- Details
- Category: ซุบซิบการลงทุน
- Published: Monday, 04 December 2017 17:14
- Hits: 17329
เด็กแนว SQ สัญญาณดีต้องมีซ้ำ
อันที่จริงเพิ่งให้เมื่อปลายสัปดาห์ก่อน แต่เมื่อเห็นทรงเด้งสวยงามแบบนี้ จึงต้องมาขอซ้ำคำแนะนำอีกที เน้นว่าพื้นฐานแกร่งด้วย Backlog 3.6 หมื่นล้านบาทกินยาวหลายปี และจุดเด่นที่เรารอข่าวบวกใหญ่ก็คือโอกาสที่จะได้งานยักษ์เหมืองแม่เมาะ 9 ขนาด 4 หมื่นล้านบาท ถ้าได้มาก็ระเบิดระเบ้อ ราคาหุ้นจะขึ้นแรงสุดกู่
อันที่จริงเพิ่งให้เมื่อปลายสัปดาห์ก่อน แต่เมื่อเห็นทรงเด้งสวยงามแบบนี้ จึงต้องมาขอซ้ำคำแนะนำอีกที เน้นว่าพื้นฐานแกร่งด้วย Backlog 3.6 หมื่นล้านบาทกินยาวหลายปี และจุดเด่นที่เรารอข่าวบวกใหญ่ก็คือโอกาสที่จะได้งานยักษ์เหมืองแม่เมาะ 9 ขนาด 4 หมื่นล้านบาท ถ้าได้มาก็ระเบิดระเบ้อ ราคาหุ้นจะขึ้นแรงสุดกู่
แต่ถ้าไม่ได้ งานนี้หนีกันให้ทันนะ สิ่งที่น่าสังเกตคือทรงราคาหุ้นสวยงามเหมือนจะบ่งบอกว่าอาจมีข่าวดีมากกว่าข่าวร้าย ขณะที่ราคาเป้าหมายนักวิเคราะห์มองระดับ 9 บาทตรงนี้จึงมี Gap ในการเล่น ส่วนกราฟมีสัญญาณซื้อเต็มๆ แปรรูปเป็น U-Curve ชัดเจน คนที่ซื้อตามแนะนำเมื่อกลาง Week ก่อน มีกำไรแล้ว รอไปทดสอบต้านหน้า 8.50 บาท และลุ้น New high เช่นกันได้เลย
JKN หุ้นดีพื้นฐานเด่น
JKN หุ้นน้องใหม่ที่ไม่แรงอย่างที่คิดทั้งๆ ที่จัดเป็นหุ้นมีศักยภาพสูงตัวหนึ่งในอุตสาหกรรมผลิต และจำหน่าย รวมทั้งมี Content ในมือมากที่สุด การที่ราคาหุ้นไหลรูดลงมา เป็นเพราะเจอช่วงภาวะตลาดไม่แน่นอน และเข้าใกล้ราคาจอง จึงเป็นจังหวะที่ดีในการเข้าสะสมแบบสบายๆ ไม่ต้องไปไล่คว้า IPO
นักวิเคราะห์ยังมั่นใจในผลประกอบการอนาคต และคงเป้าหมายไว้ 11.80 บาท ถือว่า Upside 36% ถือว่าค่อนข้างสูงในหุ้นเข้าใหม่ เด็กแนวมองว่าหากมองกันในระยะกลางหุ้น JKN เป็นตัวน่าสะสม สำหรับการเน้นคุณภาพ และโอกาสที่ราคาควรจะม้วนกลับไปได้สูงกว่านี้ ส่วนกราฟเมื่อประเมินแบบ 30 นาทีเห็นการตั้งลำแล้ว ถ้ายืนเข้าใกล้ 9 บาทสำเร็จจะส่งสัญญาณไปต่อ วันนี้มาลุ้นกันคร๊าบบ
JKN หุ้นน้องใหม่ที่ไม่แรงอย่างที่คิดทั้งๆ ที่จัดเป็นหุ้นมีศักยภาพสูงตัวหนึ่งในอุตสาหกรรมผลิต และจำหน่าย รวมทั้งมี Content ในมือมากที่สุด การที่ราคาหุ้นไหลรูดลงมา เป็นเพราะเจอช่วงภาวะตลาดไม่แน่นอน และเข้าใกล้ราคาจอง จึงเป็นจังหวะที่ดีในการเข้าสะสมแบบสบายๆ ไม่ต้องไปไล่คว้า IPO
