WORLD7

smed PIONEER 720x100ใจฟู720x100pxgpf 720x100 66

26ภาวะตลาดหุ้นไทย: แนวโน้มดัชนีเช้านี้ลุ้นรีบาวด์ตามตลาดภูมิภาค เล็งเฟดไม่รีบขึ้นดอกเบี้ยหลังเงินเฟ้อสหรัฐฯยังขยายตัวต่ำ
นายเทิดศักดิ์ ทวีธีระธรรม ผู้ช่วยกรรมการผู้อำนวยการสายงานวิจัย บล.เอเซีย พลัส กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยในช่วงเช้าวันนี้คาดว่าจะรีบาวด์ขึ้น ตามทิศทางเดียวกับตลาดหุ้นในภูมิภาคที่ปรับตัวขึ้นกัน หลังจากเมื่อคืนที่ผ่านมาดาวโจนส์ปรับตัวขึ้น เนื่องจากตัวเลขเงินเฟ้อของสหรัฐฯออกมายังขยายตัวต่ำ ซึ่งทำให้นักลงทุนคาดการณ์ว่าธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) จะยังไม่เร่งขึ้นอัตราดอกเบี้ย
ขณะที่ปัจจัยในประเทศยังไม่มีปัจจัยที่จะมาส่งผลต่อตลาดฯอย่างมีนัยสำคัญในช่วงนี้ โดยยังคงเป็นช่วงของการทยอยประกาศผลการดำเนินงานไตรมาส 1/61
อย่างไรก็ดี ตลาดฯยังมีแรงกดดันจากกระแสเงินทุนไหลออก ซึ่งทำให้ตลาดฯยังปรับตัวขึ้นได้ไม่มาก พร้อมให้แนวต้าน 1,754 แนวรับ 1,740 จุด
ประเด็นพิจารณาการลงทุน
- ตลาดหุ้นนิวยอร์กล่าสุด (10 พ.ค.61) ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 24,739.53 จุด เพิ่มขึ้น 196.99 จุด (+0.80%), ดัชนี S&P500 ปิดที่ 2,723.07 จุด เพิ่มขึ้น 25.28 จุด (+0.94%), ดัชนี Nasdaq ปิดที่ 7,404.97 จุด เพิ่มขึ้น 65.07 จุด (+0.89%)
- ตลาดหุ้นเอเชียเปิดตลาดวันนี้ ดัชนี NIKKEI 225 ตลาดหุ้นญี่ปุ่น เพิ่มขึ้น 76.77 จุด, ดัชนี SSE Composite ตลาดหุ้นจีน เพิ่มขึ้น 5.39 จุด, ดัชนี HSI ตลาดหุ้นฮ่องกง เพิ่มขึ้น 342.58 จุด, ดัชนี TAIEX ตลาดหุ้นไต้หวัน เพิ่มขึ้น 48.19 จุด, ดัชนี KOSPI ตลาดหุ้นเกาหลีใต้ เพิ่มขึ้น 5.14 จุด, ดัชนี FTSE STI ตลาดหุ้นสิงคโปร์ เพิ่มขึ้น 21.48 จุด
ส่วนตลาดหุ้นมาเลเซีย ปิดทำการวันนี้ เนื่องในวันหยุดพิเศษตามประกาศของรัฐบาลมาเลเซีย
- ตลาดหุ้นไทยปิดล่าสุด (10 พ.ค.61) 1,746.89 จุด ลดลง 10.01 จุด (-0.57%)
- นักลงทุนต่างชาติขายสุทธิ 571.68 ล้านบาท เมื่อวันที่ 10 พ.ค.61
- ราคาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนมิ.ย.ในตลาดไนเม็กซ์ปิดทำการล่าสุด (9 พ.ค.61) ปิดที่ระดับ 71.36 ดอลลาร์/บาร์เรล เพิ่มขึ้น 22 เซนต์ หรือ 0.3% ซึ่งเป็นระดับสูงสุดนับตั้งแต่เดือนพ.ย. 2557
- ค่าการกลั่นอ้างอิงตลาดสิงคโปร์ปิดล่าสุด (10 พ.ค.61) ที่ 6.05 ดอลลาร์/บาร์เรล
- เงินบาทเปิด 31.94 กลับมาแข็งค่าตามภูมิภาคจากแรงขายดอลล์หลังเงินเฟ้อสหรัฐฯต่ำ แต่แนวโน้มยังอ่อนค่า
