- Details
- Category: ซุบซิบการลงทุน
- Published: Wednesday, 13 December 2017 16:47
- Hits: 3368
ด็กแนว - AMANAH วันแห่งโอกาส
อมาน่า บริษัท Leasing ที่มีพัฒนาการน่าจับตาอย่างมาก การปล่อยสินเชื่อหลากหลายด้านรถยนต์ การเงินส่วนบุคคล ไปถึงระดับนาโนไฟแนนซ์ ใครมีปัญหาเรื่องเงินเดินไปอมาน่าก็ช่วยท่านได้ แม้กระทั่งรับจำนำป้ายทะเบียนรถ ก็เติบโตสูง โดยพอร์ตสินเชื่อโตปีละร้อยล้าน เป้าหมายปีหน้าจึงโตก้าวกระโดดกว่าพันล้านบาท จะเห็นได้ว่า Q3 มีกำไรสูงทุบสถิติทุกไตรมาส และมี DE ต่ำกว่าอุตสาหกรรม
สิ่งที่ทำสำเร็จในปีนี้คือขนาดสินเชื่อโต และผลตอบแทนสินเชื่อพุ่งกว่า 17% ขณะที่ปีก่อน 14% การจัด Opp day วันนี้เด็กแนวจึงเชื่อเลยว่าจะมีสิ่งใหม่ๆ เกิดขึ้นจนนักวิเคราะห์ต้องแนะนำให้ซื้อทั่วหน้า เด็กแนวมองว่ามูลค่าที่เหมาะสมเล่นได้ไม่น้อยกว่า 2 เท่า Book หรือควรอยู่ 2 บาท ส่วนกราฟมีสัญญาณซื้อเต็ม ๆ ลุ้นวิ่งไปเจอถึงแนว 1.60 บาทไม่ยากเลย
อมาน่า บริษัท Leasing ที่มีพัฒนาการน่าจับตาอย่างมาก การปล่อยสินเชื่อหลากหลายด้านรถยนต์ การเงินส่วนบุคคล ไปถึงระดับนาโนไฟแนนซ์ ใครมีปัญหาเรื่องเงินเดินไปอมาน่าก็ช่วยท่านได้ แม้กระทั่งรับจำนำป้ายทะเบียนรถ ก็เติบโตสูง โดยพอร์ตสินเชื่อโตปีละร้อยล้าน เป้าหมายปีหน้าจึงโตก้าวกระโดดกว่าพันล้านบาท จะเห็นได้ว่า Q3 มีกำไรสูงทุบสถิติทุกไตรมาส และมี DE ต่ำกว่าอุตสาหกรรม
สิ่งที่ทำสำเร็จในปีนี้คือขนาดสินเชื่อโต และผลตอบแทนสินเชื่อพุ่งกว่า 17% ขณะที่ปีก่อน 14% การจัด Opp day วันนี้เด็กแนวจึงเชื่อเลยว่าจะมีสิ่งใหม่ๆ เกิดขึ้นจนนักวิเคราะห์ต้องแนะนำให้ซื้อทั่วหน้า เด็กแนวมองว่ามูลค่าที่เหมาะสมเล่นได้ไม่น้อยกว่า 2 เท่า Book หรือควรอยู่ 2 บาท ส่วนกราฟมีสัญญาณซื้อเต็ม ๆ ลุ้นวิ่งไปเจอถึงแนว 1.60 บาทไม่ยากเลย
- TSTH เหล็กพร้อมจะร้อน
อย่าเผลอกับราคาเหล็กตลาดโลก ที่ตอนนี้กำลังกลับมาพุ่งขึ้นใกล้ทุบสถิติในรอบเกือบ 4 ปีอีกครั้งหนึ่ง กราฟสองเส้นแสดงความสำคัญราคาเหล็กรีดร้อนกับราคา TSTH จะเห็นแนวโน้มสอดคล้องกัน ขณะที่ราคา TSTH ยังไม่สร้างระดับสูงสุดในรอบ ปี ดังนั้นมีโอกาสดีดตัวตามขึ้นมาอย่างแรง
หุ้นเหล็กปี 60 ไม่แรงเท่าปีก่อน อีกทั้งงานก่อสร้างล่าช้า ทำให้ราคาหุ้นลดลงตามไปด้วย แต่จากนี้ไป แรงผลักดันจากราคาเหล็กที่พุ่ง และงานก่อสร้างขนาดใหญ่กำลังมา จับตาราคาหุ้นตัวนี้ไว้ ประเมินการฟื้นตัวตามกราฟรอบแรก 1.10 บาท สะสมกันได้เลย