นักวิเคราะห์ยังมั่นใจในผลประกอบการอนาคต และคงเป้าหมายไว้ 11.80 บาท ถือว่า Upside 36% ถือว่าค่อนข้างสูงในหุ้นเข้าใหม่ เด็กแนวมองว่าหากมองกันในระยะกลางหุ้น JKN เป็นตัวน่าสะสม สำหรับการเน้นคุณภาพ และโอกาสที่ราคาควรจะม้วนกลับไปได้สูงกว่านี้ ส่วนกราฟเมื่อประเมินแบบ 30 นาทีเห็นการตั้งลำแล้ว ถ้ายืนเข้าใกล้ 9 บาทสำเร็จจะส่งสัญญาณไปต่อ วันนี้มาลุ้นกันคร๊าบบ
บล.เออีซี : Action Strategy
AECS Market Outlook : แกว่งแคบ สองทิศทาง
กราฟ SET ปิดบวก แต่ปิดต่ำกว่าระดับเปิด ทำให้กราฟแท่งเทียนส่งสัญญาณเชิงลบ และกด Stochastic ต่ำกว่าเส้นค่าเฉลี่ย บ่งบอกความผันผวนยังมีโอกาสเกิดขึ้น ขณะที่ RSI กลับสามารถเด้งตัวสวนทางขึ้นมา ทำให้เกิดสัญญาณขัดแย้งทั้งบวกและลบ จะส่งผลให้ SET วันนี้แกว่งตัวทั้งสองทาง โดยมีกรอบการเคลื่อนไหวระหว่าง 1,690-1,710 จุด หากหลุดแนวกรอบล่างจะส่งสัญญาณ Sell Signal หรือหากผ่าน 1,710 จุดจะเกิดสัญญาณ Follow buy ตามมา
กราฟ SET ปิดบวก แต่ปิดต่ำกว่าระดับเปิด ทำให้กราฟแท่งเทียนส่งสัญญาณเชิงลบ และกด Stochastic ต่ำกว่าเส้นค่าเฉลี่ย บ่งบอกความผันผวนยังมีโอกาสเกิดขึ้น ขณะที่ RSI กลับสามารถเด้งตัวสวนทางขึ้นมา ทำให้เกิดสัญญาณขัดแย้งทั้งบวกและลบ จะส่งผลให้ SET วันนี้แกว่งตัวทั้งสองทาง โดยมีกรอบการเคลื่อนไหวระหว่าง 1,690-1,710 จุด หากหลุดแนวกรอบล่างจะส่งสัญญาณ Sell Signal หรือหากผ่าน 1,710 จุดจะเกิดสัญญาณ Follow buy ตามมา
กลยุทธ์
1. เก็งกำไร ในกรอบแคบ อย่าหวังไปไหนไกล
2. หากหลุดแนว 1,690 จุด ให้ขายหุ้นออก 25%
3. หากปิดสูง ถือหุ้นกลับบ้านได้
1. เก็งกำไร ในกรอบแคบ อย่าหวังไปไหนไกล
2. หากหลุดแนว 1,690 จุด ให้ขายหุ้นออก 25%
3. หากปิดสูง ถือหุ้นกลับบ้านได้
บทสรุปการลงทุน:
SET มีแนวโน้มแกว่งตัวแคบ และผันผวนได้ทั้งสองทิศทาง
SET มีแนวโน้มแกว่งตัวแคบ และผันผวนได้ทั้งสองทิศทาง
SET Closed: 1,699.65
Support: 1,690 1,695
Resistant: 1,705 1,710
Support: 1,690 1,695
Resistant: 1,705 1,710
PSL สัญญาณซื้อ
ราคาปิด 11.20 บาท
แนวรับ 11.10 บาท
แนวต้าน: 13.00 บาท
