- Details
- Category: หุ้นเด่นวันนี้
- Published: Friday, 03 October 2014 10:10
- Hits: 2731
ภาวะตลาดหุ้นไทย : แนวโน้มดัชนีเช้าผันผวน-อยู่ในช่วงปรับฐาน ปัจจัยการเมือง-เศรษฐกิจตปท.กดดัน
นายเทิดศักดิ์ ทวีธีระธรรม ผู้อำนวยการอาวุโสฝ่ายวิเคราะห์ บล.เอเซีย พลัส กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยวันนี้ภาพการเคลื่อนไหวของดัชนียังคงเป็นภาพการผันผวน ในบางช่วงอาจมีการดีดกลับมาเป็นบวกได้ หลังจากเมื่อวานดัชนีมีการปรับตัวลง และในบางช่วงอาจจะปรับตัวลงเป็นลบได้จากแรงขายทำกำไรที่ยังมีอยู่อย่างต่อเนื่องในตลาด ซึ่งจะทำให้ตลาดในวันนี้มีความผันผวน
อย่างไรก็ตาม ลักษณะของตลาดในขณะนี้มองว่าเป็นช่วงของการปรับฐาน โดยปัจจัยที่ส่งผลกดดันเป็นปัจจัยเดิมๆที่มาจากต่างประเทศส่วนใหญ่ อย่างเช่น ความกังวลความขัดแย้งในยูเครนและซีเรีย การชุมนุมประท้วงในฮ่องกง และความกังวลเกี่ยวกับเศรษฐกิจในยุโรปที่ยังไม่มีแนวโน้มที่ดีขึ้น
ส่วนตลาดหุ้นอื่นในภูมิภาคเอเชียช่วงเปิดตลาดภาคเช้าวันนี้ส่วนใหญ่เคลื่อนไหวคละกันในแดนบวกและแดนลบ โดยขณะนี้ยังไม่เห็นการเปลี่ยนแปลงที่มีนัยสำคัญ
พร้อมให้แนวต้าน 1,580 จุด แนวรับ 1,560 จุด
ประเด็นของการพิจารณาการลงทุน :
- ตลาดหุ้นนิวยอร์คล่าสุด(2 ต.ค.)ดัชนีดาวโจนส์ปิดที่ 16,801.05 จุด ลดลง 3.66 จุด(-0.02%),ดัชนี NASDAQ ปิดที่ 4,430.19 จุด เพิ่มขึ้น 8.10 จุด(+0.18%), ดัชนี S&P500 ปิดที่ 1,946.17 จุด เพิ่มขึ้น 0.01 จุด(+0.00%)
- ตลาดหุ้นเอเชียเปิดเช้านี้ ดัชนี NIKKEI 225 ตลาดหุ้นญี่ปุ่น ลดลง 45.51 จุด หรือ -0.29% ดัชนี HSI ตลาดหุ้นฮ่องกง ร่วงลง 241.39 จุด หรือ -1.05% ดัชนี FBMKLCI ตลาดหุ้นมาเลเซีย เพิ่มขึ้น 0.38 จุด หรือ +0.02% ดัชนี FTSE STI ตลาดหุ้นสิงคโปร์ ลดลง 2.21 จุด หรือ -0.07%, ดัชนี PSE Composite ตลาดหุ้นฟิลิปปินส์ ลดลง 3.52 จุด หรือ -0.05% ดัชนี TAIEX ตลาดหุ้นไต้หวัน เพิ่มขึ้น 35.11 จุด หรือ +0.39% ดัชนี S&P/ASX 200 ตลาดหุ้นออสเตรเลียไม่เปลี่ยนแปลง
ส่วนตลาดหุ้นจีน ปิดทำการวันนี้(3 ต.ค.)เนื่องในวันหยุดเฉลิมฉลองวันชาติ
- ตลาดหุ้นไทยปิดล่าสุด(2 ต.ค.) 1,569.73 จุด ลดลง 17.62 จุด(-1.11%)
- นักลงทุนต่างชาติขายสุทธิ 629.08 ล้านบาท เมื่อวันที่ 2 ต.ค.57
- ราคาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือน พ.ย.ในตลาดไนเม็กซ์ปิดทำการล่าสุด(2 ต.ค.)ที่ 91.01 ดอลลาร์/บาร์เรล เพิ่มขึ้น 28 เซนต์
- ค่าการกลั่นอ้างอิงตลาดสิงคโปร์ปิดล่าสุด(2 ต.ค.)ที่ 6.82 เหรียญสหรัฐฯ/บาร์เรล
- เงินบาทเปิด 32.44/46 อ่อนค่าตามภูมิภาค รอดูตัวเลขจ้างงานนอกภาคเกษตรสหรัฐฯ
