- Details
- Category: หุ้นเด่นวันนี้
- Published: Wednesday, 18 September 2019 10:40
- Hits: 3211
ภาวะตลาดหุ้นไทย: แนวโน้มดัชนีเช้านี้แกว่งไซด์เวย์ช่วงรอผลประชุมเฟด, เล็งกลุ่มพลังงาน-ปิโตรฯกดดันหลังราคาน้ำมันร่วงแรง/จับตาการเมืองไทย
นายกิติชาญ ศิริสุขอาชา ผู้อำนวยการอาวุโสฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์รายย่อย บล.ซีจีเอส-ซีไอเอ็มบี (ประเทศไทย) กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยเช้านี้คาดว่าจะแกว่งไซด์เวย์ในช่วงรอผลประชุมธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) ที่มีขึ้นในวันที่ 17-18 ก.ย.นี้ ซึ่งล่าสุดความน่าจะเป็นในการปรับลดอัตราดอกเบี้ยของเฟดได้ลดลงหลังจากราคาน้ำมันพุ่งขึ้น และอาจจะทำให้เงินเฟ้อสหรัฐฯปรับตัวขึ้นได้ อีกทั้งตัวเลขยอดค้าปลีกของสหรัฐฯก็ออกมาดี ดังนั้น เฟดอาจจะไม่จำเป็นต้องปรับลดอัตราดอกเบี้ยในรอบนี้ก็ได้ แต่ตอนนี้ก็ยังให้โอกาสในการปรับลดอัตราดอกเบี้ยไว้ 65%
นอกจากนี้ ราคาน้ำมันที่เมื่อวานนี้ได้ปรับตัวลง 5.7% หลังจากซาอุดีอาระเบียได้ออกมาบอกว่าสามารถเดินเครื่องเต็มกำลังการผลิตได้สิ้นเดือนนี้ ซึ่งทำให้อาจจะไปกดดันหุ้นในกลุ่มพลังงาน และกลุ่มปิโตรเคมี ให้มีแรงขายออกมาในวันนี้ และไปกดดันดัชนีฯให้ไปไหนได้ไม่ไกล
ส่วนบ้านเราวันนี้ให้ติดตามศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยคุณสมบัติของพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี กรณีแจ้าหน้าที่รัฐเป็นแคนดิเดทนายกรัฐมนตรี ซึ่งทำให้ตลาดฯอาจผันผวนได้ในระหว่างเทรด ด้านตลาดหุ้นในภูมิภาคเอเชียเช้านี้แกว่งทั้งในแดนบวก-ลบเล็กน้อยราว 0.2-0.4%
พร้อมให้แนวรับ 1,660-1,650 จุด ส่วนแนวต้าน 1,670-1,674 จุด
ประเด็นพิจารณาการลงทุน
- ตลาดหุ้นนิวยอร์กล่าสุด (17 ก.ย.) ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 27,110.80 จุด เพิ่มขึ้น 33.98 จุด (+0.13%), ดัชนี S&P500 ปิดที่ 3,005.70 จุด เพิ่มขึ้น 7.74 จุด (+0.26%), ดัชนี Nasdaq ปิดที่ 8,186.02 จุด เพิ่มขึ้น 32.47 จุด (+0.40%)
- ตลาดหุ้นเอเชียเปิดตลาดวันนี้ ดัชนี NIKKEI 225 ตลาดหุ้นญี่ปุ่น เพิ่มขึ้น 13.33 จุด, ดัชนี SSE Composite ตลาดหุ้นจีน เพิ่มขึ้น 5.96 จุด, ดัชนี HSI ตลาดหุ้นฮ่องกง เพิ่มขึ้น 48.19 จุด, ดัชนี TAIEX ตลาดหุ้นไต้หวัน เพิ่มขึ้น 12.92 จุด, ดัชนี KOSPI ตลาดหุ้นเกาหลีใต้ เพิ่มขึ้น 2.09 จุด, ดัชนี FTSE STI ตลาดหุ้นสิงคโปร์ เพิ่มขึ้น 4.34 จุด, ดัชนี FBMKLCI ตลาดหุ้นมาเลเซีย ลดลง 4.73 จุด,ดัชนี PSE Composite ตลาดหุ้นฟิลิปปินส์ เพิ่มขึ้น 0.46 จุด
- ตลาดหุ้นไทยปิดล่าสุด (17 ก.ย.62) 1,663.93 จุด เพิ่มขึ้น 1.00 จุด (+0.06%)
- นักลงทุนต่างชาติขายสุทธิ 895.81 ล้านบาท เมื่อวันที่ 17 ก.ย.2562
- ราคาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือน ต.ค.ในตลาดไนเม็กซ์ปิดทำการล่าสุด (17 ก.ย.62) ปิดที่ 59.34 ดอลลาร์/บาร์เรล ร่วงลง 3.56 ดอลลาร์ หรือ 5.7%
- ค่าการกลั่นอ้างอิงตลาดสิงคโปร์ปิดล่าสุด (17 ก.ย.) อยู่ที่ 11.40 ดอลลาร์/บาร์เรล
- เงินบาทเปิด 30.52/56 แนวโน้มแกว่งแคบ รอผลประชุมเฟด มองกรอบวันนี้ 30.45-30.60
