- Details
- Category: หุ้นเด่นวันนี้
- Published: Monday, 21 January 2019 09:56
- Hits: 1772
ภาวะตลาดหุ้นไทย: แนวโน้มดัชนีเช้านี้ลุ้นปรับขึ้นตามตลาดตปท. เล็งแรงหนุนจากแรงซื้อต่างชาติที่เข้ามาต่อเนื่อง
นายถนอมศักดิ์ สหรัตน์ชัย ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการและหัวหน้าฝ่ายวิจัย บล.เคที ซีมิโก้ กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยเช้านี้มีโอกาสที่จะปรับขึ้นได้ในทิศทางเดียวกับตลาดต่างประเทศที่มีการฟื้นตัวขึ้นได้ โดยตลาดหุ้นในภูมิภาคเอเชียเช้านี้ส่วนใหญ่ก็อยู่ในแดนบวก จากแรงซื้อขายที่มีเข้ามามากขึ้น ส่วนบ้านเราก็ได้แรงหนุนจากแรงซื้อของนักลงทุนต่างชาติที่เข้ามาอย่างต่อเนื่อง และตลาดบ้านเราก็ถือว่าเป็น Laggard plays อย่างไรก็ดี อาจมีแรงถ่วงจากผลประกอบการของกลุ่มแบงก์ที่ออกมาไม่ค่อยดีเท่าไร
ทั้งนี้ วันนี้ให้จับตาตัวเลขผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP) ของจีน และติดตามการทยอยประกาศผลประกอบการของบริษัทจดทะเบียนต่อไป รวมถึงติดตามความคืบหน้าเกี่ยวกับการเลือกตั้ง
พร้อมให้แนวรับ 1,577 จุด ส่วนแนวต้าน 1,592-1,598 จุด
ประเด็นพิจารณาการลงทุน
- ตลาดหุ้นนิวยอร์กล่าสุด (18 ม.ค.62) ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 24,706.35 จุด เพิ่มขึ้น 336.25 จุด (+1.38%), ดัชนี S&P500 ปิดที่ 2,670.71 จุด เพิ่มขึ้น 34.75 จุด (+1.32%) และดัชนี Nasdaq ปิดที่ 7,157.23 จุด เพิ่มขึ้น 72.76 จุด (+1.03%)
- ตลาดหุ้นเอเชียเปิดตลาดวันนี้ ดัชนี NIKKEI 225 ตลาดหุ้นญี่ปุ่น เพิ่มขึ้น 182.31 จุด, ดัชนี SSE Composite ตลาดหุ้นจีน เพิ่มขึ้น 3.05 จุด, ดัชนี HSI ตลาดหุ้นฮ่องกง เพิ่มขึ้น 43.46 จุด, ดัชนี TAIEX ตลาดหุ้นไต้หวัน เพิ่มขึ้น 34.21 จุด, ดัชนี KOSPI ตลาดหุ้นเกาหลีใต้ เพิ่มขึ้น 9.59 จุด, ดัชนี FTSE STI ตลาดหุ้นสิงคโปร์ เพิ่มขึ้น 9.38 จุด, ดัชนี PSE Composite ตลาดหุ้นฟิลิปปินส์ เพิ่มขึ้น 8.36 จุด
ส่วนตลาดหุ้นมาเลเซีย ปิดทำการวันนี้ เนื่องในเทศกาลไทปูซัม (Thaipusam)
- ตลาดหุ้นไทยปิดล่าสุด (18 ม.ค.62) 1,583.77 จุด เพิ่มขึ้น 3.47 จุด (+0.22%)
- นักลงทุนต่างชาติซื้อสุทธิ 2,900.61 ล้านบาท เมื่อวันที่ 18 ม.ค.62
- ราคาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือน ก.พ. ในตลาดไนเม็กซ์ปิดทำการล่าสุด (18 ม.ค.62) ปิดที่ 53.80 ดอลลาร์/บาร์เรล เพิ่มขึ้น 1.73 ดอลลาร์ หรือ 3.3%
- ค่าการกลั่นอ้างอิงตลาดสิงคโปร์ปิดล่าสุด (18 ม.ค.62) ที่ 1.98 ดอลลาร์/บาร์เรล
- เงินบาทเปิด 31.72 มองกรอบเคลื่อนไหววันนี้ 31.65-31.80 ตลาดจับตาตัวเลขส่งออกไทย-ผลประชุม BOJ และECB
