- Details
- Category: หุ้นเด่นวันนี้
- Published: Friday, 19 September 2014 11:00
- Hits: 2902
ภาวะตลาดหุ้นไทย : แนวโน้มดัชนีเช้านี้ปรับขึ้นต่อตามตลาดหุ้นทั่วโลก ปัจจัยภายนอกหนุน
นายอภิชาติ ผู้บรรเจิดกุล ผู้อำนวยการสายงานวิเคราะห์เชิงกลยุทธ์ บล.ทิสโก้ กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยเช้านี้ปรับตัวขึ้นได้ต่อ โดยจะได้รับผลดีจากที่ตลาดหุ้นทั่วโลกปรับตัวเพิ่มขึ้น หลังจากที่ดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดพุ่งขึ้นเมื่อคืนนี้ เนื่องจากนักลงทุน
ขานรับธนาคารกลางสหรัฐ(เฟด) ที่ให้คำมั่นสัญญาว่าจะตรึงอัตราดอกเบี้ยที่ระดับต่ำต่อไปอีก นอกจากนี้ ตลาดยังได้รับแรงหนุนจากจำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานของสหรัฐที่ลดลง
นอกจากนี้ ธนาคารกลางจีน ยังได้มีการปรับลดอัตราดอกเบี้ยลง 0.20% ส่งผลให้อัตราดอกเบี้ยปรับลดลงมาอยู่ที่ 3.50% และเชื่อว่า การลงประชามติของสก็อตแลนด์ จะยังอยู่ในสหราชอาณาจักรต่อไป ซึ่งจะช่วยให้ดัชนีตลาดหุ้นไทยปรับตัวขึ้นได้ในวันนี้
พร้อมให้แนวรับ 1,585 จุด แนวต้าน 1,590 จุด
ประเด็นของการพิจารณาการลงทุน :
- ตลาดหุ้นนิวยอร์คล่าสุด(18 ก.ย.)ดัชนีดาวโจนส์ปิดที่ 17,265.99 จุด พุ่งขึ้น 109.14 จุด (+0.64%),ดัชนี NASDAQ ปิดที่ 4,593.43 จุด เพิ่มขึ้น 31.24 จุด(+0.68%),ดัชนี S&P500 ปิดที่ 2,011.36 จุด เพิ่มขึ้น 9.79 จุด(+0.49%)
- ตลาดหุ้นเอเชียเปิดเช้านี้ ดัชนี NIKKEI 225 ตลาดหุ้นญี่ปุ่นเปิดวันนี้ เพิ่มขึ้น 110.37 จุด, ดัชนี SSE Composite ตลาดหุ้นจีนเปิดวันนี้ ลดลง 2.95 จุด, ดัชนี HSI ตลาดหุ้นฮ่องกงเปิดวันนี้ เพิ่มขึ้น 165.93 จุด, ดัชนี TAIEX ตลาดหุ้นไต้หวันเปิดวันนี้ เพิ่มขึ้น 31.41 จุด, ดัชนี KOSPI ตลาดหุ้นเกาหลีใต้เปิดวันนี้ เพิ่มขึ้น 9.82 จุด, ดัชนี FTSE STI ตลาดหุ้นสิงคโปร์เปิดวันนี้ เพิ่มขึ้น 5.32 จุด และดัชนี FBMKLCI ตลาดหุ้นมาเลเซียเปิดวันนี้ ลดลง 0.23 จุด
- ตลาดหุ้นไทยปิดล่าสุด(18 ก.ย.) 1,584.23 จุด เพิ่มขึ้น 13.59 จุด(+0.87%)
- นักลงทุนต่างชาติขายสุทธิ 219.43 ล้านบาท เมื่อวันที่ 18 ก.ย.57
- ราคาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือน ต.ค.ในตลาดไนเม็กซ์ปิดทำการล่าสุด(18 ก.ย.)ที่ 93.07 ดอลลาร์/บาร์เรล ลดลง 1.35 ดอลลาร์
- ค่าการกลั่นอ้างอิงตลาดสิงคโปร์ปิดล่าสุด(18 ก.ย.)ที่ 6.25 เหรียญสหรัฐฯ/บาร์เรล
- เงินบาทเปิดเช้านี้ที่ 32.26/28 ทรงตัวหลังหมดปัจจัยหนุนทิศทาง
