- Details
- Category: ซุบซิบการลงทุน
- Published: Tuesday, 09 January 2018 17:13
- Hits: 3750
เด็กแนว - STPI นี่แค่เริ่มต้นของโอกาสในอดีต เคยจัดว่าเป็นหุ้นที่โดดเด่นตัวหนึ่งด้านงานรับเหมาโครงสร้างเหล็ก แต่ความไม่แน่นอนของงานมีมาก เพราะเน้นรับงานใหญ่ที่ต่างประเทศ ปีไหนได้น้อยก็กลายเป็นผลงานตก และระยะหลังคู่แข่งมากขึ้นจนงานหายาก STPI คงเห็นจุดนี้ จึงเริ่มมองหาธุรกิจที่มีโอกาสกินยาว แทนการหางานไปตามงวด
ราคาหุ้นของ STPI เคยสูงเกิน 20 บาท แต่ไหลลงมาเรื่อยจนต่ำสุดรอบ 6 ปีเมื่อเดือนที่ผ่านมา สะท้อนงานเหลือน้อย ผลประกอบการตกต่ำสุด แต่บริษัทเล็งเห็นโอกาสด้านการขนส่ง จึงเข้าซื้อกิจการ Logistic และคลังสินค้า เล็งเห็นโอกาสอนาคตของธุรกิจด้านนี้ที่จะเติบโตอย่างมากในยุคถัดไป จึงทำให้ราคาหุ้นเริ่มเด้งรับ และนี่จึงเป็นจุดเริ่มต้นที่เราต้องมาวัดกันกับการสะสมหุ้นลุ้นพื้นฐานที่เปลี่ยนแปลงใหม่ นี่คือการ Bet กับโอกาสที่แลกมาด้วยราคาหุ้นที่ลงลึกมาก กราฟน่าจะเด้งต่อไปยัง 6.50 บาท ใครอยากลุ้น ตามมา STPI อาจเป็นจุดเริ่มขึ้นที่เสี่ยงต่ำมากแล้ว
- IHL สามสัญญาณซื้อ
อย่าเพิ่งเบื่อกับหุ้นตัวนี้ที่แนะนำบ่อยในระยะที่ผ่านมา เพราะของเขาดีก็ต้องจับตาดูกันไป จุดเด่นคือผลกำไรที่จะทุบสถิติจากยอดเบาะหนังที่เข้ามามากใน Q4 รายได้จากการฟอกหนัง ขณะที่ปีใหม่นี้มาลุ้นโครงสร้างรายได้ใหม่ที่เป็น Non-Auto เด็กแนวเคยบอกไปแล้วว่าเกี่ยวเนื่องกับความงาม ซึ่งรายได้จะขยายตัวไปไกลแสนไกลเลยขอบอก เมื่อวานดีดตัวขึ้นแรง แท่งเทียนสร้างรูปถ้วย เส้นค่าเฉลี่ยทั้งสามเรียงตัวขึ้น และ MACD buy signal นี่คือแนวโน้มสวย แนะนำอย่ากระโดดเข้าไปเช้านี้ เน้น Buy on weakness และถือหุ้น Q4 จร้า