- สถานการณ์ในฮ่องกงตึงเครียดหนักหลังทางการเรียกร้องผู้ประท้วงยุติการปิดกั้นศูนย์กลางนครทันที พร้อมกับระบุว่าหากพยายามเข้ายึดอาคารของทางราชการตามที่ข่มขู่ไว้ก็จะเผชิญการตอบโต้อย่างเด็ดเดี่ยวและหนักแน่น นอกจากนี้ ยังมีคลิปเผยให้เห็นตำรวจเสริม กำลังรวมทั้งขนลังที่น่าจะเป็นกระสุนยางและแก๊สน้ำตาเข้าไปในศูนย์ราชการ ขณะเดียวกันหนังสือพิมพ์ที่เป็นกระบอกเสียงของปักกิ่งประกาศสนับสนุนและแสดงความเชื่อมั่นว่าผู้ว่าการและตำรวจฮ่องกงสามารถจัดการกับการประท้วง"ผิดกฎหมายได้"
- รัฐบาลถกร่วม คสช.อังคารหน้าประเมินสถานการณ์ จ่อเลิกกฎอัยการศึก"พื้นที่ท่องเที่ยว"หลัง"ประยุทธ์"สั่งทุกฝ่ายประเมินผลดี-ผลเสีย "ปรีดิยาธร"เผยยังมีมาตรการเพิ่มในปีหน้า มั่นใจมาตรการ 3.6 แสนล้าน กระตุ้นเศรษฐกิจได้"ประสาร"ชี้ส่งผลปีนี้ไม่มาก แต่เกิดแรงส่งในปีหน้า
- นางเกศรา มัญชุศรี กรรมการและผู้จัดการ ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) เปิดเผยว่า ตลท.ร่วมกับพันธมิตรเชิญผู้นำกระทรวงสำคัญด้านเศรษฐกิจพร้อมผู้นำด้านตลาดเงินตลาดทุน เดินสายให้ข้อมูล (โรดโชว์) แก่ผู้ลงทุนสถาบันทั้งในประเทศและต่างประเทศ เพื่อให้เกิดความมั่นใจในการลงทุน ภายหลังจากรัฐบาลมีแผนขับเคลื่อนเศรษฐกิจไทย
- ศูนย์พยากรณ์เศรษฐกิจและธุรกิจมหาวิทยาลัยหอการค้าไทย เปิดเผยผลสำรวจดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภค ประจำเดือน ก.ย. 2557 พบว่า ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคในเดือน ก.ย.อยู่ที่ระดับ 79.2 ปรับตัวลดลงเป็นครั้งแรกในรอบ 5 เดือน ตั้งแต่เดือน พ.ค. และลดลงจากเดือน ส.ค.อยู่ที่ระดับ 80.1
- ผู้ว่าฯแบงก์ชาติเผยเศรษฐกิจไทยพ้นจุดต่ำสุด เชื่อรัฐบาลอัดเม็ดเงินใหม่ใส่ระบบช่วยสร้างแรงส่งที่ดีให้เศรษฐกิจปี 58 ชี้ไม่ใช่โครงการประชานิยม เพราะเม็ดเงินจำกัดและชัดเจนว่าช่วยเหลือคนเดือดร้อน ระบุ ธปท.ไม่ออกซอฟต์โลนช่วยเอสเอ็มอี เหตุช่วยลดดอกเบี้ย 3 ครั้งแล้ว ห่วงดอกเบี้ยต่ำนานเกินกระทบการออม ส่วนการให้ ธปท.เข้าไปกำกับดูแลแบงก์รัฐ อาจจะต้องแก้กฎหมาย
- รมว.คมนาคมเผยภายหลังนายคีรี กาญจนพาสน์ ประธานบริหาร บมจ.ระบบขนส่งมวลชนกรุงเทพหรือบีทีเอสซี ผู้บริหารรถไฟฟ้าบีทีเอสเข้าพบว่าบีทีเอสสนใจเข้าร่วมบริหารเดินรถไฟฟ้าสายสีเขียวส่วนต่อขยายช่วงแบริ่ง-สมุทรปราการ และหมอชิต-สะพานใหม่-คูคต ซึ่งได้ขอให้ไปหารือรายละเอียดกับรักษาการผู้ว่าการการรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย(รฟม.)ก่อน รวมทั้งเสนอขอเข้าร่วมโครงการก่อสร้างรถไฟทางคู่รางมาตรฐานขนาด 1.435 เมตรซึ่งขับเคลื่อนด้วยระบบไฟฟ้า
*หุ้นเด่นวันนี้
