นายอภิชาติ ผู้บรรเจิดกุล ผู้อำนวยการสายงานวิเคราะห์เชิงกลยุทธ์ บล.ทิสโก้ กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยเช้านี้คาดว่าจะแกว่งไซด์เวย์แคบ คล้ายคลึงกับตลาดหุ้นในภูมิภาคเอเชียที่เช้านี้เคลื่อนไหวทั้งในแดนบวก-ลบคละกันราว 0.1-0.3% เนื่องจากอยู่ในช่วงรอดูถ้อยแถลงจากประธานธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) ในการประชุมเศรษฐกิจประจำปีของเฟด ที่จะมีขึ้นที่เมืองแจ็กสัน โฮล โดยจับตาดูว่าจะส่งสัญญาณการผ่อนคลายนโยบายการเงินต่อไปในอนาคตหรือไม่

 

นอกจากนี้ ตัวเลข PMI ภาคการผลิตของสหรัฐฯก็ลดลง และเข้าสู่ระดับหดตัวด้วย รวมไปถึงตลาดพันธบัตรสหรัฐเกิดภาวะ inverted yield curve อีกครั้งในระดับราคาปิด

 

พร้อมให้แนวรับ 1,620-1,625 จุด ส่วนแนวต้าน 1,640 จุด

ประเด็นพิจารณาการลงทุน

- ตลาดหุ้นนิวยอร์กล่าสุด (22 ส.ค.) ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 26,252.24 จุด เพิ่มขึ้น 49.51 จุด (+0.19%), ดัชนี S&P500 ปิดที่ 2,922.95 จุด ลดลง 1.48 จุด (-0.05%) และดัชนี Nasdaq ปิดที่ 7,991.39 จุด ลดลง 28.82 จุด (-0.36%)

 

- ตลาดหุ้นเอเชียเปิดตลาดวันนี้ ดัชนี NIKKEI 225 ตลาดหุ้นญี่ปุ่น ลดลง 48.03 จุด, ดัชนี SSE Composite ตลาดหุ้นจีน เพิ่มขึ้น 1.71 จุด, ดัชนี HSI ตลาดหุ้นฮ่องกง เพิ่มขึ้น 9.16 จุด, ดัชนี TAIEX ตลาดหุ้นไต้หวัน ลดลง 3.63 จุด, ดัชนี KOSPI ตลาดหุ้นเกาหลีใต้ ลดลง 8.59 จุด, ดัชนี FTSE STI ตลาดหุ้นสิงคโปร์ เพิ่มขึ้น 0.49 จุด, ดัชนี FBMKLCI ตลาดหุ้นมาเลเซีย ลดลง 6.70 จุด, ดัชนี PSE Composite ตลาดหุ้นฟิลิปปินส์ ลดลง 42.78 จุด

 

- ตลาดหุ้นไทยปิดล่าสุด (22 ส.ค.62) 1,633.56 จุด ลดลง 4.68 จุด (-0.29%)

- นักลงทุนต่างชาติขายสุทธิ 3,226.79 ล้านบาท เมื่อวันที่ 22 ส.ค.2562

- ราคาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือน ก.ย.ในตลาดไนเม็กซ์ปิดทำการล่าสุด (22 ส.ค.62) ปิดที่ 55.35 ดอลลาร์/บาร์เรล ลดลง 33 เซนต์ หรือ 0.6%

 

- ค่าการกลั่นอ้างอิงตลาดสิงคโปร์ปิดล่าสุด (22 ส.ค.) อยู่ที่ 4.31 ดอลลาร์/บาร์เรล

- เงินบาทเปิด 30.80 อ่อนค่าตามภูมิภาค ตลาดรอดูสัญญาณดอกเบี้ยจากถ้อยแถลงประธานเฟดคืนนี้

- "อุตตม" ยันรัฐบาลไม่จำเป็นต้องออกมาตรการกระตุ้นธุรกิจอสังหาฯ เชื่อยังเดินหน้าไปได้ ชี้ผู้ประกอบการสามารถปรับตัวรับกับเกณฑ์คุมสินเชื่อของแบงก์ชาติได้แล้ว ขณะที่มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของรัฐบาลที่ทุ่มเม็ดเงินกว่า 3 แสนล้านจะฟื้นบริโภคฐานรากสร้างความเชื่อมั่นส่งผลดีต่อภาคธุรกิจ

 