- "พาณิชย์" ชง ครม.พรุ่งนี้ นำค่ายาเวชภัณฑ์ บริการทางการแพทย์ เข้าบัญชีควบคุม ยืนยันเน้นใช้มาตรการกำกับดูแลราคา "มูลนิธิเพื่อผู้บริโภค" จี้ห้ามเลื่อนเสนอ ครม. เผยสถิติร้องเรียน ยาแพง ได้รับความเสียหายจากรักษาพยาบาล 2 ปี พุ่ง 368 ราย แนะตั้งต้นทำราคากลาง 2 พันรายการ ชี้ค่ายา รพ.เอกชนแพงกว่ารัฐ 20-400 เท่า
- รฟท.ส่อเค้ายกไฮสปีดสามสนามบินเฟส 2 ให้ "ซีพี" ลุยจัดการ พร้อมสั่งตั้งทีมศึกษา เล็งพับแผน "ไฮสปีดกรุงเทพฯหัวหิน" เกรงไม่คุ้มค่า หวั่นเอกชนไม่สนใจ ด้านคลังลุยจี้เบิกจ่ายงบประมาณ ดันเศรษฐกิจหลังเริ่มโตแผ่ว
- ภาคเอกชนลุ้นแผนพีดีพีใหม่ชง "กพช." 24 ม.ค.นี้จะมีการปรับปรุงแก้ไขตามที่หลายฝ่ายเสนอ โดยสมาคมอุตฯเซลล์แสงอาทิตย์ไทยหวังบรรจุแผนส่งเสริม IPS ไว้ประกอบด้วยเพื่อให้ระบบซื้อขายไฟฟ้ากันเอง ไมโครกริด Blockchain มีหน่วยงานดูแลติดตาม ขณะที่ "ส.อ.ท." เผยรัฐเคลียร์ข้อสงสัยแล้วแต่ก็ยังมีบางข้อที่เห็นว่าควรปรับปรุง
- ธปท.จับตาหุ้นกู้ครบกำหนดไถ่ถอน หวั่นกลุ่มอสังหาริมทรัพย์ต้นทุนพุ่งหลังดอกเบี้ยในประเทศขยับ
*หุ้นเด่นวันนี้
- WIIK-W2 (ใบสำคัญแสดงสิทธิที่จะซื้อหุ้นสามัญบมจ.วิค แอนด์ ฮุคลันด์ (WIIK)) เทรดวันนี้วันแรก มีจำนวน 124,971,656 หน่วย อัตราการใช้สิทธิ 1 ใบสำคัญแสดงสิทธิ : 1 หุ้นสามัญใหม่ ราคาการใช้สิทธิ 5.00 บาทต่อหุ้น อายุใบสำคัญแสดงสิทธิ 3 ปี นับแต่วันที่ออกใบสำคัญแสดงสิทธิ (3 มกราคม 2562) ราคาใบสำคัญแสดงสิทธิ 0.00 บาทต่อหน่วย กำหนดวันใช้สิทธิครั้งแรก 30 ธ.ค. 2562 ส่วนวันใช้สิทธิครั้งสุดท้าย 2 ม.ค. 2565
- CPALL (ฟินันเซีย ไซรัส) "ซื้อ"เป้า 90 บาท คาดกำไรจะโตต่อเนื่องใน Q4/61 เพราะเป็น High Season และตลาดตอบรับดีกับแสตมป์ Line Friends โดยคาดว่า SSSG จะโตได้มากกว่า 2% พร้อมคาดกำไรปี 2562 จะกลับมาโต 14.6% Y-Y อยู่ที่ 2.3 หมื่นล้านบาท จากปีนี้ที่คาดทรงตัว Y-Y อยู่ที่ 2.04 หมื่นล้านบาท ด้านราคาหุ้นมีโอกาสขึ้นต่อเนื่องหลังการเลือกตั้งมีความชัดเจน โดยถ้าอิงสถิติ กลุ่มค้าปลีกจะปรับขึ้นเฉลี่ย 4% ในช่วง 2 เดือนก่อนหลังตั้ง และ CPALL จะ Outperform กลุ่มทุกรอบ
- STA (กรุงศรี) "ซื้อ"เป้า 22 บาท เก็งกำไรราคายางพุ่งแรงส่งผลบวกโดยตรงต่อธุรกิจยางธรรมชาติของ STA โดยเช้านี้ราคายาง TOCOM อยู่ที่ระดับ 198.5 เยน/กก. เพิ่มขึ้น 1.8% ทำสถิติสูงสุดในรอบเกือบ 1 ปี
- TU (เมย์แบงก์ กิมเอ็ง) "ซื้อ"เป้า 21.70 บาท ปรับประมาณการกำไรขึ้นสะท้อนอัตรากำไรที่มีแนวโน้มดีกว่าคาด โดยประเมินว่ากำไรปกติ Q4/61 เติบโตจากปริมาณขายเพิ่มขึ้นแม้เป็นโลว์ซีซั่น อัตรากำไรขั้นต้นดีขึ้นจากต้นทุนราคาปลาทูน่าลดลง อีกทั้งควบคุมค่าใช้จ่ายได้ดี คาดกำไรปี 2562 เติบโตจากราคาปลาทูน่ายังอยู่ในระดับที่บริหารจัดการได้ดี และไม่ถูกกดดันจากธุรกิจแซลมอนในสก็อตแลนด์ที่ขาดทุนอีกต่อไป
-อินโฟเควสท์