อย่าเพิ่งเบื่อกับหุ้นตัวนี้ที่แนะนำบ่อยในระยะที่ผ่านมา เพราะของเขาดีก็ต้องจับตาดูกันไป จุดเด่นคือผลกำไรที่จะทุบสถิติจากยอดเบาะหนังที่เข้ามามากใน Q4 รายได้จากการฟอกหนัง ขณะที่ปีใหม่นี้มาลุ้นโครงสร้างรายได้ใหม่ที่เป็น Non-Auto เด็กแนวเคยบอกไปแล้วว่าเกี่ยวเนื่องกับความงาม ซึ่งรายได้จะขยายตัวไปไกลแสนไกลเลยขอบอก เมื่อวานดีดตัวขึ้นแรง แท่งเทียนสร้างรูปถ้วย เส้นค่าเฉลี่ยทั้งสามเรียงตัวขึ้น และ MACD buy signal นี่คือแนวโน้มสวย แนะนำอย่ากระโดดเข้าไปเช้านี้ เน้น Buy on weakness และถือหุ้น Q4 จร้า
บล.เออีซี : Action Strategy
AECS Market Outlook : ปรับฐานซะบ้าง
SET ดีดตัวแรงในระยะต้นตลาด และทิ้งตัวลงในระยะท้ายตลาดตามคาด เนื่องจากการเกิด Overbought ที่มากเกินไปในระยะสั้นส่งผลให้มีแรงกดดันทางเทคนิค การอ่อนตัวลงเมื่อวานนี้ทำให้กราฟแท่งเทียนเกิดรูปแบบ Shooting star และ F-Stochastic โค้งตัดเส้นสัญญาณลงยืนยันการปรับฐานระยะสั้นที่แนวประมาณ 1,770 จุด น่าจะใช้เวลาในการอ่อนตัวราว 2-3 วัน
กลยุทธ์
1. การเก็งกำไรต้องระมัดระวังในหุ้นใหญ่ และหันมาเลือกหุ้นที่มีขนาดเล็กลง
3. ลดน้ำหนักหุ้นต้นทุนสูงบางส่วน เพื่อถือเงินสดรอการฟื้นตัว
1. การเก็งกำไรต้องระมัดระวังในหุ้นใหญ่ และหันมาเลือกหุ้นที่มีขนาดเล็กลง
3. ลดน้ำหนักหุ้นต้นทุนสูงบางส่วน เพื่อถือเงินสดรอการฟื้นตัว
บทสรุปการลงทุน:
SET เกิดสัญญาณอ่อนตัวคาดจะปรับฐานระยะสั้น
SET Closed: 1,792.81
Support: 1,770 1,785
Resistant: 1,800 1,810
SET เกิดสัญญาณอ่อนตัวคาดจะปรับฐานระยะสั้น
SET Closed: 1,792.81
Support: 1,770 1,785
Resistant: 1,800 1,810
SVOA ส่งสัญญาณบวก
ราคาปิด 2.10 บาท
แนวรับ 2.06 บาท
แนวต้าน: 2.20 บาท
Stop Loss : เมื่อใกล้หลุด 2.04 บาท
ราคาปิด 2.10 บาท
แนวรับ 2.06 บาท
แนวต้าน: 2.20 บาท
Stop Loss : เมื่อใกล้หลุด 2.04 บาท
กราฟ SVOA ม้วนตัวเข้าสู่ขาขึ้น ตามแนว Uptrend โดยมีโครงสร้างแบบ V-shape ของ Weekly ดังนั้นราคาจะค่อยๆ ไต่ระดับต่อเนื่อง แนะนำ "ซื้อสะสม"
บล.เออีซี : Derivatives Signals
SET50 Index Futures
มุมมองทางทฤษฎี: ตลาดมองระยะสั้นดัชนีพักฐาน!!!
