- Details
- Category: ซุบซิบการลงทุน
- Published: Monday, 08 January 2018 23:40
- Hits: 11100
เด็กแนว -MONO : กำไรฟ้าผ่า รอบ 4 ปี
ผลงานของโมโนเป็นที่ประจักษ์ในปี 60 ที่ผ่านมา เพราะเรตติ้งที่พุ่งขึ้นเป็นอันดับ 4 ส่งผลกำไรพุ่ง 9 เดือน 145 ล้านบาท จาก 9M59 ขาดทุน 56 ล้านบาท และประเมินกำไรทั้งปีจะแรงฟ้าผ่า 210 ล้านบาททุบสถิติรอบ 4 ปี ขณะที่ปี 61 กำไรจะเพิ่มขึ้นเท่าตัวและน่าจะขยับเรตติ้งสู่อันดับ 3 อีกตะหาก ทุกค่ายหันมาให้ซื้อ เด็กแนวมองว่ารอบนี้จะประกาศงบ Q4 เป็นกำไรพลิกจาก ปีก่อนที่ขาดทุนอ่วม -195 ล้านบาท ถือเป็นจังหวะสะสมลุ้นผลประกอบการกัน ด้านกราฟเดินหน้าขาขึ้น ม้วนตัว Buy signal มองเป้าทดสอบได้ 4.80 บาท สะสมกันจร้า
ICHI : เล็งเป้า 11.50 บาท
ยังถือว่าน่ามองสำหรับอิชิ ผู้ผลิตเครื่องดิ่มชาเขียว และบำรุงกำลัง เพราะผลประกอบการที่ Turnaround จริงจัง ทำให้ใน Q4 นี้พลิกกำไรแรง จากขาดทุนบักโกรก ปีก่อน ทั้งนี้ยอดขายต่างประเทศ โดยเฉพาะในอินโดฯ ค่อนข้างเด่น ฟื้นกำไรชัดเจน นักวิเคราะห์มองว่าปี 61 ส่อแววโตก้าวกระโดด
ยอดรายได้พุ่งเฉียด 70% ในปีใหม่นี้แหละ ดังนั้นกำไรที่มาใหม่ ราคาก็ต้องมาใหม่เช่นกัน ส่วนกราฟฟอร์มตัวสวยงาม เป็นแบบหัวและไหล่ มีแนวต้านที่ 11.50 บาท สัญญาณซื้อใน RSI ไต่ระดับขั้นบันไดสนับสนุนการขึ้นนี้ แนะนำ "Follow Buy" จากที่แนะนำครั้งก่อน
ผลงานของโมโนเป็นที่ประจักษ์ในปี 60 ที่ผ่านมา เพราะเรตติ้งที่พุ่งขึ้นเป็นอันดับ 4 ส่งผลกำไรพุ่ง 9 เดือน 145 ล้านบาท จาก 9M59 ขาดทุน 56 ล้านบาท และประเมินกำไรทั้งปีจะแรงฟ้าผ่า 210 ล้านบาททุบสถิติรอบ 4 ปี ขณะที่ปี 61 กำไรจะเพิ่มขึ้นเท่าตัวและน่าจะขยับเรตติ้งสู่อันดับ 3 อีกตะหาก ทุกค่ายหันมาให้ซื้อ เด็กแนวมองว่ารอบนี้จะประกาศงบ Q4 เป็นกำไรพลิกจาก ปีก่อนที่ขาดทุนอ่วม -195 ล้านบาท ถือเป็นจังหวะสะสมลุ้นผลประกอบการกัน ด้านกราฟเดินหน้าขาขึ้น ม้วนตัว Buy signal มองเป้าทดสอบได้ 4.80 บาท สะสมกันจร้า
ICHI : เล็งเป้า 11.50 บาท
ยังถือว่าน่ามองสำหรับอิชิ ผู้ผลิตเครื่องดิ่มชาเขียว และบำรุงกำลัง เพราะผลประกอบการที่ Turnaround จริงจัง ทำให้ใน Q4 นี้พลิกกำไรแรง จากขาดทุนบักโกรก ปีก่อน ทั้งนี้ยอดขายต่างประเทศ โดยเฉพาะในอินโดฯ ค่อนข้างเด่น ฟื้นกำไรชัดเจน นักวิเคราะห์มองว่าปี 61 ส่อแววโตก้าวกระโดด