อย่าเผลอกับราคาเหล็กตลาดโลก ที่ตอนนี้กำลังกลับมาพุ่งขึ้นใกล้ทุบสถิติในรอบเกือบ 4 ปีอีกครั้งหนึ่ง กราฟสองเส้นแสดงความสำคัญราคาเหล็กรีดร้อนกับราคา TSTH จะเห็นแนวโน้มสอดคล้องกัน ขณะที่ราคา TSTH ยังไม่สร้างระดับสูงสุดในรอบ ปี ดังนั้นมีโอกาสดีดตัวตามขึ้นมาอย่างแรง
หุ้นเหล็กปี 60 ไม่แรงเท่าปีก่อน อีกทั้งงานก่อสร้างล่าช้า ทำให้ราคาหุ้นลดลงตามไปด้วย แต่จากนี้ไป แรงผลักดันจากราคาเหล็กที่พุ่ง และงานก่อสร้างขนาดใหญ่กำลังมา จับตาราคาหุ้นตัวนี้ไว้ ประเมินการฟื้นตัวตามกราฟรอบแรก 1.10 บาท สะสมกันได้เลย
บล.เออีซี : Action Strategy
AECS Market Outlook : ผันผวน และกดดัน
SET ทิ้งตัวลง หลังจากช่วงเช้าขึ้นทดสอบแนวกดทับกรอบบนสามเหลี่ยม ที่ 1,710 จุด โดยกราฟแท่งเทียนปรับตัวลงกลายเป็นรูปแบบ Engulfing เชิงลบ ที่จะกดดันให้วันนี้ยังมีความผันผวน อย่างไรก็ตาม Stochastic ยังคงอยู่ในทิศทางเชิงบวก ซึ่งหมายถึงว่าสัญญาณเทคนิคมีความขัดแย้ง จึงทำให้มีโอกาสแกว่งตัวสองทาง หากหลุด 1,692 จุด จะเกิด Sell signal ที่แข็งแกร่ง หากผ่าน 1,710 จุด จะเกิด Buy signal ที่แข็งแกร่ง
กลยุทธ์
1. เก็งกำไรระยะสั้นหากวันนี้มี Rebound ต้นตลาด
2. หากปิดต่ำให้ถือหุ้นกลับบ้านน้อยลง
3. หากปิดสูง ถือหุ้นกลับบ้านได้
4. หากหลุด 1,692 จุด ขายหุ้นตาม
1. เก็งกำไรระยะสั้นหากวันนี้มี Rebound ต้นตลาด
2. หากปิดต่ำให้ถือหุ้นกลับบ้านน้อยลง
3. หากปิดสูง ถือหุ้นกลับบ้านได้
4. หากหลุด 1,692 จุด ขายหุ้นตาม
บทสรุปการลงทุน:
SET สัญญาณแกว่งตัวได้สองทาง บีบตัวเข้าปลายกรอบสามเหลี่ยม
SET Closed: 1,702.17
Support: 1,690 1,695
Resistant: 1,710 1,715
SET สัญญาณแกว่งตัวได้สองทาง บีบตัวเข้าปลายกรอบสามเหลี่ยม
SET Closed: 1,702.17
Support: 1,690 1,695
Resistant: 1,710 1,715
MBK ตั้งทรง U-Curve
ราคาปิด 20.40 บาท
แนวรับ 20.20 บาท
แนวต้าน: 22.00 บาท
Stop Loss : เมื่อใกล้หลุด 20.00 บาท
ราคาปิด 20.40 บาท
แนวรับ 20.20 บาท
แนวต้าน: 22.00 บาท
Stop Loss : เมื่อใกล้หลุด 20.00 บาท
กราฟ MBK ฟอร์มตัวเป็น U-Curve ที่แข็งแรง โดย Stochastic ตัดเส้นสัญญาณเป็น Buy signal ซึ่งจะทำให้ราคาหุ้นมีโอกาสเดินหน้าไปยังเป้าหมายไหล่ขวาที่ 22 บาท แนะนำ "ซื้อ"
บล.เออีซี : Derivatives Signals
SET50 Index Futures
มุมมองทางทฤษฎี: ตลาดมองดัชนีขึ้นต่อ!!!
