WORLD7

smed PIONEER 720x100ใจฟู720x100pxgpf 720x100 66

ภาวะตลาดหุ้นไทย: แนวโน้ม ดัชนีเช้านี้ปรับลงต่อตามดาวโจนส์,ปรับฐาน-ยังไร้ปัจจัยใหม่หนุน

       นายเทิดศักดิ์ ทวีธีระธรรม ผู้อำนวยการอาวุโสฝ่ายวิเคราะห์ บล.เอเซีย พลัส กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยวันนี้มีแนวโน้มที่ปรับตัวลงในทิศทางเดียวกับตลาดหุ้นในภูมิภาคเอเชียที่ช่วงเช้าเปิดซื้อขายแล้วดัชนีปรับตัวลดลง โดยเฉพาะตลาดหุ้นญี่ปุ่นปรับลงไป 260 จุด และตลาดหุ้นฮ่องกงปรับลดลง 62 จุด โดยได้รับผลจากดัชนีดาวโจนส์ปรับตัวลงแรงอีกกว่า 200 จุดเมื่อคืนนี้

      อย่างไรก็ตาม ทิศทางตลาดหุ้นไทยในขณะนี้ยังอยู่ในช่วงของการปรับฐานด้วย ประกอบกับยังไม่มีปัจจัยบวกใหม่ๆเข้ามาหนุนให้ตลาดฯ ปรับตัวเพิ่มขึ้นได้ พร้อมให้แนวต้านวันนี้ที่ 1,550 จุด แนวรับ 1,530 จุด

ประเด็นของการพิจารณาการลงทุน :

                - ตลาดหุ้นนิวยอร์คล่าสุด(13 ต.ค.)ดัชนีดาวโจนส์ปิดที่ 16,321.07 จุด ร่วงลง 223.03 จุด(-1.35%), ดัชนี NASDAQ ปิดที่ 4,213.66 จุด ลดลง 62.58 จุด(-1.46%),ดัชนี S&P500 ปิดที่ 1,874.74 จุด ลดลง 31.39 จุด(-1.65%)

                - ตลาดหุ้นเอเชียเปิดเช้าวันนี้ ดัชนีนิกเกอิตลาดหุ้นญี่ปุ่น ลดลง 263.68 จุด หรือ -1.72% ดัชนี KOSPI ตลาดหุ้นเกาหลีใต้ เพิ่มขึ้น 6.24 จุด หรือ +0.32% ดัชนี TAIEX ตลาดหุ้นไต้หวัน ลดลง 19.56 จุด หรือ -0.22% ดัชนี FTSE STI ตลาดหุ้นสิงคโปร์ ลดลง 9.76 จุด หรือ -0.30% ดัชนี FBMKLCI ตลาดหุ้นมาเลเซีย ลดลง 5.31 จุด หรือ -0.30% ดัชนี HSI ตลาดหุ้นฮ่องกง ลดลง 78.46 จุด, -0.34% ดัชนี SSE Composite ตลาดหุ้นจีน ลดลง 3.21 จุด, -0.14% ดัชนี S&P/ASX 200 ตลาดหุ้นออสเตรเลียเปิด ไม่เปลี่ยนแปลง

                - ตลาดหุ้นไทยปิดล่าสุด(13 ต.ค.)1,542.35 จุด ลดลง 10.37 จุด (-0.67%)

                - นักลงทุนต่างชาติขายสุทธิ 1,874.86 ล้านบาท เมื่อวันที่ 13 ต.ค.57

                - ราคาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือน พ.ย.ในตลาดไนเม็กซ์ปิดทำการล่าสุด(13 ต.ค.)ที่ 85.74 ดอลลาร์/บาร์เรล ลดลง 8 เซนต์

                - ค่าการกลั่นอ้างอิงตลาดสิงคโปร์ปิดล่าสุด(13 ต.ค.)ที่ 4.12 เหรียญสหรัฐฯ/บาร์เรล

                - เงินบาทเปิด 32.41/42 แข็งค่าเล็กน้อยตามภูมิภาค

                - กระทรวงคลังมั่นใจพื้นฐานเศรษฐกิจไทยแกร่ง เชื่อปีหน้าฟื้น แก้ปัญหาคอร์รัปชัน-ความเชื่อมั่น มีโอกาสขยับขึ้นระดับ "เอ"  ชี้ต่างชาติเข้าใจการเมืองไทย ด้านแบงก์ชาติ มั่นใจแนวโน้มบริโภคดีขึ้น หลังการเมืองคลี่คลาย มองปีหน้า เศรษฐกิจโตตามศักยภาพ ขณะยอดขอบีโอไอ เพิ่มต่อเนื่อง