Stop Loss : เมื่อใกล้หลุด 10.90 บาท
กราฟ PSL ดีดตัวขึ้นหลังจากทดสอบแนวรับของกรอบ Uptrend โดยสัญญาณ Stochastic ตัดขึ้นเป็น Buy signal ประเมินแนวโน้มปรับตัวขึ้น และมีโอกาสชนแนวต้าน 13 บาทได้ แนะนำ "ซื้อ"
ราคาปิด 11.20 บาท
แนวรับ 11.10 บาท
แนวต้าน: 13.00 บาท
Stop Loss : เมื่อใกล้หลุด 10.90 บาท
กราฟ PSL ดีดตัวขึ้นหลังจากทดสอบแนวรับของกรอบ Uptrend โดยสัญญาณ Stochastic ตัดขึ้นเป็น Buy signal ประเมินแนวโน้มปรับตัวขึ้น และมีโอกาสชนแนวต้าน 13 บาทได้ แนะนำ "ซื้อ"
บล.เออีซี : Derivatives Signals
SET50 Index Futures
มุมมองทางทฤษฎี: ต่างชาติยังลดน้ำหนักในตลาดทุนไทย!
BASIS (S50Z17-SET50): เมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา S50Z17 ปิดลบ แต่ Spot ปิดบวก ส่งผลให้ Basis ลดลงจากวันก่อนหน้า 4.08 จุด โดยปัจจุบันอยู่ที่ระดับ +0.96 จุด เข้าใกล้ Theory Basis ที่ -0.12 จุด สะท้อนระยะกลาง (1 เดือน) ตลาดกลับมามีมุมมองเป็นกลางต่อ SET50 Index ส่วน Calendar Spread (S50H18-S50Z17) เพิ่มขึ้น 0.10 จุด จากวันก่อนหน้า โดยปัจจุบันอยู่ที่ระดับ -1.40 จุด แต่ยังคงมากกว่า Theory Spread ที่ -2.91 จุด
มุมมองทางทฤษฎี: ต่างชาติยังลดน้ำหนักในตลาดทุนไทย!
BASIS (S50Z17-SET50): เมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา S50Z17 ปิดลบ แต่ Spot ปิดบวก ส่งผลให้ Basis ลดลงจากวันก่อนหน้า 4.08 จุด โดยปัจจุบันอยู่ที่ระดับ +0.96 จุด เข้าใกล้ Theory Basis ที่ -0.12 จุด สะท้อนระยะกลาง (1 เดือน) ตลาดกลับมามีมุมมองเป็นกลางต่อ SET50 Index ส่วน Calendar Spread (S50H18-S50Z17) เพิ่มขึ้น 0.10 จุด จากวันก่อนหน้า โดยปัจจุบันอยู่ที่ระดับ -1.40 จุด แต่ยังคงมากกว่า Theory Spread ที่ -2.91 จุด
PUT/CALL Ratio: ปัจจุบันอัตราส่วนการเทรด SET50 Index Option ฝั่ง PUT เทียบกับฝั่ง CALL พบว่าปริมาณซื้อขาย (Volume) อยู่ที่ 0.73x ลดลงจากวันก่อนหน้า 0.09x ขณะที่ฝั่งสถานะคงค้าง (Open Interest) ปัจจุบันอยู่ที่ 1.15x ทรงตัวจากวันก่อนหน้า ทั้งนี้เราให้น้ำหนักกับการเปลี่ยนแปลงของ OI มากกว่า Volume เพราะสะท้อนถึงอุปสงค์ที่แท้จริงมากกว่า ดังนั้นสรุปว่านักลงทุนยังมีความต้องการป้องกันความเสี่ยงขาลงเท่ากับวันก่อนหน้า