ยอดรายได้พุ่งเฉียด 70% ในปีใหม่นี้แหละ ดังนั้นกำไรที่มาใหม่ ราคาก็ต้องมาใหม่เช่นกัน ส่วนกราฟฟอร์มตัวสวยงาม เป็นแบบหัวและไหล่ มีแนวต้านที่ 11.50 บาท สัญญาณซื้อใน RSI ไต่ระดับขั้นบันไดสนับสนุนการขึ้นนี้ แนะนำ "Follow Buy" จากที่แนะนำครั้งก่อน
บล.เออีซี : Action Strategy
AECS Market Outlook : เตรียมปรับฐาน
SET ดีดตัวแรงสัปดาห์ที่ผ่านมา และทำให้ F-Stochastic ขึ้นไปทดสอบที่แนวต้านสำคัญ และมักจะมีการปรับฐานลงในทุกครั้ง เราคาดว่าการดีดตัวขึ้นในระยะต้นสัปดาห์ยังคงเกิดขึ้นไปสู่ระดับ 1,817 จุด จากนั้นจะเริ่มผันผวนตามภาวะ Overbought และมีโอกาสที่จะพักตัวลงใกล้แนว 1,760 จุด เราประเมินว่าสัปดาห์นี้ทิศทางอ่อนตัวจะกลับมาได้เปรียบ
AECS Market Outlook : เตรียมปรับฐาน
SET ดีดตัวแรงสัปดาห์ที่ผ่านมา และทำให้ F-Stochastic ขึ้นไปทดสอบที่แนวต้านสำคัญ และมักจะมีการปรับฐานลงในทุกครั้ง เราคาดว่าการดีดตัวขึ้นในระยะต้นสัปดาห์ยังคงเกิดขึ้นไปสู่ระดับ 1,817 จุด จากนั้นจะเริ่มผันผวนตามภาวะ Overbought และมีโอกาสที่จะพักตัวลงใกล้แนว 1,760 จุด เราประเมินว่าสัปดาห์นี้ทิศทางอ่อนตัวจะกลับมาได้เปรียบ
กลยุทธ์
1. การเก็งกำไรต้องระมัดระวังในหุ้นใหญ่ และหันมาเลือกหุ้นที่มีขนาดเล็กลง
2. ลดความเสี่ยงในการถือครองบริเวณ 1,817 จุด
3. ระมัดระวังการไล่ซื้อหุ้นในขณะที่ขึ้นสูง ควรซื้อเมื่อย่อตัว
1. การเก็งกำไรต้องระมัดระวังในหุ้นใหญ่ และหันมาเลือกหุ้นที่มีขนาดเล็กลง
2. ลดความเสี่ยงในการถือครองบริเวณ 1,817 จุด
3. ระมัดระวังการไล่ซื้อหุ้นในขณะที่ขึ้นสูง ควรซื้อเมื่อย่อตัว
บทสรุปการลงทุน:
SET เกิด Overbought มาก ให้ระวังผันผวน
SET Closed: 1,795.45
Support: 1,780 1,790
Resistant: 1,800 1,817
SET เกิด Overbought มาก ให้ระวังผันผวน
SET Closed: 1,795.45
Support: 1,780 1,790
Resistant: 1,800 1,817
RCL เรือออกจากท่า
ราคาปิด 9.15 บาท
แนวรับ 9.10 บาท
แนวต้าน: 9.50 บาท
Stop Loss : เมื่อใกล้หลุด 9.05 บาท
ราคาปิด 9.15 บาท
แนวรับ 9.10 บาท
แนวต้าน: 9.50 บาท
Stop Loss : เมื่อใกล้หลุด 9.05 บาท
กราฟ RCL ดีดตัวขึ้นรอบใหม่หลังจากหลุดแนว Uptrend โดยคาดว่าจะทดสอบแนว 9.50 บาทเป็นอย่างน้อยตาม V-shape และสัญญาณซื้อใน Stochastic แนะนำ "เก็งกำไร"
บล.เออีซี : Derivatives Signals
SET50 Index Futures
มุมมองทางทฤษฎี: ตลาดมองระยะสั้นดัชนีพักฐาน!!!
