- Details
- Category: หุ้นเด่นวันนี้
- Published: Monday, 20 October 2014 09:58
- Hits: 2300
ภาวะตลาดหุ้นไทย : แนวโน้มดัชนีเช้าลุ้นรีบาวด์ตามตลาดต่างประเทศหลังบรรยากาศนอกปท.ดีขึ้น
นายประกิต สิริวัฒนเกตุ ผู้จัดการฝ่ายกลยุทธ์ลงทุน บล.เอเชีย พลัส กล่าวว่า ตลาดหุ้นทยเช้านี้มีโอกาสเกิดเทคนิคเคิลรีบาวด์ได้ตามตลาดต่างประเทศที่ต่างปรับตัวขึ้นกันถ้วนหน้า เนื่องจากบรรยากาศภายนอกประเทศดีขึ้น เป็นผลจากตัวเลขเศรษฐกิจของสหรัฐฯออกมาดีขึ้น และด้านยุโรปนั้นลดความกังวลปัญหากรีซลง แต่มองว่าตลาดต่างประเทศคงฟื้นตัวช่วงสั้นเท่านั้น เนื่องจากเศรษฐกิจโลกยังไม่ดี โดยเฉพาะยุโรป
ส่วนตลาดบ้านเราก็อยู่ในช่วงของการประกาศผลประกอบการของบริษัทจดทะเบียนงวดไตรมาส 3/57 ก็คาดว่ากลุ่มพลังงานคงจะออกมาไม่ดี และมีโอกาสที่นักวิเคราะห์ฯจะปรับลดประมาณการลง นอกจากนี้ ตลาดฯ เทรดค่อนข้างแพงในปัจจุบัน ทำให้มีโอกาสปรับตัวลงไปได้อีก ส่วนแรงขายของนักลงทุนต่างชาติยังไม่น่ากังวลมากนัก พร้อมให้แนวต้าน 1,534-1,551 จุด
ประเด็นของการพิจารณาการลงทุน :
- ตลาดหุ้นนิวยอร์คล่าสุด(17 ต.ค.) ดัชนีดาวโจนส์ปิดที่ 16,380.41 จุด เพิ่มขึ้น 263.17 จุด(+1.63%),ดัชนี NASDAQ ปิดที่ 4,258.44 จุด เพิ่มขึ้น 41.05 จุด(+0.97%),ดัชนี S&P500 ปิดที่ 1,886.76 จุด เพิ่มขึ้น 24.00 จุด (+1.29%)
- ตลาดหุ้นเอเชียเปิดเช้าวันนี้ ดัชนี NIKKEI 225 ตลาดหุ้นญี่ปุ่นเปิดวันนี้ เพิ่มขึ้น 290.33 จุด, ดัชนี TAIEX ตลาดหุ้นไต้หวันเปิดวันนี้ เพิ่มขึ้น 104.20 จุด, ดัชนี SSE Composite ตลาดหุ้นจีนเปิดวันนี้ เพิ่มขึ้น 4.87 จุด, ดัชนี KOSPI ตลาดหุ้นเกาหลีใต้เปิดวันนี้ เพิ่มขึ้น 18.18 จุด, ดัชนี FTSE STI ตลาดหุ้นสิงคโปร์เปิดวันนี้ เพิ่มขึ้น 16.93 จุด และดัชนี FBMKLCI ตลาดหุ้นมาเลเซียเปิดวันนี้ เพิ่มขึ้น 1.76 จุด
- ตลาดหุ้นไทยปิดล่าสุด(17 ต.ค.)1,528.71 จุด เพิ่มขึ้น 2.56 จุด(+0.17%)
- นักลงทุนต่างชาติขายสุทธิ 2,713.65 ล้านบาท เมื่อวันที่ 17 ต.ค.57
- ราคาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือน พ.ย.ในตลาดไนเม็กซ์ปิดทำการล่าสุด(17 ต.ค.)ที่ 82.75 ดอลลาร์/บาร์เรล เพิ่มขึ้น 5 เซนต์
- ค่าการกลั่นอ้างอิงตลาดสิงคโปร์ปิดล่าสุด(17 ต.ค.)ที่ 5.07 เหรียญสหรัฐฯ/บาร์เรล
- เงินบาทเปิด 32.37/39 แกว่งในกรอบแคบ ไร้ปัจจัยใหม่หนุนทิศทาง