- กบง.ลดนำเงินเข้ากองทุนน้ำมันฯ มีผลวันนี้ เบนซิน 1 บาท ดีเซล 60 สต.รับมือโจมตีแหล่งน้ำมันซาอุฯ หวังตรึงราคาน้ำมันลดผลกระทบประชาชนอย่างน้อย 3 เดือน ส่งผลเงินเข้ากองทุนลดเดือนละ 813 ล้านบาท ขณะที่ 3 ชาติเอเชีย ใช้น้ำมันสำรองเชิงยุทธศาสตร์รับมือ น้ำมันดิบไม่เพียงพอ
- ธปท. เผยตั้งแต่ต้นปี 62 ใช้เงินกว่า 3 แสนล้านบาท แทรกแซงตลาดเงินไม่ให้ค่าเงินบาทแข็งเร็วเกินไป ขณะที่คลังขยายมาตรการ "ชิม ช็อป ใช้" มีร้านค้าใหม่ร่วมกว่า 5.5 หมื่นเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจ
- "คลัง" ตีปี๊บมาตรการชิม ช็อป ใช้ สุดฤทธิ์ปลื้มร้านค้าเก่า-ใหม่แห่ร่วมโครงการทะลักแตะ 1.35 แสนร้านค้า ดีเดย์ 27 ก.ย.คาดเงินสะพัดระบบเศรษฐกิจ 1 แสนล้านบาท "อุตตม" ยันยังไม่จำเป็นต้องออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจเพิ่มเติม
- ประธานสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) เปิดเผยว่า ดัชนีความเชื่อมั่นภาคอุตสาหกรรม ในเดือน ส.ค.62 อยู่ที่ระดับ 92.8 ปรับตัวลดลงจากระดับ 93.5 ในเดือน ก.ค.62 และต่ำสุดในรอบ 10 เดือนนับตั้งแต่เดือน พ.ย.61 โดยเป็นการปรับตัวลดลงจากยอดคำสั่งซื้อโดยรวม ยอดขายโดยรวม ปริมาณการผลิต ต้นทุนประกอบการ และผลประกอบการ
- ส.อ.ท. เปิดเผยว่า การผลิตรถยนต์เดือน ม.ค.-ส.ค.62 มีจำนวน 1,403,153 คัน ลดลงจากช่วงเดียวกันของปีที่ผ่านมาร้อยละ 1.25 ทั้งนี้ เดือนส.ค.62 ผลิตเพื่อส่งออก 83,340 คัน และผลิตเพื่อจำหน่ายในประเทศ 83,021 คัน ส่วนรถจักรยานยนต์ ผลิตได้ 198,803 คัน ลดลงจากช่วงเดียวกันปีที่ผ่านมาร้อยละ 4.51
- นายวิชัย วิรัตกพันธ์ ผู้ตรวจการธนาคาร และรักษาการผู้อำนวยการศูนย์ข้อมูลอสังหาริมทรัพย์ ธนาคารอาคารสงเคราะห์ (ธอส.) เปิดเผยในงานสัมมนาวิชาการในวาระครบ 15 ปีของการจัดตั้งศูนย์ข้อมูลอสังหาริมทรัพย์ ว่า ภาพรวมการซื้อขายอสังหาริมทรัพย์ทั้งบ้านเดี่ยว คอนโดมิเนียม ทาวน์เฮาส์ ในปีนี้คาดติดลบ 7% ลดจากปีก่อน 363,000 หน่วย เหลือ 335,000 หน่วย มีมูลค่าการซื้อขายติดลบ 2.7% หรือจากปีก่อน 839,000 ล้านบาท เหลือ 817,000 ล้านบาท หายไป 22,000 ล้านบาท
*หุ้นเด่นวันนี้
- GFPT (กรุงศรี) "ซื้อ"เป้า 21 บาท ได้ผลบวกจากข่าวพบการแพร่ระบาดของโรคอหิวาต์หมู (ASF) ในจังหวัดเชียงราย คาดประชาชนหันไปบริโภคเนื้อไก่เพื่อเป็นการทดแทน โดย GFPT มีสัดส่วนรายได้จากไก่และผลิตภัณฑ์ที่เกี่ยวเนื่องคิดเป็น 80% ของรายได้รวม ล่าสุดราคาขายไก่ในประเทศเพิ่มขึ้นสู่ระดับ 37 บาทต่อกก.เพิ่มขึ้น 4% จาก Q2/62 และเพิ่มขึ้น 10-15% yoy
- CHG (ฟินันเซีย ไซรัส) "ซื้อ"เป้า 2.70 บาท กำไรปกติ H1/62 คิดเป็น 48% ของประมาณการทั้งปี แนวโน้มกำไรในครึ่งปีหลังคาดโตโดดเด่น +17% H-H, +40% Y-Y จากฐานต่ำปีก่อนที่เพิ่งเปิดรพ.ใหม่ ต้องรับรู้ค่าเสื่อมราคาและค่าใช้จ่ายอื่น ขณะที่ปัจจุบันมีพัฒนาการดีขึ้นต่อเนื่อง พร้อมคาดกำไรปกติทั้งปี 2562 +8% Y-Y เป็น 684 ล้านบาท และโตเร่งตัวขึ้น +13% Y-Y เป็น 776 ล้านบาทปีหน้า (โตสูงกว่ากลุ่มที่ +11%) จากทั้งรพ.หลักเดิมที่เติบโต และรพ.ใหม่ๆที่มีจะเริ่มถึงจุดคุ้มทุนในปี 2563 เป็นต้นไป นอกจากนี้ มีลุ้นได้ปรับขึ้นค่าหัวประกันสังคม (คาดรู้ผลสิ้นปี) ซึ่งจะเป็น upside ต่อประมาณการ
--อินโฟเควสท์