- ตลาดหลักทรัพย์ถก"ก.ล.ต."หาวิธีสกัดหุ้นร้อน เล็งออกมาตรการใหม่เพิ่ม มองราคาหุ้นไอพีโอวิ่งแรงเฉพาะบริษัท ขนาดเล็กชี้การตั้งราคาไอพีโอเหมาะสม นายกสมาคมบล.ยอมรับหุ้นเล็กวิ่งผิดปกติ ระบุต่างชาติไม่กล้าลงทุนหวั่นหุ้นไทยเสี่ยงสูง
- ทอท. เดินหน้าสร้างอาคารผู้โดยสารสนามบินสุวรรณภูมิหลังใหม่ วงเงิน 2.4 หมื่นล้านรองรับผู้โดยสารเพิ่ม 20 ล้านคนต่อปี พร้อมลงทุนทันทีในปี 2558 แทนการลงทุนเฟส 2 โบรกชี้เลือกโครงการมัลติ-ฟังก์ชั่น เทอร์มินัล แทนเฟส 2 ใช้เงินน้อยกว่าถึง 38% ใช้เวลาก่อสร้างเพียง 4 ปี เล็งปรับประมาณกำไร หวังผู้โดยสารกลับมาคึกคักหลังการเมืองคลี่คลาย ระบุแผนปรับเพิ่มค่าธรรมเนียมสนามบิน หนุนกำไรโตปีละ 3.4 พันล้านบาท
- "ณรงค์ชัย" ส่งสัญญาณเอาแน่ต้น ต.ค. ขึ้นราคา LPG ภาคขนส่งให้เท่าครัวเรือนอีก 1.25 บ./กก. ซึ่งอาจขึ้นทีเดียวหรือทยอย และ NGV 1 บ./กก. รับมีมาตรการดูแลคนมีรายได้น้อยโดยเฉพาะแท็กซี่ แย้มหารือคลังเรื่องภาษีฯ ดีเซลแล้วคิวต่อไปเตรียมทำใจขยับดีเซล ลั่น 3 เดือนเห็นแผนผลิตไฟต้องไม่ตก-ดับ หนุนถ่านหินเตือนอิง LNG ทำค่าไฟพุ่งนักลงทุนหนีหมด จ่อเคาะต่อสัญญาเอราวัณ-บงกช เดินหน้าเปิดสัมปทานปิดโตรเลียมรอบ 21
- นายอมรเทพ จาวะลา ผู้อำนวยการสำนักวิจัย ธนาคารซีไอเอ็มบีไทย เปิดเผยว่า แนวโน้มค่าเงินบาทในปี 2558 มีโอกาสที่จะอ่อนค่าอย่างรวดเร็วไปอยู่ที่ระดับ 34 บาท/เหรียญสหรัฐ ซึ่งเป็นผลจากการไหลออกของเงินทุนเคลื่อนย้ายจากการสิ้นสุดของมาตรการคิวอีของสหรัฐในปลายเดือน ต.ค. นี้
- "สมชาย พูลสวัสดิ์" อธิบดีกรมสรรพสามิต เปิดเผยว่า กรมจะแก้กฎหมายเปลี่ยนวิธีการเก็บภาษีสรรพสามิตรถยนต์และสินค้าอื่นๆ ใหม่ เพื่อปรับภาษีให้เป็นฐานราคาเดียวกัน จากที่ปัจจุบันจัดเก็บหลายฐานราคา
- นายสมหมาย ภาษี รมว.คลัง เปิดเผยถึงภาษีมรดก ว่า รัฐบาลจะออกเป็น พ.ร.บ. ภาษีการรับมรดกและภาษีการรับให้ โดยมีการผ่อนคลายมากขึ้น ทั้งการเก็บภาษีอัตราเดียว 10% ซึ่งถือว่าไม่สูงเมื่อเทียบกับญี่ปุ่นที่เก็บภาษีมรดก 33% นอกจากนี้ ยังยกเว้นให้กับมรดกที่มีมูลค่าไม่เกิน 50 ล้านบาท ขณะที่การคิดมูลค่ามรดกจะให้นำไปหักกับหนี้สินของเจ้าของมรดกก่อน เพื่อให้เกิดความเป็นธรรมมากขึ้น รวมทั้งไม่ให้มีการหลบเลี่ยงการเสียภาษีมรดกหรือโอนเงินไปต่างประเทศ
*หุ้นเด่นวันนี้
