WORLD7

smed PIONEER 720x100ใจฟู720x100pxgpf 720x100 66

ภาวะตลาดหุ้นไทย : แนวโน้มดัชนีเช้านี้พักฐานต่อรอปัจจัยใหม่หนุน ลุ้นรีบาวด์ระหว่างวัน

      นายอดิศักดิ์ ผู้พิพัฒน์หิรัญกุล นักกลยุทธ์การลงทุน บล.ธนชาต กล่าวว่า หลาดหุ้นไทยวันนี้ยังอยู่ในแนวโน้มของการพักฐานต่อเนื่องจากวานนี้ อย่างไรก็ตาม ระหว่างวันยังมีโอกาสเกิดเทคนิเคิลรีบาวด์ หรืออาจมีแรงขายทำกำไรออกมาได้ด้วยเช่นกัน ปัจจุบันมองว่ายังไร้ปัจจัยบวกใหม่เข้ามาสนับสนุน

    "วันนี้เราบอกไม่ได้ว่าตลาดจะแกว่งไปทางบวกหรือลบ เพราะปัจจัยยังไม่ชัด คือต่างประเทศส่วนมากก็ลบแต่ตลาดเราลงมาเยอะแล้วก็อาจจะขึ้นไปเขียวได้บ้างระหว่างวัน แต่ตลาดเรายังพักฐานคือขึ้นก็ขึ้นไม่มาก"นายอดิศักดิ์ กล่าว

     พร้อมให้แนวต้าน 1,555 จุด แนวรับ 1,540 จุด หากหลุดแนวรับนี้มีโอกาศที่ดัชนีจะลงไปถึง 1,510 จุด

ประเด็นของการพิจารณาการลงทุน :

     - ตลาดหุ้นนิวยอร์คล่าสุด(6 ต.ค.)ดัชนีดาวโจนส์ปิดที่ 16,991.91 จุด ลดลง 17.78 จุด(-0.10%),ดัชนี NASDAQ ปิดที่ 4,454.80 จุด ลดลง 20.82 จุด(-0.47%),ดัชนี S&P500 ปิดที่ 1,964.82 จุด ลดลง 3.08 จุด(-0.16%)

     - ตลาดหุ้นเอเชียเปิดเช้านี้ ดัชนี NIKKEI 225 ตลาดหุ้นญี่ปุ่น ลดลง 49.78 จุด, ดัชนี HSI ตลาดหุ้นฮ่องกง ลดลง 90.82 จุด, ดัชนี TAIEX ตลาดหุ้นไต้หวัน ลดลง 29.47 จุด, ดัชนี KOSPI ตลาดหุ้นเกาหลีใต้ เพิ่มขึ้น 11.44 จุด, ดัชนี FTSE STI ตลาดหุ้นสิงคโปร์ เพิ่มขึ้น 7.48 จุด และดัชนี FBMKLCI ตลาดหุ้นมาเลเซีย เพิ่มขึ้น 5.75 จุด

     ส่วนตลาดหุ้นจีนปิดทำการวันนี้ เนื่องในวันหยุดเฉลิมฉลองวันชาติ

     - ตลาดหุ้นไทยปิดล่าสุด(6 ต.ค.) 1,543.13 จุด ลดลง 27.15 จุด (-1.73%)

    - นักลงทุนต่างชาติซื้อสุทธิ 213.59 ล้านบาท เมื่อวันที่ 6 ต.ค.57

    - ราคาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือน พ.ย.ในตลาดไนเม็กซ์ปิดทำการล่าสุด(6 ต.ค.)ที่ 90.34 ดอลลาร์/บาร์เรล  เพิ่มขึ้น 60 เซนต์

     - ค่าการกลั่นอ้างอิงตลาดสิงคโปร์ปิดล่าสุด(6 ต.ค.)ที่ 6.37 เหรียญสหรัฐฯ/บาร์เรล

     - เงินบาทเปิด 32.59/60 กลับมาแข็งค่าตามภูมิภาค

     - นายอูลริค ซาเกา ผู้อำนวยการธนาคารโลก (เวิลด์แบงก์) ประจำเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ แถลงผลการประเมินภาวะเศรษฐกิจเอเชียตะวันออกและแปซิฟิก โดยได้ปรับลดคาดการณ์ผลิตภัณฑ์มวลรวมในประเทศ (จีดีพี) ของไทยในปีนี้จาก 2.5% เหลือ 1.5% และในปีหน้าลดการเติบโตจีดีพีเหลือ 3.5% จากคาดการณ์เดิม 4.5%