BASIS (S50Z17-SET50): เมื่อวานนี้ S50Z17 ปิดบวกมากกว่า Spot ส่งผลให้ Basis เพิ่มขึ้นจากวันก่อนหน้า 1.32 จุด โดยปัจจุบันอยู่ที่ระดับ 3.54 จุด มากกว่า Theory Basis ที่ +0.68 จุด สะท้อนระยะกลาง (1 เดือน) ตลาดมีมุมมองเป็นบวกต่อ SET50 Index ส่วน Calendar Spread (S50H18-S50Z17) เพิ่มขึ้น 0.80 จุด จากวันก่อนหน้า โดยปัจจุบันอยู่ที่ระดับ +0.70 จุด ยังคงมากกว่า Theory Spread ที่ -2.87 จุด
PUT/CALL Ratio: ปัจจุบันอัตราส่วนการเทรด SET50 Index Option ฝั่ง PUT เทียบกับฝั่ง CALL พบว่าปริมาณซื้อขาย (Volume) อยู่ที่ 0.98x เพิ่มขึ้นจากวันก่อนหน้า 0.23x เช่นเดียวกับฝั่งสถานะคงค้าง (Open Interest) ปัจจุบันอยู่ที่ 1.20x เพิ่มขึ้นจากวันก่อนหน้า 0.01x ดังนั้นสรุปว่านักลงทุนมีความต้องการป้องกันความเสี่ยงขาลงเพิ่มขึ้นเมื่อเทียบกับวันก่อนหน้า
Fund Flow Analysis: เมื่อวานนี้นักลงทุนต่างชาติมีสถานะ Net Short 8,209 สัญญา ใน Index Futures ส่งผลให้ Quarter to Date (QTD) มีสถานะ Net Short ใน Index Futures เพิ่มเป็น 46,945 สัญญา และขายสุทธิในตลาดหุ้น 706 ล้านบาท ทั้งนี้โดยรวม Exposure ใน QTD ของนักลงทุนต่างชาติฝั่งตลาดทุน (หุ้น + Index Futures) มีสถานะขายสุทธิเพิ่มเป็น 44,856 ล้านบาท บ่งชี้นักลงทุนต่างชาติมีมุมมองเชิงลบต่อตลาดทุนไทยมากขึ้น
BASIS (S50Z17-SET50): เมื่อวานนี้ S50Z17 ปิดบวกมากกว่า Spot ส่งผลให้ Basis เพิ่มขึ้นจากวันก่อนหน้า 1.32 จุด โดยปัจจุบันอยู่ที่ระดับ 3.54 จุด มากกว่า Theory Basis ที่ +0.68 จุด สะท้อนระยะกลาง (1 เดือน) ตลาดมีมุมมองเป็นบวกต่อ SET50 Index ส่วน Calendar Spread (S50H18-S50Z17) เพิ่มขึ้น 0.80 จุด จากวันก่อนหน้า โดยปัจจุบันอยู่ที่ระดับ +0.70 จุด ยังคงมากกว่า Theory Spread ที่ -2.87 จุด
PUT/CALL Ratio: ปัจจุบันอัตราส่วนการเทรด SET50 Index Option ฝั่ง PUT เทียบกับฝั่ง CALL พบว่าปริมาณซื้อขาย (Volume) อยู่ที่ 0.98x เพิ่มขึ้นจากวันก่อนหน้า 0.23x เช่นเดียวกับฝั่งสถานะคงค้าง (Open Interest) ปัจจุบันอยู่ที่ 1.20x เพิ่มขึ้นจากวันก่อนหน้า 0.01x ดังนั้นสรุปว่านักลงทุนมีความต้องการป้องกันความเสี่ยงขาลงเพิ่มขึ้นเมื่อเทียบกับวันก่อนหน้า
Fund Flow Analysis: เมื่อวานนี้นักลงทุนต่างชาติมีสถานะ Net Short 8,209 สัญญา ใน Index Futures ส่งผลให้ Quarter to Date (QTD) มีสถานะ Net Short ใน Index Futures เพิ่มเป็น 46,945 สัญญา และขายสุทธิในตลาดหุ้น 706 ล้านบาท ทั้งนี้โดยรวม Exposure ใน QTD ของนักลงทุนต่างชาติฝั่งตลาดทุน (หุ้น + Index Futures) มีสถานะขายสุทธิเพิ่มเป็น 44,856 ล้านบาท บ่งชี้นักลงทุนต่างชาติมีมุมมองเชิงลบต่อตลาดทุนไทยมากขึ้น
Technical Analysis
มุมมองด้านเทคนิค: ถือ Long ลุ้นขึ้นต่อ!!!