BASIS (S50H18-SET50): เมื่อวานนี้ S50H18 ปิดลบมากกว่า Spot ส่งผลให้ Basis ลดลงจากวันก่อนหน้า 1.14 จุด โดยปัจจุบันอยู่ที่ระดับ -4.92 จุด น้อยกว่า Theory Basis ที่ -2.73 จุด สะท้อนมุมมองเชิงลบในระยะสั้น (3 เดือน) ของนักลงทุนที่มีต่อ SET50 Index ส่วน Calendar Spread (S50M18-S50H18) ลดลงจากวันก่อนหน้า 1.2 จุด โดยปัจจุบันอยู่ที่ระดับ -3.00 จุด เข้าใกล้ Theory Spread ที่ -3.47 จุด สะท้อนมุมมองเป็นกลางในระยะกลาง (6 เดือน) ของนักลงทุนที่มีต่อ SET50 Index
PUT/CALL Ratio: ปัจจุบันอัตราส่วนการเทรด SET50 Index Option ฝั่ง PUT เทียบกับฝั่ง CALL พบว่าปริมาณซื้อขาย (Volume) อยู่ที่ 0.83x ลดลงจากวันก่อนหน้า 0.22x เช่นเดียวกับฝั่งสถานะคงค้าง (Open Interest) ปัจจุบันอยู่ที่ 1.02x ลดลงจากวันก่อนหน้า 0.02x ซึ่ง PUT/CALL Ratio ฝั่ง OI ยังอยู่ในระดับที่สูงกว่าค่าเฉลี่ยในอดีต แสดงให้เห็นถึงการกลัวความเสี่ยงพักฐานขาขึ้นของดัชนี (ดูรายละเอียดจากหน้า 2)
Fund Flow Analysis: เมื่อวานนี้นักลงทุนต่างชาติขายสุทธิในตลาดหุ้น 3,332 ล้านบาท และมีสถานะ Net Long 9,423 สัญญา ใน Index Futures โดยตั้งแต่เริ่มต้นปี 2561 นักลงทุนต่างชาติมีสถานะขายสุทธิในตลาดทุน (หุ้น + Index Futures) ราว 6,031 ล้านบาท
BASIS (S50H18-SET50): เมื่อวานนี้ S50H18 ปิดลบมากกว่า Spot ส่งผลให้ Basis ลดลงจากวันก่อนหน้า 1.14 จุด โดยปัจจุบันอยู่ที่ระดับ -4.92 จุด น้อยกว่า Theory Basis ที่ -2.73 จุด สะท้อนมุมมองเชิงลบในระยะสั้น (3 เดือน) ของนักลงทุนที่มีต่อ SET50 Index ส่วน Calendar Spread (S50M18-S50H18) ลดลงจากวันก่อนหน้า 1.2 จุด โดยปัจจุบันอยู่ที่ระดับ -3.00 จุด เข้าใกล้ Theory Spread ที่ -3.47 จุด สะท้อนมุมมองเป็นกลางในระยะกลาง (6 เดือน) ของนักลงทุนที่มีต่อ SET50 Index
PUT/CALL Ratio: ปัจจุบันอัตราส่วนการเทรด SET50 Index Option ฝั่ง PUT เทียบกับฝั่ง CALL พบว่าปริมาณซื้อขาย (Volume) อยู่ที่ 0.83x ลดลงจากวันก่อนหน้า 0.22x เช่นเดียวกับฝั่งสถานะคงค้าง (Open Interest) ปัจจุบันอยู่ที่ 1.02x ลดลงจากวันก่อนหน้า 0.02x ซึ่ง PUT/CALL Ratio ฝั่ง OI ยังอยู่ในระดับที่สูงกว่าค่าเฉลี่ยในอดีต แสดงให้เห็นถึงการกลัวความเสี่ยงพักฐานขาขึ้นของดัชนี (ดูรายละเอียดจากหน้า 2)
Fund Flow Analysis: เมื่อวานนี้นักลงทุนต่างชาติขายสุทธิในตลาดหุ้น 3,332 ล้านบาท และมีสถานะ Net Long 9,423 สัญญา ใน Index Futures โดยตั้งแต่เริ่มต้นปี 2561 นักลงทุนต่างชาติมีสถานะขายสุทธิในตลาดทุน (หุ้น + Index Futures) ราว 6,031 ล้านบาท
Technical Analysis
มุมมองด้านเทคนิค: ระวังหลุดแนวรับค่าเฉลี่ย 5 วัน (EMA)!!!