- "แบงก์ชาติ" ห่วงการส่งออก "กลุ่มอิเล็กทรอนิกส์-สิ่งทอ" แนะปรับตัวรับเทคโนโลยีใหม่ๆ ขณะที่ผู้ลงทุนเน้นประเทศที่พร้อมเป็นฐานการผลิต ประธานกลุ่มอุตสาหกรรมเครื่องนุ่งห่ม รับส่งออกไตรมาส 4 ยังไม่ดีขึ้น เหตุเศรษฐกิจโลกชะลอตัว จี้รัฐเร่งเจรจาเปิดเอฟทีเอไทย-อียู พาณิชย์เปิดตัวเลขเป้าหมาย ส่งออกปีหน้าวันนี้
- รายงานข่าวจากกระทรวงพลังงาน เปิดเผยว่า ในวันที่ 20 ต.ค.จะมีการประชุมคณะกรรมการบริหารนโยบายพลังงาน (กบง.) มีนายณรงค์ชัย อัครเศรณี รมว.พลังงาน เป็นประธาน โดยมีวาระพิจารณา 2 เรื่อง ประกอบด้วยการพิจารณาปรับเพิ่มอัตราเงินนำส่งเข้ากองทุนน้ำมันเชื้อเพลิงของกลุ่มน้ำมันเบนซินและดีเซลอีก 50-60 สต./ลิตร
- นายอำนวย ปรีมนวงศ์ รองปลัดกระทรวงการคลัง หัวหน้ากลุ่มภารกิจด้านรายได้ เปิดเผยว่า ได้สั่งการให้กรมสรรพากร กรมสรรพสามิต และกรมศุลกากร จัดทำแผนการจัดเก็บรายได้ ปีงบประมาณ 2558 เป็นรายเดือนเพื่อให้สามารถตรวจสอบได้ว่าทำได้ตามเป้าหมายหรือไม่ หากเก็บได้ต่ำกว่าเป้าหมายจะรู้ว่าเกิดปัญหาจากส่วนไหน เพื่อให้การเก็บภาษีเป็นไปตามเป้าที่ตั้งไว้ 2.32 ล้านล้านบาท
- "จักรมณฑ์ ผาสุกวนิช" รมว.อุตสาหกรรม เปิดเผยว่า ขณะนี้กระทรวงอยู่ระหว่างพิจารณายกเว้นให้ศูนย์บริการเปลี่ยนน้ำมันเครื่องรถยนต์ไม่เข้าข่ายเป็นโรงงานอุตสาหกรรม ซึ่งส่วนใหญ่ศูนย์บริการเหล่านี้เป็นบริการของดีลเลอร์รถยนต์ที่มีบริการเปลี่ยนถ่ายน้ำมันให้กับลูกค้าทุกๆ 6 เดือน แต่ไม่ใช่อู่ซ่อมรถ โดยอู่ซ่อมยังคงเข้าข่ายเป็นโรงงานตามกฎกระทรวงอุตสาหกรรม
- แบงก์ชาติเลื่อนคลายกฎยกเลิกประกันความเสี่ยงค่าเงินของทุนไทยประเภท TDI และเงินกู้จากต่างประเทศ คาดออกประกาศเป็นทางการช่วงต้นไตรมาส 4 ของปีนี้ เหตุต้องตรวจสอบเอกสารกฎหมายในประกาศ ปัดไม่เกี่ยวกับความผันผวนเงินทุนเคลื่อนย้ายที่เกิดขึ้น
- นางผ่องเพ็ญ เรืองวีรยุทธ รองผู้ว่าการด้านเสถียรภาพการเงิน ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) เปิดเผยว่า ขณะนี้ธปท.เริ่มเจรจากับธนาคารกลางพม่า เพื่อขออนุญาตให้ใช้สกุลเงินบาทของไทยเป็นสกุลเงินอันดับต่อไปที่จะใช้หักชำระราคาในประเทศพม่าได้อย่างถูกต้องตามกฎหมาย เพื่อรองรับธุรกรรมการค้าการลงทุนระหว่างสองประเทศ ที่มีอัตราการขยายตัวสูงขึ้นอย่างรวดเร็ว
*หุ้นเด่นวันนี้
- CSS-W1 ใบสำคัญแสดงสิทธิที่จะซื้อหุ้นสามัญ บมจ.คอมมิวนิเคชั่น แอนด์ ซิสเต็มส์ โซลูชั่น (CSS) เข้าเทรดวันนี้วันแรก โดยมีจำนวน 279,991,957 หน่วย อัตราการใช้สิทธิ 1 ใบสำคัญแสดงสิทธิ : 1 หุ้นสามัญใหม่ ราคาการใช้สิทธิ 1.50 บาทต่อหุ้น อายุใบสำคัญแสดงสิทธิ 1 ปี 6 เดือนนับจากวันที่ออกใบสำคัญแสดงสิทธิ ราคาใบสำคัญแสดงสิทธิ 0.00 บาทต่อหน่วย วันใช้สิทธิครั้งแรก 30 ธ.ค. 2557 วันใช้สิทธิครั้งสุดท้าย 31 มี.ค. 2559