เมื่อวานนี้ S50Z17 แกว่งตัวขึ้นเล็กน้อย จนปิดที่ระดับ 1,104.9 จุด โดยยังคงมุมมองเดิมว่าอยู่ในแนวโน้มขาขึ้น เพราะนอกจากจะยกฐาน Low สูงขึ้นแล้วยังยกยอด High สูงขึ้นด้วย อีกทั้ง Indicator ส่วนใหญ่ส่งสัญญาณ "ขึ้นต่อ" อาทิ 1) ค่า MACD และค่า Signal ที่ปรับตัวสูงขึ้นต่อเนื่อง และ 2) RSI ที่เข้าสู่เขต Positive Zone ทำให้ภาพเทคนิคสัปดาห์นี้เรามองว่า S50Z17 จะขึ้นต่อ โดยมีแนวต้านแรกรอให้ทดสอบที่ระดับ 1,114 จุด (กรอบบน Zigzag Up)
เมื่อวานนี้ S50Z17 แกว่งตัวขึ้นเล็กน้อย จนปิดที่ระดับ 1,104.9 จุด โดยยังคงมุมมองเดิมว่าอยู่ในแนวโน้มขาขึ้น เพราะนอกจากจะยกฐาน Low สูงขึ้นแล้วยังยกยอด High สูงขึ้นด้วย อีกทั้ง Indicator ส่วนใหญ่ส่งสัญญาณ "ขึ้นต่อ" อาทิ 1) ค่า MACD และค่า Signal ที่ปรับตัวสูงขึ้นต่อเนื่อง และ 2) RSI ที่เข้าสู่เขต Positive Zone ทำให้ภาพเทคนิคสัปดาห์นี้เรามองว่า S50Z17 จะขึ้นต่อ โดยมีแนวต้านแรกรอให้ทดสอบที่ระดับ 1,114 จุด (กรอบบน Zigzag Up)
กลยุทธ์การลงทุน
Outright Trading: คงแนะนำถือสถานะ Long S50Z17 ลุ้นขึ้นต่อ หลังจากดัชนียกทั้ง High และ Low โดยคาดหวังแนวต้านที่ระดับ 1,114 จุด และ Stop Loss เมื่อหลุด 1,090 จุด
Outright Trading: คงแนะนำถือสถานะ Long S50Z17 ลุ้นขึ้นต่อ หลังจากดัชนียกทั้ง High และ Low โดยคาดหวังแนวต้านที่ระดับ 1,114 จุด และ Stop Loss เมื่อหลุด 1,090 จุด
นักวิเคราะห์: อิศรา เลิศสุดคนึง (ID:033432)
ผู้ช่วยนักวิเคราะห์: ตฤณ สิทธิสวัสดิ์
ผู้ช่วยนักวิเคราะห์: ตฤณ สิทธิสวัสดิ์
บล.เออีซี : Daily Focus
AECS Daily Focus
Technical: ผันผวน และกดดัน
Trading Idea: MBK
เด็กแนว: AMANAH , TSTH
Connect the World- (P.2)
คืนนี้ติดตามผลการประชุมเฟดในประเด็นการขึ้นอัตราดอกเบี้ย
คืนนี้ติดตามผลการประชุมเฟดในประเด็นการขึ้นอัตราดอกเบี้ย
Market Outlook
วันนี้คาด SET แกว่งตัวไซด์เวย์ในกรอบ 1,690-1,710 จุด ระหว่างรอผลการประชุมเฟดที่มีขึ้นในวันที่ 12-13 ธ.ค. นี้ว่าจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยครั้งที่ 3 ตามที่ตลาดคาดการณ์หรือไม่
วันนี้คาด SET แกว่งตัวไซด์เวย์ในกรอบ 1,690-1,710 จุด ระหว่างรอผลการประชุมเฟดที่มีขึ้นในวันที่ 12-13 ธ.ค. นี้ว่าจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยครั้งที่ 3 ตามที่ตลาดคาดการณ์หรือไม่