- TMB(ดีบีเอส วิคเคอร์)"ซื้อ"เป้า 3.60 บาท ปัจจัยกระตุ้นราคาหุ้น คือ การเก็งกำไรการขายหุ้น TMB ของกระทรวงการคลัง ทั้งนี้ คาด ROE ในปี 57-58 ของ TMB จะเพิ่มขึ้นเป็น 13% และ 14% ตามลำดับ (จาก 9% ในปี 56) โดยเป็นผลจากการปรับแผนกลยุทธ์ทางธุรกิจ โดยแผนด้านเงินฝากทำให้ธนาคารมีฐานเงินจากลูกค้ารายย่อยและ SME ใหญ่ขึ้น ต้นทุนทางการเงินต่ำลง นอกจากนั้นธนาคารยังขยายรายได้ที่ไม่ไช่ดอกเบี้ยด้วยการทำ Cross-selling มากขึ้น และพยายามควบคุมค่าใช้จ่ายดำเนินงานให้มีประสิทธิภาพมากขึ้น ด้านการตั้งสำรองค่าเผื่อฯ คาดว่าจะลดลงในระยะต่อไป ด้าน NPL ลดลงต่อเนื่อง จาก 12.1% ใน 1Q53 เป็น 3.4% ใน 2Q57 และคาดว่าสิ้นปี 58 จะลดลงสู่ระดับใกล้เคียงอุตสาหกรรมที่ 3%
- CPF(ดีบีเอส วิคเคอร์ส)"ซื้อ"เป้า 38 บาท จากแนวโน้มที่มีการฟื้นตัวสดใส และอัตราการเติบโตของกำไรก็อยู่ในเกณฑ์ที่สูงมาก ทั้งนี้ได้มีการปรับประมาณการกำไรปี 57 เพิ่ม 12% เพื่อสะท้อนอัตรากำไรที่แข็งแกร่งจากธุรกิจเนื้อสัตว์ที่ราคาขายสูง แต่ราคาวัตถุดิบอยู่ในเกณฑ์คงที่ โดยแนวโน้มการส่งออกไก่สดใส จากเหตุการณ์ต่างๆของประเทศที่นำเข้าไก่ ได้แก่รัสเซีย ห้ามนำเข้า (embargo) ไก่จาก EU และสหรัฐ สำหรับทางญี่ปุ่นได้ยกเลิกการไม่ให้นำเข้าไก่จากไทย รวมทั้งฟิลิปปินส์อนุญาตให้นำเข้าไก่ปรุงสุกจากไทย เพื่อป้อนแก่อุตสาหกรรมอาหารฟ้าสฟู้ดส์ในประเทศ ปัจจัยเหล่านี้ล้วนส่งผลดีต่อ CPF ให้ส่งออกไก่ได้เพิ่มขึ้น
- PTT,PTTEP,BANPU(เคทีบี)"ซื้อลงทุน"แม้ในระยะสั้น ผลประกอบการงวด 3Q57 ของบริษัทส่วนใหญ่ในกลุ่มพลังงานและปิโตรเคมีจะถูกผลกระทบจากการคาดการณ์ขาดทุนสต็อก(stock loss) เนื่องจากราคาน้ำมันดิบในตลาดโลกที่อ่อนตัวลง q-o-q แต่ถ้ามองระยะต่อไป น่าสนใจกำลังเพิ่มขึ้นตามลำดับ โดยมีแรงหนุนจากความชัดเจนของ รมว.พลังงาน ในการเดินหน้าปรับราคาพลังงานให้เป็นธรรมทั้งในส่วนของ LPG-NGV-Diesel รวมทั้งการสร้างความมั่นคงด้านพลังงานในการเปิดสัมปทานรอบใหม่โดยด่วน ซึ่งเป็นบวกต่อราคาหุ้นในกลุ่มพลังงานในลำดับต่อไป พร้อมให้เป้าหมาย PTT-PTTEP-BANPU เท่ากับ 420, 204 และ 35.25 (ต้าน) บาท ตามลำดับ
- SF(เมย์แบงก์ กิมเอ็ง)"ซื้อ"เป้า 9.50 บาท จากทิศทางการเติบโตอย่างมีเสถียรภาพเพราะสามารถปรับขึ้นค่าเช่าได้ปีละ 4-5% และการขยายพื้นที่เช่าต่อเนื่อง รวมทั้งเป็นหุ้นที่ได้ประโยชน์โดยตรงจากการฟื้นตัวของเศรษฐกิจ เนื่องจากจะส่งผลให้ SF ได้รับส่วนแบ่งรายได้จากผู้เช่าเพิ่มขึ้นในทิศทางเดียวกับยอดขายสินค้า Ffp โดยคาดอัตราเข้าเช่าใน 2H57 ขยายตัวจาก 1H57 และการเติบโตแบบก้าวกระโดดเป็นปัจจัยบวกระยะยาวที่รออยู่ จากการเปิดโครงการ IKEA รังสิต ในอีก 3-5 ปีข้างหน้า พร้อมคาดกำไรสุทธิปี 2558 เติบโต +9.4% yoy เป็น 602 ล้านบาท จากพื้นที่เช่าใหม่ของโครงการ LPN รังสิต และโครงการใหม่ในต่างจังหวัดอีก 2 แห่ง ปัจจัยบวกระยะสั้น คือ การขายที่ดิน 50 ไร่ ติดกับ Mega Bangna ใน 4Q57 หรือ 1Q58 และคาดว่าจะส่งผลให้ SF มีกำไรพิเศษสูงถึง 600 ล้านบาท