- "พลังงาน"เผยยังรับซื้อไฟจากพลังงานทดแทน พร้อมบรรจุแผน ในพีดีพีฉบับใหม่ แต่ต้องทบทวนสัดส่วนราคารับซื้อ หลังยอดรับซื้อไฟฟ้าจากพลังงานทดแทนทะลุ 1 หมื่นเมกะวัตต์ใน 3 ปี ส.อ.ท.จี้ทบทวนราคารับซื้อ 2.44 บาท/หน่วย เสนอกำหนดราคากลางรับซื้อไฟ สร้าง ความเป็นธรรมทั้งผู้ผลิต-ประชาชน
- "สมคิด" สั่งคลัง-ธปท.ดูแลการนำมาตรฐานบัญชี "ไอเอฟอาร์เอส9" มาใช้ย้ำต้องให้สอดคล้องกับบริบทประเทศขณะ "แบงก์ชาติ" โยน กกบ.ชี้ขาด ลั่นพร้อมให้แบงก์เลื่อนใช้ หากมติให้เลื่อน ด้าน "บอร์ดกกบ." ประชุมวันนี้ ส่วน "นายแบงก์" ยอมรับมาตรฐานใหม่ ต้องระมัดระวัง ปล่อยกู้เอสเอ็มอีมากขึ้น
- สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) เผยผลสำรวจดัชนีความเชื่อมั่นภาคอุตสาหกรรมเดือน เม.ย. 2561 ว่า ดัชนีอยู่ที่ระดับ 89.1 ลดลงจากเดือนก่อนที่อยู่ 90.7 ต่ำสุดในรอบ 4 เดือน นับตั้งแต่เดือน ม.ค. 2561 เนื่องจากเป็นเดือนที่มีวันหยุดเยอะ รวมทั้ง ผู้ประกอบการส่วนใหญ่ได้เร่งผลิตไปในช่วงเดือนก่อนหน้าแล้ว ส่งผลให้การใช้กำลังการผลิตลดลง จึงทำให้ยอดคำสั่งซื้อยอดขายลดลง
- "สมคิด" ชี้เศรษฐกิจไทย ขยายตัวดี คาดจีดีพีปีนี้โตเกิน 4% เป็นครั้งแรกในรอบทศวรรษ จี้เอกชนเร่งปรับตัวรับมือเศรษฐกิจดิจิทัล หลังรัฐเดินหน้าลงทุนโครงสร้างพื้นฐานรองรับ ด้านศูนย์วิจัยกสิกรไทยคาดที่ประชุมคณะกรรมการนโยบายการเงิน16 พ.ค.คงดอกเบี้ย 1.5%
- ประธานสมาคมธนาคารไทย ระบุเลื่อน-ไม่เลื่อนใช้ IFRS9 ขึ้นอยู่กับการพิจารณาของกกบ.ที่ได้ตั้งคณะอนุกรรมการศึกษาไปก่อนหน้านี้แล้ว ยันธนาคารพาณิชย์มีความพร้อมในการใช้เกณฑ์บัญชีใหม่ IFRS9 หลังเตรียมการ 2 ปีแล้ว และไม่กระทบหากต้องเลื่อนใช้ ชี้เป็นผลดีที่จะให้เวลาผู้ประกอบการปรับตัว
- ศูนย์วิจัยกสิกรไทย เปิดเผยว่า การประชุมคณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) วันที่ 16 พ.ค.จะมีมติคงอัตราดอกเบี้ยนโยบายที่ 1.50% เพื่อสนับสนุนความต่อเนื่องของการขยายตัวเศรษฐกิจไทย โดยการใช้จ่ายในประเทศยังพื้นตัวได้ไม่เต็มที่ แรงหนุนจากนโยบายการคลังที่จำกัด และแรงกดดันเงินเฟ้อยังทรงตัวในระดับต่ำ
*หุ้นเด่นวันนี้
- CHG (ฟินันเซีย ไซรัส) "ซื้อ"เป้า 2.50 บาท กำไรปกติ Q1/61 อยู่ที่ 193 ลบ. +54% Q-Q, +26.6% Y-Y ดีกว่าคาดถึง 16% รายได้โตสูง 15% Y-Y จากโรคระบาดที่มากกว่าปีก่อนและการบริโภคในประเทศที่ฟื้นตัว ขณะที่ฝั่งต้นทุนควบคุมได้ดีเยี่ยมหนุน EBITDA Margin ขึ้นเป็น 28.4% จาก 22.3% ใน Q4/60 และ 26.8% ใน Q1/60 ทั้งนี้ กำไร Q1/61 ที่ออกมาดี ผนวกกับผลของ Operating Leverage จากการผ่านช่วงลงทุนหนักไปแล้ว ทำให้คาดการณ์กำไรปกติปีนี้ที่ 650 ลบ. +15% Y-Y เริ่มเปิด Upside ด้านราคาหุ้นยังไม่สะท้อนงบที่แข็งแกร่ง โดย PE2561 อยู่ที่ 33.7 เท่า ต่ำกว่าค่าเฉลี่ยของกลุ่มที่ 35.1 เท่า และในอดีตที่ราว 40 เท่า