Market Factors
(+) ดัชนี DJIA ปิด +0.49%DoD ก่อนทราบผลประชุมเฟดวันนี้ พร้อมคาดหวังเชิงบวกต่อความคืบหน้าการผลักดันร่างกฎหมายปฎิรูปภาษีของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์
(-) ราคาน้ำมัน WTI ปิด -1.5%DoD จากแรงขายทำกำไรหลังปรับตัวขึ้นก่อนหน้านี้
(+/-) วันนี้ติดตามข้อมูล ศก. สหรัฐฯ ที่สำคัญ อาทิ ดัชนีราคาผู้บริโภค พ.ย., สต็อกน้ำมันรายสัปดาห์ และผลประชุมนโยบายการเงินของเฟดซึ่งตลาดคาดจะปรับขึ้นดอกเบี้ยครั้งที่ 3
(+) ดัชนี DJIA ปิด +0.49%DoD ก่อนทราบผลประชุมเฟดวันนี้ พร้อมคาดหวังเชิงบวกต่อความคืบหน้าการผลักดันร่างกฎหมายปฎิรูปภาษีของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์
(-) ราคาน้ำมัน WTI ปิด -1.5%DoD จากแรงขายทำกำไรหลังปรับตัวขึ้นก่อนหน้านี้
(+/-) วันนี้ติดตามข้อมูล ศก. สหรัฐฯ ที่สำคัญ อาทิ ดัชนีราคาผู้บริโภค พ.ย., สต็อกน้ำมันรายสัปดาห์ และผลประชุมนโยบายการเงินของเฟดซึ่งตลาดคาดจะปรับขึ้นดอกเบี้ยครั้งที่ 3
Investment Strategy
เรามอง SET Index มีโอกาส Sideway Up จากเม็ดเงิน LTF/RMF ที่ไหลเข้ามาช่วงท้ายปี กอรปกับ ศก. ไทยยังส่งสัญญาณฟื้นตัวที่ชัดเจนต่อเนื่อง ดังนั้นจึงแนะซื้อหุ้นพื้นฐานดี ดังนี้
1) กลุ่มพลังงานและปิโตรเคมี: ราคาน้ำมันทรงตัวระดับสูง เลือก PTT, PTTEP, PTTGC
2) กลุ่มธนาคาร : สินเชื่อเร่งตัวขึ้นหลัง ศก. ฟื้นตัวชัดเจนเลือก KBANK,KKP, BBL
3) กลุ่มค้าปลีก: ความเชื่อมั่นผู้บริโภคฟื้นตัว เลือก CPALL, ROBINS, BJC, HMPRO
4) กลุ่ม Mid-SmallCap: คาดกำไรโตสดใสปีหน้า เลือก BCH, WICE, JWD, SEAFCO, TWPC, MALEE, GPI
เรามอง SET Index มีโอกาส Sideway Up จากเม็ดเงิน LTF/RMF ที่ไหลเข้ามาช่วงท้ายปี กอรปกับ ศก. ไทยยังส่งสัญญาณฟื้นตัวที่ชัดเจนต่อเนื่อง ดังนั้นจึงแนะซื้อหุ้นพื้นฐานดี ดังนี้
1) กลุ่มพลังงานและปิโตรเคมี: ราคาน้ำมันทรงตัวระดับสูง เลือก PTT, PTTEP, PTTGC
2) กลุ่มธนาคาร : สินเชื่อเร่งตัวขึ้นหลัง ศก. ฟื้นตัวชัดเจนเลือก KBANK,KKP, BBL
3) กลุ่มค้าปลีก: ความเชื่อมั่นผู้บริโภคฟื้นตัว เลือก CPALL, ROBINS, BJC, HMPRO
