- Details
- Category: หุ้นเด่นวันนี้
- Published: Monday, 03 December 2018 10:46
- Hits: 8256
ภาวะตลาดหุ้นไทย: แนวโน้มดัชนีเช้านี้ปรับขึ้นตามภูมิภาคหลังคลายกังวลสงครามการค้า, คาดต่างชาติกลับซื้อหลังทิศทางเงินบาทแข็งค่า
นายกิติชาญ ศิริสุขอาชา ผู้อำนวยการอาวุโสฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์รายย่อย บล.ซีจีเอส-ซีไอเอ็มบี (ประเทศไทย) กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยเช้านี้น่าจะปรับขึ้นตามภูมิภาค หลังตอบรับเชิงบวกจากการที่นายโดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐ และนายสี จิ้นผิง ประธานาธิบดีจีน ประสบความสำเร็จในการเจรจาเพื่อยุติข้อพิพาทการค้าชั่วคราว โดยเลื่อนกำหนดระยะเวลาที่สหรัฐจะเรียกเก็บภาษีนำเข้าสินค้าจากจีนมูลค่า 2 แสนล้านดอลลาร์สหรัฐ ออกไป 90 วัน ซึ่งจะทำให้ตลาดคลายกังวลประเด็นสงครามการค้าเป็นเวลา 3 เดือน
ขณะที่คาดว่าน่าจะมีเม็ดเงินจากต่างชาติไหลเข้ามาในตลาดเอเชีย ตลาดเกิดใหม่ รวมถึงตลาดหุ้นไทย หลังจากค่าเงินสกุลเอเชียแข็งค่าขึ้น รวมถึงค่าเงินบาทที่ล่าสุดแข็งค่าขึ้นราว 0.3% บ่งชี้ถึงเงินไหลเข้ามาทั้งในตลาดหุ้น และตลาดพันธบัตร ขณะที่ดัชนีดาวโจนส์ฟิวเจอร์ส พุ่งขึ้นกว่า 400 จุดในเช้านี้ และราคาน้ำมันฟิวเจอร์ส ก็ดีดตัวขึ้นกว่า 3% หลังจากคาดว่าการผ่อนคลายประเด็นสงครามการค้าจะไม่ทำให้ความต้องการใช้น้ำมันชะลอตัวลง อีกทั้งคาดหวังว่าการประชุมกลุ่มประเทศผู้ส่งออกน้ำมัน (โอเปก) ในวันที่ 6 ธ.ค.นี้จะมีมติลดกำลังการผลิตน้ำมันด้วย
ทั้งนี้ คาดว่านักลงทุนต่างชาติจะกลับเข้ามาซื้อหุ้นไทย หลังจากที่ตั้งแต่ต้นปีได้ขายหุ้นไทยออกไปราว 2.8 แสนล้านบาท คาดว่ามีเป้าหมายหลักในหุ้นขนาดใหญ่ใน SET50 หรือ SET100 กลุ่มพลังงาน กลุ่มแบงก์ โดยแรงซื้อน่าจะมีต่อเนื่องในช่วงนี้จนถึงช่วงครึ่งหลังของเดือนธ.ค.ที่จะมีการประชุมธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ในวันที่ 18-19 ธ.ค. หลังจากนั้นก็จะเข้าสู่ช่วงเทศกาลคริสต์มาสและปีใหม่
พร้อมมองแนวรับบริเวณ 1,636 จุด และแนวต้านที่ 1,660 และ 1,665 จุด
ประเด็นพิจารณาการลงทุน
- ตลาดหุ้นนิวยอร์กล่าสุด (30 พ.ย.61) ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 25,538.46 จุด บวก 199.62 จุด (+0.79%) ดัชนี S&P500 ปิดที่ 2,760.17 จุด เพิ่มขึ้น 22.41 จุด (+0.82%) และดัชนี Nasdaq ปิดที่ 7,330.54 จุด เพิ่มขึ้น 57.45 จุด (+0.79%)