- LPN(ฟินันเซีย ไซรัส)"ซื้อ"เป้าปี 2015 ที่ 25 บาท คาดกำไรปกติ 3Q14 ที่ 523 ล้านบาท +42% Q-Q, -15% Y-Y ตามทิศทางของรายได้โอน ยอด Presales 3Q14 ที่ลดลง 58% Q-Q เหลือ 2.9 พันล้านบาทเป็นเพราะไม่ได้เปิดขายโครงการใหม่ ทำให้ยอดใน 9M14 ทำได้ 65% ของเป้าทั้งปีที่ 2 หมื่นล้านบาท แต่มีโอกาสที่จะทำได้ตามหรือใกล้เคียงเป้า เพราะมีแผนเปิดขายอีก 7 โครงการ มูลค่า 9.2 พันล้านบาทในช่วงที่เหลือของปี และมีโครงการเดิมที่อยู่ระหว่างขายอีก 3.9 พันล้านบาท ส่วน Backlog สิ้น 3Q14 อยู่ที่ 2.14 หมื่นล้านบาท รองรับรายได้ปี 2014-15 ถึง 83-97%
- KTB(เมย์แบงก์ กิมเอ็ง)"ทยอยสะสม"เป้า 27 บาท คงมุมมองเชิงบวกต่อหุ้น KTB และเชื่อว่าได้ประโยชน์โดยตรงจากแผนกระตุ้นเศรษฐกิจของรัฐบาลที่ประกาศในวันพุธที่ผ่านมา โดยเน้นเบิกจ่ายงบประมาณคงค้างของปี 2557 และเน้นการใช้จ่ายงบปี 2558 ให้เป็นไปตามแผนงาน เนื่องจาก KTB มีสัดส่วนสินเชื่อโครงการภาครัฐฯ สูงที่สุดในกลุ่มธนาคาร จึงคาดว่าจะส่งผลให้สินเชื่อใน 4Q57 ขยายตัวเด่น จากการปล่อยกู้ให้กับโครงการลงทุนขนาดใหญ่ของภาครัฐ ส่วนทิศทางกำไรสุทธิ 3Q57 คาดขยายตัว qoq จากการตั้งสำรองที่ลดลง และสินเชื่อเติบโต qoq
- SAWAD,GCAP,TK(เคทีบี)"เก็งกำไร"แม้กังวลต่อมาตรการแจกเงินช่วยชาวนาจำนวน 40,000 ล้านบาท จะไม่ตกถึงมือชาวนาอย่างแท้จริง (เพราะบัญชีชาวนาที่ ธกส. มีอยู่อาจไม่ตรงความเป็นจริง) แต่ก็คาดว่าเม็ดเงินที่ลงสู่ระบบเศรษฐกิจของชาวนาไทย จะส่งผลบวกต่อธุรกิจที่เกี่ยวเนื่องกับสินเชื่อเช่าซื้อกับเกษตรกร ซึ่งให้หุ้นทั้งสามเป็นตัวเลือก Theme ดังกล่าว โดยให้ราคาเป้าหมายเท่ากับ 25, 6 และ 11(ต้าน)บาท ตามลำดับ
ตลาดหุ้นเอเชียเปิดลบ นักลงทุนจับตาสถานการณ์ฮ่องกง,ตัวเลขจ้างงานสหรัฐ
ตลาดหุ้นเอเชียเปิดตลาดปรับตัวลงเป็นส่วนใหญ่ ขณะที่นักลงทุนจับตาดูสถานการณ์ในฮ่องกงอย่างใกล้ชิด ส่วนตลาดหุ้นฮ่องกงเริ่มเปิดทำการซื้อขายในวันนี้ หลังจากที่ปิดทำการเป็นเวลา 2 วันเนื่องในการฉลองวันชาติของจีน
ดัชนี MSCI Asia Pacific Index (MXAP) ปรับตัวลง 0.1% แตะที่ 138.35 จุด เมื่อเวลา 09.00 น.ตามเวลาฮ่องกง
ดัชนี NIKKEI 225 ตลาดหุ้นญี่ปุ่นเปิดที่ 15,616.48 จุด ลดลง 45.51 จุด หรือ -0.29% ดัชนี HSI ตลาดหุ้นฮ่องกงเปิดที่ 22,691.59 จุด ร่วงลง 241.39 จุด หรือ -1.05% ดัชนี FBMKLCI ตลาดหุ้นมาเลเซียเปิดที่ 1,838.06 จุด เพิ่มขึ้น 0.38 จุด หรือ +0.02% ดัชนี FTSE STI ตลาดหุ้นสิงคโปร์เปิดที่ 3,226.50 จุด ลดลง 2.21 จุด หรือ -0.07%
ดัชนี PSE Composite ตลาดหุ้นฟิลิปปินส์เปิดที่ 7,192.74 จุด ลดลง 3.52 จุด หรือ -0.05% ดัชนี TAIEX ตลาดหุ้นไต้หวันเปิดที่ 9,010.30 จุด เพิ่มขึ้น 35.11 จุด หรือ +0.39% ดัชนี S&P/ASX 200 ตลาดหุ้นออสเตรเลียเปิดที่ 5,297.70 จุด ไม่เปลี่ยนแปลง
