- Details
- Category: หุ้นเด่นวันนี้
- Published: Wednesday, 17 April 2019 13:19
- Hits: 1999
ภาวะตลาดหุ้นไทย: แนวโน้มดัชนีเช้านี้แกว่งซิกแซกขึ้นขานรับปัจจัยบวกตปท./จับตาศาลรธน.รับ-ไม่รับตีความสูตรคำนวณ ส.ส.ปาร์ตี้ลิสต์
นายอภิชาติ ผู้บรรเจิดกุล ผู้อำนวยการสายงานวิเคราะห์เชิงกลยุทธ์ บล.ทิสโก้ กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยเช้านี้คาดว่าจะแกว่งซิกแซกขึ้นได้ โดยมีลุ้นทดสอบแนว 1,670-1,675 จุด เนื่องจากในช่วงที่ตลาดบ้านเราปิดทำการไปมีปัจจัยบวกจากต่างประเทศ ทั้งเรื่องความคืบหน้าการเจรจาการค้าระหว่างสหรัฐและจีน, ผลประกอบการของบริษัทจดทะเบียนในสหรัฐฯที่ออกมาค่อนข้างดี โดยเฉพาะกลุ่มการเงิน และประธานธนาคารกลางสหรัฐฯในแต่ละสาขายังส่งสัญญาณการยืดหยุ่นนโยบายทางการเงิน ส่งผลให้ตลาดหุ้นในภูมิภาคเอเชียต่างปรับตัวขึ้นเฉลี่ย 1% ในช่วงที่ตลาดบ้านเราปิดทำการ
แต่เช้านี้ตลาดหุ้นในภูมิภาคมีการเคลื่อนไหวทั้งในแดนบวก-ลบเล็กน้อย อย่างไรก็ดีวันนี้ให้ติดตามตัวเลขอัตราการขยายตัวทางเศรษฐกิจ (GDP) งวดไตรมาส 1/62 ของจีน, ตัวเลขดุลการค้าของสหรัฐฯ ส่วนบ้านเราก็ให้ติดตามศาลรัฐธรรมนูญจะรับหรือไม่รับวินิจฉัยสูตรคำนวณ ส.ส.แบบบัญชีรายชื่อ(ปาร์ตี้ลิสต์)
พร้อมให้แนวรับ 1,655 จุด ส่วนแนวต้าน 1,665 ถัดไป 1,670-1,675 จุด
ประเด็นพิจารณาการลงทุน
- ตลาดหุ้นนิวยอร์กล่าสุด (16 เม.ย.) ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 26,452.66 จุด เพิ่มขึ้น 67.89 จุด (+0.26%) ขณะที่ดัชนี S&P500 ปิดที่ 2,907.06 จุด เพิ่มขึ้น 1.48 จุด (+0.05%) และดัชนี Nasdaq ปิดที่ 8,000.23 จุด เพิ่มขึ้น 24.21 จุด (+0.30%)
- ตลาดหุ้นเอเชียเปิดตลาดวันนี้ ดัชนี SSE Composite ตลาดหุ้นจีน ลดลง 3.45 จุด, ดัชนี NIKKEI 225 ตลาดหุ้นญี่ปุ่น เพิ่มขึ้น 14.75 จุด, ดัชนี KOSPI ตลาดหุ้นเกาหลีใต้ เพิ่มขึ้น 0.42 จุด, ดัชนี HSI ตลาดหุ้นฮ่องกง เพิ่มขึ้น 30.82 จุด, ดัชนี FTSE STI ตลาดหุ้นสิงคโปร์ เพิ่มขึ้น 2.80 จุด, ดัชนี TAIEX ตลาดหุ้นไต้หวัน เพิ่มขึ้น 33.76 จุด, ดัชนี PSE Composite ตลาดหุ้นฟิลิปปินส์ เพิ่มขึ้น 6.25 จุด, ดัชนี FBMKLCI ตลาดหุ้นมาเลเซีย ลดลง 2.39 จุด
- ตลาดหุ้นไทยปิดล่าสุด (12 เม.ย.62) 1,660.45 จุด เพิ่มขึ้น 1.36 จุด (+0.08%)
- นักลงทุนต่างชาติขายสุทธิ 1,068.61 ล้านบาท เมื่อวันที่ 12 เม.ย.62
- ราคาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือน พ.ค.ในตลาดไนเม็กซ์ปิดทำการล่าสุด (16 เม.ย.62) ปิดที่ 64.05 ดอลลาร์/บาร์เรล เพิ่มขึ้น 65 เซนต์ หรือ 1%
- ค่าการกลั่นอ้างอิงตลาดสิงคโปร์ปิดล่าสุด (16 เม.ย.62) ที่ 4.55 ดอลลาร์/บาร์เรล
- เงินบาทเปิด 31.81 แนวโน้มเคลื่อนไหวในกรอบ 31.75-31.85 ตลาดรอปัจจัยใหม่
- สศช.เตรียมปรับคาดการณ์เศรษฐกิจไทยปีนี้ใหม่ ยอมรับห่วงสงครามการค้ายืดเยื้อฉุดส่งออกโตต่ำ จับตาเศรษฐกิจจีนใกล้ชิด หวั่นเงินหยวนอ่อนกระทบท่องเที่ยว ส่วนปัจจัยในประเทศยังต้องติดตาม ด้าน "แบงก์ชาติ" มองปัจจัยเสี่ยงเพิ่มขึ้นจากทั้งใน-ต่างประเทศ ขณะ สำนักวิจัยต่างๆ พาเหรดหั่นจีดีพีลง "นักวิเคราะห์" หนุนรัฐออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจเพิ่ม
