- Details
- Category: หุ้นเด่นวันนี้
- Published: Friday, 17 October 2014 11:59
- Hits: 2363
ภาวะตลาดหุ้นไทย : แนวโน้มดัชนีเช้าลุ้นรีบาวน์/โดยรวมยังผันผวนหลังเฟดเล็งเลื่อนยุติใช้ QE
นายอภิชาติ ผู้บรรเจิดกุล ผู้อำนวยการสายงานวิเคราะห์เชิงกลยุทธ์ บล.ทิสโก้ กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยเช้านี้มีโอกาสที่จะรีบาวน์ขึ้นได้ แต่โดยรวมยังคงผันผวนอยู่ เนื่องจากทาง"เจมส์ บูลลาร์ด"ประธานธนาคารกลางสหรัฐฯ(เฟด)สาขาเซ็นต์หลุยส์ ได้ให้ความเห็นว่าอาจจะมีการเลื่อนการยุติใช้มาตรการ QE ออกไปก่อน จากเดิมที่จะยุติการใช้ QE ในเดือนนี้(ต.ค.)ซึ่งก็อาจจะเป็นข่าวดีให้กับตลาดฯได้ แต่เศรษฐกิจของยุโรปก็ยังเป็นปัญหาอยู่
นอกจากนี้ ตลาดฯยังผันผวนได้อันเนื่องมาจากเริ่มเห็นเงินทุนไหลออกจากเอเชียอีกรอบ ด้านตลาดหุ้นอื่นในภูมิภาคเอเชียเช้านี้เคลื่อนไหวทั้งในแดนบวก-ลบ
ส่วนปัจจัยในประเทศถือว่ายังอยู่ในทิศทางที่ดีอยู่ เพียงแต่ขณะนี้ก็รอดูการบริหารประเทศของรัฐบาล และมองว่าตลาดฯยังได้แรงหนุนจากกองทุน LTF, RMF ที่ดูเหมือนจะเข้ามาช่วยประคองตลาดฯไว้เพื่อไม่ให้ดัชนีฯปรับตัวลงแรง
พร้อมให้แนวรับ 1,518-1,520 จุด ส่วนแนวต้าน 1,535 จุด
ประเด็นของการพิจารณาการลงทุน :
- ตลาดหุ้นนิวยอร์คล่าสุด(16 ต.ค.)ดัชนีดาวโจนส์ปิดที่ 16,117.24 จุด ลดลง 24.50 จุด(-0.15%),ดัชนี NASDAQ ปิดที่ 4,217.39 จุด เพิ่มขึ้น 2.07 จุด(+0.05%),ดัชนี S&P500 ปิดที่ 1,862.76 จุด เพิ่มขึ้น 0.27 จุด(+0.01%)
- ตลาดหุ้นเอเชียเปิดเช้าวันนี้ ดัชนี NIKKEI 225 ตลาดหุ้นญี่ปุ่น เพิ่มขึ้น 57.94 จุด, ดัชนี SSE Composite ตลาดหุ้นจีน ลดลง 3.72 จุด, ดัชนี HSI ตลาดหุ้นฮ่องกง เพิ่มขึ้น 3.17 จุด, ดัชนี TAIEX ตลาดหุ้นไต้หวัน เพิ่มขึ้น 55.02 จุด, ดัชนี KOSPI ตลาดหุ้นเกาหลีใต้ เพิ่มขึ้น 4.68 จุด, ดัชนี FTSE STI ตลาดหุ้นสิงคโปร์ เพิ่มขึ้น 0.18 จุด และดัชนี FBMKLCI ตลาดหุ้นมาเลเซีย ลดลง 1.55 จุด
- ตลาดหุ้นไทยปิดล่าสุด(16 ต.ค.)1,526.15 จุด ลดลง 21.26 จุด(-1.37%)
- นักลงทุนต่างชาติขายสุทธิ 2,589.12 ล้านบาท เมื่อวันที่ 16 ต.ค.57
- ราคาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือน พ.ย.ในตลาดไนเม็กซ์ปิดทำการล่าสุด(16 ต.ค.)ที่ 82.7 ดอลลาร์/บาร์เรล เพิ่มขึ้น 92 เซนต์
- ค่าการกลั่นอ้างอิงตลาดสิงคโปร์ปิดล่าสุด(16 ต.ค.)ที่ 4.94 เหรียญสหรัฐฯ/บาร์เรล
- เงินบาทเปิด 32.42/43 แนวโน้มผันผวนหลังกลับมาแข็งค่า รอปัจจัยที่ชัดเจน
- บอร์ด ทอท.ไฟเขียว "สุวรรณภูมิเฟส2" เงินลงทุน 6.16 หมื่นล้านบาท พร้อมสั่งเร่งสร้างทางวิ่งสำรอง-ลานจอดเพิ่ม รองรับฝูงบิน-ผู้โดยสาร เผยงบปี 2557 ปริมาณจราจรท่าอากาศยาน 6 แห่ง เพิ่ม 9% ผู้โดยสารเพิ่ม 1.67% ขณะนักวิเคราะห์คาดช่วยรองรับฝูงบินและผู้โดยสารเพิ่ม
- หัวหน้าหุ้นส่วนกรรมการอาวุโสและกรรมการบริหารสายงานภาษีและกฎหมายบริษัท ไพร้ซวอเตอร์เฮาส์คูเปอร์สประเทศไทย เผยการปฏิรูปภาษีเพื่อเพิ่มความสามารถในการแข่งขันหลังเปิดเออีซีในปี 2558 ควรจะมีการปฏิรูปภาษีนิติบุคคลแบบบูรณาการ ซึ่งภารกิจหลักที่ต้องเร่งปฏิบัติเพราะการคงอัตราภาษีเงินได้นิติบุคคลไว้ที่ 20% ของกำไรสุทธิจนถึงปี 58 เท่านั้น หลังจากนั้นต้องพิจารณาใหม่ ซึ่งเป็นการลดแบบชั่วคราวจึงอาจเป็นอุปสรรคต่อการวางแผนธุรกิจและการลงทุนของภาคเอกชนในระยะยาว และหากปรับขึ้นเป็นอัตราเดิม 30% ก็จะส่งผลกระทบต่อศักยภาพการแข่งขันกับเพื่อนบ้าน เพราะเป็นอัตราภาษีที่สูงกว่าหลายๆ ประเทศในอาเซียน
- ผู้ว่าฯแบงก์ชาติยันเศรษฐกิจปี 58 น่าจะขยายตัวที่ระดับ 4.8% ยอมรับมีปัจจัยการเร่งลงทุนด้านโครงสร้างพื้นฐานจากภาครัฐมาสนับสนุน แต่การที่บางสำนักคาดการณ์โต 6% ยังเร็วเกินไป เพราะเศรษฐกิจโลกยังผันผวน ย้ำภาคการเงินสำคัญต่อการพัฒนาเศรษฐกิจไทย
- ปิดฉากงานด้านอสังหาฯ อย่างยิ่งใหญ่ ในงานมหกรรมบ้านและคอนโดฯ ครั้งที่ 31 ตลอดงาน 4 วัน ยอดขายในงานไม่ต่ำกว่า 4,500 ล้านบาท เผยยอดจองเพิ่มกว่า 20% แม้ยอดผู้เข้าชมงานจะลดลง 20% สะท้อนเป็นกลุ่มผู้ซื้อจริงที่ต้องการที่อยู่อาศัย คอนโดฯ แชมป์ยอดจองกว่า 75.89% บ้านเดี่ยว 14.12% กว่า 57% เป็นครั้งแรกที่เข้าชมงาน ส่วนใหญ่เป็นกลุ่มพนักงานบริษัทเอกชน โดย 43% มีรายได้ไม่เกิน 30,000 บาท งบลงทุนซื้อที่อยู่อาศัยมากสุด 1-2 ล้านบาท ระยะเวลาในการซื้อ 1-2 ปีประมาณ 24% ทำเลกรุงเทพฯ เป็นที่ต้องการสูงสุด 61% รองลงมา จ.นนทบุรี 11%