                - แหล่งข่าวจากกระทรวงการคลัง เปิดเผยว่า ได้ให้เจ้าหน้าที่ตรวจสอบข้อมูลการซื้อกองทุนรวมหุ้นระยะยาว (แอลทีเอฟ) ของประชาชนที่เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องเพื่อใช้สิทธิหักลดหย่อนภาษี เนื่องจากการวิเคราะห์ข้อมูลเบื้องต้นพบว่าผู้ใช้สิทธิซื้อกองทุนเพื่อหักลดหย่อนภาษีเต็ม 5 แสนบาทเป็นกลุ่มผู้มีรายได้สูงและเสียภาษีในอัตราสูงสุด ขณะที่ผู้มีเงินเดือนประจำนั้นจะทยอยซื้อกองทุน

                - พล.อ.อ.ประจิน จั่นตอง รมว.คมนาคมเปิดเผยในการลงพื้นที่ตรวจความคืบหน้ารถไฟชานเมืองสายสีแดง ช่วงบางซื่อรังสิต ระยะทาง 26.3 กิโลเมตร ว่ากระทรวงคมนาคมจะเสนอให้คณะรัฐมนตรี(ครม.) พิจารณาอนุมัติปรับแบบการก่อสร้างรถไฟฟ้าสายสีแดง ช่วงบางซื่อ-รังสิต ในสัปดาห์หน้า เพื่อรองรับการเดินรถไฟประเภทต่างๆ ได้มากขึ้น ซึ่งจะส่งผลให้ค่าก่อสร้างเพิ่มขึ้นอีก 8,140 ล้านบาท

                - ผลสำรวจนักวิเคราะห์ฟันธงหุ้นไทยปี 2558 ทะลุ 1,706 จุด รับอานิสงส์มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจและโครงการลงทุนขนาดใหญ่ บล.เอเชียเวลท์ ประเมินสูงสุดที่ 1,850 จุดแนะเพิ่มน้ำหนักในหุ้นไทย 46% ด้าน บล.เอเซีย พลัส มองจุดหุ้นไทยปรับฐานไม่เสร็จ รองบไตรมาส 3 ชี้ขาด แนะถือเงินสด 70%

                - ผู้ว่าการ ธปท.ตอบคำถามสื่อต่างชาติในการประชุม IMF และ World Bank ประจำปี 57 เผยการดูแลเศรษฐกิจไทยในปี 58 นโยบายการเงินยังเพียงพอ มั่นใจปีหน้าเศรษฐกิจไทยจะโตได้ตามศักยภาพ ไม่หวั่นเงิน FDI หดยอดขอรับการส่งเสริมการลงทุนเพิ่มขึ้น-ภาพรวมเงินยังไหลเข้าไทยอยู่

*หุ้นเด่นวันนี้

                - FSMART (บมจ.ฟอร์ท สมาร์ท เซอร์วิส)เริ่มซื้อขายวันนี้ในตลาดหลักทรัพย์ เอ็ม เอ ไอ(mai) บล.ฟินันเซีย ไซรัส ประเมินมูลค่าหุ้นตามปัจจัยพื้นฐานปี 2015 ที่ 4.30 บาท(DCF)คาดกำไรปี 57-58 โตก้าวกระโดดต่อเนื่อง 65% Y-Y และ 34% Y-Y ตามการเพิ่มจำนวนตู้เติมเงิน และมีศักยภาพในการพัฒนาสินค้าใหม่ ๆ เช่น ตู้เติมเงินมือถือร่วมกับการขายสินค้า

                - TUF(เคทีบี)"ซื้อลงทุน"เป้า 75 บาท คาดงวด 3Q57 กำไร 1.8 พันล้านบาท(+18% q-o-q; +79% y-o-y)แรงหนุนสำคัญจากธุรกิจปลาทูน่าที่ทำให้พลิกฟื้นขึ้นจากปี 56 และธุรกิจอาหารสัตว์เลี้ยงในสหรัฐ(USPN)ยังมีแนวโน้มเชิงบวกตามที่คาดไว้ ทำให้ 3Q57 เป็นไตรมาสที่ดีที่สุดของปี หากราคาหุ้นอ่อนตัวลงหลังผลประกอบการงวด 3Q57 จะเป็นโอกาสการเข้าซื้อหุ้นที่น่าสนใจอย่างมากในแง่อัตราผลตอบแทนจากการลงทุนในช่วง 1 ปี ยังมีความต่อเนื่องทางบวกไปในปี 58 ธุรกิจกุ้งเริ่มฟื้น

