- Details
- Category: หุ้นเด่นวันนี้
- Published: Friday, 09 August 2019 11:15
- Hits: 3342
ภาวะตลาดหุ้นไทย: แนวโน้มดัชนีเช้านี้ลุ้นรีบาวด์ตามตลาดตปท. ขานรับเงินหยวนนิ่ง-Bond yield ฟื้น ,ส่งออกจีนดีเกินคาด-ราคาน้ำมันปรับขึ้น
นายอภิชาติ ผู้บรรเจิดกุล ผู้อำนวยการสายงานวิเคราะห์เชิงกลยุทธ์ บล.ทิสโก้ กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยเช้านี้มีลุ้นรีบาวด์ขึ้นได้ในทิศทางเดียวกับตลาดต่างประเทศ โดยตลาดหุ้นในภูมิภาคเอเชียเช้านี้ต่างรีบาวด์กันทั่วหน้า ตามตลาดสหรัฐฯ และตลาดในยุโรปที่ต่างปรับตัวขึ้นกัน หลังจากที่เงินหยวนเริ่มนิ่งมีเสถียรภาพมากขึ้น และอัตราผลตอบแทนพันธบัตร (Bond yield) อายุ 10 ปี ของสหรัฐ ได้ฟื้นตัวขึ้น ประกอบกับตัวเลขการส่งออกของจีนก็ออกมาดีเกินคาดด้วย
นอกจากนี้ราคาน้ำมันก็ฟื้นตัวขึ้นหลังจากที่กลุ่มประเทศผู้ส่งออกน้ำมัน (โอเปก) เล็งจะลดกำลังการผลิตเพิ่มขึ้น อย่งไรก็ดี วันนี้ให้ติดตามตัวเลขเงินเฟ้องวดเดือนก.ค.ของจีน และตัวเลขผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP) งวดไตรมาส 2/62 ของอังกฤษ ส่วนบ้านราก็ติดตามการทยอยประกาศผลประกอบการของบริษัทจดทะเบียนต่อไป
พร้อมให้แนวรับ 1,660-1,665 จุด ส่วนแนวต้าน 1,674-1,682 จุด
ประเด็นพิจารณาการลงทุน
- ตลาดหุ้นนิวยอร์กล่าสุด (8 ส.ค.) ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 26,378.19 จุด พุ่งขึ้น 371.12 จุด (+1.43%), ดัชนี S&P500 ปิดดที่ 2,938.09 จุด เพิ่มขึ้น 54.11 จุด (+1.88%) และดัชนี Nasdaq ปิดที่ 8,039.16 จุด เพิ่มขึ้น 176.33 จุด (+2.24%)
- ตลาดหุ้นเอเชียเปิดตลาดวันนี้ ดัชนี NIKKEI 225 ตลาดหุ้นญี่ปุ่น เพิ่มขึ้น 164.80 จุด, ดัชนี SSE Composite ตลาดหุ้นจีน เพิ่มขึ้น 11.04 จุด, ดัชนี HSI ตลาดหุ้นฮ่องกง เพิ่มขึ้น 158.15 จุด, ดัชนี KOSPI ตลาดหุ้นเกาหลีใต้ เพิ่มขึ้น 19.45 จุด, ดัชนี FBMKLCI ตลาดหุ้นมาเลเซีย ลดลง 2.72 จุด, ดัชนี PSE Composite ตลาดหุ้นฟิลิปปินส์ เพิ่มขึ้น 4.38 จุด
ส่วนตลาดหุ้นไต้หวัน ปิดทำการวันนี้เนื่องจากไต้ฝุ่นเลกีมา และตลาดหุ้นสิงคโปร์ ปิดทำการวันนี้เนื่องในวันชาติ
- ตลาดหุ้นไทยปิดล่าสุด (8 ส.ค.62) 1,665.12 จุด ลดลง 4.32 จุด (-0.26%)
- นักลงทุนต่างชาติซื้อสุทธิ 926.27 ล้านบาท เมื่อวันที่ 8 ส.ค.2562
- ราคาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือน ก.ย.ในตลาดไนเม็กซ์ปิดทำการล่าสุด (8 ส.ค.62) ปิดที่ 52.54 ดอลลาร์/บาร์เรล เพิ่มขึ้น 1.45 ดอลลาร์ หรือ 2.8%