     - รมว.พลังงาน เปิดเผยว่า ภายในเดือนต.ค. นี้ จะออกประกาศเชิญชวนให้เอกชนยื่นขอสัมปทานปิโตรเลียมรอบใหม่ ครั้งที่ 21 เพื่อรองรับความต้องการใช้พลังงานที่เพิ่มขึ้นในระยะยาว โดยจะเปิดสัมปทาน 29 แปลง ทั้งบนบกและในทะเล

    - อุตสาหกรรม เผยภายหลังการหารือกับ นายเคียวอิจิ ทานาดะ กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท โตโยต้า มอเตอร์ ประเทศไทย ว่าผู้บริหารโตโยต้าได้ขอให้ฝ่ายรัฐบาลให้ความช่วยเหลือกระตุ้นกำลังซื้อเพื่อเพิ่มยอดขายรถยนต์ ที่คาดว่าในปีนี้จะลดลงถึง 20% เนื่องจากตลาดภายในประเทศมียอดขายลดลงมาก โดยช่วง 8 เดือนมียอดขายติดลบถึง 38% ขณะที่ยอดส่งออกเพิ่มขึ้นเพียง 3% จึงคาดว่าในปีนี้จะมียอดการผลิตรถยนต์แค่ 1.98 ล้านคัน ต่ำกว่าเป้าหมาย 2.1 ล้านคัน

     - รฟม.เปิดซองคุณสมบัติผู้รับเหมา 5 กลุ่ม ใน 4 สัญญาประมูลก่อสร้างรถไฟฟ้าสายสีเขียวเหนือ 2.6 หมื่นล. ตั้งเป้าลงนาม มิ.ย. 58 เดินหน้าก่อสร้าง คนกรุงอ่วมแน่ เตรียมเลี่ยงแยก รัชโยธิน และเกษตร ตามแผนต้องทุบสะพานข้ามแยกทำโครงสร้างรถไฟฟ้า

    - แหล่งข่าวจากกระทรวงการคลัง เปิดเผยภาคธุรกิจยักษ์ใหญ่ของสหรัฐ 3 ราย ได้แก่ บริษัทซีเกท เทคโนโลยี บริษัท ไฟเซอร์ อิงค์ และบริษัทอเมริกัน อินเตอร์เนชั่นแนล กรุ๊ป อิ๊งค์ (เอไอจี) ต้องการเข้าพบรมว.คลัง และผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทย(ธปท.) ระหว่างการเดินทางออกไปโรดโชว์ร่วมกับตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยและธนาคารแห่งอเมริกา เมอร์ริล ลินช์และบล.ภัทร ณ นิวยอร์ก สหรัฐ 8 ต.ค.เบื้องต้นกระทรวงการคลังคงจะเข้ารับฟังแนวคิดของกลุ่มธุรกิจดังกล่าวที่มีการลงทุนในไทยอยู่แล้วว่ามีข้อเสนอและอุปสรรคที่ยังเห็นว่าเป็นปัญหาในการขยายการลงทุนเพิ่มเพื่อนำมาหารือกันต่อไป

*หุ้นเด่นวันนี้

       - BTS(เมย์แบงก์ กิมเอ็ง)"ทยอยสะสม"เป้า 11.40 บาท บอร์ดให้ขาย 2 บริษัทย่อยให้ NPARK ได้แก่ บีทีเอส แอสเสทส์ เจ้าของโรงแรม อีสติน แกรนด์ สาทร, ที่ดินบริเวณถนนพหลโยธิน และบจ.ก้ามกุ้ง พร็อพเพอร์ตี้ เจ้าของที่ดินบริเวณพญาไท เพื่อแลกกับผลตอบแทนหุ้นสามัญ(PP),ใบแสดงสำคัญสิทธิ และอาจได้รับเงินอีกส่วนหนึ่งเป็นเงินสด มีมุมมองเชิงบวกต่อการขาย Asset คาด BTS บันทึกกำไรพิเศษราว 2.5 พันล้านบาท(หลังภาษี)และเป็นการ Unlock Asset Value โดยตรง จากเดิมที่ตลาดให้มูลค่าของธุรกิจอสังหาฯ BTS ใกล้เคียงมูลค่าทางบัญชี ดังนั้น จะส่งผลบวกเนื่องจากสามารถสะท้อนผ่านมูลค่าโดยอิงราคาตลาดของหุ้น NPARK ได้โดยตรง