- ตลาดหุ้นเอเชียเปิดตลาดวันนี้ ดัชนี NIKKEI 225 ตลาดหุ้นญี่ปุ่น เพิ่มขึ้น 278.33 จุด, ดัชนี SSE Composite ตลาดหุ้นจีน เพิ่มขึ้น 58.94 จุด, ดัชนี HSI ตลาดหุ้นฮ่องกง เพิ่มขึ้น 678.91 จุด,ดัชนี TAIEX ตลาดหุ้นไต้หวัน เพิ่มขึ้น 91.18 จุด, ดัชนี KOSPI ตลาดหุ้นเกาหลีใต้ เพิ่มขึ้น 30.92 จุด, ดัชนี FTSE STI ตลาดหุ้นสิงคโปร์ เพิ่มขึ้น 36.61 จุด, ดัชนี FBMKLCI ตลาดหุ้นมาเลเซีย เพิ่มขึ้น 5.88 จุด
- ตลาดหุ้นไทยปิดล่าสุด (30 พ.ย.61) 1,641.80 จุด บวก 5.31 จุด (+0.32%)
- นักลงทุนต่างชาติต่างชาติซื้อสุทธิ 621.11 ล้านบาท เมื่อวันที่ 30 พ.ย.61
- ราคาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนม.ค.62 ในตลาดไนเม็กซ์ปิดทำการล่าสุด (30 พ.ย.61) ปิดที่ 50.93 ดอลลาร์/บาร์เรล ลดลง 52 เซนต์ หรือ 1%
- ค่าการกลั่นอ้างอิงตลาดสิงคโปร์ปิดล่าสุด (30 พ.ย.61) ที่ 3.25 ดอลลาร์/บาร์เรล
- เงินบาทเปิด 32.86 มองกรอบวันนี้ 32.80-32.90 นีกลงทุนจับตาตัวเลขเงินเฟ้อของไทย
- ธนาคารพาณิชย์ถก"แบงก์ชาติ" หารือแผนเก็บค่าธรรมเนียมถอนเงินสด-เช็ค ทั้งจากตู้เอทีเอ็ม-หน้าเคาน์เตอร์ หลังเลิกเก็บค่าธรรมเนียมออนไลน์เหตุแบกต้นทุนอื้อ สมาคมแบงก์ เชื่อ ธปท.อยากเห็นธุรกรรมออนไลน์มากขึ้น ก่อนเปิดให้คิดค่าฟีถอนเงินสดได้ ด้านแบงก์กรุงเทพระบุช่วงแรกใช้วิธีทยอยลดสิทธิ์ถอนเงินจากปัจจุบันกดเงินฟรีต่อเดือน 5 ครั้ง
- สัดส่วนการซื้อขายผ่านอินเทอร์เน็ตพุ่งต่อเนื่อง ล่าสุดแตะ 69% เพิ่มขึ้นจาก 4 ปีก่อนที่ 63% กระทบอาชีพมาร์เก็ตติ้ง "สมาคมโบรก" เร่งเสริมทักษะ หวังยกระดับผู้แนะนำการลงทุน รับมือเทคโนโลยีเปลี่ยน
- บอร์ด รฟม.อนุมัติก่อสร้าง Skywalk เชื่อมสถานีสายสีเขียวเหนือกับสะพานลอยคนเดินข้ามถนนของ กทม.ที่อยู่ใกล้เคียงเพิ่มความสะดวก ขณะที่คาดต้นปี 62 สรุปรายงาน PPP ยืดสายสีชมพูเข้าเมืองทองและและสีเหลืองถึงแยกรัชโยธิน ก่อนชง ครม.เจรจาผลตอบแทน ส่วนรฟท.ถอยชงบอร์ด ปรับลดกรอบงบลงทุนปี 62 ลงอีก 6.4 พันล้านบาท เหลือ 8.26 หมื่นล้านบาท หลังเจอพิษโครงการรถไฟทางคู่อืด ทำไม่ได้ตามเป้า ติดปัญหาการเวนคืน ผู้รับเหมาไม่สามารถเข้าพื้นที่ได้ ตีกันเบิกจ่ายพลาดเป้า แถมมีปัญหาขาดทุนสะสมกว่า 1.3 แสนล้านบาท
