- Details
- Category: หุ้นเด่นวันนี้
- Published: Monday, 01 April 2019 11:09
- Hits: 2818
ภาวะตลาดหุ้นไทย: แนวโน้มดัชนีเช้านี้ไต่ขึ้นตามภูมิภาคหลังคลายกังวลเศรษฐกิจโลก-เล็งเม็ดเงินไหลเข้าหลัง MSCI นำ NVDR รวมคำนวณ
นายอภิชาติ ผู้บรรเจิดกุล ผู้อำนวยการสายงานวิเคราะห์เชิงกลยุทธ์ บล.ทิสโก้ กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยเช้านี้คาดว่าจะไต่ขึ้น ในทิศทางเดียวกับตลาดหุ้นในภูมิภาคเอเชียที่เช้านี้ส่วนใหญ่จะอยู่ในแดนบวกเกือบ 1% หลังจากที่คลายความกังวลเกี่ยวกับเศรษฐกิจโลก โดยตัวเลขเศรษฐกิจของสหรัฐฯได้ออกมาดีกว่าคาด และเมื่อสุดสัปดาห์ที่ผ่านมาตัวเลข PMI ภาคการผลิต ของจีน ก็ได้กลับมาขยายตัวอีกครั้ง จากเดิมที่ต่ำสุดในอรบ 3 ปี
ส่วนบ้านเรา MSCI ก็จะนำ NVDR เข้ามารวมคำนวณในดัชนีฯด้วย ส่งผลให้น้ำหนักการลงทุนหุ้นไทยเพิ่มขึ้นเป็น 3% จากเดิม 2.5% ซึ่งคาดว่าจะมีเม็ดเงินไหลเข้ามาราว 5-6 หมื่นล้านบาท
อย่างไรก็ดี ยังต้องติดตามความคืบหน้าการแยกตัวของอังกฤษออกจากสหภาพยุโรป (Brexit) หลังสภาสามัญชนของอังกฤษลงมติคว่ำข้อตกลง Brexit และการเจรจาการค้าระหว่างสหรัฐฯ และจีน โดยจีนจะเยือนสหรัฐฯในสัปดาห์นี้ พร้อมให้แนวรับ 1,635 จุด ส่วนแนวต้าน 1,646 ถัดไป 1,650-1,652 จุด
ประเด็นพิจารณาการลงทุน
- ตลาดหุ้นนิวยอร์กล่าสุด (29 มี.ค.) ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 25,928.68 จุด เพิ่มขึ้น 211.22 จุด (+0.82%) ขณะที่ดัชนี S&P500 ปิดที่ 2,834.40 จุด เพิ่มขึ้น 18.96 จุด (+0.67%) และดัชนี Nasdaq ปิดที่ 7,729.32 จุด เพิ่มขึ้น 60.16 จุด (+0.78%)
- ตลาดหุ้นเอเชียเปิดตลาดวันนี้ ดัชนี NIKKEI 225 ตลาดหุ้นญี่ปุ่น เพิ่มขึ้น 295.08 จุด, ดัชนี SSE Composite ตลาดหุ้นจีน เพิ่มขึ้น 20.90 จุด, ดัชนี HSI ตลาดหุ้นฮ่องกง เพิ่มขึ้น 332.36 จุด, ดัชนี TAIEX ตลาดหุ้นไต้หวัน เพิ่มขึ้น 73.64 จุด, ดัชนี KOSPI ตลาดหุ้นเกาหลีใต้ เพิ่มขึ้น 12.64 จุด, ดัชนี FTSE STI ตลาดหุ้นสิงคโปร์ เพิ่มขึ้น 16.23 จุด, ดัชนี FBMKLCI ตลาดหุ้นมาเลเซีย เพิ่มขึ้น 2.80 จุด