- ADVANC (กรุงศรี) "ซื้อ"เป้า 220 บาท แจ้งกำไรสุทธิ Q1/61 ไม่ได้แย่เหมือนที่ตลาดกังวลโดยมีกำไรสุทธิ 8 พันล้านบาท เพิ่มขึ้น 4%qoq และ yoy มองราคาหุ้นที่ลดลงแรงในช่วงก่อนหน้าเป็นโอกาสในการเข้าซื้อ โดยยังเลือก ADVANC เป็น Top pick ของกลุ่ม ICT
- MAJOR (เมย์แบงก์ กิมเอ็ง) "ซื้อ"เป้า 35.50 บาท คาดว่ากำไรปีนี้จะฟื้นตัวอย่างมีนัยสำคัญเมื่อเทียบกับปีที่ผ่านมา เนื่องจากหนังหลายเรื่องทำรายได้สูง มีการขยายสาขาโดยเปิดโรงหนังใหม่ 90 โรงซึ่งประกอบด้วยโรงในไทย และโรงในประเทศกัมพูชาและลาว ขณะที่ MPIC มีแนวโน้มขาดทุนลดลงหลังจากเลิกทำธุรกิจที่ขาดทุน นอกจากนั้น MAJOR มีการควบคุมค่าใช้จ่ายอย่างมีประสิทธิภาพ MAJOR ยังให้อัตราผลตอบแทนจากเงินปันผลในระดับ 4-5% ต่อปี
- SPALI (เคทีบี) "ซื้อ"เป้า 27 บาท จากความสามารถในการทำกำไรที่สูงสุดในกลุ่ม Backlog รอโอนที่พร้อมโอนในปี นี้ และในอีก 2 ปี ข้างหน้าที่สูง รวมถึงจะกลับมาจ่ายเงินปันผลตามปกติในปีนี้คิดเป็นอัตราผลตอบแทนจากเงินปันผลราว 5% ต่อปี โดยคาดว่ากำไรสุทธิ Q1/61 ของกลุ่มอสังหาริมทรัพย์จะเติบโตได้ดี 23% YoY แต่ลดลง 45% QoQ ตามยอดโอนที่คาดว่าจะปรับตัวเพิ่มขึ้น 12% YoY จากกำลังซื้อที่ดีขึ้น และฐานต่ำในปีก่อน แต่ลดลง 33% QoQ ตามปัจจัยฤดูกาลที่จะมีการเร่งโอนในช่วงปลายปี

ตลาดหุ้นเอเชียปรับตัวเพิ่มขึ้นเช้านี้ รับคาดการณ์เฟดไม่รีบขี้นดอกเบี้ย
ตลาดหุ้นเอเชียปรับตัวเพิ่มขึ้นในเช้าวันนี้ ตามทิศทางของดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กที่ปิดพุ่งขึ้นเมื่อคืน หลังจากสหรัฐเปิดเผยตัวเลขเงินเฟ้อที่ขยายตัวต่ำกว่าคาด ซึ่งทำให้นักลงทุนคลายวิตกเกี่ยวกับการเร่งขึ้นอัตราดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ในปีนี้
ดัชนี NIKKEI 225 ตลาดหุ้นญี่ปุ่นเปิดวันนี้ที่ 22,573.95 จุด เพิ่มขึ้น 76.77 จุด, +0.34% ดัชนี SSE Composite ตลาดหุ้นจีนเปิดวันนี้ที่ 3,179.80 จุด เพิ่มขึ้น 5.39 จุด, +0.17% ดัชนี HSI ตลาดหุ้นฮ่องกงเปิดวันนี้ที่ 31,151.80 จุด เพิ่มขึ้น 342.58 จุด, +1.11% ดัชนี TAIEX ตลาดหุ้นไต้หวันเปิดวันนี้ที่ 10,808.40 จุด เพิ่มขึ้น 48.19 จุด, +0.45% ดัชนี KOSPI ตลาดหุ้นเกาหลีใต้เปิดวันนี้ที่ 2,469.30 จุด เพิ่มขึ้น 5.14 จุด, +0.21% ดัชนี FTSE STI ตลาดหุ้นสิงคโปร์เปิดวันนี้ที่ 3,559.07 จุด เพิ่มขึ้น 21.48 จุด, +0.61%