     - PS(ฟินันเซีย ไซรัส)"ซื้อ"เป้าปี 2015 ที่ 42 บาท  ยอด Presales ใน 3Q14 ทำได้ดี เพิ่มขึ้นถึง 37% Q-Q และ 21% Y-Y เพิ่มขึ้นทั้งบ้านเดี่ยวและคอนโด ทำให้  Presales งวด 9M14 ทำได้ 73% ของเป้าทั้งปี แนวโน้มกำไรปกติใน 3Q14 น่าจะเพิ่มขึ้นทั้ง Q-Q และ Y-Y ตามทิศทางรายได้โอน โดย PS เป็นหนึ่งใน Top pick ในกลุ่มที่อยู่อาศัย

     - PTT,KBANK,CPF(เคทีบี)"ซื้อลงทุน"การปรับฐานของตลาดหุ้นไทยในระยะสั้นเป็นโอกาสที่ดีเข้าทยอยซื้อหุ้นพื้นฐานแกร่งทั้งสามตัวเข้าพอร์ต อาศัยจังหวะกองทุนในประเทศขายช่วงสั้นในการเข้าซื้อหุ้นเป้าหมายในราคาที่น่าสนใจจาก upside ที่กว้างขึ้น ทั้งนี้ ให้ราคาเป้าหมายเท่ากับ 420, 247 และ 33.80 บาท ตามลำดับ

      - ADVANC(กสิกรไทย)"ซื้อ"เป้า 266 บาท แนวโน้มไตรมาส 3/57 แกร่งกว่าช่วงปกติ และมีประเด็นเศรษฐกิจดิจิตอลสนับสนุนหุ้นกลุ่ม ICT, ตั้งเป้าสิ้นปีมีสถานีฐาน 20,000 แห่ง จาก 19,000 แห่ง พร้อมติดตั้งสมอลเซลล์ 3,000 จุดทั่วประเทศภายในสิ้นปีนี้ จากติดตั้งแล้ว 300 จุดรองรับพื้นที่ใช้บริการดาต้าหนาแน่น คาดผลตอบแทนปีผลปี 57 และ 58 ที่ 5.9% และ 6.7% ตามลำดับ เป้าหมายทางกลยุทธ์ระยะสั้น 235 บาท/ตัดขาดทุน 213 บาท

ตลาดหุ้นเอเชียบวกขึ้นเช้านี้ หลังหุ้นกลุ่มวัสดุ,เทคโนโลยีทะยาน

     ตลาดหุ้นเอเชียปรับตัวเพิ่มขึ้นในช่วงเช้าวันนี้ โดยได้รับปัจจัยหนุนจากการทะยานขึ้นของหุ้นกลุ่มวัสดุและเทคโนโลยีสารสนเทศ

     ดัชนี MSCI Asia Pacific Index (MXAP) เพิ่มขึ้น 0.2% สู่ระดับ 139.43 จุด เมื่อเวลา 9.04 น.ตามเวลาโตเกียว

     ดัชนี NIKKEI 225 ตลาดหุ้นญี่ปุ่นเปิดวันนี้ที่ 15,841.17 จุด ลดลง 49.78 จุด, ดัชนี HSI ตลาดหุ้นฮ่องกงเปิดวันนี้ที่ 23,224.22 จุด ลดลง 90.82 จุด, ดัชนี TAIEX ตลาดหุ้นไต้หวันเปิดวันนี้ที่ 9,065.67 จุด ลดลง 29.47 จุด, ดัชนี KOSPI ตลาดหุ้นเกาหลีใต้เปิดวันนี้ที่ 1,979.83 จุด เพิ่มขึ้น 11.44 จุด, ดัชนี FTSE STI ตลาดหุ้นสิงคโปร์เปิดวันนี้ที่ 3,260.72 จุด เพิ่มขึ้น 7.48 จุด และดัชนี FBMKLCI ตลาดหุ้นมาเลเซียเปิดวันนี้ที่ 1,846.57 จุด เพิ่มขึ้น 5.75 จุด

   ตลาดหุ้นจีนปิดทำการวันนี้ เนื่องในวันหยุดเฉลิมฉลองวันชาติ

ภาวะตลาดหุ้นลอนดอน: ฟุตซี่ปิดบวก 35.74 จุด นำโดยหุ้นเทสโก้

     ตลาดหุ้นลอนดอนปิดปรับตัวขึ้นเมื่อคืนนี้ (6 ต.ค.) นำโดยหุ้นกลุ่มธนาคารและหุ้นเทสโก้

