที่ผลสำรวจของมาร์กิตระบุว่า ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคการผลิตของยูโรโซนในเดือนต.ค.ปรับตัวขึ้นแตะ 50.6 จากระดับต่ำสุดในรอบ 14 เดือนที่ 50.3 ในเดือนก.ย. แต่ขยับลงจากตัวเลขเบื้องต้นเดือนต.ค.ที่ระดับ 50.7 บ่งชี้ว่าภาคการผลิตของยูโรโซนยังคงเข้าใกล้ภาวะชะงักงัน
นอกจากนี้ ตลาดยังได้รับปัจจัยลบจากการร่วงลงของหุ้นกลุ่มธนาคาร ซึ่งได้สกัดแรงบวกจากการทะยานขึ้นของหุ้นกลุ่มสายการบิน
หุ้นเอชเอสบีซี โฮลดิงส์ร่วง 1.8% หลังมีรายงานผลกำไรก่อนหักภาษีที่ต่ำกว่าคาดการณ์ ส่วนหุ้นไรอันแอร์ โฮลดิงส์ทะยานขึ้น 7.3% เนื่องจากบริษัทปรับเพิ่มเป้าหมายผลกำไรตลอดทั้งปีเป็นครั้งที่ 2 ในปีนี้
ภาวะตลาดหุ้นนิวยอร์ก : ดาวโจนส์ปิดลบ 24.28 จุด หลังหุ้นกลุ่มพลังงานร่วง
ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดลบเมื่อคืนนี้ (3 พ.ย.) เพราะได้รับแรงกดดันจากการร่วงลงของหุ้นกลุ่มพลังงาน หลังจากราคาน้ำมันดิบตลาดนิวยอร์กปรับตัวลง อันเนื่องมาจากรายงานที่ว่าซาอุดิอาระเบียได้ปรับลดราคาน้ำมันดิบให้กับสหรัฐ
ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 17,366.24 จุด ลดลง 24.28 จุด หรือ -0.14% ดัชนี NASDAQ ปิดที่ 4,638.91 จุด เพิ่มขึ้น 8.17 จุด หรือ +0.18% ดัชนี S&P500 ปิดที่ 2,017.81 จุด ลดลง 0.24 จุด หรือ -0.01%
หุ้นกลุ่มพลังงานร่วงลง หลังจากมีรายงานว่า การปิโตรเลียมซาอุดิอาระเบียได้ปรับลดราคาน้ำมันดิบที่ส่งออกให้กับสหรัฐ โดยหุ้นเอ็กซอนโมบิล หุ้นเชฟรอน คอร์ป และหุ้นชลัมเบอร์เกอร์ ต่างก็ปรับตัวลงอย่างน้อย 1.5% ส่งผลให้ดัชนีหุ้นกลุ่มพลังงานใน S&P 500 ดิ่งลง 1.7%
นอกจากนี้ ตลาดยังได้รับแรงกดดันจากความผันผวนของข้อมูลในภาคการผลิตของสหรัฐ โดยมาร์กิตเปิดเผยผลสำรวจที่ระบุว่า ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคการผลิตของสหรัฐในเดือนต.ค.ลดลงแตะ 55.9 ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดในรอบ 3 เดือน จาก 57.5 ในเดือนก.ย.
ขณะที่สถาบันจัดการด้านอุปทานของสหรัฐ (ISM) เปิดเผยว่า ดัชนีภาคการผลิตเดือนต.ค.เพิ่มขึ้นสู่ระดับ 59 จาก 56.6 ในเดือนก.ย. นอกจากนี้ กระทรวงพาณิชย์สหรัฐเปิดเผยว่า การใช้จ่ายด้านการก่อสร้างในเดือนก.ย.ปรับตัวลง 0.4% สู่ระดับ 9.509 แสนล้านดอลลาร์ โดยเป็นการปรับลดลงต่อเนื่องเป็นเดือนที่ 2 ติดต่อกัน และสวนทางกับที่นักวิเคราะห์ส่วนใหญ่ประเมินไว้ว่าจะเพิ่มขึ้น 0.7%
หุ้นแอปเปิล อิงค์ ปรับตัวขึ้น 1.3% หลังจากมีรายงานว่าทางบริษัทจะจัดการประชุมร่วมกับกลุ่มนักลงทุนเพื่อหารือเกี่ยวกับการขายหุ้นกู้ โดยแอปเปิล อิงค์ ได้มอบหมายให้โกลด์แมน แซคส์ และดอยช์ แบงก์ เป็นผู้ดำเนินการในเรื่องนี้
นักลงทุนจับตาดูข้อมูลเศรษฐกิจที่สำคัญในวันนี้ รวมถึงดัชนีภาวะธุรกิจนิวยอร์กเดือนต.ค.จากสถาบันจัดการด้านอุปทานของสหรัฐ (ISM) ยอดสั่งซื้อภาคโรงงานของสหรัฐเดือนก.ย. และข้อมูลการค้าระหว่างประเทศเดือนก.ย.
อินโฟเควสท์