เมื่อวานนี้ S50H18 ช่วงเช้าแกว่งขึ้นแต่ช่วงบ่ายทิ้งตัวลงหนักจนปิดลบ แม้จะเป็นเพียงการพักฐานของขาขึ้น แต่เพราะราคาปัจจุบันของ S50H18 ลงมาเข้าใกล้แนวรับค่าเฉลี่ย 5 วัน (EMA) ที่ 1,156 จุด ซึ่งหากหลุดจะทำให้แนวโน้มขาขึ้นเสียทรง อีกทั้งจาก Price Pattern เมื่อช่วง 18 ต.ค.- 6 ธ.ค. 60 จะเห็นว่าหลังดัชนีเสียทรงในแนวโน้มขาขึ้น จะใช้เวลาพักฐานออกข้างค่อนข้างนานกว่าจะกลับมาขึ้นต่อ ดังนั้นจับตาแนวรับค่าเฉลี่ย 5 วัน (EMA) ที่ 1,156 จุด อย่างใกล้ชิด หากหลุดแนะนำปิดสถานะ Long ออกมาก่อน แล้วกลับมาเปลี่ยนกลยุทธ์เป็น Trading ในกรอบแทน
นอกจากนี้ส่วนต่างระหว่างค่า MACD และค่า Signal ลดลงเล็กน้อย ซึ่งยังไม่ถึงกับติดลบ ดังนั้นเราจึงมองว่าสัปดาห์นี้ S50H18 จะกลับมาขึ้นต่อ ตามแนวโน้มหลักที่ยังคงเป็นขาขึ้น แม้ระหว่างสัปดาห์อาจจะมีแรงขายทำกำไรเข้ามาบ้างเป็นระยะ แต่คาดเทรนด์ขาขึ้นที่แข็งแกร่งจะทำให้ดัชนีไต่ระดับขึ้นต่อ มองเป้าหมายถัดไปของ S50H18 ที่ 1,180 จุด
เมื่อวานนี้ S50H18 ช่วงเช้าแกว่งขึ้นแต่ช่วงบ่ายทิ้งตัวลงหนักจนปิดลบ แม้จะเป็นเพียงการพักฐานของขาขึ้น แต่เพราะราคาปัจจุบันของ S50H18 ลงมาเข้าใกล้แนวรับค่าเฉลี่ย 5 วัน (EMA) ที่ 1,156 จุด ซึ่งหากหลุดจะทำให้แนวโน้มขาขึ้นเสียทรง อีกทั้งจาก Price Pattern เมื่อช่วง 18 ต.ค.- 6 ธ.ค. 60 จะเห็นว่าหลังดัชนีเสียทรงในแนวโน้มขาขึ้น จะใช้เวลาพักฐานออกข้างค่อนข้างนานกว่าจะกลับมาขึ้นต่อ ดังนั้นจับตาแนวรับค่าเฉลี่ย 5 วัน (EMA) ที่ 1,156 จุด อย่างใกล้ชิด หากหลุดแนะนำปิดสถานะ Long ออกมาก่อน แล้วกลับมาเปลี่ยนกลยุทธ์เป็น Trading ในกรอบแทน
นอกจากนี้ส่วนต่างระหว่างค่า MACD และค่า Signal ลดลงเล็กน้อย ซึ่งยังไม่ถึงกับติดลบ ดังนั้นเราจึงมองว่าสัปดาห์นี้ S50H18 จะกลับมาขึ้นต่อ ตามแนวโน้มหลักที่ยังคงเป็นขาขึ้น แม้ระหว่างสัปดาห์อาจจะมีแรงขายทำกำไรเข้ามาบ้างเป็นระยะ แต่คาดเทรนด์ขาขึ้นที่แข็งแกร่งจะทำให้ดัชนีไต่ระดับขึ้นต่อ มองเป้าหมายถัดไปของ S50H18 ที่ 1,180 จุด
กลยุทธ์การลงทุน
Outright Trading: จับตาแนวรับที่ 1,156 จุด หากหลุดแนะนำปิดสถานะ Long ออกมาก่อน ในทางกลับกันหากยืนได้แนะนำถือต่อ โดยมีแนวต้านที่ 1,180 (กรอบบน Uptrend Channel)