BASIS (S50H18-SET50): เมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมานี้ S50H18 ปิดลบ ขณะที่ Spot ปิดทรงตัว ส่งผลให้ Basis ลดลงจากวันก่อนหน้า โดยปัจจุบันอยู่ที่ระดับ -3.78 จุด น้อยกว่า Theory Basis ที่ -2.70 จุด สะท้อนมุมมองเชิงลบในระยะสั้น (3 เดือน) ของนักลงทุนที่มีต่อ SET50 Index ส่วน Calendar Spread (S50M18-S50H18) เพิ่มขึ้นจากวันก่อนหน้า 0.7 จุด โดยปัจจุบันอยู่ที่ระดับ -1.80 จุด มากกว่า Theory Spread ที่ -3.46 จุด สะท้อนมุมมองเชิงบวกในระยะกลาง (6 เดือน) ของนักลงทุนที่มีต่อ SET50 Index
PUT/CALL Ratio: ปัจจุบันอัตราส่วนการเทรด SET50 Index Option ฝั่ง PUT เทียบกับฝั่ง CALL พบว่าปริมาณซื้อขาย (Volume) อยู่ที่ 1.05x เพิ่มขึ้นจากวันก่อนหน้า 0.42x เช่นเดียวกับฝั่งสถานะคงค้าง (Open Interest) ปัจจุบันอยู่ที่ 1.04x เพิ่มขึ้นจากวันก่อนหน้า 0.05x ซึ่ง PUT/CALL Ratio ฝั่ง OI ยังอยู่ในระดับที่สูงกว่าค่าเฉลี่ยในอดีต แสดงให้เห็นถึงการกลัวความเสี่ยงพักฐานขาขึ้นของดัชนี (ดูรายละเอียดจากหน้า 2)
Fund Flow Analysis: เมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมานี้นักลงทุนต่างชาติขายสุทธิในตลาดหุ้น 2,030 ล้านบาท และมีสถานะ Net Short 11,385 สัญญา ใน Index Futures โดยตั้งแต่เริ่มต้นปี 2561 นักลงทุนต่างชาติมีสถานะขายสุทธิในตลาดทุน (หุ้น + Index Futures) ราว 4,892 ล้านบาท
BASIS (S50H18-SET50): เมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมานี้ S50H18 ปิดลบ ขณะที่ Spot ปิดทรงตัว ส่งผลให้ Basis ลดลงจากวันก่อนหน้า โดยปัจจุบันอยู่ที่ระดับ -3.78 จุด น้อยกว่า Theory Basis ที่ -2.70 จุด สะท้อนมุมมองเชิงลบในระยะสั้น (3 เดือน) ของนักลงทุนที่มีต่อ SET50 Index ส่วน Calendar Spread (S50M18-S50H18) เพิ่มขึ้นจากวันก่อนหน้า 0.7 จุด โดยปัจจุบันอยู่ที่ระดับ -1.80 จุด มากกว่า Theory Spread ที่ -3.46 จุด สะท้อนมุมมองเชิงบวกในระยะกลาง (6 เดือน) ของนักลงทุนที่มีต่อ SET50 Index
PUT/CALL Ratio: ปัจจุบันอัตราส่วนการเทรด SET50 Index Option ฝั่ง PUT เทียบกับฝั่ง CALL พบว่าปริมาณซื้อขาย (Volume) อยู่ที่ 1.05x เพิ่มขึ้นจากวันก่อนหน้า 0.42x เช่นเดียวกับฝั่งสถานะคงค้าง (Open Interest) ปัจจุบันอยู่ที่ 1.04x เพิ่มขึ้นจากวันก่อนหน้า 0.05x ซึ่ง PUT/CALL Ratio ฝั่ง OI ยังอยู่ในระดับที่สูงกว่าค่าเฉลี่ยในอดีต แสดงให้เห็นถึงการกลัวความเสี่ยงพักฐานขาขึ้นของดัชนี (ดูรายละเอียดจากหน้า 2)
Fund Flow Analysis: เมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมานี้นักลงทุนต่างชาติขายสุทธิในตลาดหุ้น 2,030 ล้านบาท และมีสถานะ Net Short 11,385 สัญญา ใน Index Futures โดยตั้งแต่เริ่มต้นปี 2561 นักลงทุนต่างชาติมีสถานะขายสุทธิในตลาดทุน (หุ้น + Index Futures) ราว 4,892 ล้านบาท
Technical Analysis
มุมมองด้านเทคนิค: พักฐานขาขึ้นเสร็จ เด๋วขึ้นต่อ!!!
เมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมานี้ S50H18 พยายามจะแกว่งทรงตัว แต่กลับทิ้งตัวลงช่วงท้ายตลาด อย่างไรก็ดีเรามองเป็นเพียงการพักฐานของขาขึ้น เพราะราคาปัจจุบันของ S50H18 ยังไม่ยอมหลุดแนวรับค่าเฉลี่ย 5 วัน (EMA) ที่ 1,155 จุด ส่งผลให้ราคาปัจจุบันและค่าเฉลี่ยมีการเรียงตัวตามแบบฉบับของแนวโน้มขาขึ้น (ราคาปัจจุบัน>EMA5วัน> EMA10วัน>EMA15วัน) นอกจากนี้ส่วนต่างระหว่างค่า MACD และค่า Signal ลดลงเล็กน้อย ซึ่งยังไม่ถึงกับติดลบ ดังนั้นเราจึงมองว่าสัปดาห์นี้ S50H18 จะกลับมาขึ้นต่อ ตามแนวโน้มหลักที่ยังคงเป็นขาขึ้น แม้ระหว่างสัปดาห์อาจจะมีแรงขายทำกำไรเข้ามาบ้างเป็นระยะ แต่คาดเทรนด์ขาขึ้นที่แข็งแกร่งจะทำให้ดัชนีไต่ระดับขึ้นต่อ มองเป้าหมายถัดไปของ S50H18 ที่ 1,180 จุด
เมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมานี้ S50H18 พยายามจะแกว่งทรงตัว แต่กลับทิ้งตัวลงช่วงท้ายตลาด อย่างไรก็ดีเรามองเป็นเพียงการพักฐานของขาขึ้น เพราะราคาปัจจุบันของ S50H18 ยังไม่ยอมหลุดแนวรับค่าเฉลี่ย 5 วัน (EMA) ที่ 1,155 จุด ส่งผลให้ราคาปัจจุบันและค่าเฉลี่ยมีการเรียงตัวตามแบบฉบับของแนวโน้มขาขึ้น (ราคาปัจจุบัน>EMA5วัน> EMA10วัน>EMA15วัน) นอกจากนี้ส่วนต่างระหว่างค่า MACD และค่า Signal ลดลงเล็กน้อย ซึ่งยังไม่ถึงกับติดลบ ดังนั้นเราจึงมองว่าสัปดาห์นี้ S50H18 จะกลับมาขึ้นต่อ ตามแนวโน้มหลักที่ยังคงเป็นขาขึ้น แม้ระหว่างสัปดาห์อาจจะมีแรงขายทำกำไรเข้ามาบ้างเป็นระยะ แต่คาดเทรนด์ขาขึ้นที่แข็งแกร่งจะทำให้ดัชนีไต่ระดับขึ้นต่อ มองเป้าหมายถัดไปของ S50H18 ที่ 1,180 จุด
กลยุทธ์การลงทุน
Outright Trading: แบ่งกลยุทธ์ดังนี้ 1) สำหรับนักลงทุนที่มีสถานะ Long ใน S50H18 แนะนำถือต่อ โดยมีแนวต้านที่ 1,180 (กรอบบน Uptrend Channel) และ Trailing Stop หากหลุดแนวรับ 1,155 จุด และ 2) สำหรับนักลงทุนที่ไม่มีสถานะ แนะนำทยอยเปิดสถานะ Long ใน S50H18 โดยตั้งจุด Stop Loss ไว้ที่ 1,155 จุด
Outright Trading: แบ่งกลยุทธ์ดังนี้ 1) สำหรับนักลงทุนที่มีสถานะ Long ใน S50H18 แนะนำถือต่อ โดยมีแนวต้านที่ 1,180 (กรอบบน Uptrend Channel) และ Trailing Stop หากหลุดแนวรับ 1,155 จุด และ 2) สำหรับนักลงทุนที่ไม่มีสถานะ แนะนำทยอยเปิดสถานะ Long ใน S50H18 โดยตั้งจุด Stop Loss ไว้ที่ 1,155 จุด