- ส.อ.ท.เผยอุตสาหกรรมบรรจุภัณฑ์ปีนี้คาดโตพรวด 10% เหตุได้รับอานิสงส์การส่งออกไทยที่เติบโตและคนไทยนิยมสั่งซื้อสินค้าออนไลน์ทำให้ต้องใช้บรรจุภัณฑ์ เพิ่ม ส่วนการพิมพ์ยังทรงตัวเหตุเทคโนโลยีเปลี่ยนแม้ปลายปีจะมีการสั่งทำปฏิทิน ไดอารีช่วยดันแต่ก็พบไม่มากเช่นอดีต ยิ่ง ส.ค.ส.นับวันถอยหลัง คาดเลือกตั้งดันงบประมาณผ่านสื่อคึกคักแต่การพิมพ์จะได้รับไม่มากเหตุการหาเสียงนิยมใช้สื่อโซเชียลฯ ออนไลน์แทนอดีตที่นิยมพิมพ์โปสเตอร์ ใบปลิว
- รายงานข่าวจากสำนักงาน ก.ล.ต. เปิดเผยว่าในช่วงครึ่งปีหลัง หรือตั้งแต่วันที่ 2 ก.ค.-29 พ.ย.ที่ผ่านมาพบว่าบริษัทจดทะเบียน (บจ.) ในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) ออกและเสนอขายตราสารหนี้ภาคเอกชนระยะยาว (หุ้นกู้) อย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะกลุ่มพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ พบ 13 บริษัทออกหุ้นกู้เพื่อระดมทุนคิดเป็นมูลค่ารวม 26,258 ล้านบาท เนื่องจากต้องการใช้เป็นเงินทุนหมุนเวียนเพื่อดำเนินกิจการ เช่น ซื้อที่ดินเพื่อพัฒนาโครงการ และชำระหนี้คืนสถาบันการเงิน สะท้อนถึงการรองรับแนวโน้มของอัตราดอกเบี้ยขาขึ้น เพราะช่วยควบคุมต้นทุนให้อยู่ในระดับที่เหมาะสม
- องค์กรชั้นนำโลกแนะทุกประเทศเร่งเสริมทักษะแรงงานจริงจัง รับมือยุคเทคโนโลยีเปลี่ยนโลก "ไอแอลโอ" ออกโรงเตือนแรงงานอาเซียน ส่อกระทบหนักสุดยุคหุ่นยนต์-ระบบอัตโนมัติ ขณะ "ดีป้า-ทีดีอาร์ไอ" จี้เร่งพัฒนาคนดิจิทัล หลังพบกำลังคนดิจิทัลไทยมีมาก แต่ทำงานได้จริงน้อย
- หอการค้าไทย ยื่นสมุดปกขาว "บิ๊กตู่" มุ่งลดความเหลื่อมล้ำ และขับเคลื่อนเศรษฐกิจประเทศ เตรียมดันโมเดลแก้จน ชู 1 ไร่ 1 ล้าน และ 1 หอการค้า 1 ท่องเที่ยวชุมชน หวังช่วยขับเคลื่อนเศรษฐกิจฐานราก มั่นใจเศรษฐกิจไทยปี 62 โตกว่า 4% พร้อมจี้นักการเมือง ควรโชว์วิสัยทัศน์ แก้เหลื่อมล้ำและเพิ่มขีดแข่งขันไม่ใช่พูดลอยๆ ซ้ำเติมเศรษฐกิจ
- ผู้ว่าการ ธปท.ระบุยืนยันดอกเบี้ยต่ำพิเศษจำเป็นน้อยลง เชื่อแม้ปรับขึ้นไม่ส่งผลกระทบผู้บริโภค
*หุ้นเด่นวันนี้