      ดัชนี FTSE 100 เพิ่มขึ้น 35.74 จุด หรือ 0.55% ปิดที่ 6,563.65 จุด

      ตลาดปรับตัวในแดนบวก หลังจากที่ร่วงลงในสัปดาห์ที่แล้วและอ่อนแรงลงในช่วงไตรมาส 3 ท่ามกลางความวิตกที่ว่าแผนการซื้อสินทรัพย์ของธนาคารกลางยุโรป (อีซีบี) จะไม่เพียงพอที่จะพลิกฟื้นเศรษฐกิจของยุโรป

      หุ้นเทสโก้ดีดขึ้น 2.7% หลังจากที่บริษัทเสริมความแข็งแกร่งในการกำกับดูแลการดำเนินงานด้วยการแต่งตั้งผู้บริหารรายใหม่ ส่วนหุ้นบาร์เคลย์สพุ่ง 3.4% หลังมีรายงานว่าธนาคารจะปลดพนักงานจำนวน 1,300 ราย

ภาวะตลาดหุ้นยุโรป : แรงซื้อหนุนหุ้นยุโรปปิดบวก ตลาดจับตารายงานประชุมเฟด

    ตลาดหุ้นยุโรปปิดบวกเมื่อคืนนี้ (6 ต.ค.) เนื่องจากนักลงทุนยังคงเดินหน้าเข้าซื้อหุ้นกลุ่มต่างๆ ซึ่งช่วยหนุนตลาดหุ้นยุโรปปิดในแดนบวกติดต่อกัน 2 วันทำการ อย่างไรก็ตาม ภาวะการซื้อขายเป็นไปอย่างผันผวน เพราะตลาดได้รับแรงกดดันจากข้อมูลที่ว่า ยอดสั่งซื้อภาคโรงงานของเยอรมนีร่วงลงอย่างหนัก

     ดัชนี Stoxx Europe 600 ปรับตัวขึ้น 0.2% ปิดที่ 336 จุด

    ดัชนี CAC-40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศสปิดที่ 4,286.52 จุด เพิ่มขึ้น 4.78 จุด หรือ +0.11% ดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมันปิดที่ 9,209.51 จุด เพิ่มขึ้น 13.83 จุด หรือ +0.15% ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 6,563.65 จุด เพิ่มขึ้น 35.74 จุด หรือ +0.55%

     ตลาดหุ้นยุโรปปิดบวกต่อเนื่องจากเมื่อวันศุกร์ หลังจากสหรัฐเปิดเผยว่าตัวเลขจ้างงานนอกภาคการเกษตรเดือนก.ย.ที่เพิ่มขึ้น 248,000 ตำแหน่ง ซึ่งมากกว่าที่นักวิเคราะห์คาดว่าจะเพิ่มขึ้นเพียง 215,000 ตำแหน่ง และอัตราว่างงานลดลงสู่ระดับต่ำสุดในรอบ 6 ปีที่ 5.9%

     อย่างไรก็ตาม ตลาดได้รับแรงกดดันในระหว่างวัน หลังจากมีรายงานว่า ยอดสั่งซื้อภาคโรงงานของเยอรมนีในเดือนส.ค.หดตัวลง 5.7% โดยร่วงหนักสุดนับตั้งแต่ปี 2552 และย่ำแย่กว่าที่นักวิเคราะห์คาดไว้ว่าจะลดลง 2.5% ซึ่งบ่งชี้ถึงความเสี่ยงที่เศรษฐกิจเยอรมนีจะชะลอตัวลง

     นักลงทุนจับตาดูรายงานการประชุมนโยบายการเงินของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ประจำวันที่ 16-17 ก.ย. ซึ่งจะเปิดเผยในเช้าวันพฤหัสบดี ตามเวลาประเทศไทย รวมทั้งการเปิดเผยผลประกอบการของบริษัทเอกชนของสหรัฐ โดยอัลโค อิง ซึ่งเป็นบริษัทอลูมิเนียมรายใหญ่ที่สุดในสหรัฐ จะประเดิมเปิดเผยผลประกอบการไตรมาส 3 เป็นรายแรกในวันพุธนี้