นักลงทุนยังคงติดตามสถานการณ์ในฮ่องกงอย่างใกล้ชิด โดยความคืบหน้าล่าสุดของการประท้วงในฮ่องกงนั้น นายเหลียง ชุน-หยิง ผู้ว่าการเขตปกครองพิเศษฮ่องกงประกาศปฏิเสธการลาออกจากตำแหน่ง และแต่งตั้งนางแคร์รี แลม หัวหน้าเลขาธิการรัฐบาลเป็นตัวแทนเจรจากับนักศึกษาที่เข้าร่วมการเคลื่อนไหวในกลุ่ม Occupy Central
นอกจากนี้ นักลงทุนจับตาดูกระทรวงแรงงานสหรัฐจะเปิดเผยตัวเลขจ้างงานนอกภาคการเกษตรเดือนก.ย.ในวันศุกร์ ซึ่งนักวิเคราะห์ส่วนใหญ่คาดการณ์ว่า ตัวเลขจ้างงานจะปรับตัวขึ้น 215,000 ตำแหน่งในเดือนก.ย. หลังจากเพิ่มขึ้นเพียง 142,000 ตำแหน่งในเดือนส.ค.
ส่วนเมื่อช่วงค่ำวานนี้ตามเวลาไทย กระทรวงแรงงานสหรัฐเปิดเผยว่า จำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานในสัปดาห์ซึ่งสิ้นสุดวันที่ 27 ก.ย. ลดลง 8,000 ราย สู่ระดับ 287,000 ราย สวนทางกับนักวิเคราะห์ส่วนใหญ่ซึ่งคาดการณ์ว่าจะเพิ่มขึ้นแตะระดับ 297,000 ราย
ภาวะตลาดหุ้นลอนดอน : ฟุตซี่ปิดร่วง 111.13 จุด วิตกมาตรการอีบีซีไม่หนุนศก.
ตลาดหุ้นลอนดอนปิดร่วงลงเมื่อคืนนี้ (2 ต.ค.) เนื่องจากนักลงทุนคาดว่าโครงการซื้อพันธบัตรของธนาคารกลางยุโรป (อีซีบี) อาจจะไม่เพียงพอในการพลิกฟื้นเศรษฐกิจยุโรปให้กลับมาขยายตัว
ดัชนี FTSE 100 ลดลง 111.13 จุด หรือ 1.69% ปิดที่ 6,446.39 จุด
ตลาดหุ้นลอนดอนปรับตัวลดลงหลังจากนายมาริโอ ดรากิ ประธานอีซีบีได้ออกแถลงการณ์ภายหลังการประชุมเมื่อวานนี้ว่า อีซีบีจะเริ่มซื้อตราสารหนี้ที่ค้ำประกันด้วยสินเชื่อคุณภาพ (covered bonds) จากธนาคารพาณิชย์ในช่วงกลางเดือนต.ค. และจะซื้อตราสารหนี้ที่มีหลักทรัพย์ค้ำประกัน ( ABS- Aasset-backed Aecurities) ในช่วงไตรมาส 4 ปีนี้ ซึ่งโครงการซื้อสินทรัพย์จะใช้เวลาในการดำเนินการอย่างน้อย 2 ปี และมีเป้าหมายที่จะกระตุ้นการฟื้นตัวของเศรษฐกิจในยูโรโซน
อย่างไรก็ตาม นักลงทุนมองว่ามาตรการดังกล่าวอาจจะไม่เพียงพอที่จะหนุนเศรษฐกิจและอัตราเงินเฟ้อของอีซีบีให้ฟื้นตัวขึ้นได้ หลังจากมีข้อมูลบ่งชี้ว่าประเทศยูโรโซนกำลังเผชิญกับภาวะเงินฝืด และภาคการผลิตก็ชะลอตัวลงอย่างมาก
หุ้นแอสทีด กรุ๊ป ลดลง 4.6% หลังจากบริษัทยูไนเต็ด เรนทัลส์ อิงค์ ซึ่งเป็นคู่แข่งในสหรัฐเปิดเผยผลประกอบการที่ขาดทุนสูงที่สุดในบรรดาหุ้นที่ทำการซื้อขายในดัชนี S&P 500หุ้นซาร์ร่วงลด 37% หลังจากบริษัทปรับลดคาดการณ์ยอดขายสำหรับปี 2557 ลงเป็นครั้งที่สองและคาดว่าจะมีรายได้ลดลงในปีหน้า
ภาวะตลาดหุ้นยุโรป: หุ้นยุโรปปิดร่วง เหตุวิตกมาตรการอีซีบีไม่ช่วยหนุนศก.