- ตลาดหุ้นไทยปิดล่าสุด (29 มี.ค.62) 1,638.65 จุด เพิ่มขึ้น 4.40 จุด (+0.27%)
- นักลงทุนต่างชาติซื้อสุทธิ 1,325.34 ล้านบาท เมื่อวันที่ 29 มี.ค.62
- ราคาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือน พ.ค.ในตลาดไนเม็กซ์ปิดทำการล่าสุด (29 มี.ค.62) ปิดที่ 60.14 ดอลลาร์/บาร์เรล เพิ่มขึ้น 84 เซนต์ หรือ 1.4%
- ค่าการกลั่นอ้างอิงตลาดสิงคโปร์ปิดล่าสุด (29 มี.ค.62) ที่ 4.78 ดอลลาร์/บาร์เรล
- เงินบาทเปิด 31.68 แข็งค่าเกาะกลุ่มตลาดเกิดใหม่ คลายกังวลสงครามการค้า มองกรอบวันนี้ 31.60-31.75
- "คมนาคม" ยันการเมือง ไร้สุญญากาศ รัฐบาลอำนาจเต็ม เดินหน้าเมกะโปรเจคอีอีซี 5 โครงการ ได้ผู้ชนะเม.ย.นี้ ลุยต่อครม.เคาะรถไฟทางคู่ 8 เส้นทาง 3.4 แสนล้านบาท กระตุ้นลงทุน ด้านทางด่วนบ้านแพ้ว มอเตอร์เวย์พระราม 3 จ่อเซ็นพ.ค.นี้
- กสทช.ชี้รัฐบาลใหม่ผลักดัน "5จี" เร่งประมูลคลื่นความถี่ใช้งานมากขึ้น ระบุไทยไม่ควรตกขบวนเทคโนโลยี จากเวทีโลกเหมือนในอดีต เผย 5จีไม่ทัน ปี 63 ส่อทำประเทศเสียหาย 2.3 ล้านล้านบาท ด้านโอเปอเรเตอร์มือถือเห็นตรงกันไทย ต้องมี 5จีใช้ บนเงื่อนไขที่ธุรกิจเดินหน้าได้ หวังรัฐ-กสทช. เร่งผ่อนปรนเงื่อนไขชำระค่างวดคลื่น 900 MHz
- ส.อ.ท.แย้มเตรียมยื่นสมุดปกขาวเสนอต่อรัฐบาลใหม่หลังเลือกตั้งหวังขับเคลื่อนการพัฒนาอุตสาหกรรมแห่งอนาคต 4 อุตสาหกรรมที่จัดทำไว้เพื่อรองรับการเปลี่ยนแปลงเทคโนโลยี หวังยกระดับเศรษฐกิจประเทศให้เติบโตอย่างยั่งยืน ทั้งอุตฯ เกษตรแนวใหม่ อุตฯ ที่เกี่ยวข้องกับคุณภาพชีวิต
- 'ธนารักษ์' เตรียมคลอดราคาประเมินที่ดินใหม่ เฉลี่ยเพิ่ม 10-20% ภาคตะวันออกรับอานิสงส์อีอีซีเติบโตก้าวกระโดด ย่านสีลมจากราคาประเมิน 1 ล้านบาทต่อ ตร.ว. ล่าสุดซื้อขายแตะ 3 ล้านบาท
- ธปท.จับตาหนี้ครัวเรือนพุ่ง หวั่นฉุดความสามารถชำระหนี้ของภาคครัวเรือน หากภาระค่าใช้จ่ายเพิ่ม พร้อมเดินหน้าตรวจสินเชื่อรถยนต์ของแบงก์ต่อเนื่อง ก่อนประเมินว่าจำเป็นต้องออกมาตรการคุมหรือไม่ ด้านศูนย์วิจัยกสิกรเกาะติดกลุ่มรายได้ต่ำ 8 พันบาท พบภาระหนี้สูงถึง 50% ของรายได้