                - BTS(เมย์แบงก์ กิมเอ็ง)"ทยอยสะสม"เป้า 11.40 บาท หุ้น Defensive ที่มีรายได้มั่นคง และให้ผลตอบแทนจากเงินปันผลในระดับสูง Outperform ตลาดที่ผันผวนได้ ราคาหุ้นมีปัจจัยบวกรออยู่หลังกระทรวงคมนาคมเห็นชอบหลักการ ให้ BTS-กทม.-รฟม. เจรจาเดินรถไฟฟ้าสายสีเขียวเหนือและเขียวใต้สรุปภายในปีนี้ การเจรจาจะช่วยร่นระยะเวลาเมื่อเทียบกับการเปิดประมูลแบบปกติ และเชื่อว่ามีโอกาสสูงที่ BTS จะได้เป็นผู้ให้บริการเดินรถไฟฟ้าทั้ง 2 เส้นทางด

                - BJC (ฟินันเซีย ไซรัส)"ซื้อ" ที่ประชุมผู้ถือหุ้นวานนี้อนุมัติให้เข้าซื้อ Metro เวียดนาม และเพิ่มทุนให้ผู้ถือหุ้นเดิม 9:2 @45 บาท โดยยังคงเป้าหมายปี 2015 ที่ 50 บาท

ตลาดหุ้นเอเชียเปิดร่วง เหตุวิตกตลาดหุ้นนิวยอร์กดิ่งหนัก

            ตลาดหุ้นเอเชียเปิดตลาดปรับตัวลงเป็นส่วนใหญ่ในวันนี้ เพราะได้รับแรงกดดันจากตลาดหุ้นนิวยอร์กที่ร่วงลงอย่างหนักติดต่อกัน 2 วันทำการ โดยเมื่อคืนนี้ ดัชนีดาวโจนส์ปิดร่วงลงแตะระดับต่ำสุดในรอบ 6 เดือน

                ดัชนี MSCI Asia Pacific Index (MXAP) ปรับตัวลง 0.6% แตะที่ 135.60 จุด เมื่อเวลา 09:04 น.ตามเวลาโตเกียว

                ดัชนี นิกเกอิตลาดหุ้นญี่ปุ่นเปิดที่ 15,036.87 จุด ลดลง 263.68 จุด หรือ -1.72% ดัชนี KOSPI ตลาดหุ้นเกาหลีใต้เปิดที่ 1,933.45 จุด เพิ่มขึ้น 6.24 จุด หรือ +0.32% ดัชนี TAIEX ตลาดหุ้นไต้หวันเปิดที่ 8,691.83 จุด ลดลง 19.56 จุด หรือ -0.22% ดัชนี FTSE STI ตลาดหุ้นสิงคโปร์เปิดที่ 3,192.39 จุด ลดลง 9.76 จุด หรือ -0.30%

                ดัชนี FBMKLCI ตลาดหุ้นมาเลเซียเปิดที่ 1,791.89 จุด ลดลง 5.31 จุด หรือ -0.30% ดัชนี HSI ตลาดหุ้นฮ่องกงเปิดที่ 23,064.92 จุด ลดลง 78.46 จุด, -0.34% ดัชนี SSE Composite ตลาดหุ้นจีนเปิดที่ 2,362.80 จุด ลดลง 3.21 จุด, -0.14% ดัชนี S&P/ASX 200 ตลาดหุ้นออสเตรเลียเปิดที่ 5,155.50 จุด ไม่เปลี่ยนแปลง

                ตลาดหุ้นในภูมิภาคเอเชียปรับตัวลงเป็นส่วนใหญ่ เพราะได้รับปัจจัยลบจากการร่วงลงของตลาดหุ้นนิวยอร์กเมื่อคืนนี้ เนื่องจากนักลงทุนยังคงเทขายหุ้น ท่ามกลางความวิตกกังวลเกี่ยวกับการชะลอตัวของเศรษฐกิจและภาวะปรับฐานลงของอุตสาหกรรมเทคโนโลยี ขณะที่นักลงทุนจับตาดูรายงานผลประกอบการของภาคเอกชน

