นายกรภัทร วรเชษฐ์ ผู้อำนวยการฝ่ายวิจัยและบริหารการลงทุน บล.โนมูระ พัฒนสิน กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยเช้านี้คาดว่าจะแกว่งตัวในกรอบ เนื่องจากกองทุนการเงินระหว่างประเทศ (IMF) ประกาศปรับลดตัวเลขคาดการณ์การขยายตัวของเศรษฐกิจโลก แต่การเจรจาการค้าระหว่างสหรัฐฯ และจีนก็มีความคืบหน้าในทางที่ดีขึ้น

 

นอกจากนี้ นางเทเรซา เมย์ นายกรัฐมนตรีของอังกฤษ พยายามที่จะผลักดันร่างข้อตกลงการแยกตัวออกจากสหภาพยุโรป (Brexit) ให้สามารถตกลงร่วมกันให้ได้ ส่วนบ้านเราวันนี้ คณะรัฐมนตรี (ครม.) จะมีการพิจารณาในเรื่องการนำยา และเวชภัณฑ์ เข้าเป็นสินค้าและบริการควบคุม ซึ่งก็ให้ติดตามดูเนื่องจากภาคเอกชนบางรายไม่เห็นด้วย

 

ด้านตลาดหุ้นในภูมิภาคเอเชียเช้านี้เคลื่อนไหวทั้งในแดนบวก-ลบ พร้อมให้แนวรับ 1,582-1,575 จุด ส่วนแนวต้าน 1,596-1,601 จุด

ประเด็นพิจารณาการลงทุน

- ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดทำการ (21 ม.ค.62)  เนื่องในวันมาร์ติน ลูเธอร์ คิง จูเนียร์

- ตลาดหุ้นเอเชียเปิดตลาดวันนี้ ดัชนี NIKKEI 225 ตลาดหุ้นญี่ปุ่น เพิ่มขึ้น 50.73 จุด, ดัชนี SSE Composite ตลาดหุ้นจีน ลดลง 0.87 จุด, ดัชนี HSI ตลาดหุ้นฮ่องกง ลดลง 7.14 จุด, ดัชนี TAIEX ตลาดหุ้นไต้หวัน ลดลง 8.86 จุด, ดัชนี KOSPI ตลาดหุ้นเกาหลีใต้ เพิ่มขึ้น 1.42 จุด, ดัชนี FTSE STI ตลาดหุ้นสิงคโปร์ ลดลง 1.61 จุด, ดัชนี FBMKLCI ตลาดหุ้นมาเลเซีย เพิ่มขึ้น 6.66 จุด, ดัชนี PSE Composite ตลาดหุ้นฟิลิปปินส์ เพิ่มขึ้น 16.38 จุด

 

- ตลาดหุ้นไทยปิดล่าสุด (21 ม.ค.62) 1,588.38 จุด เพิ่มขึ้น 4.61 จุด (+0.29%)

- นักลงทุนต่างชาติขายสุทธิ 1,144.41 ล้านบาท เมื่อวันที่ 21 ม.ค.62

- ตลาดไนเม็กซ์ปิดทำการ (21 ม.ค.62)  เนื่องในวันมาร์ติน ลูเธอร์ คิง จูเนียร์

- ค่าการกลั่นอ้างอิงตลาดสิงคโปร์ปิดล่าสุด (21 ม.ค.62) ที่ 1.67 ดอลลาร์/บาร์เรล

- เงินบาทเปิด 31.76/80 แนวโน้มอ่อนค่า หลังมีแรงซื้อดอลล์ ประเมินกรอบวันนี้ 31.80-32.00

- "พาณิชย์" เผยส่งออก ธ.ค.ติดลบ 1.72% ทั้งปีขยายตัว 6.7% หลุดเป้าหมายที่ตั้งไว้ 8% หลังจากผลสงคราม การค้าเริ่มชัดเจน ยืนยันเป้าหมายการส่งออก ปี 2562 ขยายตัว 8% สรท.ห่วงเงินบาทแข็งค่ากระทบส่งออก เตือนจับตาสงครามการค้าต่อ

 

- "สมคิด" ประธานบอร์ดพีพีพีเคาะอนุมัติการลงทุนแบบ Fast Track ในโครงการรถไฟฟ้าสายสีส้มช่วงบางขุนนนท์-มีนบุรี วงเงินลงทุนรวม 2.35 แสนล้านบาท พร้อมอนุมัติต่ออายุสัญญาการเช่าที่ดินบริเวณโรงแรมแกรนด์ ไฮแอท เอราวัณ ซึ่งจะหมดสัญญาเช่าในปี 64 ต่อไปอีก 20 ปี ส่วนรถไฟฟ้าสายสีม่วงใต้ ช่วงเตาปูน-วงแหวนกาญจนาภิเษก มูลค่า 1.28 แสนล้านบาท เสนอบอร์ดพีพีพีภายในต้นปี 62

 

- กทท.เปิดรับฟังข้อคิดเห็นประมูล "ท่าเรือแหลมฉบัง เฟส 3" ใหม่ หลังเปิดประมูลแล้วล่ม เดินหน้าคลายคุณสมบัติ ชงบอร์ดพิจารณาวันนี้ ก่อนเคาะเปิดขายซองรอบ 2 ไม่เกิน 31 ม.ค.