- นายภูริชัย รุ่งเจริญกิจกุล และนายนครินทร์ อมเรศ เศรษฐกรประจำธนาคารแห่งประเทศไทย เผยแม้การใช้นโยบายการเงินผ่อนคลายที่คงอัตราดอกเบี้ยต่ำเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจ จะเป็นส่วนหนึ่งที่ก่อให้เกิดภาวะสินเชื่อเติบโตมากเกินไป (เครดิตบูม) แต่ปัจจัยหลักที่สำคัญกว่าก็คือ การแข่งขันสูงในระบบสถาบันการเงินที่ปล่อยสินเชื่อจนหย่อนเกณฑ์ความเสี่ยงลง
*หุ้นเด่นวันนี้
- PTT(เมย์แบงก์ กิมเอ็ง)"ซื้อเก็งกำไร"เป้า 400 บาท แนวโน้มรีบาวด์หลังปรับลงถึง -8% ใน 5 วันทำการ ราคาน้ำมันดิบ NYMEX ฟื้นขึ้น +1.2% dod เป็น US$82.70/barrel นอกจากนี้คาดว่าความชัดเจนของการปรับโครงสร้างราคาพลังงาน 22 ต.ค.จะเป็นอีกปัจจัยหนุน เชื่อจะส่งผลให้การปรับขึ้นราคา LPG และ NGV เป็นไปตามแผนงาน และหากการประชุมพรรคคอมมิวนิสต์จีนสัปดาห์หน้ามีมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจเพิ่มเติมจะส่งผลให้ราคาน้ำมันดิบ NYMEX มีโอกาสปรับตัวขึ้นอีก
- SAMART(ธนชาติ)"ซื้อ"เป้า 36.50 บาท ธุรกิจเดิมแข็งแกร่ง ขณะที่การขยายธุรกิจไฟฟ้าจะเป็น Upside ในอนาคต โดยยอดขายโทรศัพท์มือถือผ่านบริษัทลูกอย่าง SIM ยังแข็งแกร่ง, ธุรกิจวางระบบผ่าน SAMTEL เริ่มมีงานเข้ามามากขึ้น และคาดว่าจะเป็นบริษัทที่มีการเติบโตกำไรดีตั้งแต่ปี 2015, การขาย Digital TV set top box จะหนุนกำไร 4Q14-1H15 และมูลค่าที่ซ่อนไว้ในธุรกิจไฟฟ้าผ่าน SAMART U-Trans ที่มีแนวโน้มจะเป็นธุรกิจที่สร้างมูลค่าเพิ่มในอนาคต ล่าสุด SAMART กำลังศึกษาลงทุนโรงไฟฟ้าถ่านหินในต่างประเทศขนาด 1000-2000MW (ลงทุนบางส่วน) และโรงไฟฟ้าพลังงานทดแทน
- SRICHA(เคทีบี)"เก็งกำไร"เป้าหมาย 43.79 บาท ได้แรงหนุนบวกจากการมีงานในมือ(backlog) สูงกว่า 2.2 พันล้านบาท โดยมีอัตรากำไรที่สูงเมื่อเทียบกับผู้ประกอบการอื่นๆในกลุ่มรับเหมาก่อสร้าง อีกทั้งยังเน้นรับงานก่อสร้างเครื่องกลของภาคเอกชนขนาดใหญ่ที่เน้นงานก่อสร้างงานโลหะทั้งในและต่างประเทศและเป็นลูกค้าหลักบริษัทมานาน ทำให้แนวโน้มผลประกอบการและฐานะการเงินยังแข็งแกร่งต่อเนื่อง
ตลาดหุ้นเอเชียดีดตัวขึ้นเช้านี้ ขานรับข้อมูลเศรษฐกิจสหรัฐ
