- Details
- Category: หุ้นเด่นวันนี้
- Published: Tuesday, 12 June 2018 10:49
- Hits: 1505
ภาวะตลาดหุ้นไทย: แนวโน้มดัชนีเช้านี้แกว่งไซด์เวย์คล้ายตลาดภูมิภาค รอผลหลายการประชุมในตปท.ช่วงสัปดาห์นี้นายกิติชาญ ศิริสุขอาชา ผู้อำนวยการอาวุโสฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์รายย่อย บล.ซีจีเอส-ซีไอเอ็มบี (ประเทศไทย) กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยเช้านี้คาดว่าจะแกว่งไซด์เวย์ คล้ายคลึงกับตลาดหุ้นในภูมิภาคเอเชียที่เช้านี้เคลื่อนไหวทั้งในแดนบวก-ลบสลับกัน ในช่วงรอดูหลายการประชุมที่เกิดขึ้นภายนอกประเทศ ทั้งการประชุมระหว่างผู้นำของสหรัฐฯกับผู้นำเกาหลีเหนือ ที่มีขึ้นในวันนี้ ซึ่งก็คาดว่าไม่น่าจะมีอะไร และถ้าหารือกันได้ก็จะเป็น Sentiment บวกต่อตลาดฯ
นอกจากนี้ ก็ยังมีการประชุมธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ที่มีขึ้นในวันที่ 12-13 มิ.ย.นี้ ตลาดฯก็คาดว่าจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย 0.25% ในการประชุมรอบนี้ แต่ให้ดูว่าจะมีการส่งสัญญาณการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยจาก 3 ครั้งเป็น 4 ครั้งในปีนี้หรือไม่ และขณะนี้อัตราผลตอบแทนพันธบัตร (Bond Yield) ของสหรัฐฯอายุ 10 ปีก็ได้เคลื่อนไหวอยู่แถว 2.95% ซึ่งถ้าพุ่งขึ้นไปอีกก็ไม่ดีต่อทั่วโลก รวมทั้งจะมีการประชุมธนาคารกลางยุโรป (ECB) ที่จะมีขึ้นในวันที่ 14 มิ.ย.นี้ ซึ่งก็ต้องติดตามด้วย
ส่วนบ้านเราให้ติดตามผลการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) วันนี้ และในวันที่ 15 มิ.ย.นี้ก็คาดว่าจะมีการประกาศการนำหุ้นเข้า/ออกในการคำนวณของ SET50 ซึ่งก็ต้องติดตามด้วย
พร้อมให้แนวรับ 1,716 จุด ส่วนแนวต้าน 1,730 จุด
ประเด็นพิจารณาการลงทุน
- ตลาดหุ้นนิวยอร์กล่าสุด (11 มิ.ย.61) ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 25,322.31 จุด เพิ่มขึ้น 5.78 จุด (+0.02%), ดัชนี S&P500 ปิดที่ 2,782.00 จุด เพิ่มขึ้น 2.97 จุด (+0.11%), ดัชนี Nasdaq ปิดที่ 7,659.93 จุด เพิ่มขึ้น 14.41 จุด (+0.19%)
- ตลาดหุ้นเอเชียเปิดตลาดวันนี้ ดัชนี NIKKEI 225 ตลาดหุ้นญี่ปุ่น เพิ่มขึ้น 173.18 จุด, ดัชนี SSE Composite ตลาดหุ้นจีน เพิ่มขึ้น 0.25 จุด, ดัชนี HSI ตลาดหุ้นฮ่องกง ลดลง 33.85 จุด, ดัชนี TAIEX ตลาดหุ้นไต้หวัน ลดลง 9.21 จุด, ดัชนี KOSPI ตลาดหุ้นเกาหลีใต้ เพิ่มขึ้น 4.63 จุด, ดัชนี FTSE STI ตลาดหุ้นสิงคโปร์ ลดลง 3.11 จุด, ดัชนี FBMKLCI ตลาดหุ้นมาเลเซีย ลดลง 0.95 จุด