ภาวะตลาดหุ้นลอนดอน : หุ้นเหมืองนำฟุตซี่ปิดบวก 26.27 จุด รับข้อมูลการค้าจีน

                ตลาดหุ้นลอนดอนปิดปรับตัวขึ้นเมื่อคืนนี้ (13 ต.ค.) นำโดยหุ้นกลุ่มเหมือง ซึ่งขานรับข้อมูลการค้าที่แข็งแกร่งของจีน

       ดัชนี FTSE 100 เพิ่มขึ้น 26.27 จุด หรือ 0.41% ปิดที่ 6,366.24 จุด

      หุ้นกลุ่มเหมืองปรับตัวแข็งแกร่ง โดยได้รับปัจจัยบวกหลังจากสำนักงานศุลกากรจีน (GAC) เปิดเผยเมื่อวานนี้ว่า ยอดส่งออกของจีนในเดือนก.ย. ทะยานขึ้น 15.3% เมื่อเทียบรายปี แตะที่ 2.137 แสนล้านดอลลาร์ ซึ่งเป็นการขยายตัวสูงสุดในรอบ 19 เดือน

       ส่วนการนำเข้าในเดือนก.ย.เพิ่มขึ้น 7% เมื่อเทียบรายปี แตะที่ 1.827 แสนล้านดอลลาร์ โดยเป็นอัตราการขยายตัวสูงสุดนับตั้งแต่เดือนธ.ค.2556

       หุ้นแองโกล อเมริกัน ทะยานขึ้น 4.72%, หุ้นแรนด์โกลด์ รีซอร์เซส ดีดขึ้น 4.38%, หุ้นริโอ ทินโต เพิ่มขึ้น 4.22% และหุ้นบีเอชพี บิลลิตัน ปรับขึ้น 2.91%

ภาวะตลาดหุ้นยุโรป : หุ้นยุโรปปิดบวก ขานรับยอดส่งออกจีนแข็งแกร่ง

     ตลาดหุ้นยุโรปปิดบวกเป็นส่วนใหญ่เมื่อคืนนี้ (13 ต.ค.) เนื่องจากนักลงทุนเข้าซื้อหุ้นกลุ่มเหมืองแร่ หลังจากทางการจีนเปิดเผยว่า ยอดส่งออกเดือนก.ย.พุ่งขึ้นแข็งแกร่งสุดในรอบ 19 เดือน อย่างไรก็ตาม ดัชนี Europe Stoxx 600 ขยับลงเล็กน้อยเนื่องจากนักลงทุนวิตกกังวลเกี่ยวกับแนวโน้มเศรษฐกิจยูโรโซน

    ดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมันปิดที่ 8,812.43 จุด เพิ่มขึ้น 23.62 จุด หรือ +0.27% ดัชนี CAC-40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศสปิดที่ 4,078.70 จุด เพิ่มขึ้น 4.99 จุด หรือ +0.12% ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 6,366.24 จุด เพิ่มขึ้น 26.27 จุด หรือ +0.41%

     ส่วนดัชนี Europe Stoxx 600 ขยับลงไม่ถึง 0.1% ปิดที่ 321.56 จุด

      นักลงทุนเข้าซื้อหุ้นกลุ่มเหมืองแร่ หลังจากสำนักงานศุลกากรจีน (GAC) เปิดเผยเมื่อวานนี้ ยอดส่งออกของจีนในเดือนก.ย. ทะยานขึ้น 15.3% เมื่อเทียบรายปี แตะที่ 2.137 แสนล้านดอลลาร์ ซึ่งเป็นการขยายตัวสูงสุดในรอบ 19 เดือน

      ส่วนการนำเข้าในเดือนก.ย.เพิ่มขึ้น 7% เมื่อเทียบรายปี แตะที่ 1.827 แสนล้านดอลลาร์ โดยเป็นอัตราการขยายตัวสูงสุดนับตั้งแต่เดือนธ.ค.2556 ส่งผลให้จีนมียอดเกินดุลการค้าเดือนก.ย.คิดเป็นกว่า 2 เท่าจากปีที่แล้ว ที่ระดับ 3.1 หมื่นล้านดอลลาร์ เมื่อเทียบกับยอดเกินดุลการค้าในเดือนส.ค.ที่ 4.98 หมื่นล้านดอลลาร์

