WORLD7

smed PIONEER 720x100ใจฟู720x100pxgpf 720x100 66

SET23ภาวะตลาดหุ้นไทย: แนวโน้มดัชนีเช้านี้ลุ้นขึ้นตามตลาดภูมิภาค หลังคลายกังวลสงครามการค้า/จับตาผลประชุม ECB วันนี้
นายอภิชาติ ผู้บรรเจิดกุล ผู้อำนวยการสายงานวิเคราะห์เชิงกลยุทธ์ บล.ทิสโก้ กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยเช้านี้มีโอกาสที่จะปรับตัวขึ้นได้เช่นเดียวกับตลาดหุ้นในภูมิภาคเอเชียที่เช้านี้ต่างปรับตัวขึ้นกันทั่วหน้า หลังคลายกังวลประเด็นสงครามการค้าระหว่างสหรัฐฯ และจีน จากที่จีนได้ประกาศชะลอการเรียกเก็บภาษีนำเข้าสินค้าจากสหรัฐฯบางรายการ และล่าสุดประธานาธิบดีโดนัดล์ ทรัมป์แห่งสหรัฐ ประกาศเลื่อนการปรับขึ้นภาษีสินค้านำเข้าจากจีนวงเงิน 2.50 แสนล้านดอลลาร์ จากวันที่ 1 ต.ค. ไปเป็นวันที่ 15 ต.ค. ทำให้เป็นสัญญาณที่ดีต่อการเจรจาการค้าระหว่างสหรัฐฯ และจีน ในช่วงต้นเดือนตุลาคมนี้ และยังเป็น Sentiment บวกให้ตลาดฯด้วย

อย่างไรก็ดี ยังต้องรอดูผลการประชุมธนาคารกลางยุโรป (ECB) ในวันนี้ ซึ่งตลาดฯคาดว่าจะผ่อนคลายนโยบายการเงิน ด้วยการปรับลดอัตราดอกเบี้ย และอาจจะมีการทำมาตรการผ่อนคลายเชิงปริมาณ (QE) ด้วย ซึ่งต้องรอติดตามดู

พร้อมให้แนวรับ 1,660-1,665 จุด ส่วนแนวต้าน 1,680-1,690 จุด
ประเด็นพิจารณาการลงทุน
- ตลาดหุ้นนิวยอร์กล่าสุด (11 ก.ย.) ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 27,137.04 จุด เพิ่มขึ้น 227.61 จุด (+0.85%), ดัชนี S&P500 ปิดที่ 3,000.93 จุด เพิ่มขึ้น 21.54 จุด (+0.72%), ดัชนี Nasdaq ปิดที่ 8,169.68 จุด เพิ่มขึ้น 85.52 จุด (+1.06%)

- ตลาดหุ้นเอเชียเปิดตลาดวันนี้ ดัชนี NIKKEI 225 ตลาดหุ้นญี่ปุ่น เพิ่มขึ้น 163.33 จุด, ดัชนี SSE Composite ตลาดหุ้นจีน เพิ่มขึ้น 7.82 จุด, ดัชนี HSI ตลาดหุ้นฮ่องกง เพิ่มขึ้น 124.92 จุด, ดัชนี TAIEX ตลาดหุ้นไต้หวัน เพิ่มขึ้น 39.90 จุด, ดัชนี FTSE STI ตลาดหุ้นสิงคโปร์ เพิ่มขึ้น 9.62 จุด, ดัชนี FBMKLCI ตลาดหุ้นมาเลเซีย เพิ่มขึ้น 0.91 จุด

ส่วนตลาดหุ้นเกาหลีใต้ ปิดทำการวันนี้ เนื่องในวันขอบคุณพระเจ้า
- ตลาดหุ้นไทยปิดล่าสุด (11 ก.ย.62) 1,674.03 จุด เพิ่มขึ้น 8.10 จุด (+0.49%)


- นักลงทุนต่างชาติซื้อสุทธิ 1,443.24 ล้านบาท เมื่อวันที่ 11 ก.ย.2562
- ราคาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือน ต.ค.ในตลาดไนเม็กซ์ปิดทำการล่าสุด (11 ก.ย.62) ปิดที่ 55.75 ดอลลาร์/บาร์เรล ลดลง 1.65 ดอลลาร์ หรือ 2.9%

- ค่าการกลั่นอ้างอิงตลาดสิงคโปร์ปิดล่าสุด (11 ก.ย.) อยู่ที่ 6.36 ดอลลาร์/บาร์เรล
- เงินบาทเปิด 30.57 แข็งค่าจากเย็นวานนี้ หลังคลายกังวลสงครามการค้า มองกรอบวันนี้  30.55-30.65 ,เกาะติดประชุม ECB