- ตลาดหุ้นไทยปิดล่าสุด (11 มิ.ย.61) 1,723.11 จุด เพิ่มขึ้น 1.07 จุด (+0.06%)
- นักลงทุนต่างชาติขายสุทธิ 1,655.20 ล้านบาท เมื่อวันที่ 11 มิ.ย.61
- ราคาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนก.ค.ในตลาดไนเม็กซ์ปิดทำการล่าสุด (11 มิ.ย.61) ปิดที่ 66.10 ดอลลาร์/บาร์เรล เพิ่มขึ้น 36 เซนต์ หรือประมาณ 0.6%
- ค่าการกลั่นอ้างอิงตลาดสิงคโปร์ปิดล่าสุด (11 มิ.ย.61) ที่ 5.10 ดอลลาร์/บาร์เรล
- เงินบาทเปิด 32.08 คาดกรอบวันนี้ 31.95-32.10 ตลาดจับตาประชุมประวัติศาสตร์"ทรัมป์-คิม"
- ทั่วโลกจับตาซัมมิต "ทรัมป์-คิม" วันนี้ ท่ามกลางความหวังปูทาง สู่สันติภาพอย่างแท้จริงในคาบสมุทรเกาหลี ขณะผู้เชี่ยวชาญเตือนหากเจรจาล้มเหลว ไร้ข้อตกลงปลอดนิวเคลียร์ เพิ่มความเสี่ยง เกิดสงคราม ด้านนักวิเคราะห์ ฟันธงการประชุม 2 ผู้นำไร้ผลกระทบตลาดหุ้นไทย แม้จบไม่สวย ชี้ส่วนใหญ่ให้น้ำหนักกับการประชุม "เฟด-อีซีบี" มากกว่า
- "กกพ." ถก 5 ก.ค. เคาะค่าไฟฟ้างวดใหม่ (ก.ย.-ธ.ค.) แย้มยังมีเงินบริหารอีก 6,000 ล้านบาท ส่งสัญญาณอาจตรึงค่าไฟได้ แต่ขอให้ทำใจต้นปีหน้าค่าไฟขาขึ้นแน่นอน หลังน้ำมันพุ่ง เตรียมจับมือ 3 การไฟฟ้า ผุดโครงการนำร่องลดใช้ไฟรูปแบบ CPP สำหรับผู้ใช้ไฟรายใหญ่ เปิดสมัคร 15-30 มิ.ย. ตั้งเป้าลดใช้ไฟ 100 เมกะวัตต์
- สำนักงานเศรษฐกิจการคลัง (สศค.) เปิดเผยผลดำเนินงานสถาบันการเงินเฉพาะกิจ หรือแบงก์รัฐ ไตรมาสแรกปี 2561 ว่า ยอดสินเชื่อของทั้งระบบอยู่ที่ 4.63 ล้านล้านบาท ขยายตัว 7.72% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน และขยายตัวเพิ่มขึ้น 1.88% จากเดือนก่อนหน้า ด้านเงินรับฝากทั้งระบบอยู่ที่ 4.75 ล้านล้านบาท ขยายตัว 6.82% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน และขยายตัว 1.47% จากเดือนก่อนหน้า
- ศูนย์วิจัยกสิกรไทย เปิดเผยว่า ในช่วงมหกรรมกีฬาฟุตบอลโลก 2018 ระหว่างวันที่ 14 มิ.ย.-15 ก.ค. 2561 จะมีเม็ดเงินโฆษณาสะพัดเพิ่มเติมจากในช่วงปกติรวมกันประมาณ 680 ล้านบาท ส่งผลให้เม็ดเงินโฆษณาในช่วงมหกรรมกีฬาฟุตบอลโลก 2018 โดยรวมน่าจะสะพัดอยู่ที่ 7,980 ล้านบาท ขยายตัว 9% จากในช่วงปกติ หรือในกรณีที่ไม่มีการแข่งขันฟุตบอลโลก โดยส่วนใหญ่กระจุกตัวอยู่กับสื่อโทรทัศน์ ซึ่งนับเป็นสีสันให้กับสื่อโฆษณาในช่วงระยะเวลาสั้นๆ โดยเม็ดเงินโฆษณาช่วงฟุตบอลโลกปีนี้ สูงกว่าเม็ดเงินโฆษณาทางโทรทัศน์ในช่วงฟุตบอลยูโร 2016 ที่มีเม็ดเงินโฆษณาสะพัดประมาณ 500 ล้านบาท
*หุ้นเด่นวันนี้
