WORLD7

smed PIONEER 720x100ใจฟู720x100pxgpf 720x100 66

ภาวะตลาดหุ้นไทย : แนวโน้มดัชนีเช้านี้แกว่งแคบรอประชุม เฟด-กนง./ติดตามแถลงนโยบายรัฐวันนี้

       นายชัยพร น้อมพิทักษ์เจริญ ผู้ช่วยกรรมการอำนวยการ สายงานวิจัยลูกค้าบุคคล บล.บัวหลวง(BLS) กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยเช้านี้แกว่งตัวในกรอบแคบ ๆ โดยหลัก ๆ นักลงทุนมีการเทรดรอผลการประชุมธนาคารกลางสหรัฐฯ(เฟด) และการประชุมคณะกรรมการนโยบายทางการเงิน(กนง.)กลางสัปดาห์หน้า ขณะที่การแถลงนโยบายของรัฐบาลวันนี้ มองว่านักลงทุนส่วนใหญ่น่าจะรับข่าวเกี่ยวกับเนื้อหาหลักมาพอสมควรแล้ว

     สำหรับ ตลาดหุ้นอื่นในภูมิภาคเอเชียเช้านี้ส่วนใหญ่เคลื่อนไหวทั้งในแดนบวก-ลบ โดยตลาดอาเซียนยังไม่มีทิศทางที่ชัดเจนมากในระยะสั้นนี้

พร้อมให้แนวรับ 1,560-1,570 จุด ส่วนแนวต้าน 1,600 จุด

ประเด็นของการพิจารณาการลงทุน :

   - ตลาดหุ้นนิวยอร์คล่าสุด(11 ก.ย.)ดัชนีดาวโจนส์ปิดที่ 17,049.00 จุด ลดลง 19.71 จุด (-0.12%), ดัชนี NASDAQ ปิดที่ 4,591.81 จุด เพิ่มขึ้น 5.29 จุด (+0.12%), ดัชนี S&P500 ปิดที่ 1,997.45 จุด เพิ่มขึ้น 1.76 จุด (+0.09%)

   - ตลาดหุ้นเอเชียเปิดเช้านี้ ดัชนี NIKKEI 225 ตลาดหุ้นญี่ปุ่น ลดลง 24.16 จุด, ดัชนี SSE Composite ตลาดหุ้นจีน ลดลง 3.33 จุด, ดัชนี HSI ตลาดหุ้นฮ่องกง ลดลง 42.45 จุด, ดัชนี TAIEX ตลาดหุ้นไต้หวัน เพิ่มขึ้น 1.79 จุด, ดัชนี KOSPI ตลาดหุ้นเกาหลีใต้ เพิ่มขึ้น 8.35 จุด, ดัชนี FTSE STI ตลาดหุ้นสิงคโปร์ ลดลง 4.87 จุด และดัชนี FBMKLCI ตลาดหุ้นมาเลเซีย ลดลง 0.61 จุด

    - ตลาดหุ้นไทยปิดล่าสุด(11 ก.ย.)1,580.87 จุด ลดลง 1.26 จุด(-0.08%)

    - นักลงทุนต่างชาติขายสุทธิ 163.61 ล้านบาท เมื่อวันที่ 11 ก.ย.57

    - ราคาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือน ต.ค.ในตลาดไนเม็กซ์ปิดทำการล่าสุด(11 ก.ย.)ที่ 92.83 ดอลลาร์/บาร์เรล เพิ่มขึ้น 1.16 ดอลลาร์

    - ค่าการกลั่นอ้างอิงตลาดสิงคโปร์ปิดล่าสุด(11 ก.ย.)ที่ 7.06 เหรียญสหรัฐฯ/บาร์เรล

    - เงินบาทเปิดเช้านี้ที่ 32.20/21 เกาะติดปัจจัยจากนอกปท.