     หุ้นโนเกียปรับตัวขึ้น 2.7% หลังจากบริษัทไมโครซอฟท์ ซึ่งซื้อกิจการของโนเกียไปเมื่อปีที่แล้วนั้น เปิดเผยว่า บริษัทซัมซุง อิเล็กทรอนิก ได้จ่ายเงินค่ารอยัลตี้ให้กับไมโครซอฟท์มูลค่า 1 พันล้านดอลลาร์ ตามข้อตกลงที่ระบุว่าซัมซุงจะต้องจ่ายเงินค่ารอยัลตี้ให้กับไมโครซอฟท์ สำหรับโทรศัพท์และแท็บเล็ตที่ใช้เทคโนโลยีซึ่งเป็นสิทธิบัตรของไมโครซอฟท์

ภาวะตลาดหุ้นนิวยอร์ก : แรงขายทำกำไร ฉุดดาวโจนส์ปิดลบ 17.78 จุด

    ดัชนี ดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดลบเมื่อคืนนี้ (6 ต.ค.) เนื่องจากนักลงทุนเทขายทำกำไรหลังจากดัชนีดาวโจนส์ทะยานขึ้นกว่า 200 จุดเมื่อวันศุกร์ อันเป็นผลมาจากตัวเลขจ้างงานนอกภาคการเกษตรของสหรัฐที่เพิ่มขึ้นอย่างแข็งแกร่ง

     ดัชนี เฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 16,991.91 จุด ลดลง 17.78 จุด หรือ -0.10% ดัชนี NASDAQ ปิดที่ 4,454.80 จุด ลดลง 20.82 จุด หรือ -0.47% ดัชนี S&P500 ปิดที่ 1,964.82 จุด ลดลง 3.08 จุด หรือ -0.16%

    ในช่วงแรกนั้น ตลาดหุ้นนิวยอร์กเปิดตลาดดีดตัวขึ้นเนื่องจากนักลงทุนยังคงขานรับสัญญาณบ่งชี้ถึงการขยายตัวของเศรษฐกิจสหรัฐ รวมถึงตัวเลขจ้างงานนอกภาคการเกษตรเดือนก.ย.ที่เพิ่มขึ้น 248,000 ตำแหน่ง ซึ่งมากกว่าที่นักวิเคราะห์คาดว่าจะเพิ่มขึ้นเพียง 215,000 ตำแหน่ง และอัตราว่างงานลดลงสู่ระดับต่ำสุดในรอบ 6 ปีที่ 5.9%

   อย่างไรก็ตาม ตลาดอ่อนแรงลงในเวลาต่อมา เนื่องจากนักลงทุนเทขายทำกำไรหลังจากดัชนีดาวโจนส์ทะยานขึ้นกว่า 200 จุดเมื่อวันศุกร์ อันเนื่องมาจากความแข็งแกร่งของตัวเลขจ้างงาน นอกจากนี้ ตลาดยังได้รับแรงกดดันจากการคาดการณ์ที่ว่าธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) อาจจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย

   หุ้นฮิวเลตต์-แพคการ์ดพุ่งขึ้น 4.74% หลังบริษัทเปิดเผยว่าจะแยกธุรกิจออกเป็น 2 บริษัท โดยจะแยกธุรกิจคอมพิวเตอร์ส่วนบุคคล(พีซี) และพรินเตอร์ ออกจากธุรกิจฮาร์ดแวร์และบริการ ส่วนหุ้นแคร์ฟิวชัน คอร์ปทะยานขึ้น 23% เนื่องจากเบคตัน, ดิกคินสัน แอนด์ โค ตกลงที่จะซื้อกิจการของบริษัทเป็นมูลค่า 1.22 หมื่นล้านดอลลาร์

   หุ้นฮิลตัน เวิล์ดไวด์ โฮลดิงส์ ปรับตัวลง 0.45% หลังจากบริษัทประกาศการทำข้อตกลงกับบริษัทอันปัง อินชัวรันซ์ กรุ๊ป เพื่อขายโรงแรมวอลดอร์ด แอสโทเรีย นิวยอร์ก ให้กับอันปัง อินชัวรันซ์ ซึ่งเป็นบริษัทประกันของจีน

  หุ้นไมครอน เทคโนโลยี ร่วงลง 4% หลังจากบริษัทซัมซุง อิเล็กทรอนิกส์ เปิดเผยว่าจะสร้างโรงงานผลิตเซมิคอนดักเตอร์มูลค่า 15.6 ล้านล้านวอน (1.5 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐ) ในเกาหลีใต้ เพื่อตอบสนองความต้องการชิปอุปกรณ์เคลื่อนที่ซึ่งปรับตัวสูงขึ้นอย่างมาก