ตลาดหุ้นเอเชียปรับตัวขึ้นในช่วงเช้าวันนี้ หลังสหรัฐเปิดเผยข้อมูลเศรษฐกิจที่สดใส ขณะที่เจ้าหน้าที่ของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) กล่าวว่า เฟดควรเลื่อนการยุติโครงการซื้อสินทรัพย์
ดัชนี MSCI Asia Pacific Index (MXAP) เพิ่มขึ้น 0.1% แตะระดับ 134.93 จุด เมื่อเวลา 9.01 น.ตามเวลาโตเกียว
ดัชนี NIKKEI 225 ตลาดหุ้นญี่ปุ่นเปิดวันนี้ที่ 14,796.32 จุด เพิ่มขึ้น 57.94 จุด, ดัชนี SSE Composite ตลาดหุ้นจีนเปิดวันนี้ที่ 2,352.78 จุด ลดลง 3.72 จุด, ดัชนี HSI ตลาดหุ้นฮ่องกงเปิดวันนี้ที่ 22,904.11 จุด เพิ่มขึ้น 3.17 จุด, ดัชนี TAIEX ตลาดหุ้นไต้หวันเปิดวันนี้ที่ 8,688.71 จุด เพิ่มขึ้น 55.02 จุด, ดัชนี KOSPI ตลาดหุ้นเกาหลีใต้เปิดวันนี้ที่ 1,923.51 จุด เพิ่มขึ้น 4.68 จุด, ดัชนี FTSE STI ตลาดหุ้นสิงคโปร์เปิดวันนี้ที่ 3,154.39 จุด เพิ่มขึ้น 0.18 จุด และดัชนี FBMKLCI ตลาดหุ้นมาเลเซียเปิดวันนี้ที่ 1,766.22 จุด ลดลง 1.55 จุด
ตลาดหุ้นเอเชียดีดตัวขึ้นหลังจากที่ทางการสหรัฐได้เปิดเผยข้อมูลเศรษฐกิจที่เป็นบวกหลายรายการ รวมถึงจำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานครั้งแรกที่ลดลง 23,000 รายในสัปดาห์ที่ผ่านมา แตะที่ 264,000 ราย ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดนับตั้งแต่ปี 2543 สวนทางกับการคาดการณ์ของนักวิเคราะห์ที่คาดว่าจะเพิ่มขึ้นแตะระดับ 290,000 ราย
ขณะที่การผลิตภาคอุตสาหกรรม ซึ่งเป็นมาตรวัดผลผลิตในภาคการผลิต สาธารณูปโภค และเหมืองแร่ของสหรัฐ ขยายตัว 1.0% ในเดือนก.ย. หลังจากที่หดตัวลง 0.2% ในเดือนส.ค. เมื่อเทียบกับการคาดการณ์ของนักวิเคราะห์ที่คาดว่าจะขยายตัวเพียง 0.4%
นอกจากนี้ ตลาดหุ้นเอเชียยังได้รับแรงหนุนหลังจากนายเจมส์ บูลลาร์ด ประธานเฟดสาขาเซ็นต์หลุยส์ได้กล่าวแสดงความคิดเห็นว่า เฟดควรพิจารณาเลื่อนระยะเวลาในการยุติโครงการซื้อสินทรัพย์ออกไป เพื่อสกัดตัวเลขคาดการณ์เงินเฟ้อที่ปรับตัวลง
ภาวะตลาดหุ้นยุโรป : หุ้นยุโรปปิดลบ เหตุวิตกยูโรโซนเผชิญเงินฝืด
ตลาดหุ้นยุโรปปิดลบเมื่อคืนนี้ (16 ต.ค.) เนื่องจากนักลงทุนวิตกกังวลว่า เศรษฐกิจยูโรโซนอาจจะเผชิญกับภาวะวิกฤตและอาจจะได้รับผลกระทบจากภาวะเงินฝืด หลังจากมีรายงานว่าตัวเลขเงินเฟ้อของยูโรโซนยังคงปรับตัวลดลงในเดือนก.ย.
