นายถนอมศักดิ์ สหรัตน์ชัย ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการและหัวหน้าฝ่ายวิจัย บล.เคที ซีมิโก้ กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยเช้านี้มีโอกาสที่จะปรับตัวขึ้นก่อน หลังจากนั้นก็ต้องรอดูทิศทางอีกที เนื่องจากตลาดหุ้นในภูมิภาคเอเชียเช้านี้ต่างก็เคลื่อนไหวทั้งในแดนบวก-ลบ โดยมีตลาดหุ้นญี่ปุ่นที่ติดลบ คงจะเป็นเพราะเงินดออลาร์สหรัฐฯอ่อนค่าทำให้เงินเยนแข็งค่าซึ่งมีผลต่อการส่งออก และแม้ว่าสหรัฐฯจะยุติการปิดหน่วยงานรัฐบาล (ชัตดาวน์) แต่ก็เป็นแค่ชั่วคราวเท่านั้น ซึ่งก็มองว่ายังไม่มีทางที่จะตกลงกันได้

 

สำหรับการประชุมธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ในสัปดาห์นี้จะต้องจับตาดูเรื่องการปรับลดงบดุล ซึ่งจะเป็นส่วนหนึ่งที่มีผลต่อทิศทางค่าเงินดอลลาร์สหรัฐฯ นอกจากนี้ให้จับตาความคืบหน้าของสงครามการค้าระหว่างสหรัฐฯ และจีนต่อไป

 

ส่วนบ้านเราก็ให้ติดตามการเลือกตั้ง และการทยอยประกาศผลประกอบการของบริษัทจดทะเบียนต่อไป ซึ่งหุ้นที่น่าจะได้ประโยชน์จากการเลือกตั้งเป็นหุ้นในกลุ่มค้าปลีก และการเงิน

 

- ตลาดหุ้นนิวยอร์กล่าสุด (25 ม.ค.62) ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 24,737.20 จุด เพิ่มขึ้น 183.96 จุด (+0.75%), ดัชนี S&P 500 ปิดที่ 2,664.76 จุด เพิ่มขึ้น 22.43 จุด (+0.85%) และดัชนี Nasdaq ปิดที่ 7,164.86 จุด เพิ่มขึ้น 91.40 จุด (+1.29%)

 

- ตลาดหุ้นเอเชียเปิดตลาดวันนี้ ดัชนี NIKKEI 225 ตลาดหุ้นญี่ปุ่น ลดลง 27.27 จุด, ดัชนี SSE Composite ตลาดหุ้นจีน เพิ่มขึ้น 13.99 จุด, ดัชนี HSI ตลาดหุ้นฮ่องกง เพิ่มขึ้น 126.62 จุด, ดัชนี TAIEX ตลาดหุ้นไต้หวัน เพิ่มขึ้น 36.85 จุด, ดัชนี KOSPI ตลาดหุ้นเกาหลีใต้ เพิ่มขึ้น 6.68 จุด, ดัชนี FTSE STI ตลาดหุ้นสิงคโปร์ เพิ่มขึ้น 1.53 จุด, ดัชนี FBMKLCI ตลาดหุ้นมาเลเซีย เพิ่มขึ้น 4.38 จุด, ดัชนี PSE Composite ตลาดหุ้นฟิลิปปินส์ เพิ่มขึ้น 17.92 จุด

 

- ตลาดหุ้นไทยปิดล่าสุด (25 ม.ค.62) 1,623.62 จุด เพิ่มขึ้น 3.09 จุด (+0.19%)

- นักลงทุนต่างชาติซื้อสุทธิ 419.39 ล้านบาท เมื่อวันที่ 25 ม.ค.62

- ราคาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือน มี.ค. ในตลาดไนเม็กซ์ปิดทำการล่าสุด (25 ม.ค.62) ปิดที่ 53.69 ดอลลาร์/บาร์เรล  เพิ่มขึ้น 56 เซนต์ หรือ 1.1%

 

- ค่าการกลั่นอ้างอิงตลาดสิงคโปร์ปิดล่าสุด (25 ม.ค.62) ที่ 1.52 ดอลลาร์/บาร์เรล

- เงินบาทเปิด 31.47/49 แนวโน้มแข็งค่า จับตาผลประชุมเฟดสัปดาห์นี้ มองกรอบวันนี้ 31.40-31.60

- สศช.เตรียมประเมินเศรษฐกิจครึ่งแรกปีนี้ ทำรายงานสถานะประเทศเสนอรัฐบาลใหม่ ระบุจีดีพีขยายตัว 3.8% ส่งออกโต 4.6% ชี้ประเด็นท้าทาย รับมือเศรษฐกิจโลกชะลอ กระทบส่งออก-ท่องเที่ยว เสนอเร่งประมูลเมกะโปรเจค เดินหน้าดูแลผู้มีรายได้น้อย ควบคู่ลดเหลื่อมล้ำ

 

- คณะกรรมการไตรภาคีเริ่มถกขึ้นค่าจ้างขั้นต่ำ 1 ก.พ. แรงงานขอขึ้นเป็น 360 บาท นักวิชาการชี้ใช้เงินเฟ้ออิงขึ้นค่าแรงไม่เหมาะ