- ค่าการกลั่นอ้างอิงตลาดสิงคโปร์ปิดล่าสุด (8 ส.ค.62) ที่ 4.99 ดอลลาร์/บาร์เรล
- เงินบาทเปิด 30.70/74 แนวโน้มแข็งค่าตามภูมิภาค ตลาดเกาะติดสงครามการค้าสหรัฐฯ-จีน
- นายกฯสั่งครม.เศรษฐกิจดูผลกระทบ หลัง กนง.ลดดอกเบี้ย เร่งมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ ช่วยเหลือเศรษฐกิจฐานราก "สมคิด"ตั้งคณะกรรมการร่วมคลัง-ธปท.ตลท.ขับเคลื่อนนโยบายการเงิน-การคลังให้สอดรับกัน รับมือเศรษฐกิจโลกผันผวน
- สภาหอการค้าชง "แบงก์ชาติ"ลดดอกเบี้ยอีก หวังสกัดบาทแข็ง หลังพบ 4 ปีที่ผ่านมาไทยสูญเสียความสามารถ การแข่งขัน พร้อมจี้หามาตรการดูแลค่าเงินเพิ่ม ตั้งแต่เบาไปยันหนัก ขณะภาคอสังหาฯเสนอผ่อนเกณฑ์แอลทีวี ชี้หลังเศรษฐกิจชะลอ ดันยอดปฏิเสธสินเชื่อพุ่งเท่าตัวแตะ 40%
- ธปท.เปิดข้อมูลการกู้ซื้อที่อยู่อาศัยครึ่งปีแรก พบแอลทีวีสกัดกู้คอนโดสัญญาสองติดลบถึง 24.8% ขณะที่สัญญาแรกไม่มีผลเติบโตกว่า 14% 'กรุงไทย' คาดโอนบ้านปีนี้ลบ 10% ส่วนคอนโดอาจลบถึง 20%
- ผู้อำนวยการศูนย์พยากรณ์เศรษฐกิจและธุรกิจมหาวิทยาลัยหอการค้าไทย เผยดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคเกี่ยวกับเศรษฐกิจในเดือน ก.ค. 62 อยู่ระดับ 62.2 ต่ำสุดในรอบ 214 เดือน หรือ 17 ปี 10 เดือน เนื่องจากประชาชนกังวลเกี่ยวกับความไม่แน่นอนของการฟื้นตัวของเศรษฐกิจไทยและเศรษฐกิจโลกที่มีความเสี่ยงสูงโดยเฉพาะสงครามการค้าสหรัฐ-จีนที่เพิ่มความรุนแรง, เหตุการณ์ระเบิดที่เพิ่งเกิดขึ้นในพื้นที่ กทม., ภัยแล้ง, ราคาสินค้าเกษตรหลายรายการที่ยังทรงตัวอยู่ในระดับต่ำ ส่งผลให้เศรษฐกิจในไตรมาสที่ 4 ของปี 62 ฟื้นตัวช้ากว่าที่คาดการณ์และคาดว่าภาพรวมเศรษฐกิจไทยในปี 62 ขยายตัวเพียง 2.9-3.2% จากเดิมที่คาดการณ์ 3-3.5%
*หุ้นเด่นวันนี้
- CPALL (กรุงศรี) "ซื้อ"เป้า 100 บาท Top pick กลุ่มค้าปลีกปลอดภัยจากปัญหา Trade war, SSSG ยังเป็นบวกคาดปีนี้ +3% การขยายสาขายังเป็นไปตามแผนตั้งเป้าที่ 700 สาขาต่อปี
- EPG (ฟินันเซีย ไซรัส) "ซื้อ"เป้า 8.50 บาท กำไรดีกว่าคาด หากตัดรายการพิเศษ (fx loss และกำไรขายที่ดินของบริษัทที่เกี่ยวข้อง) เป็นกำไรปกติ 240 ล้านบาท +44% Q-Q (ฟื้น Q-Q เป็นครั้งแรกในรอบ 4 ไตรมาส), -12% Y-Y ตอกย้ำว่าบริษัทผ่าน bottom แล้ว ธุรกิจ EPP ทำได้น่าประทับใจ แม้รายได้ทรง ๆ แต่การปรับ product mix และต้นทุนเม็ดพลาสติกที่ลดลงทำให้อัตรากำไรขั้นต้นสูงที่สุดในรอบ 5 ไตรมาสที่ 18.9% แนวโน้มฟื้นต่อ ราคาวัตถุดิบถูกลง EPP มาถูกทาง กำลังซื้อค่อย ๆ ฟื้น บาทชะลอการแข็งค่า ชดเชยผลขาดทุนของบริษัทร่วมได้
--อินโฟเควสท์