- กรมทางหลวง ตั้งกรอบงบปี 63 วงเงินกว่า 1.3 แสนล้านบาท พร้อมชงแผนต่อขยาย "ยกระดับบรมราชชนนี" เฟสแรก 6 กม. งบกว่า 5 พันล้านบาท เพื่อเร่งแก้ปัญหาจราจร ช่วง "สาย 2-ศาลายา" ด้าน "อานนท์" เผยกำลังศึกษา PPP โครงการใหญ่ คาดปีหน้าระดมประมูลจุดพักรถริมมอเตอร์เวย์
*หุ้นเด่นวันนี้
- KTC (ฟินันเซีย ไซรัส) "ซื้อเก็งกำไร"เป้า 38 บาท แม้ราคาหุ้นจะปรับขึ้นเร็วและเหลือ upside เพียง 7% จากราคาพื้นฐาน แต่มีข่าวดีกำไร Q1/62 ฟื้น สินเชื่อเริ่มเข้าสู่ฤดูจับจ่ายในเดือนนี้ ค่าการตลาดลดลงจากไตรมาสก่อน และคาดการณ์นายระเฑียร ศรีมงคล อาจได้เป็นประธานเจ้าหน้าที่บริหารต่อ โดยคาดกำไร Q1/62 +7%Q-Q, +8%Y-Y เป็น 1.3 พันล้านบาท กำไรทั้งปี +20% เป็น 6.15 พันล้านบาท PE ปัจจุบัน 14.5x ต่ำกว่ากลุ่มที่ 17x และ PEG เพียง 0.7
- PTTEP (เคทีบี) "ซื้อ"เป้าเชิงกลยุทธ์ 127 บาท ราคาหุ้นไม่สะท้อนการเข้าซื้อแหล่งก๊าซใหม่ แนวโน้มราคาน้ำมันดิบในระยะกลางมีโอกาสปรับขึ้นหลังการเจรจาการค้าสหรัฐกับจีนที่ปักกิ่งออกมาในเชิงบวก และอาทิตย์หน้าจะเจรจากันต่อที่วอชิงตันและคาดว่าจะลงนามข้อตกลงกันในได้กลางเดือนหน้า ซึ่งจะเป็นปัจจัยผ่อนคลายความกังวลต่อการชะลอตัวของเศรษฐกิจโลก ด้านราคาหุ้นปัจจุบันยังไม่สะท้อน Upside อีก 10-20 บาท/หุ้น และจะมีกำไรเพิ่มขึ้น 12-15% จากการเข้าซื้อ 100% แหล่งปิโตรเลียมของ Murphy มูลค่า 2.1 พันล้านเหรียญ ในระดับราคาที่สมเหตุสมผล ที่ประมาณ 8 เหรียญ/บาร์เรล เทียบกับค่าเฉลี่ย 10 เหรียญ/บาร์เรลในปี 2561 และ High EBITDA margin ที่ระดับ 70-75% เท่ากับระดับเดียวของ PTTEP ปัจจุบัน และยังเป็นแหล่งน้ำมันคุณภาพสูง
- AOT (เมย์แบงก์ กิมเอ็ง) "ซื้อ"เป้า 75 บาท ตัดสินใจแยก สัญญา duty free เป็น 2 สัญญา คือ สุวรรณภูมิ และ สนามภูมิภาค 3 แห่ง (ภูเก็ต, เชียงใหม่, หาดใหญ่) และประกาศขายซองรอบใหม่ โดยคาดว่าจะทราบผู้ชนะ ภายใน 31 พ.ค. นี้ ทั้งนี้ AOT ได้ส่งหนังสือขอความเห็น สคร. ว่าการประมูล duty free เข้าข่าย พ.ร.บ.ร่วมทุน หรือไม่ หากไม่เข้าข่ายหลังประมูลก็จะได้ผู้ประกอบการเลย แต่ถ้าเข้าข่ายต้องดำเนินการขั้นตอน พ.ร.บ.ร่วมทุน การประกาศประมูลรอบใหม่ครั้งนี้มีมุมมองเป็นบวก
-อินโฟเควสท์