ส่วนตลาดหุ้นมาเลเซียปิดทำการวันนี้ เนื่องในวันหยุดพิเศษตามประกาศของรัฐบาลมาเลเซีย
กระทรวงแรงงานสหรัฐเปิดเผยว่า ดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) ปรับตัวขึ้น 0.2% ในเดือนเม.ย. เมื่อเทียบรายเดือน ซึ่งต่ำกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ว่าดัชนีจะดีดตัวขึ้น 0.3% โดยการปรับตัวต่ำกว่าคาดของดัชนี CPI ในเดือนเม.ย.มีสาเหตุจากการชะลอตัวของค่าใช้จ่ายในด้านการรักษาสุขภาพ แม้ว่าราคาน้ำมันเบนซิน และค่าเช่าบ้านดีดตัวขึ้น
ส่วนดัชนี CPI พื้นฐานซึ่งไม่นับรวมหมวดอาหารและพลังงาน เพิ่มขึ้น 0.1% เมื่อเทียบรายเดือน ซึ่งต่ำกว่าที่นักวิเคราะห์คาดว่าจะเพิ่มขึ้น 0.2%
คริส โลว์ นักวิเคราะห์จากบริษัทหลักทรัพย์เอฟทีเอ็น ไฟแนนเชียล กล่าวว่า การที่ดัชนี CPI เดือนเม.ย.ขยายตัวต่ำกว่าคาดนั้น ช่วยลดโอกาสที่เฟดจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยมากกว่า 3 ครั้งในปีนี้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อพิจารณาจากดัชนี CPI พื้นฐานที่ยังอยู่ห่างไกลจากเป้าหมายที่ระดับ 2% ของเฟด

ตลาดหุ้นเอเชียปรับตัวเพิ่มขึ้นเช้านี้ รับคาดการณ์เฟดไม่รีบขี้นดอกเบี้ย
ตลาดหุ้นเอเชียปรับตัวเพิ่มขึ้นในเช้าวันนี้ ตามทิศทางของดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กที่ปิดพุ่งขึ้นเมื่อคืน หลังจากสหรัฐเปิดเผยตัวเลขเงินเฟ้อที่ขยายตัวต่ำกว่าคาด ซึ่งทำให้นักลงทุนคลายวิตกเกี่ยวกับการเร่งขึ้นอัตราดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ในปีนี้
ดัชนี NIKKEI 225 ตลาดหุ้นญี่ปุ่นเปิดวันนี้ที่ 22,573.95 จุด เพิ่มขึ้น 76.77 จุด, +0.34% ดัชนี SSE Composite ตลาดหุ้นจีนเปิดวันนี้ที่ 3,179.80 จุด เพิ่มขึ้น 5.39 จุด, +0.17% ดัชนี HSI ตลาดหุ้นฮ่องกงเปิดวันนี้ที่ 31,151.80 จุด เพิ่มขึ้น 342.58 จุด, +1.11% ดัชนี TAIEX ตลาดหุ้นไต้หวันเปิดวันนี้ที่ 10,808.40 จุด เพิ่มขึ้น 48.19 จุด, +0.45% ดัชนี KOSPI ตลาดหุ้นเกาหลีใต้เปิดวันนี้ที่ 2,469.30 จุด เพิ่มขึ้น 5.14 จุด, +0.21% ดัชนี FTSE STI ตลาดหุ้นสิงคโปร์เปิดวันนี้ที่ 3,559.07 จุด เพิ่มขึ้น 21.48 จุด, +0.61%
ส่วนตลาดหุ้นมาเลเซียปิดทำการวันนี้ เนื่องในวันหยุดพิเศษตามประกาศของรัฐบาลมาเลเซีย