- TCC-W5 (ใบสำคัญแสดงสิทธิที่จะซื้อหุ้นสามัญ ของบมจ.ไทย แคปปิตอล คอร์ปอเรชั่น (TCC)) เทรดวันนี้วันแรก มีจำนวน 98,408,417 หน่วย อายุ 10 ปี ราคาใบสำคัญแสดงสิทธิ 0.00 บาท มีอัตรการใช้สิทธิ 1 ใบสำคัญแสดงสิทธิต่อ 1 หุ้นสามัญใหม่ ที่ราคาใช้สิทธิหุ้นละ 0.50 บาท กำหนดใช้สิทธิครั้งแรกวันที่ 31 ก.ค.61 และใช้สิทธิครั้งสุดท้ายวันที่ 24 พ.ค.71
- SMT-W2 (ใบสำคัญแสดงสิทธิที่จะซื้อหุ้นสามัญ ของบมจ.สตาร์ส ไมโครอิเล็กทรอนิกส์ (ประเทศไทย) (SMT)) เทรดวันนี้วันแรก มีจำนวน 209,118,803 หน่วย อายุ 2 ปี ราคาใบสำคัญแสดงสิทธิที่ 0.00 บาท/หน่วย อัตราการใช้สิทธิ 1 ใบสำคัญแสดงสิทธิ ต่อ 1 หุ้นสามัญใหม่ ที่ราคาใช้สิทธิ 2.10 บาท/หุ้น กำหนดใช้สิทธิครั้งแรกวันที่ 29 มิ.ย.61 และใช้สิทธิครั้งสุดท้าย วันที่ 29 พ.ค.63
- SEAFCO (กรุงศรี) "ซื้อ"เป้า 12 บาท ประกาศได้งานเสาเข็มจากโครงการ One bangkok เฟส 4 มูลค่า 600 ล้านบาท หนุน Backlog เพิ่มเป็น 4,000 ล้านบาท รองรับการเติบโตของรายได้ไปอีก 2 ปี ด้านผลประกอบการคาดงบ 2Q61 เติบโตโดดเด่น จากรายได้ที่เพิ่มขึ้นจากงานก่อสร้างโครงการรถไฟฟ้าสายสีส้มและ One bangkok เร่งตัวขึ้น และ GPM มีแนวโน้มเพิ่มขึ้นเพราะสัดส่วนรายได้และ Backlog เป็นงานที่รับเฉพาะค่าแรง ซึ่งมีมาร์จิ้นสูงเพิ่มมากขึ้น (60:40)
- CPF (ฟินันเซีย ไซรัส) เป้า 28 บาท ราคาหมูในเวียดนามขยับขึ้นแรง (อยู่ที่ 40,000-45,000 ดอง/กก.) เหนือต้นทุนการเลี้ยง (ที่ 34,000 ดอง/กก.) แล้วช่วยหักล้างธุรกิจหมูในไทยที่ยังน่าจะขาดทุนต่อเนื่องและธุรกิจไก่ที่ยังไม่สดใสได้ ด้านค่าเงินบาทที่อ่อนค่าเป็นบวกต่อกำไรใน Q2/61 ที่จะฟื้นตัว และจะยิ่งฟื้นชัดเจนใน H2/61 เพราะธุรกิจทั้งไก่และหมูจะกลับมาทำกำไรได้ แม้ราคาหุ้นจะปรับขึ้นจนเหลือ upside เพียง 8% จากราคาเป้าหมาย แต่เงินบาทที่อ่อนค่าและราคาหมูในเวียดนามที่ยังขยับขึ้นเป็นประเด็นหนุนการเก็งกำไรได้
ตลาดหุ้นเอเชียผันผวนเช้านี้ นักลงทุนจับตาประชุมซัมมิต ทรัมป์-คิม
ตลาดหุ้นเอเชียเคลื่อนไหวทั้งในแดนบวกและลบในเช้าวันนี้ ขณะที่นักลงทุนต่างจับตาการประชุมสุดยอดครั้งประวัติศาสตร์ระหว่างประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ แห่งสหรัฐ กับนายคิม จอง อึน ผู้นำเกาหลีเหนือ ในวันนี้ที่ประเทศสิงคโปร์
