- Details
- Category: หุ้นเด่นวันนี้
- Published: Friday, 29 November 2019 14:00
- Hits: 4128
ภาวะตลาดหุ้นไทย: แนวโน้มดัชนีเช้านี้แกว่งซึมลง รอดูทิศทางตลาดสหรัฐฯ-ความคืบหน้าเจรจาการค้า-วันนี้จับตาตัวเลขศก.ไทย
นายอภิชาติ ผู้บรรเจิดกุล ผู้อำนวยการสายงานวิเคราะห์เชิงกลยุทธ์ บล.ทิสโก้ กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยเช้านี้คาดว่าจะแกว่งซึมลง รอทิศทางตลาดสหรัฐฯหลังเมื่อคืนที่ผ่านมาตลาดสหรัฐฯได้ปิดทำการเนื่องในวันขอบคุณพระเจ้า โดยตลาดฯมีความกังวลเกี่ยวกับเจรจาการค้าระหว่างสหรัฐฯ และจีน ว่าจะเกิดข้อตกลงการค้ากันได้หรือไม่ หลังประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ของสหรัฐฯ ได้ลงนามร่างกฎหมายสนับสนุนการเรียกร้องประชาธิปไตยในฮ่องกง จึงกลัวว่าจะเป็นอุปสรรคต่อข้อตกลงการค้าในเฟสแรก อย่างไรก็ดียังต้องติดตามดูความคืบหน้าเจรจาการค้าต่อไปด้วย
ด้านตลาดหุ้นในภูมิภาคเอเชียเช้านี้เคลื่อนไหวในแดนลบเล็กน้อยราว 0.1% นอกจากนี้ วันนี้ให้ติดตามตัวเลขเศรษฐกิจของไทยที่ทางแบงก์ชาติจะประกาศออกมา ซึ่งภาพรวมเศรษฐกิจไทยก็คาดว่าจะชะลอตัวลง
พร้อมให้แนวรับ 1,595-1,590 จุด ส่วนแนวต้าน 1,600-1,605 จุด
ประเด็นพิจารณาการลงทุน
ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดทำการวันพฤหัสบดีที่ 28 พ.ย. เนื่องในวันขอบคุณพระเจ้า
ตลาดหุ้นเอเชียเปิดตลาดวันนี้ ดัชนี NIKKEI 225 ตลาดหุ้นญี่ปุ่น เพิ่มขึ้น 88.30 จุด, ดัชนี SSE Composite ตลาดหุ้นจีน ลดลง 3.72 จุด, ดัชนี HSI ตลาดหุ้นฮ่องกง ลดลง 188.35 จุด, ดัชนี TAIEX ตลาดหุ้นไต้หวัน ลดลง 0.20 จุด, ดัชนี KOSPI ตลาดหุ้นเกาหลีใต้ เพิ่มขึ้น 6.93 จุด, ดัชนี FTSE STI ตลาดหุ้นสิงคโปร์ ลดลง 1.36 จุด, ดัชนี FBMKLCI ตลาดหุ้นมาเลเซีย เพิ่มขึ้น 1.93 จุด
ตลาดหุ้นไทยปิดล่าสุด (28 พ.ย.62) 1,597.68 จุด ลดลง 9.59 จุด (-0.60%)
นักลงทุนต่างชาติขายสุทธิ 1,716.02 ล้านบาท เมื่อวันที่ 28 พ.ย.62
ตลาดไนเม็กซ์ปิดทำการวันพฤหัสบดีที่ 28 พ.ย. เนื่องในวันขอบคุณพระเจ้า
ค่าการกลั่นอ้างอิงตลาดสิงคโปร์ปิดล่าสุด (28 พ.ย.) อยู่ที่ -0.91 ดอลลาร์/บาร์เรล
เงินบาทเปิด 30.20/24 คาดแกว่งแคบ ตลาดไร้ปัจจัยใหม่ ยังลุ้นสหรัฐ-จีนเจรจาการค้า มองกรอบ 30.15-30.25
"แบงก์ชาติ" คาดส่วนต่างดอกเบี้ยแบงก์ไทยยังลดลงได้อีก เล็งดันนอนแบงก์แข่งขันเพิ่ม หวังช่วยกดสเปรดต่ำลง ยอมรับ "สิงคโปร์" ต่ำกว่าไทยเกือบครึ่ง เหตุสินเชื่อส่วนใหญ่ให้กับธุรกิจขนาดยักษ์ ความเสี่ยงต่ำอัตราดอกเบี้ยจึงถูก
"คลัง" ถกสถาบันการเงิน 19 แห่ง พร้อม 3 สมาคมอสังหาฯ ขอแรงหนุนโครงการ "บ้านดีมีดาวน์" เผยแบงก์รัฐทั้งหมดออกสินเชื่อรองรับ ส่วนผู้ประกอบการ บางโครงการช่วยออกค่าโอน-จดจำนองให้ ล่าสุด "กรุงไทย" ออกสินเชื่อดอกเบี้ยต่ำเฉลี่ย 3 ปี 2.5% หากได้รับสิทธิตามโครงการช่วยออกเงินดาวน์อีก 5 พันบาท