นักวิเคราะห์: อิศรา เลิศสุดคนึง (ID:033432)
บล.เออีซี : Daily Focus
AECS Daily Focus
Technical: เตรียมปรับฐาน
Trading Idea: RCL
เด็กแนว: MONO , ICHI
Connect the World- (P.2)
ตลาดหุ้นทั่วโลกส่วนใหญ่ยังบวกต่อเนื่อง จากความคาดหวังต่อภาวะ ศก. ที่ดีขึ้น
ตลาดหุ้นทั่วโลกส่วนใหญ่ยังบวกต่อเนื่อง จากความคาดหวังต่อภาวะ ศก. ที่ดีขึ้น
Market Outlook
สัปดาห์นี้คาด SET แกว่งตัวกรอบระหว่าง 1,780-1,820 จุดโดยมองดัชนีมีโอกาสพักฐานหลังสัปดาห์ก่อนปรับขึ้นแรงจนปิดทำสถิติสูงสุดเป็นประวัติการณ์ที่ 1,795.45 จุด
สัปดาห์นี้คาด SET แกว่งตัวกรอบระหว่าง 1,780-1,820 จุดโดยมองดัชนีมีโอกาสพักฐานหลังสัปดาห์ก่อนปรับขึ้นแรงจนปิดทำสถิติสูงสุดเป็นประวัติการณ์ที่ 1,795.45 จุด
Market Factors
(+) ดัชนี DJIA ปิด +0.88%DoD นิวไฮต่อวันที่4หลังคาดเฟดชะลอปรับขึ้นดอกเบี้ยในปีนี้หลังตัวเลขจ้างงานนอกภาคเกษตร ธ.ค. ขยายตัวต่ำกว่าคาด
(-) ราคาน้ำมัน WTI ปิด -0.9%DoD จากแรงขายทำกำไรหลังราคาน้ำมันปรับขึ้นก่อนหน้า
(+/-) สัปดาห์นี้ติดตามข้อมูล ศก.สหรัฐฯ ที่สำคัญ ได้แก่ ดัชนีราคาผู้ผลิตและดัชนีราคาผู้บริโภค ธ.ค., ยอดค้าปลีกเดือน ธ.ค., สต็อกน้ำมันรายสัปดาห์ รวมทั้งความเชื่อมั่นผู้บริโภคอียูและจีน, ยอดขายรถยนต์และดุลการค้า ธ.ค. จีน
(+) ดัชนี DJIA ปิด +0.88%DoD นิวไฮต่อวันที่4หลังคาดเฟดชะลอปรับขึ้นดอกเบี้ยในปีนี้หลังตัวเลขจ้างงานนอกภาคเกษตร ธ.ค. ขยายตัวต่ำกว่าคาด
(-) ราคาน้ำมัน WTI ปิด -0.9%DoD จากแรงขายทำกำไรหลังราคาน้ำมันปรับขึ้นก่อนหน้า
(+/-) สัปดาห์นี้ติดตามข้อมูล ศก.สหรัฐฯ ที่สำคัญ ได้แก่ ดัชนีราคาผู้ผลิตและดัชนีราคาผู้บริโภค ธ.ค., ยอดค้าปลีกเดือน ธ.ค., สต็อกน้ำมันรายสัปดาห์ รวมทั้งความเชื่อมั่นผู้บริโภคอียูและจีน, ยอดขายรถยนต์และดุลการค้า ธ.ค. จีน
Investment Strategy
แม้เราคาดปี 2561 ตลาดหุ้นไทยจะสดใสและสร้างสถิติใหม่เป็นประวัติการณ์นับตั้งแต่เปิดตลท. โดยประเมินเป้าหมาย SET Index ปี 2561 อยู่ระหว่าง 1,897 - 1,953 จุด ภายใต้สมมติฐาน EPS ของตลาดอยู่ที่ 111.60 บาทต่อหุ้น อิง PER 17.0-17.5 เท่า แต่สัปดาห์นี้คาด SET มีโอกาสปรับฐานลงมาและเปลี่ยนกลุ่มมาเลือกหุ้นที่มีขนาดเล็กลง หลังสัปดาห์ก่อนดัชนีดีดตัวแรงจากแรงซื้อหุ้นขนาดใหญ่อย่างกลุ่มพลังงานและกลุ่ม ธพ.