ตลาดหุ้นเอเชียทะยานขึ้นเช้านี้ ขานรับข้อมูลแรงงานสหรัฐ
ตลาดหุ้นเอเชียปรับตัวเพิ่มขึ้นในช่วงเช้าวันนี้ โดยได้รับแรงหนุนจากจำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานของสหรัฐที่ลดลงมากกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ไว้
ดัชนี MSCI Asia Pacific Index (MXAP) เพิ่มขึ้น 0.3% สู่ระดับ 144.37 จุด เมื่อเวลา 10.01 น.ตามเวลาโตเกียว
ดัชนี NIKKEI 225 ตลาดหุ้นญี่ปุ่นเปิดวันนี้ที่ 16,177.94 จุด เพิ่มขึ้น 110.37 จุด, ดัชนี SSE Composite ตลาดหุ้นจีนเปิดวันนี้ที่ 2,312.98 จุด ลดลง 2.95 จุด, ดัชนี HSI ตลาดหุ้นฮ่องกงเปิดวันนี้ที่ 24,334.65 จุด เพิ่มขึ้น 165.93 จุด, ดัชนี TAIEX ตลาดหุ้นไต้หวันเปิดวันนี้ที่ 9,268.44 จุด เพิ่มขึ้น 31.41 จุด, ดัชนี KOSPI ตลาดหุ้นเกาหลีใต้เปิดวันนี้ที่ 2,057.56 จุด เพิ่มขึ้น 9.82 จุด, ดัชนี FTSE STI ตลาดหุ้นสิงคโปร์เปิดวันนี้ที่ 3,302.61 จุด เพิ่มขึ้น 5.32 จุด และดัชนี FBMKLCI ตลาดหุ้นมาเลเซียเปิดวันนี้ที่ 1,845.09 จุด ลดลง 0.23 จุด
ตลาดหุ้นเอเชียได้รับแรงหนุนหลังจากกระทรวงแรงงานสหรัฐเปิดเผยว่า จำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานในสัปดาห์ซึ่งสิ้นสุดวันที่ 13 ก.ย. ปรับตัวลง 36,000 ราย แตะที่ 280,000 ราย ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดนับตั้งแต่เดือนก.ค. และลดลงมากกว่าที่นักวิเคราะห์คาดว่าจะลดลงมาอยู่ที่ระดับ 305,000 ราย นับเป็นสัญญาณว่าตลาดแรงงานยังคงปรับตัวแข็งแกร่งขึ้น
ภาวะตลาดหุ้นลอนดอน : ฟุตซี่ปิดบวก 38.39 จุด ขณะจับตาผลประชามติสกอตแลนด์
ตลาดหุ้นลอนดอนปิดปรับตัวขึ้นเมื่อคืนนี้ (18 ก.ย.) ขณะที่ชาวสกอตจำนวนราว 4.3 ล้านคนเดินทางออกมาใช้สิทธิออกเสียงประชามติเพื่อแยกตัวเป็นอิสระจากสหราชอาณาจักร
ดัชนี FTSE 100 เพิ่มขึ้น 38.39 จุด หรือ 0.57% ปิดที่ 6,819.29 จุด
ตลาดปิดปรับตัวแข็งแกร่ง ขณะที่นักลงทุนรอดูผลการลงประชามติเกี่ยวกับการแยกตัวเป็นอิสระของสกอตแลนด์ ซึ่งคาดว่าจะมีการประกาศผลในเวลาประมาณ 7.00 น.ของวันศุกร์ ตามเวลาท้องถิ่น