กรมการค้าต่างประเทศเผย บาทแข็ง เศรษฐกิจคู่ค้าชะลอตัว และเทรดวอร์ฉุดยอดค้าชายแดน 10 เดือนร่วงเกือบ 2% คาดทั้งปีส่อพลาดจากเป้า 1.6 ล้านล้านบาท เตรียมอัดกิจกรรมกระตุ้นการค้า
นายไพบูลย์ นลินทรางกูร ประธานสภาธุรกิจตลาดทุนไทย (เฟทโก) เปิดเผยว่า ปัจจุบัน นักลงทุนยังไม่มีความเชื่อมั่นต่อตลาดทุนไทยสะท้อนได้จากผลตอบแทนการลงทุนในตลาดหุ้นไทยรอบปี 62 ให้ผลตอบแทนเพียง 2-3% ติด 1 ใน 5 ตลาดหุ้นที่ให้ผลตอบแทนต่ำที่สุดของโลก โดยผลตอบแทนถือว่าต่ำมาก เมื่อเทียบกับประเทศที่มีสงครามการค้าอย่างตลาดหุ้นสหรัฐ ที่ให้ผลตอบแทนการลงทุนสูงถึง 30% ขณะที่จีนมีผลตอบแทนสูงถึง 20% รวมถึงตลาดหุ้นในฮ่องกงแม้ประสบปัญหาการชุมนุมทางการเมืองยาวนาน แต่ปรากฏว่ายังให้ผลตอบแทนที่สูงกว่าไทย
หนี้ครัวเรือนทะลัก 7.4% เฉลี่ย 340,000 บาทต่อครัวเรือน ปริมาณหนี้สูงสุดเป็นประวัติการณ์ ม.หอการค้าไทยระบุสาเหตุหลักมาจากปัญหาเศรษฐกิจ สินค้าราคาแพง ทำให้คนที่อยากประหยัดทำได้ยาก แต่ภาพรวมหนี้ไม่ถึง 80% ของจีดีพียังไม่น่ากังวลมากนัก
*หุ้นเด่นวันนี้
STC (บมจ.เอสทีซี คอนกรีตโปรดัคท์) เทรดวันนี้วันแรก ในตลาดหลักทรัพย์เอ็ม เอ ไอ (mai) สังกัดกลุ่มอุตสาหกรรมอสังหาริมทรัพย์และก่อสร้าง โดยราคาขาย IPO ที่ 1.00 บาท/หุ้น ด้านบล.ฟินันเซีย ไซรัส ประเมินราคาเป้าหมายปีหน้าที่ 1.10 บาท อิง PE 13 เท่า โดยคาดกำไรสุทธิปี 2562-2563 โตเฉลี่ย 75% CAGR เป็น 28 ลบ.ปีนี้ 47 ลบ.ปีหน้าตามภาวะอุตสาหกรรมก่อสร้าง การผลิตรง.ใหม่เต็มปี และอัตรากำไรขั้นต้นดีขึ้นจาก economies of scale โดยบริษัทฯผลิตและจำหน่ายผลิตภัณฑ์คอนกรีตทุกประเภทภายใต้แบรนด์ "STC Concrete" ในภาคตะวันออก ได้รับการไว้วางใจจากลูกค้ากว่า 30 ปี ตั้งอยู่ในทำเลที่มีศักยภาพอย่างจ.ชลบุรี ซึ่งเป็นหนึ่งในพื้นที่ EEC เงินจากการเพิ่มทุนจะนำไปคืนหนี้และเตรียมไปขยายรง.ผลิตท่อระบายน้ำคอนกรีตเสริมเหล็กและท่อพักน้ำ
MINT (กรุงศรี) "ซื้อ"เป้า 47 บาท Top pick กลุ่มท่องเที่ยว ได้ประโยชน์โดยตรงจากจำนวนนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติที่เพิ่มขึ้นตาม High season ของธุรกิจ, ขาย Trivoly Hotel 3 แห่ง และวานนี้ขายสินทรัพย์เพิ่มอีก 3 แห่ง รวมถึง กกบ.ผ่อนผัน Perpetual bond ให้กับกลุ่มผู้ออกรายเดิมออกไปอีก 3 ปี ช่วยลดแรงกดดันจากการเพิ่มทุน
TACC (ฟินันเซีย ไซรัส) "ซื้อ"เป้า 6.80 บาท แนวโน้มกำไร Q4/62 ยังดีต่อ เบื้องต้นคาด 43-45 ลบ. +6% Q-Q, +50% Y-Y เพราะเป็น high season มีการออกสินค้าเครื่องดื่มใหม่ และการจัดงาน event ใหญ่ (Rilakkuma) ที่ผ่านมา ทำรายได้ตามเป้า ปี 2563 บริษัทตั้งเป้ารายได้โต 10-15% จากเครื่องดื่มในประเทศ ซึ่งปรับสูตรน้ำตาลให้น้อยลงไปอีกเหลือเพียง 6-8 กรัม รองรับภาษีไปถึงปี 2566 และยังมีแผนออกเมนูใหม่มากขึ้น และจะนำ Character business ไปรุกต่างประเทศ เช่นให้ลิขสิทธิ์สำหรับร้าน Cafe ในต่างประเทศ ปัจจุบันมี PE เพียง 17 เท่า ต่ำกว่าหุ้นกลุ่มเครื่องดื่มที่เฉลี่ย 23 เท่า
--อินโฟเควสท์