ดัชนี Stoxx Europe 600 ปรับตัวลง 0.4% ปิดที่ 310.03 จุด
ดัชนี CAC-40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศสปิดที่ 3,918.62 จุด ลดลง 21.10 จุด หรือ -0.54% ดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมันปิดที่ 8,582.90 จุด เพิ่มขึ้น 10.95 จุด หรือ +0.13% ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 6,195.91 จุด ลดลง 15.73 จุด หรือ -0.25%
ตลาดหุ้นยุโรปยังคงได้รับปัจจัยลบจากความวิตกกังวลเกี่ยวกับวิกฤตเศรษฐกิจในยูโรโซน โดยเฉพาะอย่างยิ่งตัวเลขเงินเฟ้อที่ปรับตัวลดลงอย่างต่อเนื่อง ซึ่งสะท้อนให้เห็นว่ายูโรโซนมีความเสี่ยงที่จะเผชิญกับภาวะเงินฝืด
สำนักงานสถิติแห่งสหภาพยุโรป หรือยูโรสแตท เปิดเผยว่า เงินเฟ้อของยูโรโซนปรับตัวลงแตะ 0.3% ในเดือนก.ย. จากระดับ 0.4% ในเดือนส.ค. โดยเงินเฟ้อเดือนก.ย.ถือเป็นระดับต่ำสุดนับตั้งแต่เดือนต.ค. 2552
ก่อนหน้านี้ นายมาริโอ ดรากิ ประธานอีซีบีส่งสัญญาณว่าอีซีบีพร้อมที่จะเปิดตัวโครงการซื้อสินทรัพย์ขนานใหญ่ของรัฐบาล หรือที่เรียกกว่ามาตรการผ่อนคลายเชิงปริมาณ (QE) เพื่อป้องกันเศรษฐกิจยูโรโซนจากภาวะเงินฝืด หลังจากตัวเลขเงินเฟ้อของยูโรโซนเคลื่อนไหวที่ระดับต่ำกว่าเป้าหมาย 2% ของอีซีบีอยู่มาก
อย่างไรก็ตาม ตลาดได้รับแรงหนุนในระดับหนึ่ง หลังจากนายเจมส์ บุลลาร์ด ประธานเฟดสาขาเซนต์หลุยส์ได้กล่าวแสดงความคิดเห็นว่า เฟดควรจะพิจารณาเรื่องการเลื่อนเวลาสิ้นสุดโครงการซื้อสินทรัพย์
หุ้นเนสท์เล่ ร่วงลง 3% หลังจากบริษัทเปิดเผยว่ายอดขายในช่วงเวลา 9 เดือนปรับตัวสูงขึ้น 4.5% ซึ่งน้อยกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ว่าจะเพิ่ม 4.7%
หุ้นไชร์ ร่วงลง 7.3% หลังจากบริษัท AbbVie Inc. ซึ่งเป็นบริษัทเวชภัณฑ์สหรัฐ เปิดเผยว่าบริษัทอยู่ระหว่างพิจารณาทบทวนแผนการซื้อกิจการมูลค่ากว่า 5 หมื่นล้านดอลลาร์ของไชร์ หลังจากที่รัฐบาลสหรัฐได้ออกกฎระเบียบใหม่เมื่อเร็วๆนี้เพื่อสกัดการเลี่ยงภาษีของบริษัทเอกชน
ภาวะตลาดหุ้นลอนดอน : หุ้นแบงก์ฉุดฟุตซี่ปิดลบ 15.73 จุด
ตลาดหุ้นลอนดอนปิดปรับตัวลงเมื่อคืนนี้ (16 ต.ค.) เนื่องจากหุ้นกลุ่มธนาคารร่วงลง ขณะที่หุ้น Shire อ่อนแรงลงต่อเนื่องจากเมื่อวานนี้
ดัชนี FTSE 100 ลดลง 15.73 จุด หรือ 0.25% ปิดที่ 6,195.91 จุด
หุ้น Shire ปรับลงอีก 7.3% หลังจากดิ่งลง 22% เมื่อวานนี้ เนื่องจากบอร์ดของบริษัท AbbVie Inc. ซึ่งเป็นบริษัทเวชภัณฑ์สหรัฐ ได้แนะนำให้กลุ่มผู้ถือหุ้นโหวตคัดค้านการซื้อกิจการของ Shire ซึ่งเป็นบริษัทเวชภัณฑ์รายใหญ่ของอังกฤษ
แม้ว่า สหรัฐมีการเปิดเผยข้อมูลเศรษฐกิจที่สดใสเกินคาด แต่ตลาดหุ้นลอนดอนก็ปรับตัวอ่อนแรงจากการร่วงลงของหุ้นกลุ่มธนาคารเมื่อคืนนี้ โดยหุ้นรอยัล แบงก์ ออฟ สกอตแลนด์ ลดลง 1.4% ขณะที่หุ้นบาร์เคลย์สร่วง 2%
ภาวะตลาดหุ้นนิวยอร์ก : ดาวโจนส์ปิดลบ 24.50 จุด นักลงทุนยังวิตกแนวโน้มศก.