- KBANK(ฟินันเซีย ไซรัส)"ซื้อ"เป้าปี 2015 ที่ 261 บาท กำไรดีกว่าคาดและน่าประทับใจ โดยมีกำไรสุทธิ 12,516 ล้านบาท เพิ่ม 7% Q-Q และ 17% Y-Y ดีกว่าเราคาด 8% จากรายได้ดอกเบี้ยและ NIM ที่พุ่งแตะระดับสูงสุดที่ 3.79% สินเชื่อ 3Q14 เพิ่มขึ้น 2% Q-Q และ +4.1% YTD ส่วน NPL ยังต่ำที่ 2.16% (2Q14 = 2.14%) ขณะที่ Coverage ratio สูงขึ้นเป็น 142% จาก 141% ใน 2Q14
- PTTEP, PTT(เคทีบี)"เก็งกำไร" เป็นหุ้นที่นักลงทุนควรหาจังหวะซื้อเพิ่มเข้าพอร์ตลงทุนในช่วงนี้ โดยมีราคาที่น่าสนใจ ขณะที่การกดราคาน้ำมันของกลุ่มโอเปกเพื่อกดดันการผลิตของสหรัฐเป็นสิ่งที่น่าสนใจติดตามต่อไป พร้อมให้ราคาเป้าหมาย PTTEP, PTT เท่ากับ 204 และ 420 บาท ตามลำดับ
- PCA(เมย์แบงก์ กิมเอ็ง)"ซื้อเก็งกำไร"เป้า 14.50 บาท คาดว่าหุ้นกลุ่มผู้ผลิต Set top box ทีวีดิจิตอลจะตอบรับเชิงบวกในสัปดาห์นี้ เนื่องจากจะเริ่มเปิดให้ประชาชนนำคูปองไปแลกตั้งแต่วันที่ 20 ต.ค.เป็นต้นไป โดย PCA เป็น 1 ในผู้ผลิตในประเทศที่ผ่านเกณฑ์ในการรับแลกคูปอง Set top box ทีวีดิจิตอล และเป็น 1 ใน 3 รายในตลาดที่จำหน่ายเสาอากาศสำหรับ Set top box ทีวีดิจิตอล จึงคาดว่าจะได้ประโยชน์โดยตรงทั้งจากยอดจำหน่าย Set top box และเสาอากาศ ตั้งแต่ 4Q57 เป็นต้นไป ปัจจัยบวกระยะสั้น คือ งบ 3Q57 กำไรจะเติบโตสูง +100% qoq เป็น 28 ล้านบาท รับรู้รายได้งานโครงการเป็นจำนวนมากหลังหลังปัจจัยการเมืองคลี่คลายลง พร้อมคาดกำไรสุทธิปี 2557 จะเติบโตถึง +93% yoy เป็น 94 ล้านบาท
ตลาดหุ้นเอเชียเพิ่มขึ้นเช้านี้ ขานรับตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดทะยาน
ตลาดหุ้นเอเชียปรับตัวเพิ่มขึ้นในช่วงเช้าวันนี้ ตามทิศทางตลาดหุ้นนิวยอร์กที่ปิดทะยานขึ้นเมื่อวันศุกร์ (17 ต.ค.) เพราะได้รับแรงหนุนจากผลประกอบการภาคเอกชนที่สดใส และข้อมูลเศรษฐกิจสหรัฐที่แข็งแกร่ง
ดัชนี MSCI Asia Pacific Index (MXAP) ทะยาน 1.3% สู่ระดับ 135.44 จุด เมื่อเวลา 9.15 น.ตามเวลาโตเกียว
ดัชนี NIKKEI 225 ตลาดหุ้นญี่ปุ่นเปิดวันนี้ที่ 14,822.84 จุด เพิ่มขึ้น 290.33 จุด, ดัชนี TAIEX ตลาดหุ้นไต้หวันเปิดวันนี้ที่ 8,617.08 จุด เพิ่มขึ้น 104.20 จุด, ดัชนี KOSPI ตลาดหุ้นเกาหลีใต้เปิดวันนี้ที่ 1,918.84 จุด เพิ่มขึ้น 18.18 จุด, ดัชนี FTSE STI ตลาดหุ้นสิงคโปร์เปิดวันนี้ที่ 3,184.66 จุด เพิ่มขึ้น 16.93 จุด และดัชนี FBMKLCI ตลาดหุ้นมาเลเซียเปิดวันนี้ที่ 1,790.07 จุด เพิ่มขึ้น 1.76 จุด