    - คลังเดินหน้านโยบายรัฐบาล วางกรอบกระตุ้นเศรษฐกิจระยะสั้นถึงกลางปี 2558 ผ่านเบิกจ่ายงบค้างท่อ 3 แสนล้าน พร้อมชงโครงการจ้างงาน หวังอัดฉีดเงินเข้าระบบ ขณะเตรียมดันภาษีที่ดิน-สิ่งปลูกสร้าง-มรดก คาดเสร็จในรัฐบาล ขณะนักวิชาการหนุนเต็มที่ ชี้เป็นคุณูปการของประเทศ หากทำสำเร็จ แนะเพิ่มกฎหมายคุมวินัยการคลัง

    - ตลาดหลักทรัพย์ หารือโบรกเกอร์ เตรียม นำมาตรการหยุดการซื้อขายทันทีในระยะเวลาหนึ่ง หวังคุมการซื้อขายหุ้นที่มีความถี่สูงและราคาร้อนแรงผิดปกติ หวังเพื่อเตือนสติรายย่อยให้หยุดคิด

    - นายสันติ กีระนันทน์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท ทริส เรทติ้ง เปิดเผยว่า แนวโน้มอันดับความน่าเชื่อถือของไทยในปี 2557 ต่อเนื่องไปจนถึงปีหน้ายังมีเสถียรภาพ หลังจากที่การเมืองนิ่งทำให้ขีดความสามารถการแข่งขันของประเทศเพิ่มขึ้น

    - นางจินตนา ชัยยวรรณาการ อธิบดีกรมการค้าภายใน เปิดเผยว่า กรมอยู่ระหว่างประเมินราคาสินค้าอุปโภคและบริโภคโดยรวมและมีความเป็นไปได้ที่จะต่ออายุมาตรการตรึงราคาสินค้าต่อเนื่องไปอีก 2-3 เดือน หรือให้สิ้นสุดเดือน ม.ค.-ก.พ. ปีหน้า โดยจะเสนอขอความเห็นชอบจาก พล.อ.ฉัตรชัย สาริกัลยะ รมว.พาณิชย์ พิจารณาก่อน หากอนุมัติก็จะแจ้งต่อผู้ประกอบการต่อไป

    - "แบงก์ชาติ" ย้ำแผนปล่อยกู้ "ซอฟท์โลน" ช่วยเอสเอ็มอีต้องคิดรอบคอบ หวั่นขัด พ.ร.บ. ธปท. ปี 2551 เผยที่ผ่านมาได้ให้ความช่วยเหลือเอสเอ็มอีต่อเนื่อง ทั้งการเสริมสภาพคล่อง ปรับโครงสร้างหนี้ ลดค่าธรรมเนียม ด้านผู้บริหารแบงก์กสิกรไทยมองยังไม่จำเป็นเพราะสถานการณ์เศรษฐกิจเริ่มดีขึ้น

   - ศูนย์วิจัยทองคำคาดเฟดขึ้นดอกเบี้ย ธ.ค.ปีนี้ ส่งผลราคาทองคำร่วงเหลือบาทละ 1.7-1.8 หมื่นบาท ส่วนจะลงแรงกว่านี้หรือไม่ต้องรอลุ้นสหรัฐจะเข็นมาตรการอื่นออกมาเสริมหรือไม่ แนะนำนักลงทุนทยอยซื้อสะสมทำกำไรระยะยาว

*หุ้นเด่นวันนี้

   - AP(ฟินันเซีย ไซรัส)"ซื้อ"เซอร์ไพรส์จ่ายปันผลจากปกติจ่ายปีละ 1 ครั้ง จ่ายเป็นหุ้น 10:1 และเงินสด 0.02 บาท/หุ้น(XD 20 ต.ค.)คาดจะจ่ายอีก 0.27 บาท/หุ้นสำหรับกำไรปีนี้ รวมเป็นปันผลทั้งหมด 0.39 บาท/หุ้น คิดเป็น yield 5.2% สูงสุดในกลุ่ม ขณะที่ PE ปีหน้าต่ำเป็นอันดับ 2 ของกลุ่มที่ 8.9 เท่า ยอด Presales 8M14 ทำได้ 62% ของเป้าทั้งปี น่าจะทำตามเป้าได้ พร้อมให้เป้าหมายปีหน้า 8.45 บาท และ dilute เป็น 7.70 บาทหลังจ่ายหุ้นปันผล

   - CK(เมย์แบงก์ กิมเอ็ง)"ซื้อเก็งกำไร"เป้า 31 บาท รัฐบาลแถลงนโยบายวันนี้ คาดเป็นบวกต่อหุ้นกลุ่มรับเหมาก่อสร้างจากแผนเศรษฐกิจเน้นลงทุนโครงสร้างพื้นฐานของประเทศ และได้อานิสงส์เชืงบวกกองทุน Trigger Fund กองใหม่วงเงิน 1.5 พันล้านบาทเน้นลงทุนหุ้นกลุ่มหลักทั้งธนาคารและรับเหมาฯ คาดเม็ดเงินใหม่จะเข้าสู่ตลาด 24-25 ก.ย.นอกจากนั้น การยื่นซองประมูลรถไฟฟ้าสายสีเขียวเหนือ(หมอชิต-สะพานใหม่คูคต) วงเงิน 2.9 หมื่นล้านบาท ในวันที่ 30 ก.ย.