  นักลงทุนจับตาดูรายงานการประชุมนโยบายการเงินของเฟด ประจำวันที่ 16-17 ก.ย. ซึ่งจะเปิดเผยในเช้าวันพฤหัสบดี ตามเวลาประเทศไทย รวมทั้งการเปิดเผยผลประกอบการของบริษัทเอกชนของสหรัฐ โดยอัลโค อิง ซึ่งเป็นบริษัทอลูมิเนียมรายใหญ่ที่สุดในสหรัฐ จะประเดิมเปิดเผยผลประกอบการไตรมาส 3 เป็นรายแรกในวันพุธนี้ ส่วนบริษัทอื่นๆที่จะเปิดเผยผลประกอบการในสัปดาห์นี้ รวมถึง Yum! Brands และ PepsiCo

World Markets: สรุปภาวะตลาดหุ้น น้ำมัน ทองคำ และตลาดเงินต่างประเทศ

 

ดัชนีและภาวะตลาดหุ้น น้ำมัน ทองคำ และตลาดเงินต่างประเทศ ประจำวันที่ 6 ต.ค.2557

          ดัชนี DJIA ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดที่ 16,991.91 จุด                         ลดลง 17.78 จุด    -0.10%

          ดัชนี NASDAQ ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดที่ 4,454.80 จุด                     ลดลง 20.82 จุด    -0.47%

          ดัชนี S&P500 ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดที่ 1,964.82 จุด                       ลดลง 3.08 จุด     -0.16%

          ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 6,563.65 จุด                   เพิ่มขึ้น 35.74 จุด   +0.55%

          ดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมันปิดที่ 9,209.51 จุด                            เพิ่มขึ้น 13.83 จุด   +0.15%

          ดัชนี CAC-40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศสปิดที่ 4,286.52 จุด                        เพิ่มขึ้น 4.78 จุด    +0.11%

          ดัชนี TAIEX ตลาดหุ้นไต้หวันปิดที่ 9,095.14 จุด                           ลดลง 11.14 จุด    -0.12%

          ดัชนี NIKKEI 225 ตลาดหุ้นญี่ปุ่นปิดที่ 15,890.95 จุด                    เพิ่มขึ้น 182.30 จุด  +1.16%

          ดัชนี KOSPI ตลาดหุ้นเกาหลีใต้ปิดที่ 1,968.39 จุด                        ลดลง 7.77 จุด     -0.39%

          ดัชนี HSI ตลาดหุ้นฮ่องกงปิดที่ 23,315.04 จุด                             เพิ่มขึ้น 250.48 จุด  +1.09%

          ดัชนี Jakarta Composite ตลาดหุ้นอินโดนีเซียปิดที่ 5,000.14 จุด    เพิ่มขึ้น 50.79 จุด   +1.03%

   ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดลบเมื่อคืนนี้ (6 ต.ค.) เนื่องจากนักลงทุนเทขายทำกำไรหลังจากดัชนีดาวโจนส์ทะยานขึ้นกว่า 200 จุดเมื่อวันศุกร์ อันเป็นผลมาจากตัวเลขจ้างงานนอกภาคการเกษตรของสหรัฐที่เพิ่มขึ้นอย่างแข็งแกร่ง

  ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 16,991.91 จุด ลดลง 17.78 จุด หรือ -0.10% ดัชนี NASDAQ ปิดที่ 4,454.80 จุด ลดลง 20.82 จุด หรือ -0.47% ดัชนี S&P500 ปิดที่ 1,964.82 จุด ลดลง 3.08 จุด หรือ -0.16%

  ตลาดหุ้นยุโรปปิดบวกเมื่อคืนนี้ (6 ต.ค.) เนื่องจากนักลงทุนยังคงเดินหน้าเข้าซื้อหุ้นกลุ่มต่างๆ ซึ่งช่วยหนุนตลาดหุ้นยุโรปปิดในแดนบวกติดต่อกัน 2 วันทำการ อย่างไรก็ตาม ภาวะการซื้อขายเป็นไปอย่างผันผวน เพราะตลาดได้รับแรงกดดันจากข้อมูลที่ว่า ยอดสั่งซื้อภาคโรงงานของเยอรมนีร่วงลงอย่างหนัก