ดัชนี NIKKEI 225 ตลาดหุ้นญี่ปุ่นเปิดวันนี้ที่ 22,977.22 จุด เพิ่มขึ้น 173.18 จุด, +0.76% ดัชนี SSE Composite ตลาดหุ้นจีนเปิดวันนี้ที่ 3,053.03 จุด เพิ่มขึ้น 0.25 จุด, +0.01% ดัชนี HSI ตลาดหุ้นฮ่องกงเปิดวันนี้ที่ 31,029.85 จุด ลดลง 33.85 จุด, -0.11% ดัชนี TAIEX ตลาดหุ้นไต้หวันเปิดวันนี้ที่ 11,140.02 จุด ลดลง 9.21 จุด, -0.08% ดัชนี KOSPI ตลาดหุ้นเกาหลีใต้เปิดวันนี้ที่ 2,474.78 จุด เพิ่มขึ้น 4.63 จุด, +0.19% ดัชนี FTSE STI ตลาดหุ้นสิงคโปร์เปิดวันนี้ที่ 3,438.58 จุด ลดลง 3.11 จุด, -0.09% ดัชนี FBMKLCI ตลาดหุ้นมาเลเซียเปิดวันนี้ที่ 1,774.85 จุด ลดลง 0.95 จุด, -0.05%
ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ แห่งสหรัฐ กล่าวภายหลังจากที่ได้พบและจับมือทักทายกับนายคิม จอง อึน ผู้นำเกาหลีเหนือเป็นครั้งแรกที่โรงแรมคาเปลลา ซึ่งตั้งอยู่ที่เกาะเซนโตซาในช่วงเช้าวันนี้ว่า ตนเองต้องการที่จะหารืออย่างดีเยี่ยมกับนายคิม จอง อึน ผู้นำเกาหลีเหนือ ในขณะที่ผู้นำเกาหลีเหนือ กล่าวว่า หนทางสู่การเจรจาครั้งนี้ไม่ใช่เรื่องง่าย
นอกจากนี้ นักลงทุนยังจับตาการประชุมนโยบายการเงินของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ในวันที่ 12-13 มิ.ย.นี้ โดยนักวิเคราะห์คาดว่า เฟดจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย 0.25% ในการประชุมครั้งนี้ หลังจากสหรัฐเปิดเผยตัวเลขการจ้างงานและค่าจ้างแรงงานที่พุ่งขึ้นอย่างแข็งแกร่ง
ส่วนการประชุมนโยบายการเงินของธนาคารกลางยุโรป (ECB) จะมีขึ้นในวันที่ 14 มิ.ย.นี้ โดยคาดว่า ECB จะส่งสัญญาณปรับลดวงเงินซื้อพันธบัตรตามมาตรการผ่อนคลายเชิงปริมาณ (QE) จากระดับ 3 หมื่นล้านยูโร/เดือน ซึ่งมีกำหนดสิ้นสุดในเดือนก.ย.นี้
ภาวะตลาดหุ้นลอนดอน: ฟุตซี่ปิดบวก 56.36 จุด รับเงินปอนด์อ่อนหนุนหุ้นบริษัทข้ามชาติ
ตลาดหุ้นลอนดอนปิดบวกเมื่อคืนนี้ (11 มิ.ย.) เนื่องจากการอ่อนค่าของเงินปอนด์ช่วยหนุนหุ้นกลุ่มส่งออกดีดตัวขึ้น ขณะที่นักลงทุนจับตาการประชุมสุดยอดครั้งประวัติศาสตร์ระหว่างประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ แห่งสหรัฐ และนายคิม จอง อึน ผู้นำเกาหลีเหนือ ซึ่งจะมีขึ้นในวันนี้ที่สิงคโปร์
ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 7,737.43 จุด เพิ่มขึ้น 56.36 จุด หรือ +0.73%
ตลาดหุ้นลอนดอนปิดปรับตัวขึ้น เนื่องจากการอ่อนค่าของเงินปอนด์ช่วยหนุนหุ้นของบริษัทข้ามชาติที่จดทะเบียนในดัชนี FTSE 100 โดยรายได้ 75% ของบริษัทข้ามชาติที่จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ลอนดอนนั้นอยู่ในรูปของสกุลเงินต่างประเทศ ด้วยเหตุนี้ การอ่อนค่าของเงินปอนด์จึงเป็นปัจจัยหนุนหุ้นของบริษัทเหล่านี้