  - CK, BWG, CPF(เคทีบี)"เก็งกำไร"นโยบายการบริหารประเทศของรัฐบาลเป็นตัวหนุน ให้น้ำหนักลงทุนทางด้านโครงสร้างพื้นฐานของประเทศเพื่อการเติบโตทางเศรษฐกิจต่อเนื่องและยั่งยืน รวมทั้งการฟื้นตัวของเศรษฐกิจภายในประเทศในช่วง 1 ปีข้างหน้าเป็นตัวหนุน พร้อมให้ราคาเป้าหมายเท่ากับ 29.08, 5.45 และ 33.80 บาท ตามลำดับ

ตลาดหุ้นเอเชียหดตัวลงเช้านี้ เหตุวิตกสถานการณ์ตะวันออกกลาง

    ตลาดหุ้นเอเชียปรับตัวลดลงในช่วงเช้าวันนี้ เนื่องจากนักลงทุนวิตกกังวลเกี่ยวกับสถานการณ์ตึงเครียดในตะวันออกกลาง หลังจากประธานาธิบดีบารัค โอบามา ออกแถลงการณ์ว่าจะจัดการกับกลุ่ม IS ในซีเรีย นอกจากนี้ นักลงทุนยังวิตกว่าการใช้มาตรการคว่ำบาตรรอบใหม่ต่อรัสเซียอาจทำให้สถานการณ์ความตึงเครียดในยูเครนทวีความรุนแรงขึ้น

   ดัชนี MSCI Asia Pacific ขยับลง 0.1% เมื่อเวลา 9.59 น.ตามเวลาโตเกียว

   ดัชนี NIKKEI 225 ตลาดหุ้นญี่ปุ่นเปิดวันนี้ที่ 15,885.04 จุด ลดลง 24.16 จุด, ดัชนี SSE Composite ตลาดหุ้นจีนเปิดวันนี้ที่ 2,308.35 จุด ลดลง 3.33 จุด, ดัชนี HSI ตลาดหุ้นฮ่องกงเปิดวันนี้ที่ 24,620.19 จุด ลดลง 42.45 จุด, ดัชนี TAIEX ตลาดหุ้นไต้หวันเปิดวันนี้ที่ 9,324.74 จุด เพิ่มขึ้น 1.79 จุด, ดัชนี KOSPI ตลาดหุ้นเกาหลีใต้เปิดวันนี้ที่ 2,042.51 จุด เพิ่มขึ้น 8.35 จุด, ดัชนี FTSE STI ตลาดหุ้นสิงคโปร์เปิดวันนี้ที่ 3,342.41 จุด ลดลง 4.87 จุด และดัชนี FBMKLCI ตลาดหุ้นมาเลเซียเปิดวันนี้ที่ 1,865.50 จุด ลดลง 0.61 จุด

ภาวะตลาดหุ้นลอนดอน : ฟุตซี่ปิดลบ 30.49 จุด แม้คลายวิตกสกอตแลนด์

     ตลาดหุ้นลอนดอนปิดปรับตัวลงเมื่อคืนนี้ (11 ก.ย.) แม้ว่านักลงทุนได้คลายความวิตกลงไปบ้างเกี่ยวกับการลงประชามติเพื่อแยกตัวเป็นอิสระของสกอตแลนด์

    ดัชนี FTSE 100 ลดลง 30.49 จุด หรือ 0.45% ปิดที่ 6,799.62 จุด

     ตลาดปิดในแดนลบ แม้ว่าความกังวลได้ลดน้อยลงเกี่ยวกับการแยกตัวของสกอตแลนด์ หลังจากที่ผลสำรวจล่าสุดแสดงให้เห็นว่าผู้ตอบแบบสำรวจที่โหวต “No" ซึ่งไม่สนับสนุนการแยกตัวของสกอตแลนด์นั้น มีจำนวนแซงหน้ากลุ่มที่โหวต “Yes"