4) กลุ่ม Mid-SmallCap: คาดกำไรโตสดใสปีหน้า เลือก BCH, WICE, JWD, SEAFCO, TWPC, MALEE, GPI
Fundamental Reports
SEAFCO (BUY:TP@10): ช่วง 4Q60 คาดกำไรโตทั้ง YoY และ QoQ จากทยอยรับรู้Backlog ในมือ 3 พัน ลบ.ซึ่งคาดหนุนปี 60 กำไรโต 28.3%YoY และโตต่อ 34.6%YoY ใน ปี 61 จากรับรู้งานรถไฟฟ้าซึ่งคาดใช้เวลาก่อสร้างตลอดทั้งปี61ถึงช่วงกลางปี 62 บวกกับมีโอกาสได้งานใหม่ เช่น One Bangkok และคอนโดใน กทม. + Upside 9.9% แนะนำ "ซื้อ"
SEAFCO (BUY:TP@10): ช่วง 4Q60 คาดกำไรโตทั้ง YoY และ QoQ จากทยอยรับรู้Backlog ในมือ 3 พัน ลบ.ซึ่งคาดหนุนปี 60 กำไรโต 28.3%YoY และโตต่อ 34.6%YoY ใน ปี 61 จากรับรู้งานรถไฟฟ้าซึ่งคาดใช้เวลาก่อสร้างตลอดทั้งปี61ถึงช่วงกลางปี 62 บวกกับมีโอกาสได้งานใหม่ เช่น One Bangkok และคอนโดใน กทม. + Upside 9.9% แนะนำ "ซื้อ"
Market Talk and News
EPG (BUY:[email protected]): ช่วง 2H60/61 คาดกำไรโต YoY หนุนด้วยธุรกิจฉนวนยางที่เริ่มใช้เครื่องจักรใหม่ประสิทธิภาพสูงในการผลิตบวกกับ ธุรกิจอะไหล่ยานยนต์ที่คาดโตเด่นตามคำสั่งซื้อชิ้นส่วนมาร์จิ้นสูงอย่างCanopy และ Side Steps (ODM) ที่เพิ่มขึ้น อีกทั้งล่าสุดได้แจ้งซื้อกิจการ Flexiglass มูลค่า 176 ลบ. เพื่อเพิ่มช่องทางค้าปลีกในออสเตรเลียคาดหนุนยอดขายของ TJM และ ARK ให้โตสดใส + ราคาหุ้นยังมี Upside 10.5% จึงแนะนำ "ซื้อ"
TKS (BUY:[email protected]): ช่วง 4Q60 คาดกำไรเติบโต 10.5%YoY เพราะส่วนแบ่งกำไรจากเงินลงทุน บ.ร่วมมีแนวโน้มสดใสส่งผลให้ปี 60 คาดกำไรจะเติบโต 2.9%YoY และโตต่อ15.0%YoY ในปี 61 จากความขยันหางานเพิ่มขึ้นทั้งในและต่างประเทศอีกทั้งยังมี Upside Risk หากปีหน้าคว้างานบัตรเลือกตั้งและไปรษณีย์ทายผลฟุตบอลโลก + มีUpside 26.0% และคาดมีเงินปันผลจ่ายจากกำไรช่วง 2H60 หุ้นละ 0.46 บาท คิดเป็น Div. Yield 3.7%
BEAUTY (HOLD:[email protected]): วานนี้ราคาหุ้นปรับลงแรงกว่า 13%DoD ซึ่งคาดเกิดจากการขายทำกำไรหลังราคาหุ้นปรับขึ้นถึง 90.6%YTD จนเทรดด้วย PER ปี 61 ที่สูงถึง 45x อย่างไรก็ดีด้วยกลยุทธ์ดำเนินธุรกิจที่แข็งแกร่งทั้ง Multi Brand, Multi Product และ Multi-Channel คาดยังช่วยหนุนกำไรให้โตได้อย่างมั่นคงได้ในระยะยาว เราจึงคงแนะนำ "ถือ"