กลยุทธ์ลงทุนสำหรับนักลงทุนระยะกลาง-ยาว แนะนำ "Let Profit Run" ในหุ้น 2 ธีมหลักที่แนะนำสัปดาห์ก่อน ได้แก่ 1) หุ้น BIG Cap. ที่คาดปีนี้กำไรยังโตดี (PTT, PTTEP, PTTGC, IVL, GGC, KBANK,MINT) และ 2) หุ้น High Div. Yield ซึ่งคาดเดือน ก.พ. 61 ประกาศจ่ายปันผลเกิน 4% (TMT, KKP, TISCO, SC, AIT, ASP)
ส่วนนักลงทุนระยะสั้น แนะนำ "เก็งกำไรระมัดระวังในหุ้น Big Cap และหันมาเลือกซื้อหุ้นพื้นฐานดีที่มีขนาดเล็กลง" ได้แก่ BCH, HARN, JWD, MALEE, MONO, SEAFCO, SKN
แม้เราคาดปี 2561 ตลาดหุ้นไทยจะสดใสและสร้างสถิติใหม่เป็นประวัติการณ์นับตั้งแต่เปิดตลท. โดยประเมินเป้าหมาย SET Index ปี 2561 อยู่ระหว่าง 1,897 - 1,953 จุด ภายใต้สมมติฐาน EPS ของตลาดอยู่ที่ 111.60 บาทต่อหุ้น อิง PER 17.0-17.5 เท่า แต่สัปดาห์นี้คาด SET มีโอกาสปรับฐานลงมาและเปลี่ยนกลุ่มมาเลือกหุ้นที่มีขนาดเล็กลง หลังสัปดาห์ก่อนดัชนีดีดตัวแรงจากแรงซื้อหุ้นขนาดใหญ่อย่างกลุ่มพลังงานและกลุ่ม ธพ.
กลยุทธ์ลงทุนสำหรับนักลงทุนระยะกลาง-ยาว แนะนำ "Let Profit Run" ในหุ้น 2 ธีมหลักที่แนะนำสัปดาห์ก่อน ได้แก่ 1) หุ้น BIG Cap. ที่คาดปีนี้กำไรยังโตดี (PTT, PTTEP, PTTGC, IVL, GGC, KBANK,MINT) และ 2) หุ้น High Div. Yield ซึ่งคาดเดือน ก.พ. 61 ประกาศจ่ายปันผลเกิน 4% (TMT, KKP, TISCO, SC, AIT, ASP)
ส่วนนักลงทุนระยะสั้น แนะนำ "เก็งกำไรระมัดระวังในหุ้น Big Cap และหันมาเลือกซื้อหุ้นพื้นฐานดีที่มีขนาดเล็กลง" ได้แก่ BCH, HARN, JWD, MALEE, MONO, SEAFCO, SKN
Fundamental Reports
HARN ([email protected]): ช่วง 4Q60 คาดกำไรโตเด่น 154%YoY หนุนด้วยค่าเงินบาทที่แข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐฯ และการควบรวมกิจการกับCM และQIIS ตั้งแต่วันที่29 พ.ย. 59 ส่งผลให้ทั้งปี 60 คาดกำไรเติบโต 199%YoY และโตต่อ 19.4%YoY ในปี 61 จากแผนเพิ่มสินค้าใหม่ๆและแผนลงทุนโครงสร้างพื้นฐานของภาครัฐ + มีUpside 49.7% พร้อมกับคาดให้ Div. Yield จากผลดำเนินงานปี 60 ราว 4.96% จึงคงคำแนะนำ "ซื้อ"
HMPRO (BUY:[email protected]): ช่วง 4Q60 คาดกำไรสร้างสถิติสูงสุดรายไตรมาสที่ 1,424 ลบ. เติบโต 7.9%YoY หลังยอดขายสาขาเดิมเติบโตตามความเชื่อมั่นผู้บริโภคที่ปรับตัวดีขึ้น และรับรู้ยอดขายสาขาเปิดใหม่ หนุนปี 60 คาดกำไรโต 16%YoY และคาดโตต่อ 11%YoYในปี 61 ตามกำลังซื้อที่ดีขึ้นและการขยายสาขาต่อเนื่อง + Upside 8.5% คงแนะนำ "ซื้อ"