ตลาดหุ้นยุโรปปิดร่วงลงอย่างหนักเมื่อคืนนี้ (2 ต.ค.) เนื่องจากนักลงทุนกังวลว่าโครงการซื้อสินทรัพย์ที่ธนาคารกลางยุโรป (อีซีบี) เปิดเผยในการประชุมเมื่อวานนี้ อาจจะไม่เพียงพอที่จะพลิกฟื้นเศรษฐกิจและหนุนอัตราเงินเฟ้อของยูโรโซนให้เพิ่มขึ้นสู่ระดับเป้าหมายของอีซีบีได้
ดัชนี Stoxx Europe 600 ร่วงลง 2.4% ปิดที่ 332.05 จุด
ดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมันปิดที่ 9,195.68 จุด ร่วงลง 186.35 จุด หรือ -1.99% ดัชนี CAC-40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศสปิดที่ 4,242.67 จุด ดิ่งลง 122.60 จุด หรือ -2.81% ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 6,446.39 จุด ร่วงลง 111.13 จุด หรือ -1.69%
นายมาริโอ ดรากิ ประธานอีซีบีได้ออกแถลงการณ์ภายหลังการประชุมเมื่อวานนี้ว่า อีซีบีจะเริ่มซื้อตราสารหนี้ที่ค้ำประกันด้วยสินเชื่อคุณภาพ (covered bonds) จากธนาคารพาณิชย์ในช่วงกลางเดือนต.ค. และจะซื้อตราสารหนี้ที่มีหลักทรัพย์ค้ำประกัน ( ABS- Aasset-backed Aecurities) ในช่วงไตรมาส 4 ปีนี้ ซึ่งโครงการซื้อสินทรัพย์จะใช้เวลาในการดำเนินการอย่างน้อย 2 ปี และมีเป้าหมายที่จะกระตุ้นการฟื้นตัวของเศรษฐกิจในยูโรโซน
อย่างไรก็ตาม นักลงทุนมองว่ามาตรการดังกล่าวอาจจะไม่เพียงพอที่จะหนุนเศรษฐกิจและอัตราเงินเฟ้อของอีซีบีให้ฟื้นตัวขึ้นได้ หลังจากมีข้อมูลบ่งชี้ว่าประเทศยูโรโซนกำลังเผชิญกับภาวะเงินฝืด และภาคการผลิตก็ชะลอตัวลงอย่างมาก
หุ้นกลุ่มพลังงานร่วงลงตามราคาน้ำมันดิบในตลาดโลก รวมถึงหุ้นเอเคอร์ โซลูชั่นส์ ซึ่งเป็นบริษัทน้ำมันของนอร์เวย์ที่ดิ่งลงอย่างหนักถึง 7.6%
ส่วนหุ้นกลุ่มธนาคารปรับตัวลงเช่นกัน โดยหุ้นบังโค ป๊อปปูเลร์ ร่วงลง 6.2% หุ้นยูนิเครดิต เอสพีเอ ปรับลง 4.8% และหุ้นบังโค ป๊อปปูเลร์ เอสพานอล ดิ่งลง 5.9%
ภาวะตลาดหุ้นนิวยอร์ก : ดาวโจนส์ปิดลบ 3.66 จุด ตลาดจับตาตัวเลขจ้างงานสหรัฐ
ดัชนี ดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดขยับลงเมื่อคืนนี้ (2 ต.ค.) ท่ามกลางบรรยากาศการซื้อขายที่เป็นไปอย่างผันผวน เนื่องจากนักลงทุนระมัดระวังการซื้อขายก่อนที่สหรัฐจะเปิดเผยตัวเลขจ้างงานนอกภาคการเกษตรในวันศุกร์