ตลาดหุ้นเอเชียได้รับแรงหนุนจากข้อมูลเศรษฐกิจสหรัฐที่แข็งแกร่ง ภายหลังมีรายงานว่า ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคสหรัฐช่วงต้นเดือนต.ค.จากรอยเตอร์และมหาวิทยาลัยมิชิแกน ปรับตัวสูงขึ้นแตะระดับ 86.4 จากระดับเดือนก.ย.ที่ 84.6
ดัชนีที่ปรับตัวสูงขึ้นนี้ บ่งชี้ว่า ผู้บริโภคมีมุมมองที่เป็นบวกต่อเศรษฐกิจของประเทศ ในขณะที่ราคาน้ำมันอ่อนตัวลง และตลาดแรงงานมีความแข็งแกร่งขึ้น
นอกจากนี้ กระทรวงพาณิชย์สหรัฐเปิดเผยว่า ตัวเลขการเริ่มสร้างบ้านเดือนก.ย.ปรับตัวขึ้น 6.3% มาอยู่ที่ 1.02 ล้านยูนิต ซึ่งมากกว่าที่นักวิเคราะห์คาดไว้ว่าจะเพิ่มขึ้น 4.3% โดย ข้อมูลด้านที่อยู่อาศัยที่ปรับตัวดีขึ้นดังกล่าว บ่งชี้ว่าการสร้างงานอย่างต่อเนื่องและอัตราดอกเบี้ยที่ลดลง อาจเป็นปัจจัยที่ช่วยหนุนภาคก่อสร้างของสหรัฐในช่วงปลายปีนี้
ภาวะตลาดหุ้นลอนดอน : หุ้นฟุตซี่ปิดพุ่ง 114.38 จุด จากคาดการณ์ ECB กระตุ้นศก.
ตลาดหุ้นลอนดอนปิดปรับตัวขึ้นเมื่อคืนนี้ (17 ต.ค.) ตามรอยตลาดในภูมิภาค โดยได้รับแรงหนุนจากกระแสคาดการณ์ว่า ข้อมูลเศรษฐกิจในยุโรปที่สะท้อนแนวโน้มซบเซาจะกระตุ้นให้ธนาคารกลางยุโรป (อีซีบี) ออกนโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจเพิ่มเติม
ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 6,310.29 จุด เพิ่มขึ้น 114.38 จุด หรือ +1.85% ซึ่งเป็นการเพิ่มขึ้นมากที่สุดในรอบกว่า 1 ปี
ตลาดหุ้นลอนดอนปรับตัวสูงขึ้นสอดคล้องกับตลาดในภูมิภาค จากกระแสคาดการณ์ว่าธนาคารกลางยุโรป (อีซีบี) จะออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจเพิ่มเติม ท่ามกลางแนวโน้มเศรษฐกิจยูโรโซนที่ซบเซา โดยสำนักงานสถิติแห่งสหภาพยุโรป หรือยูโรสแตท เปิดเผยว่า เงินเฟ้อของยูโรโซนในเดือนก.ย.ลดลงแตะ 0.3% ในเดือนก.ย. จากระดับ 0.4% ในเดือนส.ค. ขณะที่ผลผลิตภาคอุตสาหกรรมของยูโรโซนปรับตัวลดลง 1.8% ในเดือนส.ค. เทียบกับเดือนก่อนหน้า
ตลาดหุ้นลอนดอนยังได้แรงหนุนจากข้อมูลเศรษฐกิจสหรัฐที่สดใส โดยช่วงค่ำวานนี้ตามเวลาประเทศไทย กระทรวงพาณิชย์สหรัฐเปิดเผยว่า ตัวเลขการเริ่มสร้างบ้านเดือนก.ย.ปรับตัวขึ้น 6.3% มาอยู่ที่ 1.02 ล้านยูนิต ซึ่งมากกว่าที่นักวิเคราะห์คาดไว้ว่าจะเพิ่มขึ้น 4.3%
ขณะที่ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคสหรัฐช่วงต้นเดือนต.ค.จากรอยเตอร์และมหาวิทยาลัยมิชิแกน ปรับตัวสูงขึ้นแตะระดับ 86.4 จากระดับเดือนก.ย.ที่ 84.6 ซึ่งเป็นระดับสูงสุดในรอบ 7 ปี