- "สมคิด" มองสงครามการค้าสหรัฐฯ-จีนเป็นโอกาสทอง มอบ "บีโอไอ" อัดแพกเกจดึงธุรกิจย้ายฐานลงทุนไทย ชง ครม.เศรษฐกิจ 30 ส.ค.นี้ พร้อมจัดทีมเฉพาะกิจเตรียมเจรจา แย้ม "ประธาน หัวเว่ย" บินมา พ.ย.พร้อมปักหมุดลงทุนเทคโนโลยี 5G ในไทย "บีไอไอ" เผยรายชื่อ 100 รายจ่อย้ายฐาน "ประยุทธ์" สั่งตรวจสอบ "คนรวย" ถือบัตรสวัสดิการ รับคลอดมาตรการกระตุ้น ศก.กระชาก "จีดีพี" ด้าน "อุตตม" มั่นใจเศรษฐกิจไทยโต 3% ตามเป้า

 

- ผู้อำนวยการสำนักนโยบายและแผน สำนักงานบริหารหนี้สาธารณะ (สบน.) เปิดเผยถึงสถานการณ์หนี้สาธารณะของประเทศ ว่า ณ สิ้นเดือน ก.ค. 2562 ไทยมีหนี้สาธารณะอยู่ที่ 41.45% ต่อจีดีพี หรือ 6.91 ล้านล้านบาท สูงขึ้นจากก่อนหน้าเล็กน้อย เนื่องจากมีการกู้ขาดดุลงบประมาณปี 2562 ซึ่งดำเนินการกู้เงินไปแล้ว 3.8 แสนล้านบาท จากงบขาดดุลทั้งสิ้น 4.5 แสนล้านบาท

 

- ประธานสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย(ส.อ.ท.)เปิดเผยว่า ดัชนีความเชื่อมั่นภาคอุตสาหกรรมเดือน ก.ค.62 ดัชนีฯ ปรับตัวลดลงมาอยู่ที่ระดับ 93.5 จากที่อยู่ในระดับ 94.5 ในเดือนมิ.ย.62 ต่ำสุดในรอบ 7 เดือน เพราะยังคงมีผลกระทบจากการชะลอของการส่งออกจากการชะลอตัวของเศรษฐกิจโลกและสงครามการค้าระหว่างสหรัฐฯ-จีน รวมถึงปัญหาภัยแล้งที่กระทบต่อกำลังซื้อและการบริโภคในประเทศ ขณะที่ภาครัฐยังไม่มีมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจออกมา ประกอบกับผู้ประกอบการมีความกังวลเกี่ยวกับการปรับขึ้นค่าจ้างขั้นต่ำโดยเฉพาะผู้ประกอบการวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม(เอสเอ็มอี)ที่ต้องแบบรับต้นทุนที่สูงขึ้น

 

- กมธ.วิสามัญพิจารณาศึกษาการขยายสัญญาสัมปทานทางด่วนและรถไฟฟ้า มีมติเสียงส่วนใหญ่เห็นด้วยขยายสัมปทานทางด่วน 30 ปี ชี้เอกชนมีประสิทธิภาพบริหารมากกว่ารัฐ และยังแก้ปัญหาข้อพิพาทไปด้วยในตัว ส่วนบีทีเอสนั้นส่วนใหญ่ไม่เห็นด้วยให้ต่อสัญญา

 

*หุ้นเด่นวันนี้

- GUNKUL (ฟินันเซีย ไซรัส) "ซื้อ"เป้า 3.50 บาท เป็นหนึ่งในหุ้นโรงไฟฟ้าที่ราคา laggard นับแต่ประกาศผลประกอบการซึ่งดีกว่าเราและตลาดคาดมาก PE ปัจจุบันจึงต่ำเพียง 13 เท่า ทั้งที่ GUNKUL ได้ประโยชน์จากแผน PDP 2561 ที่จะปรับเพิ่มสัดส่วนให้มีการผลิตไฟฟ้าจากพลังงานทดแทนเพิ่มขึ้น ด้านกำไร H1/62 คิดเป็น 37% ของคาดการณ์ทั้งปี กำไรครึ่งปีหลังจะโดดเด่นมากเพราะเป็น high season ของพลังงานลมในไทยและโซลาร์ในญี่ปุ่น และรับรู้รายได้จากงาน EPC จำนวนมาก และยังอยู่ระหว่างซื้อกิจการในเวียดนาม มาเลเซีย และไต้หวัน

 

- AMATA (กรุงศรี) "ซื้อ"เป้า 28 บาท เก็งกำไรคาดสัปดาห์หน้ารัฐบาลเดินหน้ากระตุ้นเศรษฐกิจชุดที่ 2 คาดเป็นโครงการระยะกลางถึงยาวโดยเฉพาะโครงการ EEC Project ซึ่งจะส่งผลบวกโดยตรงต่อหุ้นในกลุ่มนิคมอุตสาหกรรม ขณะเดียวกันสงครามการค้าระหว่างจีนกับสหรัฐยังหนุนให้เกิดเงินทุนเคลื่อนย้ายจากจีนมาไทยเพื่อเลี่ยงปัญหา Trade war มากขึ้น

 

--อินโฟเควสท์