    อย่างไรก็ตาม ธนาคารรายใหญ่ 2 รายของสกอตแลนด์ได้เตือนเกี่ยวกับผลกระทบจากการที่สกอตแลนด์แยกตัวออกจากสหราชอาณาจักรหลังจากที่อยู่ร่วมกันมากว่า 300 ปี

    หุ้นแองโกล อเมริกันแลหุ้นเฟรสนิลโล ต่างร่วงลงกว่า 1% ขณะที่หุ้นเน็กซ์ดิ่งลง 3% หลังมีรายงานผลกำไรที่ย่ำแย่กว่าที่คาด

ภาวะตลาดหุ้นยุโรป: วิตกอียูคว่ำบาตรรัสเซียรอบใหม่ ฉุดตลาดหุ้นยุโรปปิดลบ

     ตลาดหุ้นยุโรปปิดลบเมื่อคืนนี้ (11 ก.ย.) เนื่องจากนักลงทุนวิตกกังวลว่าสถานการณ์ความขัดแย้งระหว่างรัสเซียและชาติตะวันตกจะตึงเครียดมากขึ้น หลังจากสหภาพยุโรป (อียู) ประกาศให้มาตรการคว่ำบาตรรัสเซียรอบใหม่มีผลบังคับใช้ในวันศุกร์ที่ 12 ก.ย.

    ดัชนี Stoxx Europe 600 ลดลง 0.1% ปิดที่ 344.27 จุด

    ดัชนี CAC-40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศสปิดที่ 4,440.90 จุด ลดลง 9.89 จุด หรือ -0.22% ดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมันปิดที่ 9,691.28 จุด ลดลง 8.89 จุด หรือ -0.09% ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 6,799.62 จุด ลดลง 30.49 จุด หรือ -0.45%

    ตลาดหุ้นยุโรปอ่อนแรงลงหลังจากอียูประกาศเมื่อช่วงค่ำวานนี้ตามเวลาไทยว่า มาตรการคว่ำบาตรรัสเซียรอบใหม่นั้น จะมีผลบังคับใช้ในวันศุกร์ที่ 12 ก.ย. โดยระบุว่ากลุ่มประเทศสมาชิกอียูและบริษัทเอกชนในอียูจะไม่จัดหาเงินกู้ให้กับธนาคารของรัฐบาลรัสเซีย 5 แห่ง ขณะเดียวกันการซื้อขายพันธบัตรชุดใหม่, หลักทรัพย์ หรือตราสารหนี้ที่มีอายุการไถ่ถอนมากกว่า 30 วันซึ่งออกโดยธนาคารเหล่านี้ จะถูกระงับ

     นอกเหนือจากการคว่ำบาตรในภาคการเงินแล้ว อียูยังได้คว่ำบาตรอุตสาหกรรมพลังงานของรัสเซียด้วย โดยระบุว่าการให้บริการใดๆก็ตามที่จำเป็นต่ออุตสาหกรรมการสำรวจและการผลิตน้ำมัน หรือโครงการน้ำมันในรัสเซีย จะถูกระงับ ขณะเดียวกันอียูจะขยายขอบข่ายมาตรการห้ามการส่งออกสินค้าและเทคโนโลยีทางการทหารในรัสเซีย

    นอกจากนี้ ตลาดหุ้นยุโรปยังได้รับแรงกดดันจากข้อมูลเศรษฐกิจที่ซบเซาของสหรัฐ โดยกระทรวงแรงงานสหรัฐเปิดเผยว่า ตัวเลขจ้างงานนอกภาคการเกษตรเดือนส.ค.เพิ่มขึ้นเพียง 142,000 ตำแหน่ง ซึ่งน้อยกว่าที่นักวิเคราะห์คาดว่าจะเพิ่มขึ้น 225,000 ตำแหน่ง

    หุ้นแอชมอร์ ซึ่งเป็นบริษัทจัดการกองทุน ร่วงลง 5.2% หลังจากบริษัทคาดการณ์ว่ากำไรก่อนหักภาษีในปี 2557 จะลดลง 34% เพราะได้รับผลกระทบจากการแข็งค่าของสกุลเงินปอนด์