- SC (กสิกรไทย) แนะ"ซื้อ"ราคาเป้าหมาย 4.10 บาท คงตั้งเป้ารายได้ 2 หมื่นลบ.ในอีก 2-3 ปีข้างหน้าแม้มาตรการ LTV ใหม่ทำให้ยืดจากแผนเดิมในปี 62 โดยบริษัทปรับแผนเน้นการเพิ่มสัดส่วนรายได้ประจำ แต่การลงทุนสร้างรายได้ประจำในสหรัฐปีนี้คงยังไม่เกิดจากแข่งขันรุนแรงในการประมูลโครงการ งบ 30 ล้านเหรียญต่อปีจะถูกทบเป็นปี 62 สำหรับผลกระทบจาก LTV ใหม่ประเมิน 10% ของ backlog โดย Q4/61 และ Q1/62 จะได้รับผลบวกจากมาตรการดังกล่าวก่อนที่อ่อนลงในไตรมาสถัดไป แม้จะมีมองเชิงบวกเล็กน้อยจากการปรับกลยุทธ์ไปเน้นรายได้ประจำ แต่ยังต้องใช้นานพอสมควรจึงยังคงประมาณการเดิม
- MACO (เมย์แบงก์ กิมเอ็งฯ) แนะ"ซื้อ"ราคาเป้าหมาย 2.54 บาท หลัง (1) มีมติลงทุน upgrade ป้าย Street Furniture 42 ป้ายใน 180 วันข้างหน้า ซึ่งจะทำให้มีมาร์จิ้น และอัตราใช้ป้ายสูงตลอดเวลา จะเพิ่มได้อย่างน้อย 1 เท่าตัวตั้งแต่กลางปี 2562 (2) การซือหุ้น GSG 60% จะให้ธุรกิจผลิตสื่อมีความแข็งแกร่งมากขึ้น เพราะ GSG มีความเชี่ยวชาญในการผลิตติดตั้งสติ๊กเกอร์ติดรถไฟฟ้าส่วนแบ่งตลาดอันดับ 1 ในประเทศ (3) การซื้อหุ้น VGM 75% จาก VGI เสร็จสิ้นแล้ว 30 พ.ย. ตามแผน ซึ่งธุรกิจสื่อในสนามบินกัวลาลัมเปอร์ (KLIA) มีศักยภาพสูงมาก จึงมองว่ามีโอกาสผ่านจุดคุ้มทุนได้ไม่ยากในปี 2562 และ (4) การจัดตั้งบริษัท VGI MACO ร่วมกับกลุ่มทุนที่มีศักยภาพในอินโดนีเซีย เสมือนว่ากลุ่มกำลังสร้างเครือข่ายสื่อ (Advertising Network) ขยายครอบคลุมไปเล่นตลาดอาเซียนแล้ว โดย Upside ทั้ง 4 จะหนุนทั้งกำไร 12 เดือนข้างหน้า
- STEC (ไอร่า) ราคาเป้าหมายที่ 32.50 บาท โดยเป็นหนึ่งในผู้เข้ายื่นซองประมูลโครงการรถไฟความเร็วสูงเชื่อม 3 สนามบิน มูลค่ารวมกว่า 200,000 ล้านบาท ซึ่งร่วมกับ BTS และ RATCH คาด STEC เป็น 1 ใน 4 ผู้รับเหมาฯ รายใหญ่ ที่มีศักยภาพและโอกาสในการรับงานเพิ่ม คาดปี 62 ความสามารถทำกำไรกลับสู่ระดับปกติคาด Gross Profit Margin เฉลี่ยไม่ต่ำกว่า 8.0% (ปี 53-59 เฉลี่ยอยู่ที่ 9.23%) หลังงานก่อสร้างอาคารรัฐสภาแห่งใหม่ใกล้แล้วเสร็จ (Margin= 0%) และสัดส่วนรายได้งานก่อสร้างโรงไฟฟ้า (คาด Margin ไม่ต่ำกว่า 10%) เพิ่มขึ้น พร้อม Backlog (สิ้น 2Q/61) สูงถึง 120,000 ล้านบาท เพียงพอต่อการรับรู้รายได้ไม่ต่ำกว่า 4 ปีข้างหน้า โดยคาดรายได้ปี 61-62 โตเฉลี่ย 20% อยู่ที่ 23,972 ล้านบาท และ 28,766 ล้านบาทตามลำดับ และคาดการณ์กำไรสุทธิปี 62 เพิ่มขึ้น 42% อยู่ที่ 1,419 ล้านบาท
--อินโฟเควสท์