- "เครดิตบูโร"เผย"ไอเอ็มเอฟ"ห่วงหนี้ครัวเรือนไทยพุ่ง หลังพบยอดปรับโครงสร้างหนี้โตต่อเนื่องทั้งยังไหลกลับเป็นหนี้เสียราว 40% สะท้อนคุณภาพหนี้เปราะบาง ชี้กลุ่ม"เจนวาย-เอ็กซ์"ครองแชมป์เบี้ยวหนี้สูง พบสินเชื่อรถยนต์ สินเชื่อบุคคลแย่ลงต่อเนื่อง ดันหนี้ครัวเรือน โตกระฉูด
- ตลาดหลักทรัพย์เตรียมปรับเกณฑ์ซื้อขายสูงสุดและต่ำสุด ของหุ้นที่ติดเครื่องหมายเอสพี ให้กว้างกว่า30% สำหรับการกลับมาซื้อขายวันแรก พร้อมเปิดให้กลับมาเทรดได้ภายใน 1 เดือน หวังช่วยนักลงทุนซื้อขายได้สะดวกขึ้น
- สำนักงานเศรษฐกิจอุตสาหกรรม ร่วมวิเคราะห์นโยบายพรรคการเมืองช่วงหาเสียงเลือกตั้ง ส่วนใหญ่เป็นไปในทางเดียวกัน ขับเคลื่อนเศรษฐกิจของประเทศ พัฒนาภาคอุตสาหกรรมไทย และขึ้นค่าแรงตามความสามารถ ถือเป็นแนวทางเดียวกับวิสัยทัศน์ของเอกชน
- ผู้ว่าการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) เปิดเผยว่า ภายในเดือน เม.ย.นี้ ททท.เตรียมลงนามความร่วมมือกับกรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศเพื่อร่วมกันส่งเสริมการพัฒนาการตลาดท่องเที่ยวในต่างประเทศ ทั้งด้านการดูแลในมิติการค้า และการท่องเที่ยว เช่น การจัดทำกิจกรรมส่งเสริมการขายในต่างประเทศร่วมกันตามนโยบายของนายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรี ที่ได้มอบนโยบายให้กับ ททท.หาทางร่วมมือกับกระทรวงพาณิชย์เพื่อหาทางพัฒนาการท่องเที่ยวร่วมกัน
*หุ้นเด่นวันนี้
- TKN (ฟินันเซีย ไซรัส) "ซื้อ"เป้า 12.50 บาท (PE 25x) กำไรผ่านจุดต่ำสุดไปแล้วใน Q4/62 จึงคาดกำไร Q1/62 ฟื้นมาอยู่ที่ 121 ลบ. แต่ -20% Y-Y จากยอดส่งออกไปจีนที่ยังไม่กลับสู่ระดับปกติ และปีนี้ไม่มีปัญหาต้นทุนสาหร่าย การฟื้นของมาร์จิ้นขึ้นอยู่กับการใช้กำลังการผลิตเป็นหลักซึ่งเชื่อว่าดีขึ้นใน H2/62 หลังจาก Distributor รายใหม่ในจีนเร่งสร้างยอดขาย ส่วนในสหรัฐอยู่ระหว่างทำการตลาด ตลาดในไทยโตแบบค่อยเป็นค่อยไป จึงคาดกำไรปีนี้กลับมาโตเป็นปีแรกในรอบ 3 ปี +16% Y-Y เป็น 696 ลบ.
- SEAFCO (ฟินันเซีย ไซรัส) "ซื้อ"เป้า 10.2 บาท คาดกำไรปกติ Q1/62 ที่ 123 ล้านบาท (+5% Q-Q, +137% Y-Y) ทำระดับสูงสุดใหม่ต่อเนื่อง
- PTTEP (กรุงศรี) "ซื้อ"เป้า 150 บาท ได้ Sentiment บวกจากราคาน้ำมันดิบพุ่งแรง ขณะที่มี Growth story จากการเข้าซื้อ Murphy oil ในมาเลเซียหนุนปริมาณขายเพิ่มขึ้นเฉลี่ย 10-15% ต่อปี
- GPSC (เคทีบี) "ซื้อ"เป้าเชิงกลยุทธ์ 63.50 บาท ราคายังไม่สะท้อน Synergy GLOW โดยจะทำให้มีกำลังผลิตเพิ่มขึ้นจาก 2,771MW เป็น 4,726MW และกลายเป็นโรงไฟฟ้าที่ใหญ่สุดในประเทศ จึงเชื่อว่า Synergy และกำลังผลิตที่เพิ่มขึ้นจะเพิ่มมูลค่าหุ้นให้อีก 5-10 บาท/หุ้น ดังนั้นการเพิ่มทุนเพื่อนำเงินไปซื้อ GLOW จะไม่กระทบต่อ Dilution Effect และยังโมเมนตัมเชิงบวกในการเติบโตในอนาคตอีกด้วย
--อินโฟเควสท์