WORLD7

smed PIONEER 720x100ใจฟู720x100pxgpf 720x100 66

โบรกฯ คาด พรุ่งนี้ SET ยังปรับฐาน หลัง P/E ตลาดทะลุ 16 เท่า พร้อมจับตาผลประชุมเฟด แนะขายทำกำไร - ถือเงินสด

      โบรกฯ คาด พรุ่งนี้หุ้นไทยลงต่อ ชี้เป็นช่วงจังหวะปรับฐาน หลัง P/E ตลาดทะลุ 16 เท่า พร้อมจับตาประชุมเฟดว่าจะขึ้นดบ.ตามคาดหรือไม่  แนะทยอยขายทำกำไร ถือเงินสดหรือ หาหุ้นที่ผันผวนต่ำอย่าง รับเหมาฯ ท่องเที่ยว และพลังงานทดแทน ประเมินแนวรับ 1,550 จุด แนวต้าน 1,590-1,592 จุด

   นายวิกิจ ถิรวรรณรัตน์ ผู้อำนวยการสายงานวิจัยลูกค้าบุคคล บล.บัวหลวง เปิดเผยว่า ระหว่างวันดัชนีหุ้นไทยเคลื่อนไหวกรอบแคบ ก่อนที่ช่วงท้ายที่จะปิดทำการซื้อขาย ดัชนีฯ ปรับลดลงค่อนข้างแรง ซึ่งประเมินว่าเป็นการเข้าสู่ช่วงการปรับฐานรอบใหม่ หลังจากที่ก่อนหน้านี้ นับตั้งแต่สัปดาห์ที่ผ่านมา ดัชนีฯ เคลื่อนไหวอยู่ในกรอบแคบ บรรยากาศการลงทุนไร้ปัจจัยกระตุ้น การลงทุนในหุ้นขนาดใหญ่ชะลอตัวลง แม้นักลงทุนจะหันไปเก็งกำไรหุ้นขนาดกลาง-เล็ก แต่ราคาหุ้นกลุ่มดังกล่าวก็ปรับเพิ่มจนสูงแล้วเป็นส่วนใหญ่ จึงเป็นช่วงจังหวะของการปรับฐานลดความร้อนแรงของดัชนีฯ ที่ปรับตัวเพิ่มขึ้นมาอย่างต่อเนื่อง

   ส่วนการประชุมธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) วันที่ 16-17 ก.ย. นี้ ที่ตลาดคาดว่าจะประกาศระยะเวลาในการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย วึ่งตลาดรับรู้ปัจัจยดังกล่าวมาแล้วพอสมควร แต่ในทางตรงกันข้ามหากเฟดไม่ได้พูดถึงการปรับอัตราดอกเบี้ยในรอบนี้ ก็ไม่ได้มีผลบวกต่อตลาดเช่นกัน เพราะยังคงให้น้ำหนักกับการปรับฐานเนื่องราคาหุ้นไทยยังอยู่ในระดับสูงมากกว่า

   สำหรับพรุ่งนี้ คาดหุ้นไทยขยับลงต่อ อยู่ในช่วงของการปรับฐาน อาจจะลุ้นเห็นจังหวะรีบาวน์ได้บ้าง แต่ภาพรวมยังเป็นการปรับฐานช่วงสั้น ดัชนีฯ ไม่น่าจะลงไปลึกมาก มองแนวรับ 1,530-1,517 จุด เป็นจุดแนวรับสำคัญ ส่วนการประชุมคณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) วันพรุ่งนี้  คาดคงอัตราดอกเบี้ยนโยบายระดับเดิม 2% แต่อาจจะมีการปรับขึ้นในอนาคต จากภาวะเศรษฐกิจที่ฟื้นตัว อัตราเงินเฟ้อที่ขยายตัว

   ด้านกลยุทธ์ แนะทยอยขายทำกำไร-ถือเงินสดเพิ่ม และรอกลับเข้าซื้ออีกครั้งในจังหวะการปรับฐาน โดยประเมินแนวรับ 1,550 จุด แนวต้าน 1,570-1,580 จุด

   นายกรภัทร วรเชษฐ์ ผู้อำนวยการฝ่ายวิจัยและบริการการลงทุน บล.โนมูระ พัฒนสิน เปิดเผยว่า ภาพรวมของดัชนีตลาดหุ้นไทยวันนี้แกว่งตัวลงในช่วงเช้า และปรับตัวลดลงแรงในช่วงท้ายตลาดฯ เนื่องจากนักลงทุนวิตกกังวลต่อสถานการณ์ตลาดหุ้นต่างประเทศระหว่างการประชุมธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) ที่จะมีขึ้นในวันพุธ-พฤหัสบดีนี้ ว่าที่ประชุมจะส่งสัญญาณต่อการขึ้นอัตราดอกเบี้ยหรือไม่ หากมีการขึ้นอัตราดอกเบี้ยเร็วกว่าคาดจริง จะส่งผลให้ดัชนีฯปรับฐานลงแรงในช่วงระยะ 1 สัปดาห์ ด้วยค่า P/E ตลาดฯปัจจุบันที่สูงกว่า 16 เท่า ขณะที่ปัจจัยภายในประเทศยังขาดปัจจัยบวก เพราะอยู่ในช่วงรอความชัดเจนของการอนุมัติโครงการต่างๆที่ทางรัฐบาลต้องอัดฉีดเงินสนับสนุนเข้าสู่ระบบ ซึ่งนักลงทุนตอบรับในเชิงบวกกับประเด็นนี้มาก่อนหน้าแล้ว แต่เป็นการดูความคืบหน้ามากกว่า

   สำหรับแนวโน้มของดัชนีตลาดหุ้นไทยในวันพรุ่งนี้คาดว่าจะแกว่งตัวในแดนลบ เพราะ ประเมินว่าทิศทางของตลาดหุ้นสหรัฐฯค่อนข้างจะผันผวนรอลุ้นที่ประชุมเฟดว่าจะส่งสัญญาณต่อภาพรวมเศรษฐกิจอย่างไร หากนักลงทุนที่ต้องการหาจังหวะเข้าลงทุนโดยเลี่ยงการเก็งตามปัจจัยต่างประเทศนั้น ให้เลือกหุ้นที่มีความผันผวนต่ำในกลุ่มรับเหมาก่อสร้าง และหุ้นกลุ่มท่องเที่ยว ส่วนหุ้นกลุ่มพลังงานทางเลือกที่ก่อนหน้าราคาหุ้นปรับตัวขึ้นมาดีมาก แต่อ่อนตัวลง เพราะรอการเปิดประมูลใบอนุญาต PPA จึงให้เลือกเฉพาะรายตัว เช่น DEMCO,GUNKUL เป็นต้น ที่โครงสร้างทางการเงินแข็งแกร่งที่สุดในกลุ่ม หากพ้นช่วงการประมูล คาดว่าราคาหุ้นกลุ่มจะกลับมาคึกคักในระยะกลางได้

   ด้านกลยุทธ์การลงทุนแนะนำให้สะสมเมื่อดัชนีฯย่อตัวในช่วง 1,570-1,550 จุด ทั้งนี้ประเมินแนวรับที่ 1,566-1,550 จุด และแนวต้านที่ 1,589-1,592 จุด

สำนักข่าวอีไฟแนนซ์ไทย

apm

 

 

Facebook

5 ข่าวฮอตนิวส์!