กระทรวงแรงงานสหรัฐเปิดเผยว่า ดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) ปรับตัวขึ้น 0.2% ในเดือนเม.ย. เมื่อเทียบรายเดือน ซึ่งต่ำกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ว่าดัชนีจะดีดตัวขึ้น 0.3% โดยการปรับตัวต่ำกว่าคาดของดัชนี CPI ในเดือนเม.ย.มีสาเหตุจากการชะลอตัวของค่าใช้จ่ายในด้านการรักษาสุขภาพ แม้ว่าราคาน้ำมันเบนซิน และค่าเช่าบ้านดีดตัวขึ้น
ส่วนดัชนี CPI พื้นฐานซึ่งไม่นับรวมหมวดอาหารและพลังงาน เพิ่มขึ้น 0.1% เมื่อเทียบรายเดือน ซึ่งต่ำกว่าที่นักวิเคราะห์คาดว่าจะเพิ่มขึ้น 0.2%
คริส โลว์ นักวิเคราะห์จากบริษัทหลักทรัพย์เอฟทีเอ็น ไฟแนนเชียล กล่าวว่า การที่ดัชนี CPI เดือนเม.ย.ขยายตัวต่ำกว่าคาดนั้น ช่วยลดโอกาสที่เฟดจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยมากกว่า 3 ครั้งในปีนี้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อพิจารณาจากดัชนี CPI พื้นฐานที่ยังอยู่ห่างไกลจากเป้าหมายที่ระดับ 2% ของเฟด

ภาวะตลาดหุ้นลอนดอน: ฟุตซี่ปิดบวก 38.45 จุด รับเงินปอนด์อ่อนหนุนหุ้นบริษัทข้ามชาติ
ตลาดหุ้นลอนดอนปิดปรับตัวขึ้นเมื่อคืนนี้ (10 พ.ค.) เนื่องจากการอ่อนค่าของเงินปอนด์ช่วยหนุนหุ้นบริษัทข้ามชาติ โดยสกุลเงินปอนด์อ่อนค่าลงหลังจากธนาคารกลางอังกฤษ (BoE) ปรับลดคาดการณ์เศรษฐกิจและเงินเฟ้อในปีนี้
ทั้งนี้ ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 7,700.97 จุด เพิ่มขึ้น 38.45 จุด หรือ +0.50%
ตลาดหุ้นลอนดอนได้ปัจจัยบวกจากการอ่อนค่าของเงินปอนด์ ซึ่งช่วยหนุนหุ้นของบริษัทข้ามชาติที่จดทะเบียนในดัชนี FTSE 100 โดยเงินปอนด์อ่อนค่าลงหลังจากธนาคารกลางอังกฤษประกาศคงอัตราดอกเบี้ยนโยบายที่ระดับ 0.50% ในการประชุมกำหนดนโยบายการเงินเมื่อวานนี้
ขณะเดียวกัน ธนาคารกลางอังกฤษยังได้ปรับลดคาดการณ์การขยายตัวทางเศรษฐกิจสู่ระดับ 1.4% ในปีนี้ โดยลดลงจากระดับ 1.8% ที่คาดการณ์ก่อนหน้านี้ สำหรับในปี 2562 และ 2563 นั้น ธนาคารกลางอังกฤษคาดว่าเศรษฐกิจจะมีการขยายตัว 1.7% ซึ่งลดลงจากระดับ 1.8% ที่คาดการณ์ก่อนหน้านี้
นอกจากนี้ ธนาคารกลางอังกฤษได้ปรับลดคาดการณ์เงินเฟ้อในไตรมาส 2 ปีนี้ ลงู่ระดับ 2.4% จากระดับ 2.7%
หุ้นเน็กซ์ พีแอลซี ซึ่งเป็นบริษัทค้าปลีกเครื่องใช้ภายในบ้าน พุ่งขึ้น 6.1% หลังจากบริษัทปรับเพิ่มคาดการณ์กำไรก่อนหักภาษีในปีงบการเงิน 2561 ขึ้นสู่ระดับ 717 ล้านปอนด์ หรือประมาณ 971.5 ล้านดอลลาร์