นอกจากนี้ ตลาดยังได้รับปัจจัยบวก หลังสำนักงานสถิติแห่งชาติของอังกฤษเปิดเผยว่า ยอดค้าปลีกของอังกฤษในเดือนส.ค.เพิ่มขึ้น 3.9% เทียบกับปีก่อน และปรับขึ้น 0.4% จากเดือนก.ค. โดยได้รับแรงผลักดันจากการซื้อสินค้าภาคครัวเรือนที่เพิ่มสูงขึ้น ซึ่งบ่งชี้ว่าเศรษฐกิจของอังกฤษยังคงมีการฟื้นตัว
หุ้นรอยัล แบงก์ ออฟ สกอตแลนด์ กรุ๊ป และหุ้นอาเบอร์ดีน แอสเซ็ท แมเนจเมนท์ ต่างก็ดีดตัวขึ้น ขณะที่หุ้น TUI Travel พุ่ง 4.7% หลังมอร์แกน สแตนลีย์แนะนำให้นักลงทุนซื้อหุ้นดังกล่าว
ภาวะตลาดหุ้นยุโรป : หุ้นยุโรปปิดพุ่ง หลังเฟดส่งสัญญาณยังไม่ขึ้นดอกเบี้ย
ตลาดหุ้นยุโรปปิดพุ่งขึ้นเมื่อคืนนี้ (18 ก.ย.) ขานรับถ้อยแถลงของนางเจเน็ต เยลเลน ประธานธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ที่ส่งสัญญาณว่า เฟดจะยังไม่ปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในระยะใกล้นี้
ดัชนี Stoxx 600 พุ่งขึ้น 1% ปิดที่ 347.78 จุด
ดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมันปิดที่ 9,798.13 จุด เพิ่มขึ้น 136.63 จุด หรือ +1.41% ดัชนี CAC-40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศสปิดที่ 4,464.70 จุด เพิ่มขึ้น 33.29 จุด หรือ +0.75% ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 6,819.29 จุด เพิ่มขึ้น 38.39 จุด หรือ +0.57%
นักลงทุนในตลาดหุ้นยุโรปขานรับเฟดที่ตัดสินใจคงอัตราดอกเบี้ยระยะสั้นเอาไว้ที่ระดับ 0-0.25% ในการประชุมครั้งล่าสุด และยืนยันว่าเฟดจะตรึงอัตราดอกเบี้ยระยะสั้นเอาไว้ที่ระดับใกล้ศูนย์ต่อไปอีก แม้ว่าโครงการซื้อพันธบัตรสิ้นสุดลงตามกำหนดก็ตาม
ตลาดได้รับปัจจัยบวกมากขึ้นเมื่อสหรัฐรายงานว่า จำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานในสัปดาห์ซึ่งสิ้นสุดวันที่ 13 ก.ย. ปรับตัวลง 36,000 ราย แตะที่ 280,000 ราย ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดนับตั้งแต่เดือนก.ค. และลดลงมากกว่าที่นักวิเคราะห์คาดว่าจะลดลงมาอยู่ที่ระดับ 305,000 ราย สะท้อนให้เห็นว่าตลาดแรงงานยังคงปรับตัวแข็งแกร่งขึ้น
หุ้น Bayer ซึ่งเป็นผู้ผลิตยารายใหญ่ของเยอรมนี พุ่งขึ้น 6.2% ขณะที่หุ้น sulzer พุ่งขึ้น 8.1% ส่วนหุ้น TUI Travel ทะยานขึ้น 4.7% หลังจากนักวิเคราะห์ของมอร์แกน สแตนลีย์ ได้ปรับเพิ่มน้ำหนักความน่าลงทุนของหุ้นดังกล่าว
หุ้นสายการบินอีซีเจ็ท ปรับขึ้น 0.5% หลังจากบริษัทประกาศว่าจะเพิ่มสัดส่วนการจ่ายเงินปันผลเป็น 40% ของผลกำไรหลังหักภาษี
ภาวะตลาดหุ้นนิวยอร์ก : ดาวโจนส์ปิดพุ่ง 109.14 จุด รับเฟดเดินหน้าตรึงดบ.ต่ำ