- "สนธิรัตน์" ยืนยัน เดินหน้าเสรีนำเข้าแอลเอ็นจี เร่งปรับแผน ชู 2 เงื่อนไขหนุนเป็นศูนย์กลางก๊าซภูมิภาคไม่กระทบค่าไฟ กพช.อนุมัตินโยบายโรงไฟฟ้าชุมชน เปิดช่อง "กฟผ.-กฟภ.-เอกชน" ร่วมทุนชุมชน หนุนเศรษฐกิจฐานราก ไฟเขียวบี 10 ขึ้นไบโอดีเซลเกรดพื้นฐานเต็มรูปแบบ 1 ม.ค.63

- รฟท.ถกบอร์ดคัดเลือกเอกชนลงทุนไฮสปีดนัดสุดท้าย ไฟเขียวแผนส่งมอบพื้นที่ ชง "ซีพี" ตรวจสอบเอกสารอีกรอบ ส่งคำตอบวันลงนามใน 7 วัน มั่นใจเซ็นสัญญาก.ย.นี้ ระบุเอกชนรับผิดชอบทุบเสาโฮปเวลล์ ชี้รวมอยู่ในวงเงินอุดหนุนของรัฐแล้ว



- สภาธุรกิจตลาดทุน เผยดัชนีเชื่อมั่นนักลงทุนช่วง 3 เดือนข้างหน้า วูบหนักกว่า 21% เหตุกังวลสงครามการค้า-กำไรบจ.ชะลอตัว ด้านสมาคมนักวิเคราะห์ ระบุโบรกเกอร์เตรียมหั่นเป้าดัชนีหุ้นไทย หลังสงครามการค้ายืดเยื้อกดดันเศรษฐกิจ ส่วนดัชนีคาดการณ์ดอกเบี้ย ประเมิน กนง. จ่อปรับลด อีกรอบช่วงปลายปีนี้

- ศูนย์วิจัยเศรษฐกิจและธุรกิจ (อีไอซี) ธนาคารไทยพาณิชย์ เผยแนวโน้มเศรษฐกิจในช่วงที่เหลือของปีนี้ ยังมีความท้าทายและความเสี่ยงเศรษฐกิจที่อาจจะส่งผลกระทบต่ออัตราการขยายตัวเศรษฐกิจ (จีดีพี) ให้ต่ำกว่าที่คาดการณ์ไว้ได้ ปัจจุบันอีไอซีคาดการณ์จีดีพีที่ 3.0% จะมีการทบทวนโดยประเด็นหลักที่ต้องติดตาม ได้แก่ สงครามการค้าระหว่างสหรัฐ กับจีนที่ยังคงยืดเยื้อ กระทบต่อการส่งออกและต่อเนื่องถึงการผลิตในภาคอุตสาหกรรม และการลงทุนใหม่ รวมทั้งกระทบกับการจ้างงาน ซึ่งช่วงที่ผ่านมาเริ่มมีสัญญาณการจ้างงานติดลบ คาดว่าจะติดลบอีกต่อเนื่อง ด้านค่าเงินบาทยังแข็งค่าต่อเนื่องจากการเกินดุลบัญชีเดินสะพัด ทำให้แข็งค่ากว่าทุกสกุลเงินในภูมิภาค ตั้งแต่ต้นปี 2562 เงินบาทแข็งค่า 6% เทียบดอลลาร์สหรัฐ

*หุ้นเด่นวันนี้
- PTTGC (ฟินันเซีย ไซรัส) "ซื้อ"เป้า 64 บาท แม้ว่าสถานการณ์ส่วนต่างผลิตภัณฑ์โอเลฟินส์และอะโรเมติกส์ 3QTD จะยังไม่ดีขึ้น แต่ค่าการกลั่นที่สูงขึ้นช่วยบรรเทาผลกระทบได้เล็กน้อย แต่โรงกลั่นจะไม่ได้รับประโยชน์จาก IMO เต็มที่ใน Q4/62 เพราะมีปิดซ่อมบำรุง ต.ค.-พ.ย.

ถึงอย่างนั้นก็ตาม ราคาหุ้นที่ต่ำสุดในรอบ 3 ปีก็ทำให้ PBV เหลือเพียง 0.8 เท่า ขณะที่ Dividend yield น่าจะอยู่ที่ระดับ 4% ต่อปีได้ และหากสถานการณ์สงครามการค้าดีขึ้น ก็จะช่วยปิดความเสี่ยงขาลงของ Product spread ได้

- MINT (กรุงศรี) "ซื้อ"เป้า 47 บาท Top pick กลุ่มท่องเที่ยว ได้ประโยชน์โดยตรงจากจำนวนนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติที่เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง, ขาย NH Hotel ช่วยลดแรงกดดันจากการเพิ่มทุน และยังมีการกระจายความเสี่ยงดีสุดเมื่อเทียบกับผู้ประกอบการโรงแรมทั้งหมด (อาหาร 50%, โรงแรม 50% และ รายได้ในประเทศ 50%, ต่างประเทศ 50%)

--อินโฟเควสท์

apm

 

 

Facebook

5 ข่าวฮอตนิวส์!