สำหรับปัจจัยที่ทำให้เงินปอนด์อ่อนค่าลงนั้น มาจากรายงานของสำนักงานสถิติแห่งชาติของอังกฤษ (ONS) ซึ่งระบุว่า ยอดการผลิตในภาคการผลิตของอังกฤษดิ่งลง 1.4% ในเดือนเม.ย. ซึ่งเป็นการทรุดตัวลงมากที่สุดนับตั้งแต่เดือนต.ค.2555
หุ้นอินมาร์แซท ซึ่งเป็นบริษัทสื่อสารรายใหญ่ พุ่งขึ้น 12.7% หลังจากมีรายงานว่า อินมาร์แซทยังไม่ยอมรับข้อเสนอการเทคโอเวอร์จากบริษัทเอคโคสตาร์ คอร์ป โดยระบุว่าข้อเสนอดังกล่าวมีมูลค่าต่ำเกินไป
ภาวะตลาดหุ้นยุโรป: หุ้นยุโรปปิดบวก ตลาดเมินความขัดแย้ง G7 ขณะจับตาซัมมิตทรัมป์-คิมวันนี้
ตลาดหุ้นยุโรปปิดบวกเมื่อคืนนี้ (11 มิ.ย.) โดยได้ปัจจัยหนุนจากการที่นักลงทุนไม่ได้วิตกกังวลมากนักต่อความขัดแย้งที่เกิดขึ้นในการประชุมกลุ่ม G7 เมื่อช่วงสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา ขณะที่นักลงทุนจับตาการประชุมสุดยอดครั้งประวัติศาสตร์ระหว่างประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ แห่งสหรัฐ และนายคิม จอง อึน ผู้นำเกาหลีเหนือ ซึ่งจะมีขึ้นในวันนี้ที่สิงคโปร์
ดัชนี Stoxx Europe 600 ปรับตัวขึ้น 0.7% ปิดที่ 387.94 จุด
ดัชนี CAC-40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศสปิดที่ 5,473.91 จุด เพิ่มขึ้น 23.69 จุด หรือ +0.43% ขณะที่ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 7,737.43 จุด เพิ่มขึ้น 56.36 จุด หรือ +0.73% และดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมันปิดที่ 12,842.91 จุด เพิ่มขึ้น 76.36 จุด หรือ +0.60%
ตลาดหุ้นยุโรปปิดในแดนบวก เนื่องจากนักลงทุนเมินความขัดแย้งที่เกิดขึ้นในการประชุมผู้นำกลุ่ม G7 ซึ่งจัดขึ้นที่ประเทศแคนาดาเมื่อช่วงสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา โดยในการประชุมครั้งนี้ รัฐบาลสหรัฐได้ถูกชาติสมาชิกกลุ่ม G7 วิพากษ์วิจารณ์เกี่ยวกับการเรียกเก็บภาษีเหล็กและอลูมิเนียม ขณะที่ปธน.ทรัมป์ก็ตอบโต้ด้วยการไม่รับรองแถลงการณ์ร่วมของการประชุมผู้นำกลุ่ม G7 ในครั้งนี้
หุ้นกลุ่มธนาคารของอิตาลีดีดตัวขึ้น โดยหุ้นยูนิเครดิต พุ่งขึ้น 6.2% ขณะที่หุ้นอินเทซา ซานเปาโล พุ่งขึ้น 6.6%
หุ้นอินมาร์แซท ซึ่งเป็นบริษัทสื่อสารรายใหญ่ พุ่งขึ้น 12.7% หลังจากมีรายงานว่า อินมาร์แซทยังไม่ยอมรับข้อเสนอการเทคโอเวอร์จากบริษัทเอคโคสตาร์ คอร์ป โดยระบุว่าข้อเสนอดังกล่าวมีมูลค่าต่ำเกินไป
หุ้นดอยซ์ โพสต์ ร่วงลง 3.1% หลังจากบริษัทโบรกเกอร์หลายแห่งได้ปรับลดเป้าหมายราคาหุ้นดอยซ์ โพสต์ หลังจากทางบริษัทได้ปรับลดคาดการณ์ผลประกอบการในปีงบการเงิน 2561