 

- กรมการค้าต่างประเทศเตรียมยกเลิกประกาศ คุมนำเข้าปลาทูน่าชนิดครีบเหลือง และผลิตภัณฑ์ หลังครม.ไฟเขียว ให้เลิกคุม เพื่อลดความซ้ำซ้อนใน การบังคับใช้กฎหมายของหน่วยงานภาครัฐให้อยู่ภายใต้กฎหมายของ กรมประมงเพียงแห่งเดียว เพื่ออำนวยความสะดวกแก่ผู้ประกอบการ

 

- กองทุนการเงินระหว่างประเทศ (IMF) ประกาศปรับลดตัวเลขคาดการณ์การขยายตัวของเศรษฐกิจโลก ขณะที่เตือนว่ายังคงเผชิญกับปัจจัยเสี่ยงหลายประการ โดย IMF คาดว่าเศรษฐกิจโลกจะขยายตัว 3.5% ในปีนี้ และ 3.6% ในปีหน้า ต่ำกว่าระดับ 3.7% สำหรับทั้ง 2 ปีที่มีการคาดการณ์ในเดือนต.ค.ปีที่แล้ว

 

- วันนี้ครม.พิจารณากรณีคุมค่ารักษาพยาบาล ท่ามกลางเอกชน-สาธารณสุข ยกพ.ร.บ.สถานพยาบาล 2541 ค้าน แต่หากครม.เห็นชอบให้สินค้ายาและเวชภัณฑ์ และบริการทางการแพทย์ เป็นสินค้าและบริการควบคุมประจำปี 62 ขั้นตอนต่อไปคณะกรรมการกลางว่าด้วยราคาสินค้าและบริการ จะตั้งคณะอนุกรรมการเพื่อกำหนดมาตรการที่จะนำมาใช้กำกับดูแลยาและเวชภัณฑ์ และบริการทางการแพทย์ ซึ่งต้องเป็นมาตรการที่เหมาะสม และเป็นธรรมกับทุกฝ่าย

 

*หุ้นเด่นวันนี้

- CAZ (บมจ.ซี เอ แซด (ประเทศไทย)) เทรดวันนี้วันแรก ในตลาดหลักทรัพย์เอ็ม เอ ไอ (mai) โดยราคาเสนอขาย IPO ที่ 3.90 บาท/หุ้น โดยบริษัทฯประกอบธุรกิจรับเหมาก่อสร้างให้ลูกค้าในอุตสาหกรรมน้ำมัน ก๊าซ และปิโตรเคมี แบ่งออกเป็น 4 ประเภท ได้แก่ 1. บริการรับเหมาก่อสร้างแบบครบวงจร 2. บริการรับเหมาก่อสร้างติดตั้งโครงสร้างและระบบ 3. บริการงานด้านวิศวกรรมโยธาและอาคาร 4. บริการผลิต ประกอบ และบริการอื่น

 

- KTB (เอเอสแอล) "ซื้อ"เป้า 22.60 บาท จากการเน้นสินเชื่อรายย่อยและสินเชื่อรัฐวิสาหกิจที่มีโมเมนตัมดีต่อเนื่อง และส่วนต่างอัตราดอกเบี้ยตัวดีขึ้น รวมถึงการจัดการบริหารต้นทุนทางการเงินได้ดี และระดับการตั้งสำรองของ KTB จะมีเสถียรภาพมากขึ้น โดย KTB รายงานกำไร Q4/61 ที่ 6.2 พันล้านบาท(-21.4%QoQ,+28.1%YoY) ต่ำกว่าคาดจากการตั้ง Provision ที่มากกว่าคาดปี 2562 คาดการณ์ที่ 3.0 หมื่นล้านบาท ขยายตัว 5.3%YoY โดยมองว่า KTB จะได้รับประโยชน์จากการลงทุนภาครัฐที่เพิ่มขึ้น

 

- TOP (ฟินันเซีย ไซรัส) "ซื้อ"เป้า 86 บาท คาดงบ Q4/61 พลิกเป็นขาดทุนราว 3.6 พันล้านบาท เพราะ Stock loss และค่าการกลั่นทรุด ซึ่งเป็นสิ่งที่ตลาดรับรู้อยู่แล้ว ขณะที่ กำไรทั้งปี 2561 จะ -54% Y-Y เหลือ 1.14 หมื่นล้านบาท ก่อนจะเด้ง 24% Y-Y อยู่ที่ 1.41 หมื่นล้านบาท ในปี 2562 ส่วนมาตรการ IMO ที่มีผล 1 ม.ค.63 จะทำให้ส่วนต่างน้ำมันดีเซลค่อย ๆ ขยับขึ้น ถือเป็นบวกกับ TOP โดยตรง ทั้งนี้ ระยะสั้นได้ Sentiment บวกจากการฟื้นของราคาน้ำมัน และ Valuation ของ TOP ที่ยังถูก โดยราคาปัจจุบันใกล้เคียง Book Value และให้ปันผลเฉพาะ H2/61 ที่ 3-4%

 

- STA (กรุงศรี) "ซื้อ"เป้า 22 บาท เก็งกำไรราคายางพุ่งแรงส่งผลบวกโดยตรงต่อธุรกิจยางธรรมชาติของ STA โดยเช้านี้ราคายาง TOCOM อยู่ที่ระดับ 209.5 เยน/กก. เพิ่มขึ้น 4% ทำสถิติสูงสุดในรอบเกือบ 1 ปี