     อย่างไรก็ตาม ตลาดหุ้นยุโรปยังคงได้รับแรงกดดันจากความวิตกกังวลเกี่ยวกับแนวโน้มเศรษฐกิจยูโรโซน หลังจากสถาบันจัดอันดับความน่าเชื่อถือ สแตนดาร์ด แอนด์ พัวร์ (S&P) ได้ปรับลดแนวโน้มความน่าเชื่อถือของฝรั่งเศสลงสู่ "เชิงลบ" จากเดิม "มีเสถียรภาพ" แต่ยังคงอันดับความน่าเชื่อถือระยะยาวของฝรั่งเศสเอาไว้ที่ระดับ AA

    ทั้งนี้ S&P เปิดเผยว่า การปรับลดแนวโน้มความน่าเชื่อถือครั้งล่าสุดนี้สะท้อนให้เห็นมุมมองของ S&P ที่ว่า เป็นเรื่องยากที่เศรษฐกิจฝรั่งเศสจะฟื้นตัวอย่างแข็งแกร่ง และสถานะการคลังของฝรั่งเศสมีแนวโน้มถดถอยลงไปจนถึงต้นปีหน้า

ภาวะตลาดหุ้นนิวยอร์ก : ดาวโจนส์ปิดร่วง 223.03 จุด เหตุวิตกเศรษฐกิจชะลอตัว

       ดัชนี ดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดร่วงลงอย่างหนักเมื่อคืนนี้ (13 ต.ค.) เนื่องจากนักลงทุนยังคงเทขายหุ้น ท่ามกลางความวิตกกังวลเกี่ยวกับการชะลอตัวของเศรษฐกิจและภาวะปรับฐานลงของอุตสาหกรรมเทคโนโลยี ขณะที่นักลงทุนจับตาดูรายงานผลประกอบการของภาคเอกชน

       ดัชนี เฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 16,321.07 จุด ร่วงลง 223.03 จุด หรือ -1.35% ดัชนี NASDAQ ปิดที่ 4,213.66 จุด ลดลง 62.58 จุด หรือ -1.46% ดัชนี S&P500 ปิดที่ 1,874.74 จุด ลดลง 31.39 จุด หรือ -1.65%

       ดัชนี ดาวโจนส์ปิดร่วงลงแตะระดับต่ำสุดในรอบ 6 เดือน ขณะที่ดัชนี S&P 500 และ NASDAQ ปิดที่ระดับต่ำสุดนับตั้งแต่เดือนพ.ค.ปีนี้ เนื่องจากนักลงทุนยังคงวิตกกังวลเกี่ยวกับการชะลอตัวของเศรษฐกิจทั่วโลก นับตั้งแต่กองทุนการเงินระหว่างประเทศ (ไอเอ็มเอฟ) ได้ปรับลดคาดการณ์การขยายตัวของเศรษฐกิจโลก และธนาคารกลางยุโรป (อีซีบี) ประกาศความพร้อมที่จะใช้มาตรการ QE ซึ่งถือเป็นการส่งสัญญาณว่าเศรษฐกิจยูโรโซนกำลังย่ำแย่

      นอกจากนี้ ตลาดยังได้รับแรงกดดันจากความวิตกกังวลเกี่ยวกับอุตสาหกรรมเทคโนโลยี หลังจากหลังจากบริษัทไมโครชิพ เทคโนโลยีได้ออกรายงานเตือนว่า อุตสาหกรรมเทคโนโลยีได้เข้าสู่ภาวะปรับฐานแล้ว และจะเข้าสู่ภาวะ "ปรับฐานลง" เป็นวงกว้างในระยะเวลาอันใกล้นี้ ซึ่งข่าวดังกล่าวได้ฉุดดัชนี NASDAQ ดิ่งลงตั้งแต่วันศุกร์

     นักลงทุนจับตาดูรายงานผลประกอบการของภาคเอกชนในสัปดาห์นี้ หลังจากที่อัลโค อิงค์เปิดฉากรายงานไปเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว ส่วนบริษัทที่จะเปิดเผยตัวเลขผลประกอบการในสัปดาห์นี้ รวมถึง มอร์แกน เชส แอนด์ โค, ซิตี้กรุ๊ป อิงค์ และกูเกิล อิงค์

     หุ้นกลุ่มบริษัทผลิตและสำรวจน้ำมันร่วงลงอย่างหนัก โดยหุ้นอีโอจี รีซอสเซส ดิ่งลง 6.8% หุ้นฮัลลิเบอร์ตัน ร่วงลง 7.4%