นักลงทุนยังคงเกาะติดการประชุมสุดยอดระหว่างปธน.ทรัมป์ และนายคิม จอง อึน ผู้นำเกาหลีเหนือ โดยการประชุมจะจัดขึ้นในวันนี้ เวลา 09.00 น.ตามเวลาสิงคโปร์ หรือ 08.00 น.ตามเวลาไทย ที่โรงแรมคาเปลลา บนเกาะเซนโตซาของสิงคโปร์
นอกจากนี้ นักลงทุนยังจับตาการประชุมนโยบายการเงินของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ในวันที่ 12-13 มิ.ย.นี้ โดยนักวิเคราะห์คาดว่า เฟดจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย 0.25% ในการประชุมครั้งนี้ หลังจากสหรัฐเปิดเผยตัวเลขการจ้างงานและค่าจ้างแรงงานที่พุ่งขึ้นอย่างแข็งแกร่ง
ส่วนการประชุมนโยบายการเงินของธนาคารกลางยุโรป (ECB) จะมีขึ้นในวันที่ 14 มิ.ย.นี้ โดยคาดว่า ECB จะส่งสัญญาณปรับลดวงเงินซื้อพันธบัตรตามมาตรการผ่อนคลายเชิงปริมาณ (QE) จากระดับ 3 หมื่นล้านยูโร/เดือน ซึ่งมีกำหนดสิ้นสุดในเดือนก.ย.นี้
ภาวะตลาดหุ้นนิวยอร์ก: ดาวโจนส์ปิดบวก 5.78 จุด นักลงทุนจับตาซัมมิต ทรัมป์-คิม วันนี้
ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดขยับขึ้นเมื่อคืนนี้ (11 มิ.ย.) โดยได้ปัจจัยหนุนจากการที่นักลงทุนไม่ได้วิตกกังวลมากนักต่อความขัดแย้งที่เกิดขึ้นในการประชุมกลุ่ม G7 เมื่อช่วงสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา ขณะเดียวกันนักลงทุนจับตาการประชุมสุดยอดครั้งประวัติศาสตร์ระหว่างประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ แห่งสหรัฐ และนายคิม จอง อึน ผู้นำเกาหลีเหนือ ซึ่งจะมีขึ้นในวันนี้ที่สิงคโปร์ รวมทั้งการประชุมนโยบายการเงินของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) และธนาคารกลางยุโรป (ECB) ซึ่งจะมีขึ้นในสัปดาห์นี้
ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 25,322.31 จุด เพิ่มขึ้น 5.78 จุด หรือ +0.02% ขณะที่ดัชนี S&P 500 ปิดที่ 2,782.00 จุด เพิ่มขึ้น 2.97 จุด หรือ +0.11% และดัชนี Nasdaq ปิดที่ 7,659.93 จุด เพิ่มขึ้น 14.41 จุด หรือ +0.19%
ดัชนีดาวโจนส์ปิดในแดนบวกติดต่อกันเป็นวันที่ 4 เนื่องจากนักลงทุนเมินความขัดแย้งที่เกิดขึ้นในการประชุมผู้นำกลุ่ม G7 ซึ่งจัดขึ้นที่ประเทศแคนาดาเมื่อช่วงสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา โดยในการประชุมครั้งนี้ รัฐบาลสหรัฐได้ถูกชาติสมาชิกกลุ่ม G7 วิพากษ์วิจารณ์เกี่ยวกับการเรียกเก็บภาษีเหล็กและอลูมิเนียม ขณะที่ปธน.ทรัมป์ก็ตอบโต้ด้วยการไม่รับรองแถลงการณ์ร่วมของการประชุมผู้นำกลุ่ม G7 ในครั้งนี้