Outright Trading: จับตาแนวรับที่ 1,156 จุด หากหลุดแนะนำปิดสถานะ Long ออกมาก่อน ในทางกลับกันหากยืนได้แนะนำถือต่อ โดยมีแนวต้านที่ 1,180 (กรอบบน Uptrend Channel)
นักวิเคราะห์: อิศรา เลิศสุดคนึง (ID:033432)
บล.เออีซี : Daily Focus
AECS Daily Focus
Technical: ปรับฐานซะบ้าง
Trading Idea: SVOA
เด็กแนว: STPI , IHL
Connect the World- (P.2)
ติดตามผลประกอบการธนาคารขนาดใหญ่ และตัวเลขเงินเฟ้อในสัปดาห์นี้
ติดตามผลประกอบการธนาคารขนาดใหญ่ และตัวเลขเงินเฟ้อในสัปดาห์นี้
Market Outlook
วันนี้คาด SET แกว่งตัวกรอบ1,780-1,810จุด โดยมองดัชนียังมีโอกาสย่อตัวลงต่อจากแรงขายทำกำไรระยะสั้นหลังดัชนีปรับขึ้นร้อนแรงในช่วงก่อนหน้า
วันนี้คาด SET แกว่งตัวกรอบ1,780-1,810จุด โดยมองดัชนียังมีโอกาสย่อตัวลงต่อจากแรงขายทำกำไรระยะสั้นหลังดัชนีปรับขึ้นร้อนแรงในช่วงก่อนหน้า
Market Factors
(-) ดัชนี DJIA ปิด -0.05%DoD จากแรงขายทำกำไรหลังทำนิวไฮต่อเนื่องแล้ว 4 วันทำการ
(+) ราคาน้ำมัน WTI ปิด +0.5%DoD หลังมีรายงานจำนวนแท่นขุดเจาะน้ำมันสหรัฐลดลง
(+/-) วันนี้ติดตามข้อมูล ศก.ที่สำคัญ อาทิ ดัชนีความเชื่อมั่นธุรกิจขนาดย่อม ธ.ค. ของสหรัฐฯ, ความเชื่อมั่นผู้บริโภคญี่ปุ่น ธ.ค., ดุลการค้า ธ.ค. ของเยอรมนีและฝรั่งเศส
(-) ดัชนี DJIA ปิด -0.05%DoD จากแรงขายทำกำไรหลังทำนิวไฮต่อเนื่องแล้ว 4 วันทำการ
(+) ราคาน้ำมัน WTI ปิด +0.5%DoD หลังมีรายงานจำนวนแท่นขุดเจาะน้ำมันสหรัฐลดลง
(+/-) วันนี้ติดตามข้อมูล ศก.ที่สำคัญ อาทิ ดัชนีความเชื่อมั่นธุรกิจขนาดย่อม ธ.ค. ของสหรัฐฯ, ความเชื่อมั่นผู้บริโภคญี่ปุ่น ธ.ค., ดุลการค้า ธ.ค. ของเยอรมนีและฝรั่งเศส
Investment Strategy
แม้เราคาดปี 2561 ตลาดหุ้นไทยจะสดใสและสร้างสถิติใหม่เป็นประวัติการณ์นับตั้งแต่เปิดตลท. โดยประเมินเป้าหมายSET Index ปี2561 อยู่ระหว่าง 1,897 - 1,953 จุดภายใต้สมมติฐาน EPS ของตลาดอยู่ที่ 111.60 บาทต่อหุ้น อิงPER 17.0-17.5 เท่า แต่สัปดาห์นี้คาด SET มีโอกาสปรับฐานลงมาและเปลี่ยนกลุ่มมาเลือกหุ้นที่มีขนาดเล็กลง หลังสัปดาห์ก่อนดัชนีดีดตัวแรงจากแรงซื้อหุ้นขนาดใหญ่อย่างกลุ่มพลังงานและกลุ่ม ธพ.
