WORLD7

smed PIONEER 720x100ใจฟู720x100pxgpf 720x100 66

SET66ภาวะตลาดหุ้นไทย: แนวโน้มดัชนีเช้านี้รีบาวด์ตามดาวโจนส์ หวังพัฒนาการสงครามการค้าสหรัฐฯ-จีนดีขึ้น ,ราคาน้ำมันปรับขึ้นช่วยหนุน
 
นายกิติชาญ ศิริสุขอาชา ผู้อำนวยการอาวุโสฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์รายย่อย บล.ซีจีเอส-ซีไอเอ็มบี (ประเทศไทย) กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยเช้านี้คาดว่าจะรีบาวด์ได้เล็กน้อยหลังจากเมื่อวานนี้ได้ปรับตัวลงไปมาก และดาวโจนส์ก็ปรับตัวขึ้นไปได้เมื่อคืนที่ผ่านมา ขณะที่ตลาดหุ้นในภูมิภาคเอเชียเช้านี้เคลื่อนไหวทั้งในแดนบวก-ลบ หลังจากที่ตลาดมีความคาดหวังพัฒนาการที่ดีขึ้นของปัญหาข้อพิพาททางการค้าระหว่างสหรัฐและจีน
 
นอกจากนี้ราคาน้ำมันดิบก็รีบาวด์ขึ้นด้วย ทำให้น่าจะไปช่วยหนุนหุ้นในกลุ่มพลังงานได้ อีกทั้งที่ผ่านมาหุ้นขนาดใหญ่อย่างหุ้นในกลุ่มอสังหาริมทรัพย์, กลุ่ม ICT และค้าปลีก ก็ปรับตัวลงไปค่อนข้างมากแล้ว น่าจะมีแรงซื้อกลับเข้ามาบ้าง แม้ว่ามีแนวโน้มที่คณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) จะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในปีหน้า
 
อย่างไรก็ดีตลาดฯต่างก็ยังรอดูการประชุม G20 และความคืบหน้าการเจรจาการค้าระหว่างสหรัฐฯ และจีนว่าจะตกลงกันได้หรือไม่ พร้อมให้แนวรับ 1,630 จุด ส่วนแนวต้าน 1,645 จุด
 
ประเด็นพิจารณาการลงทุน
- ตลาดหุ้นนิวยอร์กล่าสุด (15 พ.ย.61) ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 25,289.27 จุด พุ่งขึ้น 208.77 จุด (+0.83%) ขณะที่ดัชนี S&P500 ปิดที่ 2,730.20 จุด เพิ่มขึ้น 28.62 จุด (+1.06%) และดัชนี Nasdaq ปิดที่ 7,259.03 จุด เพิ่มขึ้น 122.64 จุด (+1.72%)
 
- ตลาดหุ้นเอเชียเปิดตลาดวันนี้ ดัชนี NIKKEI 225 ตลาดหุ้นญี่ปุ่น เพิ่มขึ้น 1.28 จุด, ดัชนี SSE Composite ตลาดหุ้นจีน เพิ่มขึ้น 1.61 จุด, ดัชนี HSI ตลาดหุ้นฮ่องกง ลดลง 61.78 จุด, ดัชนี TAIEX ตลาดหุ้นไต้หวัน ลดลง 7.41 จุด, ดัชนี KOSPI ตลาดหุ้นเกาหลีใต้ เพิ่มขึ้น 9.88 จุด, ดัชนี FTSE STI ตลาดหุ้นสิงคโปร์ เพิ่มขึ้น 14.81 จุด, ดัชนี FBMKLCI ตลาดหุ้นมาเลเซีย เพิ่มขึ้น 11.60 จุด, ดัชนี PSE Composite ตลาดหุ้นฟิลิปปินส์ เพิ่มขึ้น 56.49 จุด
 
- ตลาดหุ้นไทยปิดล่าสุด (15 พ.ย.61) 1,638.83 จุด ลดลง 13.47 จุด (-0.82%)
- นักลงทุนต่างชาติต่างชาติขายสุทธิ 1,348.39 ล้านบาท เมื่อวันที่ 15 พ.ย.61
- ราคาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือน ธ.ค.ในตลาดไนเม็กซ์ปิดทำการล่าสุด (15 พ.ย.61) ปิดที่ 56.46 ดอลลาร์/บาร์เรล เพิ่มขึ้น 21 เซนต์ หรือ 0.4%
 
- ค่าการกลั่นอ้างอิงตลาดสิงคโปร์ปิดล่าสุด (15 พ.ย.61) ที่ 5.40 ดอลลาร์/บาร์เรล
- เงินบาทเปิด 32.95 แข็งค่าตามภูมิภาคหลังดอลล์อ่อน จับตา Fund Flow
- "กอบศักดิ์"เตรียมชงครม.อนุมัติระเบียงเศรษฐกิจ"เอสอีซี"ธ.ค.นี้ ตามยุทธศาสตร์พัฒนาโครงสร้างพื้นฐาน 4 จังหวัด"ชุมพร-ระนอง-สุราษฎร์ธานี-นครศรีธรรมราช" เชื่อมต่ออีอีซีไปสู่ประตูภาคใต้ ชี้ไทยหมดยุคกินบุญเก่า ลั่นนายกฯสั่ง ปักหมุดอีอีซี เป็นผลงานชิ้นโบว์แดงของรัฐบาล "ประยุทธ์ จันทร์โอชา"
 