หุ้นบีที กรุ๊ป ซึ่งเป็นบริษัทสื่อสารโทรคมนาคมรายใหญ่ ดิ่งลง 7.4% หลังจากบริษัทปรับลดคาดการณ์กำไรและรายได้ในปีงบการเงิน 2562 พร้อมประกาศแผนปรับลดพนักงาน 13,000 ตำแหน่งในช่วง 3 ปีข้างหน้า ตามแผนปรับโครงสร้างองค์กร
หุ้นแรนด์โกลด์ ซึ่งเป็นบริษัทเหมืองทองคำรายใหญ่ ร่วงลง 7% หลังจากบริษัทเปิดเผยกำไรก่อนหักภาษีลดลง 27% ในไตรมาสแรก เนื่องจากยอดขายทองคำปรับตัวลดลง และต้นทุนการผลิตปรับตัวสูงขึ้น

ภาวะตลาดหุ้นยุโรป: หุ้นยุโรปปิดบวก รับเงินปอนด์อ่อน ขณะนักลงทุนจับตาการเมืองอิตาลี
ตลาดหุ้นยุโรปปิดบวกเป็นส่วนใหญ่เมื่อคืนนี้ (10 พ.ค.) โดยได้ปัจจัยหนุนจากเงินปอนด์ที่อ่อนค่าลงหลังจากธนาคารกลางอังกฤษ (BoE) ปรับลดคาดการณ์เศรษฐกิจและเงินเฟ้อในปีนี้ อย่างไรก็ตาม นักลงทุนระมัดระวังการซื้อขายและจับตาสถานการณ์การเมืองในอิตาลี
ดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมันปิดที่ 13,022.87 จุด เพิ่มขึ้น 79.81 จุด, +0.62% ดัชนี CAC-40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศสปิดที่ 5,545.95 จุด เพิ่มขึ้น 11.32 จุด, +0.20% ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 7,700.97 จุด เพิ่มขึ้น 38.45 จุด, +0.50%
อย่างไรก็ตาม ดัชนี Stoxx Europe 600 ปรับตัวลง 0.1% ปิดที่ 391.97 จุด
ภาวะการซื้อขายในตลาดได้รับปัจจัยหนุนจากเงินปอนด์ที่อ่อนค่าลง หลังจากธนาคารกลางอังกฤษประกาศคงอัตราดอกเบี้ยนโยบายที่ระดับ 0.50% ในการประชุมกำหนดนโยบายการเงินเมื่อวานนี้
ขณะเดียวกัน ธนาคารกลางอังกฤษยังได้ปรับลดคาดการณ์การขยายตัวทางเศรษฐกิจสู่ระดับ 1.4% ในปีนี้ โดยลดลงจากระดับ 1.8% ที่คาดการณ์ก่อนหน้านี้ สำหรับในปี 2562 และ 2563 นั้น ธนาคารกลางอังกฤษคาดว่าเศรษฐกิจจะมีการขยายตัว 1.7% ซึ่งลดลงจากระดับ 1.8% ที่คาดการณ์ก่อนหน้านี้
นอกจากนี้ ธนาคารกลางอังกฤษได้ปรับลดคาดการณ์เงินเฟ้อในไตรมาส 2 ปีนี้ ลงู่ระดับ 2.4% จากระดับ 2.7%
หุ้นยูนิเครดิต ซึ่งป็นธนาคารรายใหญ่ของอิตาลี พุ่งขึ้น 1.8% หลังจากบริษัทเปิดเผยกำไรสุทธิทะยานขึ้น 23% ในไตรมาสแรก
หุ้นเน็กซ์ พีแอลซี ซึ่งเป็นบริษัทค้าปลีกเครื่องใช้ภายในบ้าน พุ่งขึ้น 6.1% หลังจากบริษัทปรับเพิ่มคาดการณ์กำไรก่อนหักภาษีในปีงบการเงิน 2561 ขึ้นสู่ระดับ 717 ล้านปอนด์ หรือประมาณ 971.5 ล้านดอลลาร์
หุ้นบีที กรุ๊ป ซึ่งเป็นบริษัทสื่อสารโทรคมนาคมรายใหญ่ ดิ่งลง 7.4% หลังจากบริษัทปรับลดคาดการณ์กำไรและรายได้ในปีงบการเงิน 2562 พร้อมประกาศแผนปรับลดพนักงาน 13,000 ตำแหน่งในช่วง 3 ปีข้างหน้า ตามแผนปรับโครงสร้างองค์กร