    หุ้นแอร์ฟรานซ์-เคแอลเอ็ม พุ่งขึ้น 1.9% หลังจากนังสือพิมพ์เลส์ เอโคส์ของฝรั่งเศสรายงานว่า แอร์ฟรานซ์-เคแอลเอ็ม ซึ่งเป็นหนึ่งในผู้ให้บริการสายการบินรายใหญ่ที่สุดของยุโรป วางแผนลงทุนจำนวน 1 พันล้านยูโร (1.294 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ) เพื่อพัฒนาบริการของแบรนด์ทรานส์ซาเวีย ซึ่งเป็นสายการบินต้นทุนต่ำหรือที่เรียกว่าโลว์คอสต์ และเพื่อเพิ่มส่วนแบ่งตลาดในยุโรป

ภาวะตลาดเงินนิวยอร์ก : ดอลล์แข็งเทียบเยน คาดบีโอเจผ่อนคลายนโยบายเพิ่มเติม

     ดอลลาร์สหรัฐ ปรับตัวขึ้นลงแตกต่างกันเมื่อเทียบสกุลเงินหลักอื่นๆเมื่อคืนนี้ (11 ก.ย.) และยังคงแข็งค่าเมื่อเทียบเงินเยน จากคาดการณ์ที่ว่าธนาคารกลางญี่ปุ่น (บีโอเจ) อาจจะเริ่มดำเนินมาตรการผ่อนคลายทางการเงินมากขึ้น

   ค่าเงินยูโรแข็งค่าขึ้นเทียบดอลลาร์สหรัฐที่ระดับ 1.2925 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 1.2905 ดอลลาร์ ขณะที่เงินปอนด์ปรับขึ้นที่ 1.6223 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 1.6199 ดอลลาร์

   ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐปรับตัวขึ้นเทียบกับสกุลเงินเยนที่ 107.05 เยน เทียบกับระดับ 106.82 เยน และลดลงเมื่อเทียบกับฟรังค์สวิสที่ระดับ 0.9357 ฟรังค์ จาก 0.9376 ฟรังค์

    ค่าเงินดอลลาร์ออสเตรเลียปรับลงเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐที่ระดับ 0.9102 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 0.9158 ดอลลาร์

     ดอลลาร์ได้รับแรงกดดัน ขณะที่อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐร่วงลง หลังจากที่ประธานาธิบดีบารัค โอบามาของสหรัฐ ได้ให้คำมั่นในการแถลงเมื่อคืนวันพุธ ตามเวลาท้องถิ่นว่า เขา “จะไม่ลังเลที่จะจัดการ" กับกลุ่มรัฐอิสลาม (IS) ในซีเรีย รวมทั้งในอิรักด้วย

     ขณะเดียวกัน ดอลลาร์ยังคงปรับตัวที่ราวระดับสูงสุดในรอบ 6 ปีเมื่อเทียบเงินเยน จากสัญญาณบ่งชี้ว่าทั้งบีโอเจและรัฐบาลญี่ปุ่นต่างก็พร้อมที่จะดำเนินมาตรการเพิ่มเติมเพื่อหนุนเศรษฐกิจและเงินเฟ้อ

     ทั้งนี้ ดอลลาร์มีแนวโน้มปรับตัวขึ้นในสัปดาห์นี้ จากกระแสคาดการณ์ต่อเนื่องว่าธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) จะปรับขึ้นดอกเบี้ยในปีหน้า ขณะที่นักลงทุนจะจับตาการประชุมกำหนดนโยบายการเงินของเฟดในสัปดาห์หน้า เพื่อประเมินสัญญาณบ่งชี้เกี่ยวกับการปรับขึ้นดอกเบี้ย

      ส่วนเงินปอนด์ของอังกฤษฟื้นตัวขึ้น อ้นเนื่องมาจากความวิตกที่ลดน้อยลงเกี่ยวกับการลงประชามติว่าด้วยการแยกตัวเป็นอิสระของสกอตแลนด์ หลังจากที่ผลสำรวจล่าสุดแสดงให้เห็นว่าผู้ตอบแบบสำรวจที่โหวต “No" ซึ่งไม่สนับสนุนการแยกตัวของสกอตแลนด์นั้น มีจำนวนแซงหน้ากลุ่มที่โหวต “Yes"

World Markets: สรุปภาวะตลาดหุ้น น้ำมัน ทองคำ และตลาดเงินต่างประเทศ

ดัชนีและภาวะตลาดหุ้น น้ำมัน ทองคำ และตลาดเงินต่างประเทศ ประจำวันที่ 11 ก.ย. 2557

          ดัชนี DJIA ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดที่ 17,049.00 จุด ลดลง 19.71 จุด, -0.12%