หุ้นโรลส์-รอยซ์ โฮลดิงส์ ร่วง 12% หลังจากที่บริษัทประเมินว่าผลการดำเนินการตลอดทั้งปีนี้อาจปรับตัวลง จากเดิมที่ประเมินว่าทรงตัวจากปีก่อน
หุ้นทราวิส เพอร์กินส์ร่วงลง 1% หลังจากเปิดเผยว่าธุรกิจเดินท่อปะปาและส่งความร้อนของบริษัทจะยังเผชิญความท้าทายจากสภาวะตลาด ณ ปัจจุบันต่อไป
ภาวะตลาดหุ้นยุโรป : หุ้นยุโรปปิดบวก จากคาดการณ์อีซีบีกระตุ้นเศรษฐกิจ
ตลาดหุ้นยุโรปปิดปรับตัวเพิ่มขึ้นเมื่อคืนนี้ (17 ต.ค.) โดยได้รับแรงหนุนจากกระแสคาดการณ์ว่าธนาคารกลาง (อีซีบี) จะออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจเพิ่มเติม หลังจากข้อมูลระยะนี้สะท้อนว่าเศรษฐกิจของยูโรโซนซบเซา นอกจากนี้ ตลาดยังได้รับแรงหนุนจากข้อมูลเศรษฐกิจสหรัฐที่ดีขึ้น
ดัชนี Stoxx 600 Europe พุ่งขึ้น 2.8% ปิดที่ 318.68 จุด
ดัชนี CAC-40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศสปิดที่ 4,033.18 จุด เพิ่มขึ้น 114.56 จุด หรือ +2.92% ดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมันปิดที่ 8,850.27 จุด เพิ่มขึ้น 267.37 จุด หรือ +3.12% ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 6,310.29 จุด เพิ่มขึ้น 114.38 จุด หรือ +1.85%
ตลาดหุ้นยุโรปพุ่งขึ้นสูงสุดในรอบ 3 ปี จากกระแสคาดการณ์ว่าธนาคารกลางยุโรป (อีซีบี) จะออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจเพิ่มเติม ท่ามกลางแนวโน้มเศรษฐกิจยูโรโซนที่ซบเซา โดยสำนักงานสถิติแห่งสหภาพยุโรป หรือยูโรสแตท เปิดเผยว่า เงินเฟ้อของยูโรโซนในเดือนก.ย.ลดลงแตะ 0.3% ในเดือนก.ย. จากระดับ 0.4% ในเดือนส.ค. ขณะที่ผลผลิตภาคอุตสาหกรรมของยูโรโซนปรับตัวลดลง 1.8% ในเดือนส.ค. เทียบกับเดือนก่อนหน้า
นอกจากนี้ เยอรมนียังปรับลดคาดการณ์ผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (จีดีพี) ปีนี้ สู่ระดับขยายตัว 1.2% จากคาดการณ์คราวก่อนซึ่งอยู่ที่ 1.8%
ตลาดหุ้นยุโรปยังได้แรงหนุนจากข้อมูลเศรษฐกิจสหรัฐที่สดใส โดยกระทรวงพาณิชย์สหรัฐเปิดเผยว่า ตัวเลขการเริ่มสร้างบ้านเดือนก.ย.ปรับตัวขึ้น 6.3% มาอยู่ที่ 1.02 ล้านยูนิต ซึ่งมากกว่าที่นักวิเคราะห์คาดไว้ว่าจะเพิ่มขึ้น 4.3%
ขณะที่ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคสหรัฐช่วงต้นเดือนต.ค.จากรอยเตอร์และมหาวิทยาลัยมิชิแกน ปรับตัวสูงขึ้นแตะระดับ 86.4 จากระดับเดือนก.ย.ที่ 84.6 ซึ่งเป็นระดับสูงสุดในรอบ 7 ปี
หุ้น Accor SA พุ่งขึ้น 4% ภายหลังบริษัทเปิดเผยว่ายอดขายในไตรมาส 3 เพิ่มขึ้น 4.6% ซึ่งสูงกว่าคาดการณ์ของนักวิเคราะห์