หุ้นแรนด์โกลด์ ซึ่งเป็นบริษัทเหมืองทองคำรายใหญ่ ร่วงลง 7% หลังจากบริษัทเปิดเผยกำไรก่อนหักภาษีลดลง 27% ในไตรมาสแรก เนื่องจากยอดขายทองคำปรับตัวลดลง และต้นทุนการผลิตปรับตัวสูงขึ้น
หุ้นรอยัล แบงก์ ออฟ สก็อตแลนด์ (RBS) ดีดตัวขึ้น 3.8% หลังจาก RBS ยอมจ่ายเงิน 4.9 พันล้านดอลลาร์ เพื่อยุติคดีความกับกระทรวงยุติธรรมสหรัฐในคดีที่เกี่ยข้องกับการขายหลักทรัพย์ที่มีสัญญาจำนองค้ำประกัน (MBS) ในช่วงปี 2548-2550
นักลงทุนจับตาสถานการณ์การเมืองในอิตาลีอย่างใกล้ชิด หลังจากพรรค 5-Star Movement และพรรค League ซึ่งเป็นพรรคการเมือง 2 พรรคที่ใหญ่ที่สุดในอิตาลี ต่างเห็นพ้องกันว่า ควรมีการจัดการเลือกตั้งครั้งใหม่ในวันที่ 8 ก.ค. ถ้าหากพรรคการเมืองต่างๆยังคงไม่สามารถบรรลุข้อตกลงจัดตั้งรัฐบาลชุดใหม่
ทั้งนี้ พรรค 5-Star Movement และพรรค League ได้เสนอวันเลือกตั้งดังกล่าว หลังจากที่ไม่มีพรรคการเมืองใดครองเสียงข้างมากจากการเลือกตั้งในวันที่ 4 มี.ค.

ภาวะตลาดหุ้นนิวยอร์ก: ดาวโจนส์ปิดบวก 196.99 จุด รับหุ้นเทคโนฯพุ่ง,คาดเฟดไม่รีบขี้นดบ.หลังเงินเฟ้อต่ำกว่าคาด
ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดพุ่งขึ้นเมื่อคืนนี้ (10 พ.ค.) หลังจากสหรัฐเปิดเผยตัวเลขเงินเฟ้อที่ขยายตัวต่ำกว่าคาด ซึ่งทำให้นักลงทุนคลายวิตกเกี่ยวกับการเร่งขึ้นอัตราดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ในปีนี้ นอกจากนี้ ตลาดยังได้รับแรงหนุนจากการพุ่งขึ้นของหุ้นกลุ่มเทคโนโลยี นำโดยหุ้นแอปเปิลและเฟซบุ๊ก
ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 24,739.53 จุด เพิ่มขึ้น 196.99 จุด หรือ +0.80% ขณะที่ดัชนี S&P 500 ปิดที่ 2,723.07 จุด เพิ่มขึ้น 25.28 จุด หรือ +0.94% ส่วนดัชนี Nasdaq ปิดที่ 7,404.97 จุด เพิ่มขึ้น 65.07 จุด หรือ +0.89%
ดัชนีดาวโจนส์ทำสถิติปิดในแดนบวกติดต่อกันเป็นวันที่ 6 เมื่อคืนนี้ เนื่องจากนักลงทุนขานรับตัวเลขเงินเฟ้อที่ต่ำกว่าคาดของสหรัฐ โดยกระทรวงแรงงานสหรัฐเปิดเผยว่า ดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) ปรับตัวขึ้น 0.2% ในเดือนเม.ย. เมื่อเทียบรายเดือน ซึ่งต่ำกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ว่าดัชนีจะดีดตัวขึ้น 0.3% โดยการปรับตัวต่ำกว่าคาดของดัชนี CPI ในเดือนเม.ย.มีสาเหตุจากการชะลอตัวของค่าใช้จ่ายในด้านการรักษาสุขภาพ แม้ว่าราคาน้ำมันเบนซิน และค่าเช่าบ้านดีดตัวขึ้น
ส่วนดัชนี CPI พื้นฐานซึ่งไม่นับรวมหมวดอาหารและพลังงาน เพิ่มขึ้น 0.1% เมื่อเทียบรายเดือน ซึ่งต่ำกว่าที่นักวิเคราะห์คาดว่าจะเพิ่มขึ้น 0.2%