กลยุทธ์ลงทุนสำหรับนักลงทุนระยะกลาง-ยาว แนะนำ "Let Profit Run" ในหุ้น 2 ธีมหลักที่แนะนำสัปดาห์ก่อน ได้แก่ 1) หุ้น BIG Cap. ที่คาดปีนี้กำไรยังโตดี (PTT, PTTEP, PTTGC, IVL, GGC, KBANK,MINT) และ 2) หุ้น High Div. Yield ซึ่งคาดเดือน ก.พ. 61 ประกาศจ่ายปันผลเกิน 4% (TMT, KKP, TISCO, SC, AIT, ASP)
ส่วนนักลงทุนระยะสั้น แนะนำ "เก็งกำไรระมัดระวังในหุ้น Big Cap และหันมาเลือกซื้อหุ้นพื้นฐานดีที่มีขนาดเล็กลง" ได้แก่ BCH, HARN, JWD, MALEE, MONO, SEAFCO, SKN
แม้เราคาดปี 2561 ตลาดหุ้นไทยจะสดใสและสร้างสถิติใหม่เป็นประวัติการณ์นับตั้งแต่เปิดตลท. โดยประเมินเป้าหมายSET Index ปี2561 อยู่ระหว่าง 1,897 - 1,953 จุดภายใต้สมมติฐาน EPS ของตลาดอยู่ที่ 111.60 บาทต่อหุ้น อิงPER 17.0-17.5 เท่า แต่สัปดาห์นี้คาด SET มีโอกาสปรับฐานลงมาและเปลี่ยนกลุ่มมาเลือกหุ้นที่มีขนาดเล็กลง หลังสัปดาห์ก่อนดัชนีดีดตัวแรงจากแรงซื้อหุ้นขนาดใหญ่อย่างกลุ่มพลังงานและกลุ่ม ธพ.
กลยุทธ์ลงทุนสำหรับนักลงทุนระยะกลาง-ยาว แนะนำ "Let Profit Run" ในหุ้น 2 ธีมหลักที่แนะนำสัปดาห์ก่อน ได้แก่ 1) หุ้น BIG Cap. ที่คาดปีนี้กำไรยังโตดี (PTT, PTTEP, PTTGC, IVL, GGC, KBANK,MINT) และ 2) หุ้น High Div. Yield ซึ่งคาดเดือน ก.พ. 61 ประกาศจ่ายปันผลเกิน 4% (TMT, KKP, TISCO, SC, AIT, ASP)
ส่วนนักลงทุนระยะสั้น แนะนำ "เก็งกำไรระมัดระวังในหุ้น Big Cap และหันมาเลือกซื้อหุ้นพื้นฐานดีที่มีขนาดเล็กลง" ได้แก่ BCH, HARN, JWD, MALEE, MONO, SEAFCO, SKN
Market Talk and News
MINT (BUY:TP@46): ช่วง 4Q60 คาดกำไรโตทั้ง QoQ และ YoY จากทุกกลุ่มธุรกิจทั้งธุรกิจโรงแรมในไทยและบราซิลที่ยังสดใส บวกกับธุรกิจอาหารและธุรกิจจัดจำหน่ายคาดได้ผลบวกกำลังซื้อฟื้นและช็อปช่วยชาติ หนุนให้ปี 60 คาดกำไรโต 18.7%YoY และคาดโตต่อ11.1%YoY ในปี 61 ตามแผนขยายธุรกิจต่อเนื่องทั้งในและต่างประเทศ + Upside 19%
KKP (BUY:Consensus TP@88): ปี 60-61 คาดกำไรโตเฉลี่ยปีละ 6% จากรายได้ดอกเบี้ยสุทธิที่โตดีตามเป้าขยายพอร์ตสินเชื่อปีละ 5% พร้อมแผนเพิ่มสัดส่วนปล่อยสินเชื่อ Spread สูงมากขึ้นบวกกับรายได้ค่าธรรมเนียมมีพัฒนาการดีขึ้นตามฐานลูกค้ากองทุนที่ขยายตัว + Upside 7.9% และคาดให้ Div. Yield จากกำไรช่วง 2H60 อีก 4.9% จึงแนะนำ "ซื้อ"
