- Details
- Category: หุ้นเด่นวันนี้
- Published: Monday, 21 October 2019 10:24
- Hits: 3483
ภาวะตลาดหุ้นไทย: แนวโน้มดัชนีเช้านี้แกว่งไซด์เวย์ ระวังลงทุนหลังกังวลเศรษฐกิจโลกชะลอตัว, รอดูคืบหน้า Brexit -เจรจาการค้า
นายอภิชาติ ผู้บรรเจิดกุล ผู้อำนวยการสายงานวิเคราะห์เชิงกลยุทธ์ บล.ทิสโก้ กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยเช้านี้คาดว่าจะแกว่งไซด์เวย์ เนื่องจากนักลงทุนมีความระมัดระวังการลงทุนจากกังวลเศรษฐกิจโลกชะลอตัว หลังจากที่ตัวเลขผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP) งวดไตรมาส 3/62 ของจีนโต 6% ต่ำกว่าตลาดคาดโต 6.1% และเรื่องอังกฤษจะออกจากการเป็นสมาชิกของสหภาพยุโรป (Brexit) ยังต้องติดตามดูต่อไป หลังจากที่สภาอังกฤษมีมติให้เลื่อนการตัดสินใจรับรองข้อตกลง Brexit ฉบับของนายบอริส จอห์นสัน นายกรัฐมนตรีอังกฤษ ออกไปก่อน ส่วนการเจรจาการค้าระหว่างสหรัฐฯ และจีน ก็ยังต้องติดตามความคืบหน้าต่อไป ซึ่งจีนก็ไม่พอใจที่สหรัฐฯได้ให้การสนับสนุนการประท้วงที่ฮ่องกง
ส่วนบ้านเราสภาฯได้ผ่านงบประมาณปี 63 ในวาระแรกไปแล้ว ซึ่งเป็นไปตามคาด แต่ผลประกอบการของกลุ่มแบงก์งวดไตรมาส 3/62 ออกมาต่ำกว่าคาดราว 9% ดังนั้น ตลาดฯคงจะยังไปไหนไม่ไกล เพราะต้องการรอดูความคืบหน้าปัจจัยต่างประเทศก่อน
ด้านตลาดหุ้นในภูมิภาคเอเชียเช้านี้เคลื่อนไหวทั้งในแดนบวก-ลบ พร้อมให้แนวรับไว้ที่ 1,625-1,620 จุด ส่วนแนวต้าน 1,640 จุด
ประเด็นพิจารณาการลงทุน
- ตลาดหุ้นนิวยอร์กล่าสุด (18 ต.ค.) ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 26,770.20 จุด ลดลง 255.68 จุด (-0.95%), ดัชนี S&P500 ปิดที่ 2,986.20 จุด ลดลง 11.75 จุด (-0.39%) และดัชนี Nasdaq ปิดที่ 8,089.54 จุด ลดลง 67.31 จุด (-0.83%)
- ตลาดหุ้นเอเชียเปิดตลาดวันนี้ ดัชนี NIKKEI 225 ตลาดหุ้นญี่ปุ่น เพิ่มขึ้น 48.54 จุด, ดัชนี SSE Composite ตลาดหุ้นจีน ลดลง 4.24 จุด, ดัชนี HSI ตลาดหุ้นฮ่องกง ลดลง 4.36 จุด, ดัชนี TAIEX ตลาดหุ้นไต้หวัน ลดลง 13.98 จุด, ดัชนี KOSPI ตลาดหุ้นเกาหลีใต้ เพิ่มขึ้น 7.28 จุด, ดัชนี FTSE STI ตลาดหุ้นสิงคโปร์ ลดลง 0.45 จุด, ดัชนี FBMKLCI ตลาดหุ้นมาเลเซีย ลดลง 2.37 จุด, ดัชนี PSE Composite ตลาดหุ้นฟิลิปปินส์ ลดลง 10.43 จุด
- ตลาดหุ้นไทยปิดล่าสุด (18 ต.ค.62) 1,631.43 จุด ลดลง 1.37 จุด (-0.08%)
- นักลงทุนต่างชาติขายสุทธิ 1,688.45 ล้านบาท เมื่อวันที่ 18 ต.ค.62
- ราคาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือน พ.ย.ในตลาดไนเม็กซ์ปิดทำการล่าสุด (18 ต.ค.62) ปิดที่ 53.78 ดอลลาร์/บาร์เรล ลดลง 15 เซนต์ หรือ 0.3%
- ค่าการกลั่นอ้างอิงตลาดสิงคโปร์ปิดล่าสุด (18 ต.ค.) อยู่ที่ 3.74 ดอลลาร์/บาร์เรล
- เงินบาทเปิด 30.28 แข็งค่าตามภูมิภาคจากแรงขายดอลล์ ตลาดรอดูตัวเลขส่งออกของไทยวันนี้-ติดตามความคืบหน้า Brexit