- "สมคิด" สั่งคลังทบทวนต่ออายุมาตรการหักลดหย่อนภาษีกองทุน แอลทีเอฟ หรือตั้งกองทุนใหม่ตาม ข้อเสนอเอกชน
- เลขาธิการ ก.ล.ต. เผยหารือร่วมกระทรวงการคลัง คาดกำหนดเกณฑ์มาตรการ ICO portal, Exhange และ Dealer ได้ข้อสรุปในธันวาคมปีนี้ แนะนักลงทุนพิจารณาลงทุน ICO แจงที่ผ่านมีความเสี่ยงสูง ล้มเหลวเกิน 90% นักลงทุนโดนหลอกต้มตุ๋นตกเป็นเหยื่อจำนวนมาก
 
- "พาณิชย์" ยืนยัน FTA อาเซียน-จีน สร้างโอกาสค้าขายให้ไทย เผยมูลค่าการค้าเพิ่มขึ้นกว่า 5.3 เท่า ทั้งส่งออกและนำเข้าตลอด 15 ปี พร้อมแจงการนำเข้าที่เพิ่มขึ้น สัดส่วนกว่า 70% เป็นการนำเข้าสินค้าทุน วัตถุดิบ มาผลิตเพื่อใช้ในประเทศและส่งออกต่อ สร้างประโยชน์ให้ไทยเพิ่ม ย้ำหากผู้ประกอบการได้รับผลกระทบจากสินค้าจีน สามารถยื่นขอให้ใช้มาตรการดูแลได้
 
- กสิกรไทยคาดจีดีพี ปี 62 โต 4% จับตาเสี่ยงการค้าโลกโดยเฉพาะสงครามการค้าสหรัฐ-จีน คาดอาจจะฉุดส่งออกไทยขยายตัวลดลงมาอยู่ที่ 5% มองเลือกตั้ง-ขึ้นดอกเบี้ย-ท่องเที่ยวหนุนบาทแข็ง
 
*หุ้นเด่นวันนี้
- IVL (เคทีบี) "ซื้อ"เป้า 75 บาท รายงานข่าวจาก Dutch news agency ANP รายงานว่าเกิดเหตุการณ์เพลิงไหม้โรงงาน IVL ที่ Rotterdam เมื่อวันวานนี้ (15 พ.ย.) ประเด็นดังกล่าวจะส่งผลลบต่อ IVL อย่างไรก็ดี กำลังตรวจสอบข้อมูลกับทางบริษัท IVL ถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ทั้งนี้โรงงาน IVL ที่ Rotterdam เป็นโรงงานผลิต PTA  Polyester Fiber ขนาดใหญ่กำลังการผลิตประมาณ 7 แสนตันต่อปี หรือคิดเป็นประมาณ 7% ของกำลังการผลิตของ IVL โดยประเมินผลกระทบขั้นเลวร้ายถ้ามีเหตุให้ต้องปิดประมาณ 90 วัน หรือ 1 ไตรมาสจะส่งผลกระทบประมาณ 760 ล้านบาท หรือผลระทบต่อราคาหุ้นประมาณ 1.25 บาท
 
- KTC (ฟินันเซีย ไซรัส) "ซื้อ"เป้า 46 บาท ปรับเพิ่มกำไรสุทธิปีนี้ขึ้น 4% เป็น 5.3 พันล้านบาท +61% Y-Y จากกำไร 9M61 ที่ดีกว่าคาดและแนวโน้มกำไร 4Q61 ที่น่าจะทำจุดสูงสุดใหม่อีกครั้งตามฤดูกาลการจับจ่ายใช้สอย ส่วนปีหน้าคาด 6.6 พันล้านบาท +24% Y-Y จากรายได้ดอกเบี้ยที่สูงขึ้นตามการเติบโตของสินเชื่อที่เป็น High-yield ทำให้ Spread ดีขึ้นและคาด Credit cost ลดลงจากการตั้งสำรองฯระดับสูงมีความจำเป็นน้อยลงจากคุณภาพสินเชื่อที่ดีขึ้น
 
- BCH (กรุงศรี) "ซื้อ"เป้า 21 บาท งบ Q3/61 ออกมาดีมีกำไรสุทธิ 356 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 43%qoq และ 18%yoy แนวโน้ม Q4/61 ยังดีต่อ จากรายได้ที่เร่งตัวขึ้นของศูนย์ WMC แจ้งวัฒนะ (เคยเป็นตัวถ่วงจะกลับมาเป็นตัวหนุน)
 
--อินโฟเควสท์
 
 
 

apm

 

 

Facebook

5 ข่าวฮอตนิวส์!