ดัชนี เฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 16,801.05 จุด ลดลง 3.66 จุด หรือ -0.02% ดัชนี NASDAQ ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดที่ 4,430.19 จุด เพิ่มขึ้น 8.10 จุด หรือ +0.18% ดัชนี S&P500 ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดที่ 1,946.17 จุด เพิ่มขึ้น 0.01 จุด หรือ +0.00%
ภาวะการซื้อขายในตลาดหุ้นนิวยอร์กเป็นไปอย่างผันผวน เนื่องจากนักลงทุนระมัดระวังการซื้อขายก่อนที่กระทรวงแรงงานสหรัฐจะเปิดเผยตัวเลขจ้างงานนอกภาคการเกษตรเดือนก.ย.ในวันศุกร์ ซึ่งนักวิเคราะห์ส่วนใหญ่คาดการณ์ว่า ตัวเลขจ้างงานจะปรับตัวขึ้น 215,000 ตำแหน่งในเดือนก.ย. หลังจากเพิ่มขึ้นเพียง 142,000 ตำแหน่งในเดือนส.ค.
ตลาดหุ้นนิวยอร์กได้รับแรงกดดันจากการร่วงลงอย่างหนักของตลาดหุ้นยุโรป เนื่องจากนักลงทุนกังวลว่า โครงการซื้อพันธบัตรของธนาคารกลางยุโรป (อีซีบี) อาจจะไม่แข็งแกร่งมากพอที่จะกระตุ้นเศรษฐกิจและหนุนอัตราเงินเฟ้อให้เพิ่มขึ้นสู่ระดับเป้าหมายของอีซีบีได้
ทั้งนี้ นายมาริโอ ดรากิ ประธานอีซีบีได้ออกแถลงการณ์ภายหลังการประชุมเมื่อวานนี้ว่า อีซีบีจะเริ่มซื้อตราสารหนี้ที่ค้ำประกันด้วยสินเชื่อคุณภาพ (covered bonds) จากธนาคารพาณิชย์ในช่วงกลางเดือนต.ค. และจะซื้อตราสารหนี้ที่มีหลักทรัพย์ค้ำประกัน ( ABS- Aasset-backed Aecurities) ในช่วงไตรมาส 4 ปีนี้ โดยมีเป้าหมายที่จะกระตุ้นการฟื้นตัวของเศรษฐกิจในยูโรโซน
นอกจากนี้ ตลาดยังได้รับปัจจัยลบจากข้อมูลที่บ่งชี้ถึงความอ่อนแอของภาคการผลิตสหรัฐ โดยเมื่อช่วงค่ำวานนี้ตามเวลาไทย กระทรวงพาณิชย์สหรัฐเปิดเผยว่า ยอดสั่งซื้อภาคโรงงานเดือนส.ค.หดตัวลง 10.1% ซึ่งเป็นการปรับตัวลงมากที่สุดนับตั้งแต่ปี 2535 และมากกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ว่าจะลดลง 9.3%
อย่างไรก็ตาม ดัชนีดาวโจนส์ขยับลงเพียงเล็กน้อย ในขณะที่ดัชนี NASDAQ และ S&P 500 ดีดตัวขึ้นปิดในแดนบวก เนื่องจากนักลงทุนขานรับข่าวที่ว่า นายวอร์เรน บัฟเฟตต์ มหาเศรษฐีนักลงทุนชื่อดังได้เข้ามาช้อนซื้อหุ้นบางกลุ่มในช่วงที่ตลาดร่วงลงอย่างหนักเมื่อวันพุธที่ผ่านมา พร้อมกับส่งสัญญาณว่าจะซื้อหุ้นเพิ่มขึ้นอีก
นอกจากนี้ ตลาดยังได้รับแรงหนุนในระหว่างวันหลังจากสหรัฐเปิดเผยว่า จำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานในสัปดาห์ซึ่งสิ้นสุดวันที่ 27 ก.ย. ลดลง 8,000 ราย สู่ระดับ 287,000 ราย สวนทางกับนักวิเคราะห์ส่วนใหญ่ซึ่งคาดการณ์ว่าจำนวนจะเพิ่มขึ้นแตะ 297,000 ราย
อินโฟเควสท์