ดัชนี ดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดลบเมื่อคืนนี้ (16 ต.ค.) เนื่องจากนักลงทุนยังคงระมัดระวังการซื้อขาย อันเนื่องมาจากความวิตกกังวลเกี่ยวกับแนวโน้มเศรษฐกิจสหรัฐและผลประกอบการของบริษัทเอกชน อย่างไรก็ตาม ดัชนีดาวโจนส์ปรับตัวลงในกรอบที่จำกัด เพราะตลาดได้แรงหนุนหลังจากเจ้าหน้าที่ของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) กล่าวว่า เฟดควรเลื่อนการยุติโครงการซื้อสินทรัพย์
ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 16,117.24 จุด ลดลง 24.50 จุด หรือ -0.15% ดัชนี S&P500 ปิดที่ 1,862.76 จุด เพิ่มขึ้น 0.27 จุด หรือ +0.01% ดัชนี NASDAQ ปิดที่ 4,217.39 จุด เพิ่มขึ้น 2.07 จุด หรือ +0.05%
ตลาดหุ้นนิวยอร์กยังคงปิดในแดนลบเนื่องจากนักลงทุนวิตกกังวลเกี่ยวกับแนวโน้มเศรษฐกิจ แม้ว่าเมื่อวานนี้ทางการสหรัฐได้เปิดเผยข้อมูลเศรษฐกิจที่เป็นบวกหลายรายการก็ตาม รวมถึงจำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานครั้งแรกลดลง 23,000 รายในสัปดาห์ที่ผ่านมา แตะที่ 264,000 ราย ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดนับตั้งแต่ปี 2543 สวนทางกับการคาดการณ์ของนักวิเคราะห์ที่คาดว่าจะเพิ่มขึ้นแตะระดับ 290,000 ราย
ขณะที่การผลิตภาคอุตสาหกรรม ซึ่งเป็นมาตรวัดผลผลิตในภาคการผลิต สาธารณูปโภค และเหมืองแร่ของสหรัฐ ขยายตัว 1.0% ในเดือนก.ย. หลังจากที่หดตัวลง 0.2% ในเดือนส.ค. เมื่อเทียบกับการคาดการณ์ของนักวิเคราะห์ที่คาดว่าจะขยายตัวเพียง 0.4%
อย่างไรก็ตาม ตลาดหุ้นนิวยอร์กได้รับแรงหนุนในระหว่างวัน หลังจากนายเจมส์ บุลลาร์ด ประธานเฟดสาขาเซนต์หลุยส์ได้กล่าวแสดงความคิดเห็นว่า เฟดควรจะพิจารณาเรื่องการเลื่อนเวลาสิ้นสุดโครงการซื้อสินทรัพย์ เมื่อพิจารณาจากตัวเลขเงินเฟ้อที่ปรับตัวลดลงในขณะนี้
หุ้นโกลด์แมน แซคส์ ร่วงลง 3.4% แม้ว่าธนาคารเปิดเผยรายได้สุทธิในไตรมาส 3 พุ่งขึ้น 48% เทียบรายปี แตะที่ 2.24 พันล้านดอลลาร์
หุ้นกูเกิล อิงค์ ร่วงลง 2.6% เนื่องจากนักลงทุนผิดหวังต่อผลประกอบการของบริษัท โดยกูเกิลรายงานว่า รายได้รายไตรมาสอยู่ที่ 1.652 หมื่นล้านดอลลาร์ น้อยกว่าที่ตลาดคาดการณ์ไว้ที่ 1.657 หมื่นล้านดอลลาร์ และกำไรต่อหุ้นอยู่ที่ 6.35 ดอลลาร์ น้อยกว่าที่ตลาดคาดการณ์ไว้ที่ 6.53 ดอลลาร์
อินโฟเควสท์