World Markets: สรุปภาวะตลาดหุ้น น้ำมัน ทองคำ และตลาดเงินต่างประเทศ

ดัชนีและภาวะตลาดหุ้น น้ำมัน ทองคำ และตลาดเงินต่างประเทศ ประจำวันที่ 13 ต.ค.2557

          ดัชนี DJIA ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดที่ 16,321.07 จุด                         ลดลง 223.03 จุด    -1.35%

          ดัชนี NASDAQ ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดที่ 4,213.66 จุด                        ลดลง 62.58 จุด     -1.46%

          ดัชนี S&P500 ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดที่ 1,874.74 จุด                        ลดลง 31.39 จุด     -1.65%

          ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 6,366.24 จุด                      เพิ่มขึ้น 26.27 จุด    +0.41%

          ดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมันปิดที่ 8,812.43 จุด                           เพิ่มขึ้น 23.62 จุด    +0.27%

          ดัชนี CAC-40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศสปิดที่ 4,078.70 จุด                        เพิ่มขึ้น 4.99 จุด     +0.12%

          ดัชนี TAIEX ตลาดหุ้นไต้หวันปิดที่ 8,711.39 จุด                          ลดลง 255.05 จุด    -2.84%

          ดัชนี KOSPI ตลาดหุ้นเกาหลีใต้ปิดที่ 1,927.21 จุด                        ลดลง 13.71 จุด     -0.71%

          ดัชนี SSE Composite ตลาดหุ้นจีนปิดที่ 2,366.01 จุด                     ลดลง 8.53 จุด      -0.36%

          ดัชนี PSE Composite ตลาดหุ้นฟิลิปปินส์ปิดที่ 6,968.09 จุด                 ลดลง 199.26 จุด    -2.78%

          ดัชนี HSI ตลาดหุ้นฮ่องกงปิดที่ 23,143.38 จุด                           เพิ่มขึ้น 54.84 จุด    +0.24%

          ดัชนี Jakarta Composite ตลาดหุ้นอินโดนีเซียปิดที่ 4,913.05 จุด           ลดลง 49.91 จุด     -1.01%

          ดัชนี FBMKLCI ตลาดหุ้นมาเลเซียปิดที่ 1,797.20 จุด                      ลดลง 11.68 จุด     -0.65%

          ดัชนี FTSE STI ตลาดหุ้นสิงคโปร์ปิดที่ 3,202.15 จุด                      ลดลง 21.72 จุด     -0.67%

          ดัชนี SENSEX ตลาดหุ้นอินเดียปิดที่ 26,384.07 จุด                        เพิ่มขึ้น 86.69 จุด    +0.33%

          ดัชนี S&P/ASX 200 ตลาดหุ้นออสเตรเลียปิดที่ 5,155.50 จุด                ลดลง 32.80 จุด     -0.63%

          ดัชนี ALL ORDINARIES ตลาดหุ้นออสเตรเลียปิดที่ 5,153.10 จุด             ลดลง 32.60 จุด     -0.63%

ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กิดร่วงลงอย่างหนักเมื่อคืนนี้ (13 ต.ค.) เนื่องจากนักลงทุนยังคงเทขายหุ้น ท่ามกลางความวิตกกังวลเกี่ยวกับการชะลอตัวของเศรษฐกิจและภาวะปรับฐานลงของอุตสาหกรรมเทคโนโลยี ขณะที่นักลงทุนจับตาดูรายงานผลประกอบการของภาคเอกชน

          ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 16,321.07 จุด ร่วงลง 223.03 จุด หรือ -1.35% ดัชนีNASDAQ ปิดที่ 4,213.66 จุด ลดลง 62.58 จุด หรือ -1.46% ดัชนี S&P500 ปิดที่ 1,874.74 จุด ลดลง 31.39 จุด หรือ -1.65%

ตลาดหุ้นยุโรปปิดบวกเป็นส่วนใหญ่เมื่อคืนนี้ (13 ต.ค.) เนื่องจากนักลงทุนเข้าซื้อหุ้นกลุ่มเหมืองแร่ หลังจากทางการจีนเปิดเผยว่า ยอดส่งออกเดือนก.ย.พุ่งขึ้นแข็งแกร่งสุดในรอบ 19 เดือน อย่างไรก็ตาม ดัชนีEurope Stoxx 600 ขยับลงเล็กน้อยเนื่องจากนักลงทุนวิตกกังวลเกี่ยวกับแนวโน้มเศรษฐกิจยูโรโซน

          ดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมันปิดที่ 8,812.43 จุด เพิ่มขึ้น 23.62 จุด หรือ +0.27% ดัชนี CAC-40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศสปิดที่ 4,078.70 จุด เพิ่มขึ้น 4.99 จุด หรือ +0.12% ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 6,366.24 จุด เพิ่มขึ้น 26.27 จุด หรือ +0.41%

          ส่วนดัชนี Europe Stoxx 600 ขยับลงไม่ถึง 0.1% ปิดที่ 321.56 จุด

ตลาดหุ้นลอนดอนปิดปรับตัวขึ้นเมื่อคืนนี้ (13 ต.ค.) นำโดยหุ้นกลุ่มเหมือง ซึ่งขานรับข้อมูลการค้าที่แข็งแกร่งของจีน

          ดัชนี FTSE 100 เพิ่มขึ้น 26.27 จุด หรือ 0.41% ปิดที่ 6,366.24 จุด

สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดบวกเมื่อคืนนี้ (13 ต.ค.) เพราะได้แรงหนุนจากการอ่อนค่าของสกุลเงินดอลลาร์สหรัฐ หลังจากเจ้าหน้าที่ของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ได้ออกมาส่งสัญญาณว่าอาจจะชะลอเวลาการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย

          สัญญาทองคำตลาด COMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือนธ.ค.เพิ่มขึ้น 8.3 ดอลลาร์ หรือ 0.68% ปิดที่ 1,230 ดอลลาร์/ออนซ์

          สัญญาโลหะเงินส่งมอบเดือนธ.ค.เพิ่มขึ้น 4.2 เซนต์ ปิดที่ 17.345 ดอลลาร์/ออนซ์ ส่วนสัญญาพลาตินัมส่งมอบเดือนม.ค.ปรับตัวลง 40 เซนต์ ปิดที่ 1,261.2 ดอลลาร์/ออนซ์

สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ตลาดนิวยอร์กปิดขยับลงเมื่อคืนนี้ (13 ต.ค.) หลังจากซาอุดิอาระเบีย ซึ่งเป็นผู้ผลิตน้ำมันรายใหญ่สุดในกลุ่มประเทศผู้ส่งออกน้ำมัน (โอเปค) ส่งสัญญาณว่า ซาอุดิอาระเบียสามารถยอมรับราคาน้ำมันที่ปรับตัวลดลงได้

          สัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนพ.ย.ขยับลง 8 เซนต์ ปิดที่ 85.74 ดอลลาร์/บาร์เรล

          สัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ส่งมอบเดือนพ.ย.ร่วงลง 1.32 ดอลลาร์ ปิดที่ 88.89 ดอลลาร์/บาร์เรล

ดอลลาร์สหรัฐปรับตัวลงเมื่อเทียบกับสกุลเงินหลักอื่นๆเมื่อคืนนี้ (13 ต.ค.) หลังจากที่บรรดาเจ้าหน้าที่ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ได้กล่าวเมื่อช่วงสุดสัปดาห์ว่า ภาวะชะลอตัวรุนแรงของเศรษฐกิจโลกอาจจะส่งผลให้เฟดต้องเลื่อนการปรับขึ้นดอกเบี้ยออกไป

          ค่าเงินยูโรเพิ่มขึ้นเมื่อเทียบดอลลาร์สหรัฐที่ระดับ 1.2679 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 1.2615 ดอลลาร์ ขณะที่เงินปอนด์ปรับขึ้นที่ 1.6061 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 1.6052 ดอลลาร์

          ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐปรับลงเทียบกับสกุลเงินเยนที่ 107.33 เยน เทียบกับระดับ 107.84 เยน และลดลงเมื่อเทียบกับฟรังค์สวิสที่ระดับ 0.9535 ฟรังค์ จาก 0.9581 ฟรังค์

          ค่าเงินดอลลาร์ออสเตรเลียปรับขึ้นเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐที่ระดับ 0.8760 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 0.8708 ดอลลาร์

ดัชนี ค่าระวางเรือ BDI ปิดวันทำการล่าสุดที่ 954.00 จุด ลดลง 9.00 จุด, -0.93%

--อินโฟเควสท์

apm

 

 

Facebook

5 ข่าวฮอตนิวส์!