หุ้นโรลส์-รอยซ์ โฮลดิงส์ ร่วง 12% หลังจากที่บริษัทประเมินว่าผลการดำเนินการตลอดทั้งปีนี้อาจปรับตัวลง จากเดิมที่ประเมินว่าทรงตัวจากปีก่อน
ภาวะตลาดหุ้นนิวยอร์ก : ดาวโจนส์ปิดพุ่ง 263.17 จุด รับผลประกอบการเอกชน
ดัชนี ดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดปรับตัวเพิ่มขึ้นเมื่อวันศุกร์ (17 ต.ค.) เพราะได้รับแรงหนุนจากผลประกอบการภาคเอกชนที่สดใส และข้อมูลเศรษฐกิจสหรัฐที่แข็งแกร่ง อาทิ ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคที่แตะระดับสูงสุดในรอบ 7 ปี
ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 16,380.41 จุด เพิ่มขึ้น 263.17 จุด หรือ+1.63% ดัชนี S&P500 ปิดที่ 1,886.76 จุด เพิ่มขึ้น 24.00 จุด หรือ +1.29% ดัชนี NASDAQ ปิดที่ 4,258.44 จุด เพิ่มขึ้น 41.05 จุด หรือ +0.97%
ตลาดหุ้นนิวยอร์กฟื้นตัวขึ้นเมื่อคืนนี้ โดยได้รับแรงหนุนจากผลประกอบการของภาคธูรกิจที่สดใสในไตรมาส 3 ทั้งนี้ มอร์แกน สแตนลีย์เปิดเผยว่า รายได้สุทธิในไตรมาส 3 ที่บริษัทนำมาใช้ได้และมาจากกิจการที่มีการดำเนินงานอย่างต่อเนื่องนั้น อยู่ที่ 1.7 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ ซึ่งเพิ่มขึ้น 2 เท่าจากผลประกอบการปีก่อนหน้าและออกมาดีกว่าคาดการณ์ของนักวิเคราะห์
ขณะที่เจเนอรัลอิเล็กทริกเปิดเผยว่า ผลกำไรจากการดำเนินงานอยู่ที่ 38 เซนต์ต่อหุ้น ซึ่งสูงกว่าคาดการณ์ของนักวิเคราะห์อยู่ 1 เซนต์
นอกจากนี้ ตลาดหุ้นนิวยอร์กยังได้รับแรงหนุนจากข้อมูลเศรษฐกิจสหรัฐที่แข็งแกร่ง ภายหลังมีรายงานว่า ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคสหรัฐช่วงต้นเดือนต.ค.จากรอยเตอร์และมหาวิทยาลัยมิชิแกน ปรับตัวสูงขึ้นแตะระดับ 86.4 จากระดับเดือนก.ย.ที่ 84.6
ดัชนีที่ปรับตัวสูงขึ้นนี้ บ่งชี้ว่า ผู้บริโภคมีมุมมองที่เป็นบวกต่อเศรษฐกิจของประเทศ ในขณะที่ราคาน้ำมันอ่อนตัวลง และตลาดแรงงานมีความแข็งแกร่งขึ้น
นอกจากนี้ กระทรวงพาณิชย์สหรัฐเปิดเผยว่า ตัวเลขการเริ่มสร้างบ้านเดือนก.ย.ปรับตัวขึ้น 6.3% มาอยู่ที่ 1.02 ล้านยูนิต ซึ่งมากกว่าที่นักวิเคราะห์คาดไว้ว่าจะเพิ่มขึ้น 4.3% โดย ข้อมูลด้านที่อยู่อาศัยที่ปรับตัวดีขึ้นดังกล่าว บ่งชี้ว่าการสร้างงานอย่างต่อเนื่องและอัตราดอกเบี้ยที่ลดลง อาจเป็นปัจจัยที่ช่วยหนุนภาคก่อสร้างของสหรัฐในช่วงปลายปีนี้
หุ้นมอร์แกน สแตนลีย์ ปรับตัวขึ้น 2.1% ภายหลังผลประกอบการในไตรมาส 3 ออกมาสดใส หุ้นเจเนอรัลอิเล็กทริก เพิ่มขึ้น 2.4% เนื่องจากผลกำไรออกมาดีกว่าคาดการณ์ของนักวิเคราะห์
อินโฟเควสท์