หุ้นกลุ่มสายการบินดีดตัวขึ้น โดยหุ้นยูไนเต็ด คอนทิเนนทัล โฮลดิ้งส์ และหุ้นอเมริกัน แอร์ไลน์ส กรุ๊ป ต่างก็พุ่งขึ้นกว่า 2.4% ขณะที่หุ้นเดลต้า แอร์ไลน์ส ปรับตัวขึ้น 1.5% และหุ้นเซาท์เวสต์ แอร์ไลน์ส ดีดตัวขึ้นกว่า 1%
หุ้นเซมพรา เอนเนอร์จี ทะยานขึ้น 15.5% ซึ่งเป็นการปรับตัวขึ้นแข็งแกร่งสุดในบรรดาหุ้นที่จดทะเบียนในดัชนี S&P 500 หลังจากมีรายงานข่าวว่า กลุ่มนักลงทุนรายใหญ่ได้เรียกร้องให้ทางบริษัททบทวนและพิจารณารายชื่อคณะกรรมการบริหารชุดใหม่ของบริษัท
หุ้นเอทีแอนด์ที ปรับตัวขึ้น 1% ก่อนที่ศาลสหรัฐจะตัดสินในกรณีที่บริษัทเอทีแอนด์ทียื่นข้อเสนอควบรวมกิจการกับไทม์ วอร์เนอร์
หุ้นเฟซบุ๊ก พุ่งขึ้น 1.3% หลังจากนักวิเคราะห์ของบริษัทหลักทรัพย์คีย์แบงก์ระบุว่า อิสตราแกรมจะผงาดขึ้นเป็นธุรกิจหลักที่สามารถขับเคลื่อนกิจการของเฟซบุ๊กในอนาคต
นักลงทุนยังคงเกาะติดการประชุมสุดยอดระหว่างปธน.ทรัมป์ และนายคิม จอง อึน ผู้นำเกาหลีเหนือ โดยการประชุมจะจัดขึ้นในวันนี้ เวลา 09.00 น.ตามเวลาสิงคโปร์ หรือ 08.00 น.ตามเวลาไทย ที่โรงแรมคาเปลลา บนเกาะเซนโตซาของสิงคโปร์ ขณะที่เจ้าหน้าที่ทำเนียบขาวเปิดเผยว่า การประชุมในช่วงแรกนั้น จะเป็นการประชุมส่วนตัวระหว่างปธน.ทรัมป์และนายคิม โดยแต่ละฝ่ายจะมีเพียงล่ามประจำตัว 1 คน หลังจากนั้น จะเป็นการประชุมวงใหญ่ซึ่งจะรวมถึงเจ้าหน้าที่ของแต่ละฝ่าย และตามด้วยการเลี้ยงอาหารกลางวันพร้อมกับการดำเนินการเจรจาในเวลาเดียวกัน
นอกจากนี้ นักลงทุนยังจับตาการประชุมนโยบายการเงินของเฟดในวันที่ 12-13 มิ.ย.นี้ โดยนักวิเคราะห์คาดว่า เฟดจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย 0.25% ในการประชุมครั้งนี้ หลังจากสหรัฐเปิดเผยตัวเลขการจ้างงานและค่าจ้างแรงงานที่พุ่งขึ้นอย่างแข็งแกร่ง
ส่วนการประชุมนโยบายการเงินของ ECB จะมีขึ้นในวันที่ 14 มิ.ย.นี้ โดยคาดว่า ECB จะส่งสัญญาณปรับลดวงเงินซื้อพันธบัตรตามมาตรการผ่อนคลายเชิงปริมาณ (QE) จากระดับ 3 หมื่นล้านยูโร/เดือน ซึ่งมีกำหนดสิ้นสุดในเดือนก.ย.นี้
สำหรับข้อมูลเศรษฐกิจที่สำคัญของสหรัฐซึ่งจะมีการเปิดเผยในสัปดาห์นี้ ได้แก่ ดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) เดือนพ.ค., ดัชนีราคาผู้ผลิต (PPI) เดือนพ.ค., ยอดค้าปลีกเดือนพ.ค., จำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์, ดัชนีราคานำเข้า-ดัชนีราคาส่งออกเดือนพ.ค., สต็อกสินค้าคงคลังภาคธุรกิจเดือนเม.ย., การผลิตภาคอุตสาหกรรม-การใช้กำลังการผลิตเดือนพ.ค. และดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคขั้นต้นเดือนมิ.ย.จากมหาวิทยาลัยมิชิแกน
--อินโฟเควสท์
OO9912