- "บีโอไอ" เตรียมแผนโรดโชว์จีน-ฮ่องกง 10 ครั้ง "สมคิด" นำทีมบุกกวางตุ้ง-ฮ่องกงสัปดาห์นี้ หารือ "แคร์รี ลัม" ถก 7 บริษัทชั้นนำ "ดับบลิวเอชเอ" ชี้สถานการณ์ขัดแย้งเร่งตัดสินใจมาลงทุนไทย "นักการเงิน" ประเมินเสี่ยงกระทบ "เงินฝาก-ลงทุน" มีโอกาสไหลออกไปประเทศอื่น เชื่อส่วนใหญ่โยกไปสิงคโปร์ ขณะภาพเงินทุนเคลื่อนย้าย "ยังไม่ชัด"
- กระทรวงการคลังเตรียมต่อยอด"ชิม ช้อป ใช้"เฟส 2 ก่อนเสนอ ครม. 22 ต.ค ย้ำร้านค้าห้ามละเมิดกฎถูกปิดแอพฯถุงเงินทันที ล่าสุดลงพื้นโคราชหวังสำรวจยอดการจับจ่ายใช้สอยผ่านร้านค้ารายย่อยพร้อมกระตุ้น นักท่องเที่ยวจับจ่าย ขณะเดียวกันสรุปยอดการใช้จ่ายถึง 18 ต.ค. 62 มีทั้งสิ้นกว่า 8.6 พันล้านบาท โดยแบ่งเป็นยอดใช้จ่ายผ่านกระเป๋า 1 รวม 8.5 พันล้านบาท และจากกระเป๋า 2 อีกเกือบ 140 ล้านบาท
- "PwC ประเทศไทย" คาดกำไรบจ.ปี63 ส่อแววรับผลกระทบจากมาตรฐานบัญชีใหม่ TFRS9 - TFRIC23 หนุนผู้ประกอบการตั้งสำรองฯ-บันทึกค่าใช้จ่ายทางภาษีเพิ่ม ฟากโบรกฯ ยอมรับฉุดฐานกำไรปีนี้เริ่มชะลอตัว คาดทั้งปีทำได้ราว 9.99 แสนล้านบาท
- รมว.คลัง เปิดเผยว่า ขณะนี้ได้มอบหมายให้สำนักงานเศรษฐกิจการคลัง (สศค.) ไปเร่งศึกษาการจัดทำมาตรการกระตุ้นธุรกิจภาคอสังหาริมทรัพย์ ตามนโยบายที่ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี มอบไว้ในที่ประชุม ครม. โดยแนวทางเบื้องต้นจะเป็นมาตรการส่งเสริมให้คนไทยมีที่อยู่อาศัยเป็นของตัวเอง หรือส่งเสริมให้มีการซื้อบ้านหลังแรก แต่จะไม่เน้นการส่งเสริมที่อยู่อาศัยระดับบน หรือซื้อเพื่อนำไปลงทุนหรือการเก็งกำไร
- สรรพสามิตเผยคนไทยยังกินเค็ม 1 มื้อ โซเดียมพุ่งถึง 1,000 มิลลิกรัม เกินมาตรฐาน WHO พร้อมเร่งหารือสาธารณสุข ,อย.สรุปเกณฑ์จัดเก็บภาษีความเค็มปีนี้ผลักดันผู้ประกอบการไทยปรับลดโซเดียมในสินค้า 20-30% ลดความเสี่ยงเกิดโรคไต-ความดัน 40%
*หุ้นเด่นวันนี้
- EPG (กรุงศรี) "ซื้อเก็งกำไร"เป้าสูงสุด IAA Consensus 9.4 บาท คาดกำไรสุทธิ Q2 ปี 62/63 (ก.ค.-ก.ย.62) น่าจะกลับมาเติบโตทั้ง qoq และ yoy จากการฟื้นตัวดีขึ้นในทุกธุรกิจ โดยเฉพาะ Packaging และ Aeroklas ซึ่งได้ผลบวกจากต้นทุนเม็ดพลาสติกที่ลดลง (HDPE, PP, PET) และยังมีแนวโน้มจะลดลงอีกตามราคาน้ำมันดิบในปัจจุบันที่ลดลงสู่ระดับต่ำสุดในรอบ 2 เดือน
- TCAP (ฟินันเซีย ไซรัส) "ซื้อ"เป้า 62 บาท กำไร Q3/62 ดีกว่าคาด โดยเติบโต 30% Q-Q และ 32% Y-Y เป็น 2.47 พันล้านบาท จากกำไรจากเงินลงทุนและกำไรจากสินนทรัพย์รอการขายมากกว่าคาด และค่าใช้จ่ายที่ไม่ใช่ดอกเบี้ยต่ำกว่าคาด ขณะที่การตั้งสำรองอยู่ในระดับต่ำ 0.6% ของสินเชื่อรวม ด้าน NPL ขยับขึ้นเพียงเล็กน้อยเป็น 2.49% จาก 2.40% ใน 2Q62 ส่วน Coverage ratio อยู่ที่ 104% จาก 115% ในไตรมาสก่อน ประเด็นที่แนะนำซื้อคือเงินปันผลจากผลประกอบการปกติและปันผลพิเศษหลังขาย TBANK เสร็จสิ้น
--อินโฟเควสท์