WORLD7

smed PIONEER 720x100ใจฟู720x100pxgpf 720x100 66

โบรกฯ คาดพรุ่งนี้หุ้นไทยขยับกรอบแคบ หลัง P/E สูงเกินไป นลท.รอดูผลประชุม ECB แผนกระตุ้นศก.ของรัฐฯ แนะซื้อหุ้นกลุ่มรับเหมาฯ-วัสดุก่อสร้าง

   โบรกฯ คาดพรุ่งนี้หุ้นไทยขยับกรอบแคบ สลับเจอแรงขายทำกำไรเหตุ P/E สูงเกินไป ขณะที่นลท.รอดูผลการประชุม ECB - กับทิศทางการกระตุ้นศก.ของรัฐบาล พร้อมจับตาการเมืองในฮ่องกงประกอบลงทุน แนะหาจังหวะขายเพื่อถือเงินสด หรือซื้อหุ้นกลุ่มรับเหมาฯ-วัสดุก่อสร้าง ประเมินแนวรับ 1,578-1,570 จุด แนวต้าน 1,590 -1,600 จุด

   นายชัย จิรเสวีนุประพันธ์ ผู้จัดการฝ่ายกลยุทธ์การลงทุน บล.โนมูระพัฒนสิน เปิดเผยว่า ดัชนีหุ้นไทยปรับบวกได้เล็กน้อย หลังจากที่วานนี้ผันผวนในกรอบแคบ โดยในช่วงเช้าปรับบวกได้ค่อนข้างดี ทำจุดสูงสุดที่ระดับ 1,595 จุด ตอบรับการกระตุ้นเศรษฐกิจของรัฐบาลด้วยวงเงินอีกราว 3 แสนล้านบาท แต่อย่างไรก็ตาม ช่วงบ่ายมีจังหวะย่อตัวลง เคลื่อนไหวแดนบวกเพียงเล็กน้อย เนื่องจาก ด้วยสภาะตลาดหุ้นไทยมีความเปราะบางมากขึ้น เข้าใกล้แนวต้านสำคัญ 1,600 จุด จึงมีแรงขายทำกำไรออกมากดดัน อีกทั้ง นักลงทุนยังติดตามการประชุมธนาคารกลางยุโรป (ECB) ในวันที่ 2 ต.ค. นี้ ซึ่งต่างคาดหวังว่าจะเห็นมาตราการกระตุ้นเศรษฐกิจเพิ่มเติมด้วยการใช้ Public QE

   สำหรับพรุ่งนี้ คาดหุ้นไทยอาจจะย่อตัวเล็กน้อย เพื่อรอดูความชัดเจนของผลประชุมธนาคารกลางยุโรป(ECB) ซึ่งที่ผ่านมาแสดงท่าทีว่าจะมีการกระตุ้นเศรษฐกิจด้วยการใช้ Public QE เพิ่มเติมจากการซื้อ ABS และ Covered Bond เนื่องจากภาวะเศรษฐกิจยูโรโซนที่ยังค่อนข้างอ่อนแอ รวมถึงความกังวลเหตุการณ์ความรุนแรงของการประท้วงในฮ่องกง ว่าส่วนหนึ่งอาจจะส่งผลกระทบการลงทุนบ้างเล็กน้อย

   ด้านกลยุทธ์ แนะซื้อหุ้นที่คาดว่าจะได้รับผลประโยชน์จากการกระตุ้นเศรษฐกิจของรัฐบาล อาทิ กลุ่มรับเหมาก่อสร้าง และกลุ่มวัสดุก่อสร้าง โดยประเมินแนวรับ 1,578-1,575 จุด แนวต้าน 1,600 จุด

   ด้านนางภรณี ทองเย็น รองกรรมการผู้อำนวยการสายงานวิจัย บล.เอเซียพลัส เปิดเผยว่า ภาพรวมของดัชนีตลาดหุ้นไทยในวันนี้ผันผวนในกรอบจำกัด หลังจากที่ดัชนีฯปรับตัวขึ้นมาแรงเมื่อกลางเดือนที่แล้วด้วยค่า PE ปัจจุบันที่สูง ทำให้สัญญาณทางเทคนิคอยู่ในช่วงปรับฐานลงมาแรงเช่นกัน รวมถึงไม่มีประเด็นใหม่เข้ามาหนุนตลาดฯอย่างชัดเจน คาดว่าตลาดฯรับรู้ไปก่อนหน้าเกี่ยวกับการประกาศแผนกระตุ้นเศรษฐกิจของภาครัฐ ได้แก่ ภาคท่องเที่ยว,การลดต้นทุนทางการเกษตร , แนวทางกระตุ้นการลงทุนใน Infra Structure Fund เป็นต้น ถึงแม้ว่าจะเป็นการใช้มาตรการเร่งด่วนและเห็นภาพการฟื้นฟูเศรษฐกิจได้ในช่วงไตรมาสที่ 4 ของปีนี้ก็ตาม แต่ตลาดฯก็ยังรอความคืบหน้าใหม่ๆเพื่อกระตุ้นให้นักลงทุนเข้าเก็งกำไรได้มากกว่านี้

   สำหรับแนวโน้มของดัชนีตลาดหุ้นไทยในวันพรุ่งนี้คาดว่าจะเคลื่อนไหวในกรอบแคบ เพราะรอดูการคาดการณ์ของนักวิเคราะห์ที่ออกมาระบุถึงการแถลงมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของรัฐบาลว่าแผนดังกล่าวได้ตอบสนองไปกับราคาหุ้นแล้วหรือไม่ ประกอบกับปัจจัยต่างประเทศที่จะมีการประชุมธนาคารกลางยุโรป (ECB) ว่าจะออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจเพิ่มเติมหรือไม่ ซึ่งตลาดหุ้นไทยมองแนวโน้มเป็นเชิงบวกต่อผลการประชุมนี้อยู่แล้ว แต่ด้วยเพราะค่า PE ตลาดฯปัจจุบันที่สูงมาก จึงทำให้ดัชนีฯไม่สามารถปรับตัวเพิ่มขึ้นได้สูงมากและมีโอกาสผันผวนได้ ทั้งนี้นักลงทุนสามารถหาจังหวะเข้าลงทุนหุ้นที่ราคาปรับขึ้นน้อยกว่าตลาดฯ (Luggard Play) และหุ้นขนาดเล็กที่ผลประกอบการดี ,มี Upside สูงเพื่อป้องกันความเสี่ยงไปก่อน

   ด้านกลยุทธ์การลงทุนแนะนำให้ขาย และถือเงินสด 30-40% ทั้งนี้ประเมินแนวรับที่ 1,570 จุด และแนวต้านที่ 1,590 จุด

สำนักข่าวอีไฟแนนซ์ไทย

apm

 

 

Facebook

5 ข่าวฮอตนิวส์!