HARN ([email protected]): ช่วง 4Q60 คาดกำไรโตเด่น 154%YoY หนุนด้วยค่าเงินบาทที่แข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐฯ และการควบรวมกิจการกับCM และQIIS ตั้งแต่วันที่29 พ.ย. 59 ส่งผลให้ทั้งปี 60 คาดกำไรเติบโต 199%YoY และโตต่อ 19.4%YoY ในปี 61 จากแผนเพิ่มสินค้าใหม่ๆและแผนลงทุนโครงสร้างพื้นฐานของภาครัฐ + มีUpside 49.7% พร้อมกับคาดให้ Div. Yield จากผลดำเนินงานปี 60 ราว 4.96% จึงคงคำแนะนำ "ซื้อ"
HMPRO (BUY:[email protected]): ช่วง 4Q60 คาดกำไรสร้างสถิติสูงสุดรายไตรมาสที่ 1,424 ลบ. เติบโต 7.9%YoY หลังยอดขายสาขาเดิมเติบโตตามความเชื่อมั่นผู้บริโภคที่ปรับตัวดีขึ้น และรับรู้ยอดขายสาขาเปิดใหม่ หนุนปี 60 คาดกำไรโต 16%YoY และคาดโตต่อ 11%YoYในปี 61 ตามกำลังซื้อที่ดีขึ้นและการขยายสาขาต่อเนื่อง + Upside 8.5% คงแนะนำ "ซื้อ"
Market Talk and News
JWD (BUY:[email protected]): ช่วง 4Q60 คาดกำไรโตเด่นทั้ง YoY และ QoQ จากเข้าสู่ช่วง High Season บวกกับมีรายได้จากคลังสินค้าใหม่เพิ่มขึ้นพร้อมรับรู้ผลลงทุนใน OAI เต็มไตรมาสครั้งแรกทำให้ปี 60 คาดพลิกมีกำไรสุทธิ 214 ลบ. และโตต่อ 20.5%YoY ในปี 61 หนุนด้วยแผนลงทุนขยายคลังสินค้าในอาเซียนที่เข้มข้นขึ้น + Upside 8.8% อีกทั้งมี Upside Risk จากการบันทึกกำไรขายสินทรัพย์ให้กับกอง AIMIRT จึงคงแนะนำ "ซื้อ"
JWD (BUY:[email protected]): ช่วง 4Q60 คาดกำไรโตเด่นทั้ง YoY และ QoQ จากเข้าสู่ช่วง High Season บวกกับมีรายได้จากคลังสินค้าใหม่เพิ่มขึ้นพร้อมรับรู้ผลลงทุนใน OAI เต็มไตรมาสครั้งแรกทำให้ปี 60 คาดพลิกมีกำไรสุทธิ 214 ลบ. และโตต่อ 20.5%YoY ในปี 61 หนุนด้วยแผนลงทุนขยายคลังสินค้าในอาเซียนที่เข้มข้นขึ้น + Upside 8.8% อีกทั้งมี Upside Risk จากการบันทึกกำไรขายสินทรัพย์ให้กับกอง AIMIRT จึงคงแนะนำ "ซื้อ"
Quantitative Screening
หุ้น High Alpha ซึ่งคาด Outperform ตลาดวันนี้เลือก BEAUTY , SYNTEC
หุ้น High Alpha ซึ่งคาด Outperform ตลาดวันนี้เลือก BEAUTY , SYNTEC
AECS - Fundamental and Strategic Team
รณกฤต สารินวงศ์ (ID. 012234) [email protected]
ณัฏฐ์วริน ไตรภพสกุล (ID. 027445) [email protected]
อิศรา เลิศสุดคนึง (ID.033432) [email protected]
ตฤณ สิทธิสวัสดิ์ Asst. Analyst
จิรภัทร โบสุวรรณ Asst. Analyst
สุวรรณา อัศวเหล่าวรพงศ์ Data Support / Secretary
รณกฤต สารินวงศ์ (ID. 012234) [email protected]
ณัฏฐ์วริน ไตรภพสกุล (ID. 027445) [email protected]
อิศรา เลิศสุดคนึง (ID.033432) [email protected]
ตฤณ สิทธิสวัสดิ์ Asst. Analyst
จิรภัทร โบสุวรรณ Asst. Analyst
สุวรรณา อัศวเหล่าวรพงศ์ Data Support / Secretary
OO4276