EPG (BUY:[email protected]): ช่วง 2H60/61 คาดกำไรโต YoY หนุนด้วยธุรกิจฉนวนยางที่เริ่มใช้เครื่องจักรใหม่ประสิทธิภาพสูงในการผลิตบวกกับ ธุรกิจอะไหล่ยานยนต์ที่คาดโตเด่นตามคำสั่งซื้อชิ้นส่วนมาร์จิ้นสูงอย่างCanopy และ Side Steps (ODM) ที่เพิ่มขึ้น อีกทั้งล่าสุดได้แจ้งซื้อกิจการ Flexiglass มูลค่า 176 ลบ. เพื่อเพิ่มช่องทางค้าปลีกในออสเตรเลียคาดหนุนยอดขายของ TJM และ ARK ให้โตสดใส + ราคาหุ้นยังมี Upside 10.5% จึงแนะนำ "ซื้อ"
TKS (BUY:[email protected]): ช่วง 4Q60 คาดกำไรเติบโต 10.5%YoY เพราะส่วนแบ่งกำไรจากเงินลงทุน บ.ร่วมมีแนวโน้มสดใสส่งผลให้ปี 60 คาดกำไรจะเติบโต 2.9%YoY และโตต่อ15.0%YoY ในปี 61 จากความขยันหางานเพิ่มขึ้นทั้งในและต่างประเทศอีกทั้งยังมี Upside Risk หากปีหน้าคว้างานบัตรเลือกตั้งและไปรษณีย์ทายผลฟุตบอลโลก + มีUpside 26.0% และคาดมีเงินปันผลจ่ายจากกำไรช่วง 2H60 หุ้นละ 0.46 บาท คิดเป็น Div. Yield 3.7%
BEAUTY (HOLD:[email protected]): วานนี้ราคาหุ้นปรับลงแรงกว่า 13%DoD ซึ่งคาดเกิดจากการขายทำกำไรหลังราคาหุ้นปรับขึ้นถึง 90.6%YTD จนเทรดด้วย PER ปี 61 ที่สูงถึง 45x อย่างไรก็ดีด้วยกลยุทธ์ดำเนินธุรกิจที่แข็งแกร่งทั้ง Multi Brand, Multi Product และ Multi-Channel คาดยังช่วยหนุนกำไรให้โตได้อย่างมั่นคงได้ในระยะยาว เราจึงคงแนะนำ "ถือ"
Quantitative Screening
หุ้น High Alpha ซึ่งคาด Outperform ตลาดวันนี้เลือก SCB , ADVANC
หุ้น High Alpha ซึ่งคาด Outperform ตลาดวันนี้เลือก SCB , ADVANC
AECS - Fundamental and Strategic Team
รณกฤต สารินวงศ์ (ID. 012234) [email protected]
ณัฏฐ์วริน ไตรภพสกุล (ID. 027445) [email protected]
อิศรา เลิศสุดคนึง (ID.033432) [email protected]
ตฤณ สิทธิสวัสดิ์ Asst. Analyst
จิรภัทร โบสุวรรณ Asst. Analyst
สุวรรณา อัศวเหล่าวรพงศ์ Data Support / Secretary
OO3543
รณกฤต สารินวงศ์ (ID. 012234) [email protected]
ณัฏฐ์วริน ไตรภพสกุล (ID. 027445) [email protected]
อิศรา เลิศสุดคนึง (ID.033432) [email protected]
ตฤณ สิทธิสวัสดิ์ Asst. Analyst
จิรภัทร โบสุวรรณ Asst. Analyst
สุวรรณา อัศวเหล่าวรพงศ์ Data Support / Secretary
OO3543