          ดัชนี NASDAQ ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดที่ 4,591.81 จุด เพิ่มขึ้น 5.29 จุด, +0.12%

          ดัชนี S&P500 ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดที่ 1,997.45 จุด เพิ่มขึ้น 1.76 จุด, +0.09%

          ดัชนี CAC-40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศสปิดที่ 4,440.90 จุด ลดลง 9.89 จุด, -0.22%

          ดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมันปิดที่ 9,691.28 จุด ลดลง 8.89 จุด, -0.09%

          ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 6,799.62 จุด ลดลง 30.49 จุด, -0.45%

          ดัชนี TAIEX ตลาดหุ้นไต้หวันปิดที่ 9,322.95 จุด ลดลง 34.66 จุด, -0.37%

          ดัชนี NIKKEI 225 ตลาดหุ้นญี่ปุ่นปิดที่ 15,909.20 จุด เพิ่มขึ้น 120.42 จุด, +0.76%

          ดัชนี KOSPI ตลาดหุ้นเกาหลีใต้ปิดที่ 2,034.16 จุด ลดลง 15.25 จุด, -0.74%

          ดัชนี S&P/ASX 200 ตลาดหุ้นออสเตรเลียปิดที่ 5,546.10 จุด ลดลง 28.20 จุด, -0.51%

          ดัชนี SSE Composite ตลาดหุ้นจีนปิดที่ 2,311.68 จุด ลดลง 6.63 จุด, -0.29%

          ดัชนี PSE Composite ตลาดหุ้นฟิลิปปินส์ปิดที่ 7,202.06 จุด ลดลง 10.72 จุด, -0.15%

          ดัชนี HSI ตลาดหุ้นฮ่องกงปิดที่ 24,662.64 จุด ลดลง 42.72 จุด, -0.17%

          ดัชนี Jakarta Composite ตลาดหุ้นอินโดนีเซียปิดที่ 5,133.03 จุด ลดลง 9.96 จุด, -0.19%

          ดัชนี FBMKLCI ตลาดหุ้นมาเลเซียปิดที่ 1,866.11 จุด ลดลง 4.74 จุด, -0.25%

          ดัชนี FTSE STI ตลาดหุ้นสิงคโปร์ปิดที่ 3,347.28 จุด เพิ่มขึ้น 8.65 จุด, +0.26%

          ดัชนี SENSEX ตลาดหุ้นอินเดียปิดที่ 26,995.87 จุด ลดลง 61.54 จุด, -0.23%

ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กิดลบเมื่อคืนนี้ (11 ก.ย.) ท่ามกลางการซื้อขายที่ผันผวน เนื่องจากนักลงทุนวิตกกังวลเกี่ยวกับสถานการณ์ตึงเครียดในตะวันออกกลาง หลังจากประธานาธิบดีบารัค โอบามา ออกแถลงการณ์ว่าจะจัดการกับกลุ่ม IS ในซีเรีย นอกจากนี้ ตลาดยังได้รับแรงกดดันจากข้อมูลแรงงานที่ซบเซาของสหรัฐด้วย

          ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 17,049.00 จุด ลดลง 19.71 จุด หรือ -0.12% ดัชนี NASDAQ ปิดที่ 4,591.81 จุด เพิ่มขึ้น 5.29 จุด หรือ +0.12% ดัชนี S&P500 ปิดที่ 1,997.45 จุด เพิ่มขึ้น 1.76 จุด หรือ +0.09%

ตลาดหุ้นยุโรปปิดลบเมื่อคืนนี้ (11 ก.ย.) เนื่องจากนักลงทุนวิตกกังวลว่าสถานการณ์ความขัดแย้งระหว่างรัสเซียและชาติตะวันตกจะตึงเครียดมากขึ้น หลังจากสหภาพยุโรป (อียู) ประกาศให้มาตรการคว่ำบาตรรัสเซียรอบใหม่มีผลบังคับใช้ในวันศุกร์ที่ 12 ก.ย.