คริส โลว์ นักวิเคราะห์จากบริษัทหลักทรัพย์เอฟทีเอ็น ไฟแนนเชียล กล่าวว่า การที่ดัชนี CPI เดือนเม.ย.ขยายตัวต่ำกว่าคาดนั้น ช่วยลดโอกาสที่เฟดจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยมากกว่า 3 ครั้งในปีนี้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อพิจารณาจากดัชนี CPI พื้นฐานที่ยังอยู่ห่างไกลจากเป้าหมายที่ระดับ 2% ของเฟด
นอกจากนี้ ตลาดยังได้ปัจจัยหนุนจากการพุ่งขึ้นของหุ้นกลุ่มเทคโนโลยี โดยหุ้นเฟซบุ๊ก พุ่งขึ้น 1.6% หุ้นแอปเปิล ดีดตัวขึ้น 1.4% หุ้นอเมซอน เพิ่มขึ้น 0.7% หุ้นอัลฟาเบท ซึ่งเป็นบริษัทแม่ของกูเกิล พุ่งขึ้น 1.5% หุ้นไมโครซอฟท์ ปรับตัวขึ้น 1%
ทั้งนี้ หุ้นกลุ่มเทคโนโลยียังคงได้รับความสนใจจากนักลงทุน โดยเฉพาะอย่างยิ่งหุ้นแอปเปิลที่ปิดตลาดในแดนบวกติดต่อกันหลายวัน นับตั้งแต่แอปเปิลประกาศว่าจะรับซื้อหุ้นคืนจากนักลงทุนในวงเงิน 1 แสนล้านดอลลาร์ หลังจากที่ได้ซื้อหุ้นคืนจำนวน 2.75 แสนล้านดอลลาร์นับตั้งแต่ปี 2555 นอกจากนี้ บริษัทจะเพิ่มการจ่ายเงินปันผลแก่นักลงทุนอีก 16% สู่ระดับ 73 เซนต์/หุ้น โดยแอปเปิลได้เพิ่มการจ่ายเงินปันผลอย่างต่อเนื่องนับตั้งแต่ที่มีการแตกหุ้นในปี 2557
การประกาศรับซื้อหุ้นคืนจากนักลงทุนมีขึ้นหลังจากแอปเปิลเปิดเผยว่า รายได้ในไตรมาส 2 ในปีงบการเงินของบริษัท เพิ่มขึ้น 16% แตะระดับ 6.11 หมื่นล้านดอลลาร์ ซึ่งเป็นการขยายตัวที่แข็งแกร่งที่สุดในรอบ 2 ปี และสูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ว่าจะอยู่ที่ 6.09 หมื่นล้านดอลลาร์
หุ้นแอล แบรนด์ส ซึ่งเป็นบริษัทแม่ของแบรนด์ชุดชั้นใน "Victoria's Secret" ร่วงลง 7.2% หลังจากบริษัทปรับลดคาดการณ์ผลกำไรในปีงบการเงิน 2561
ส่วนหุ้นของบริษัทจีนที่จดทะเบียนซื้อขายในตลาดหุ้นนิวยอร์กนั้น หุ้นทีเอแอล เอ็ดดูเคชัน กรุ๊ป พุ่งขึ้น 5% หุ้นเบจีน ซึ่งเป็นบริษัทเวชภัณฑ์รายใหญ่ ปรับตัวลง 5.2%
นอกเหนือจากดัชนี CPI แล้ว ทางการสหรัฐยังเปิดเผยว่า จำนวนชาวอเมริกันที่ยื่นขอสวัสดิการว่างงานครั้งแรกทรงตัวที่ระดับ 211,000 รายในสัปดาห์ที่แล้ว ใกล้ระดับต่ำสุดในรอบกว่า 48 ปี สวนทางนักวิเคราะห์ที่คาดว่าจะเพิ่มขึ้นสู่ระดับ 218,000 ราย
นักลงทุนจับตาข้อมูลเศรษฐกิจด้านอื่นๆของสหรัฐในวันนี้ ซึ่งได้แก่ดัชนีราคานำเข้าและส่งออกเดือนเม.ย. และดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคขั้นต้นเดือนพ.ค.จากมหาวิทยาลัยมิชิแกน
--อินโฟเควสท์
OO8651

apm

 

 

Facebook

5 ข่าวฮอตนิวส์!