  ดัชนี Stoxx Europe 600 ปรับตัวขึ้น 0.2% ปิดที่ 336 จุด

  ดัชนี CAC-40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศสปิดที่ 4,286.52 จุด เพิ่มขึ้น 4.78 จุด หรือ +0.11% ดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมันปิดที่ 9,209.51 จุด เพิ่มขึ้น 13.83 จุด หรือ +0.15% ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 6,563.65 จุด เพิ่มขึ้น 35.74 จุด หรือ +0.55%

ตลาดหุ้นลอนดอนปิดปรับตัวขึ้นเมื่อคืนนี้ (6 ต.ค.) นำโดยหุ้นกลุ่มธนาคารและหุ้นเทสโก้

    ดัชนี FTSE 100 เพิ่มขึ้น 35.74 จุด หรือ 0.55% ปิดที่ 6,563.65 จุด

     สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ตลาดนิวยอร์กปิดบวกเมื่อคืนนี้ (6 ต.ค.) เนื่องจากนักลงทุนเข้ามาช้อนซื้อเก็งกำไรหลังจากสัญญาน้ำมันดิบ WTI ร่วงลงอย่างหนักเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว นอกจากนี้ การอ่อนค่าของสกุลเงินดอลลาร์ยังเป็นอีกปัจจัยหนึ่งที่ช่วยหนุนสัญญาน้ำมันดิบดีดตัวขึ้นด้วย

   สัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนพ.ย. เพิ่มขึ้น 60 เซนต์ ปิดที่ 90.34 ดอลลาร์/บาร์เรล

   สัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ส่งมอบเดือนพ.ย. เพิ่มขึ้น 48 เซนต์ ปิดที่ 92.79 ดอลลาร์/บาร์เรล

   สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดพุ่งขึ้นเมื่อคืนนี้ (6 ต.ค.) เพราะได้แรงหนุนจากสกุลเงินดอลลาร์สหรัฐที่อ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับสกุลเงินอื่นๆ ขณะที่นักลงทุนจับตาดูรายงานการประชุมของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ในสัปดาห์นี้

  สัญญาทองคำตลาด COMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือนธ.ค.พุ่งขึ้น 14.4 ดอลลาร์ หรือ 1.21% ปิดที่ 1,207.3 ดอลลาร์/ออนซ์

  สัญญาโลหะเงินส่งมอบเดือนธ.ค.เพิ่มขึ้น 39.9 เซนต์ ปิดที่ 17.225 ดอลลาร์/ออนซ์

  สัญญาพลาตินัมส่งมอบเดือนม.ค.พุ่งขึ้น 22.3 ดอลลาร์ ปิดที่ 1,249.2 ดอลลาร์/ออนซ์ และสัญญาพัลลาเดียมส่งมอบเดือนธ.ค.เพิ่มขึ้น 11.55 ดอลลาร์ ปิดที่ 766.10 ดอลลาร์/ออนซ์

    ดอลลาร์สหรัฐปรับตัวลงเมื่อเทียบกับสกุลเงินหลักส่วนใหญ่เมื่อคืนนี้ (6 ต.ค.) ขณะที่นักลงทุนรอดูรายงานการประชุมกำหนดนโยบายการเงินครั้งล่าสุดของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ที่มีกำหนดเปิดเผยในสัปดาห์นี้

   ค่าเงินยูโรเพิ่มขึ้นเมื่อเทียบดอลลาร์สหรัฐที่ระดับ 1.2619 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 1.2511 ดอลลาร์ ขณะที่เงินปอนด์ปรับขึ้นที่ 1.6049 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 1.5967 ดอลลาร์

   ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐปรับตัวลงเทียบกับสกุลเงินเยนที่ 109.01 เยน เทียบกับระดับ 109.84 เยน และลดลงเมื่อเทียบกับฟรังค์สวิสที่ระดับ 0.9614 ฟรังค์ จาก 0.9674 ฟรังค์

  ค่าเงินดอลลาร์ออสเตรเลียปรับขึ้นเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐที่ระดับ 0.8747 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 0.8672 ดอลลาร์

     ดัชนี ค่าระวางเรือ BDI ปิดวันทำการล่าสุดที่ 1,029.00 จุด ลดลง 8.00 จุด, -0.77%

อินโฟเควสท์

apm

 

 

Facebook

5 ข่าวฮอตนิวส์!