          ดัชนี Stoxx Europe 600 ลดลง 0.1% ปิดที่ 344.27 จุด

          ดัชนี CAC-40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศสปิดที่ 4,440.90 จุด ลดลง 9.89 จุด หรือ -0.22% ดัชนีDAX ตลาดหุ้นเยอรมันปิดที่ 9,691.28 จุด ลดลง 8.89 จุด หรือ -0.09% ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 6,799.62 จุด ลดลง 30.49 จุด หรือ -0.45%

ตลาดหุ้นลอนดอนปิดปรับตัวลงเมื่อคืนนี้ (11 ก.ย.) แม้ว่านักลงทุนได้คลายความวิตกลงไปบ้างเกี่ยวกับการลงประชามติเพื่อแยกตัวเป็นอิสระของสกอตแลนด์

          ดัชนี FTSE 100 ลดลง 30.49 จุด หรือ 0.45% ปิดที่ 6,799.62 จุด

สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ตลาดนิวยอร์กปิดพุ่งขึ้นเมื่อคืนนี้ (11 ก.ย.) เพราะได้รับแรงหนุนจากการคาดการณ์ที่ว่า สถานการณ์ตึงเครียดในตะวันออกกลางและรัสเซียอาจส่งผลกระทบต่ออุปทานน้ำมันในตลาดโลก

          สัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนต.ค.พุ่งขึ้น 1.16 ดอลลาร์ ปิดที่ 92.83 ดอลลาร์/บาร์เรล

          ส่วนสัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ (BRENT) ส่งมอบเดือนต.ค.ที่ตลาดลอนดอน เพิ่มขึ้น 4 เซนต์ ปิดที่ 98.08 ดอลลาร์/บาร์เรล

สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดร่วงลงติดต่อกันเป็นวันที่ 4 เมื่อคืนนี้ (11 ก.ย.) เนื่องจากตลาดยังคงได้รับแรงกดดันจากกระแสคาดการณ์ที่ว่า ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) อาจจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในช่วงเวลาที่รวดเร็วกว่าที่ตลาดคาดการณ์ไว้ นอกจากนี้ การคาดการณ์ดังกล่าวยังได้หนุนสกุลเงินดอลลาร์สหรัฐแข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบกับเงินเยน ซึ่งส่งผลกดดันต่อบรรยากาศการซื้อขายในตลาดทองคำด้วย

          สัญญาทองคำตลาด COMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือนธ.ค.ร่วงลง 6.3 ดอลลาร์ หรือ 0.51% ปิดที่ 1,239 ดอลลาร์/ออนซ์

          สัญญาโลหะเงินส่งมอบเดือนธ.ค.ลดลง 32.7 เซนต์ ปิดที่ 18.599 ดอลลาร์/ออนซ์

          สัญญาพลาตินัมส่งมอบเดือนต.ค.ร่วงลง 10.3 ดอลลาร์ ปิดที่ 1,370.7 ดอลลาร์/ออนซ์ และสัญญาพัลลาเดียมส่งมอบเดือนธ.ค.ร่วงลง 15.85 ดอลลาร์ ปิดที่ 833.20 ดอลลาร์/ออนซ์

ดอลลาร์สหรัฐปรับตัวขึ้นลงแตกต่างกันเมื่อเทียบสกุลเงินหลักอื่นๆเมื่อคืนนี้ (11 ก.ย.) และยังคงแข็งค่าเมื่อเทียบเงินเยน จากคาดการณ์ที่ว่าธนาคารกลางญี่ปุ่น (บีโอเจ) อาจจะเริ่มดำเนินมาตรการผ่อนคลายทางการเงินมากขึ้น

          ค่าเงินยูโรแข็งค่าขึ้นเทียบดอลลาร์สหรัฐที่ระดับ 1.2925 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 1.2905 ดอลลาร์ ขณะที่เงินปอนด์ปรับขึ้นที่ 1.6223 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 1.6199 ดอลลาร์

          ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐปรับตัวขึ้นเทียบกับสกุลเงินเยนที่ 107.05 เยน เทียบกับระดับ 106.82 เยน และลดลงเมื่อเทียบกับฟรังค์สวิสที่ระดับ 0.9357 ฟรังค์ จาก 0.9376 ฟรังค์

          ค่าเงินดอลลาร์ออสเตรเลียปรับลงเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐที่ระดับ 0.9102 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 0.9158 ดอลลาร์

ดัชนี ค่าระวางเรือ BDI ปิดวันทำการล่าสุดที่ 1,186.00 จุด ลดลง 11.00 จุด, -0.92%

อินโฟเควสท์

apm

 

 

Facebook

5 ข่าวฮอตนิวส์!