PLANB (BUY:Consensus [email protected]): ปี 60 คาดกำไรโต 42.8%YoY และโตต่อ31.4%YoY ในปี 61 จากแนวโน้มสดใสในธุรกิจสื่อโฆษณานอกที่อยู่อาศัยและธุรกิจสปอร์ตมาร์เก็ตติ้งส่งผลให้คาดอัตราใช้พื้นที่สื่อโฆษณาจะเพิ่มเป็น 73% จากปี 60 คาดไว้ที่ 68-70% อีกทั้งบริษัทมีแผนเพิ่มพื้นที่สื่อโฆษณา 10-15% รองรับ ศก.ที่ฟื้นตัว +Upside 29.4%
MINT (BUY:TP@46): ช่วง 4Q60 คาดกำไรโตทั้ง QoQ และ YoY จากทุกกลุ่มธุรกิจทั้งธุรกิจโรงแรมในไทยและบราซิลที่ยังสดใส บวกกับธุรกิจอาหารและธุรกิจจัดจำหน่ายคาดได้ผลบวกกำลังซื้อฟื้นและช็อปช่วยชาติ หนุนให้ปี 60 คาดกำไรโต 18.7%YoY และคาดโตต่อ11.1%YoY ในปี 61 ตามแผนขยายธุรกิจต่อเนื่องทั้งในและต่างประเทศ + Upside 19%
KKP (BUY:Consensus TP@88): ปี 60-61 คาดกำไรโตเฉลี่ยปีละ 6% จากรายได้ดอกเบี้ยสุทธิที่โตดีตามเป้าขยายพอร์ตสินเชื่อปีละ 5% พร้อมแผนเพิ่มสัดส่วนปล่อยสินเชื่อ Spread สูงมากขึ้นบวกกับรายได้ค่าธรรมเนียมมีพัฒนาการดีขึ้นตามฐานลูกค้ากองทุนที่ขยายตัว + Upside 7.9% และคาดให้ Div. Yield จากกำไรช่วง 2H60 อีก 4.9% จึงแนะนำ "ซื้อ"
PLANB (BUY:Consensus [email protected]): ปี 60 คาดกำไรโต 42.8%YoY และโตต่อ31.4%YoY ในปี 61 จากแนวโน้มสดใสในธุรกิจสื่อโฆษณานอกที่อยู่อาศัยและธุรกิจสปอร์ตมาร์เก็ตติ้งส่งผลให้คาดอัตราใช้พื้นที่สื่อโฆษณาจะเพิ่มเป็น 73% จากปี 60 คาดไว้ที่ 68-70% อีกทั้งบริษัทมีแผนเพิ่มพื้นที่สื่อโฆษณา 10-15% รองรับ ศก.ที่ฟื้นตัว +Upside 29.4%
Quantitative Screening
หุ้น High Alpha ซึ่งคาด Outperform ตลาดวันนี้เลือก HMPRO , LHBANK
หุ้น High Alpha ซึ่งคาด Outperform ตลาดวันนี้เลือก HMPRO , LHBANK
AECS - Fundamental and Strategic Team
รณกฤต สารินวงศ์ (ID. 012234) [email protected]
ณัฏฐ์วริน ไตรภพสกุล (ID. 027445) [email protected]
อิศรา เลิศสุดคนึง (ID.033432) [email protected]
ตฤณ สิทธิสวัสดิ์ Asst. Analyst
จิรภัทร โบสุวรรณ Asst. Analyst
สุวรรณา อัศวเหล่าวรพงศ์ Data Support / Secretary
OO4317
รณกฤต สารินวงศ์ (ID. 012234) [email protected]
ณัฏฐ์วริน ไตรภพสกุล (ID. 027445) [email protected]
อิศรา เลิศสุดคนึง (ID.033432) [email protected]
ตฤณ สิทธิสวัสดิ์ Asst. Analyst
จิรภัทร โบสุวรรณ Asst. Analyst
สุวรรณา อัศวเหล่าวรพงศ์ Data Support / Secretary
OO4317