- มาตรการเยียวยาทีวีดิจิทัลของ กสทช. แค่ปัจจัยบวกระยะสั้นต่อหุ้นทีวี กูรูยก BEC ได้รับโยชน์ต้นทุนค่าใช้จ่ายลด WORK คอนเทนต์เด่นดันกำไรขยายตัว ส่วน RS ธุรกิจเสริมแกร่ง แต่ระยะยาวพฤติกรรมผู้บริโภคที่เปลี่ยนไปยังกดดันอนาคต รวมถึงเงินเยียวยาอาจล่าช้า

 

- "พาณิชย์" ทบทวนธุรกิจในบัญชีแนบท้ายพ.ร.บ.การประกอบธุรกิจของคนต่างด้าวใหม่ เน้นสอดคล้องกับนโยบายรัฐบาล ที่มุ่งส่งเสริมและดึงดูดการลงทุนใน EEC โดยเฉพาะในอุตสาหกรรม S-Curve และ New S-Curve เหตุจะมีธุรกิจที่เกี่ยวเนื่องตามมาอีกมาก จึงต้องทำให้เหมาะสม เพื่อดึงดูดการลงทุน

 

- กระทรวงการคลังหั่น จีดีพีปี 2561 ต่ำกว่า 4.5% แต่ยังมั่นใจปีนี้โต 4% เชื่อทำให้นักลงทุนเชื่อมั่นเพิ่มมากขึ้น

- สนข.เด้งรับนโยบายรัฐเล็งเสนอแผนแก้ไขปัญหาการจราจรกลางเดือนหน้า ลุ้นนายกฯ เห็นชอบ ด้านคมนาคมจ่อชง ครม. อนุมัติตั้งบริษัทลูกให้สายสีแดง พร้อมทุนตั้งต้น 3,000 ล้านบาท

 

- นักเศรษฐศาสตร์ ประเมินเศรษฐกิจครึ่งปีแรกยังแผ่ว แม้การเลือกตั้งชัด เหตุนักลงทุนรอดูเสถียรภาพการเมืองหลังเลือกตั้งก่อนใส่เงินลงทุน ส่งผลกิจกรรมเศรษฐกิจไม่คึกคัก ส่อเกิดสุญญากาศ ขณะการบริโภคแม้ได้อานิสงส์ แต่แรงส่งไม่พอ ด้านภาคธุรกิจหนุน "วาระด่วน" ปลุกกำลังซื้อ ฟื้นเชื่อมั่น กระตุ้นการท่องเที่ยว

 

- PTTEP (เคทีบี) "ซื้อ"เป้า 139 บาท มีมุมมองเป็นบวกต่อกลุ่มน้ำมันกับสถานการณ์ความไม่สงบในเวเนซุเอลา ถ้าสถานการณ์มีความยืดเยื้อก็จะส่งผลต่อการส่งออกน้ำมัน ปัจจุบันเวเนซุเอลามีการส่งออกน้ำมันประมาณ 1.2-1.4 ล้านบาร์เรลต่อวันหรือประมาณ 3% ของการส่งออกของกลุ่ม OPEC จึงประเมินสถานการณ์และแนวโน้มของราคาน้ำมันดังนี้ กรณีที่ 1 ถ้านายนายฮวน กุยโด ผู้นำฝ่ายค้านถูกจับกุมและนิโคลัส มาดูโร ยังคงเป็นประธานาธิบดีต่อไป จะเกิดการคว่ำบาตรที่รุนแรงจากสหรัฐฯ ทำให้น้ำมันปรับขึ้น กรณีที่ 2 ถ้าฮวน กุยโด ได้เป็นประธานาธิบดีอย่างถูกต้อง อาจจะทำให้น้ำมันปรับลง แต่มองเป็นจังหวะซื้อ เพราะเวเนซุเอลาต้องใช้เวลาอย่างน้อย 8-12 เดือนในการเพิ่มกำลังการผลิตน้ำมัน

 

- ERW (ฟินันเซีย ไซรัส) "ซื้อ"เป้า 8 บาท คาดกำไร Q4/61 ที่ 169 ล้านบาท +308% Q-Q, +5% Y-Y จากรายได้ที่เร่งตัวตามการเปิดโรงแรมใหม่ และต้นทุนที่ควบคุมได้ดีกว่าคาด ส่วนทั้งปี 2561 คาดทรงตัว Y-Y ก่อนจะเร่ง 16% Y-Y ในปีนี้ พร้อมคาดเห็นการฟื้นตัวของของท่องเที่ยวในปีนี้ โดยเฉพาะจีนและรัสเซียที่เริ่มทยอยกลับมา ขณะที่ ภาครัฐฯ เริ่มสนับสนุนเป็นรูปธรรมมากขึ้น ทั้งการต่ออายุ VOA ไปถึง เม.ย.62 และคาดว่าจะมีมาตรการอื่นเพิ่มเติมหากจำเป็น

  

- EA (กรุงศรี) "ซื้อเก็งกำไร"เป้า 63 บาท รับข่าวดีโรงไฟฟ้าพลังงานลม โครงการหนุมาน 1 และ 8 กำลังการผลิตรวม 90MW เริ่ม COD ตั้งแต่ 25 ม.ค.คาดหนุนกำไรสุทธิ Q1/62 โตโดดเด่นต่อเนื่อง