ดัชนี ดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดพุ่งขึ้นเมื่อคืนนี้ (18 ก.ย.) เนื่องจากนักลงทุนขานรับธนาคารกลางสหรัฐ(เฟด) ที่ให้คำมั่นสัญญาว่าจะตรึงอัตราดอกเบี้ยที่ระดับต่ำต่อไปอีก นอกจากนี้ ตลาดยังได้รับแรงหนุนจากจำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานของสหรัฐที่ลดลงมากกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ไว้
ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 17,265.99 จุด พุ่งขึ้น 109.14 จุด หรือ +0.64% ดัชนี NASDAQ ปิดที่ 4,593.43 จุด เพิ่มขึ้น 31.24 จุด หรือ +0.68% ดัชนี S&P500 ปิดที่ 2,011.36 จุด เพิ่มขึ้น 9.79 จุด หรือ +0.49%
ตลาดหุ้นนิวยอร์กทะยานขึ้นแข็งแกร่ง โดยดัชนีดาวโจนส์และ S&P 500 พุ่งขึ้นแตะระดับสูงสุดระดับใหม่ หลังจากคณะกรรมการกำหนดนโยบายการเงินของเฟด (เอฟโอเอ็มซี) มีมติคงอัตราดอกเบี้ยระยะสั้นเอาไว้ที่ระดับ 0-0.25% ในการประชุมครั้งล่าสุด และยังคงยืนยันว่า เฟดจะตรึงอัตราดอกเบี้ยระยะสั้นเอาไว้ที่ระดับใกล้ศูนย์ต่อไปอีก แม้ว่าโครงการซื้อพันธบัตรสิ้นสุดลงตามกำหนดก็ตาม
นอกจากนี้ ตลาดยังได้รับแรงหนุนหลังจากกระทรวงแรงงานสหรัฐเปิดเผยว่า จำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานในสัปดาห์ซึ่งสิ้นสุดวันที่ 13 ก.ย. ปรับตัวลง 36,000 ราย แตะที่ 280,000 ราย ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดนับตั้งแต่เดือนก.ค. และลดลงมากกว่าที่นักวิเคราะห์คาดว่าจะลดลงมาอยู่ที่ระดับ 305,000 ราย นับเป็นสัญญาณว่าตลาดแรงงานยังคงปรับตัวแข็งแกร่งขึ้น
หุ้น ConAgra Foods ซึ่งเป็นเจ้าของแบรนด์อาหารชื่อดังอย่าง "Chef Boyardee" และ "Healthy Choice" ปรับตัวเพิ่มขึ้น 4.6% หลังจากบริษัทเปิดเผยผลประกอบการที่ดีเกินคาด
หุ้น Kohl's Corp ปรับขึ้น 1.6% หลังจากนักวิเคราะห์ของซิตี้กรุ๊ปแนะนำให้นักลงทุนซื้อหุ้นดังกล่าว
หุ้น AOL ทะยานขึ้น 3.3% หลังจากนักวิเคราะห์ของบีจีซี ไฟแนนเชียล แนะนำให้นักลงทุนเข้าซื้อหุ้นดังกล่าว อันเนื่องมาจากผลประกอบการที่แข็งแกร่ง
นักลงทุนจับตาดูการซื้อขายหุ้นอาลีบาบา หลังจากบริษัทได้ปรับเพิ่มช่วงราคาหุ้น IPO เป็น 66-68 ดอลลาร์ต่อหุ้น จากก่อนหน้านี้ที่ระดับ 60-66 ดอลลาร์ต่อหุ้น ซึ่งการปรับเพิ่มช่วงราคาดังกล่าว จะทำให้อาลีบาบาสามารถระดมทุนได้สูงสุดถึง 2.18 หมื่นล้านดอลลาร์ผ่านการออกหุ้น IPO ซึ่งสูงกว่าสถิติสูงสุดที่บริษัทวีซ่าเคยทำไว้ที่ 1.97 หมื่นล้านดอลลาร์ในปี 2551
อินโฟเควสท์