Fund Flow Analysis: เมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมานักลงทุนต่างชาติกลับมามีสถานะ Net Short 720 สัญญา ใน Index Futures ส่งผลให้ Quarter to Date (QTD) มีสถานะ Net Short ใน Index Futures เพิ่มขึ้นเป็น 57,618 สัญญา และขายสุทธิในตลาดหุ้น 2,058 ล้านบาท ทั้งนี้โดยรวม Exposure ใน QTD ของนักลงทุนต่างชาติฝั่งตลาดทุน (หุ้น + Index Futures) มีสถานะขายสุทธิเพิ่มขึ้นเป็น 41,051 ล้านบาท บ่งชี้นักลงทุนต่างชาติมีมุมมองเชิงลบต่อตลาดทุนไทยมากขึ้น
Fund Flow Analysis: เมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมานักลงทุนต่างชาติกลับมามีสถานะ Net Short 720 สัญญา ใน Index Futures ส่งผลให้ Quarter to Date (QTD) มีสถานะ Net Short ใน Index Futures เพิ่มขึ้นเป็น 57,618 สัญญา และขายสุทธิในตลาดหุ้น 2,058 ล้านบาท ทั้งนี้โดยรวม Exposure ใน QTD ของนักลงทุนต่างชาติฝั่งตลาดทุน (หุ้น + Index Futures) มีสถานะขายสุทธิเพิ่มขึ้นเป็น 41,051 ล้านบาท บ่งชี้นักลงทุนต่างชาติมีมุมมองเชิงลบต่อตลาดทุนไทยมากขึ้น
มุมมองด้านเทคนิค: คาดดัชนียังแกว่งในกรอบ 1,085-1,095 จุด
เมื่อวันศุกร์ที่ผ่านนี้ S50Z17 แกว่งทรงตัวตลอดทั้งวัน ทำให้กรอบ Bollinger Band แคบลงกว่าเดิม โดยกราฟ 120 นาที เราพบว่าสัญญาณ Indicator ที่ขัดแย้งกัน อาทิ Modified Sto. ที่ %K ตัด %D ลงเป็น Sell Signal แต่กลับเห็นการดีดตัวทำฐานที่สูงขึ้นของ RSI ดังนั้นในช่วงสั้น (สัปดาห์นี้) เราจึงมองว่าดัชนีมีโอกาสแกว่งตัวได้ 2 ทิศทาง โดยมีแนวโน้มแกว่งแบบ Sideway ซึ่งมีการเคลื่อนไหวที่ระดับ 1,085 – 1095 จุด
เมื่อวันศุกร์ที่ผ่านนี้ S50Z17 แกว่งทรงตัวตลอดทั้งวัน ทำให้กรอบ Bollinger Band แคบลงกว่าเดิม โดยกราฟ 120 นาที เราพบว่าสัญญาณ Indicator ที่ขัดแย้งกัน อาทิ Modified Sto. ที่ %K ตัด %D ลงเป็น Sell Signal แต่กลับเห็นการดีดตัวทำฐานที่สูงขึ้นของ RSI ดังนั้นในช่วงสั้น (สัปดาห์นี้) เราจึงมองว่าดัชนีมีโอกาสแกว่งตัวได้ 2 ทิศทาง โดยมีแนวโน้มแกว่งแบบ Sideway ซึ่งมีการเคลื่อนไหวที่ระดับ 1,085 – 1095 จุด
กลยุทธ์การลงทุน
Outright Trading: แนะนำ trading ในกรอบ 1085 –1,095 จุด โดยตั้ง Stop loss เมื่อหลุดกรอบมากกว่า 5 จุด
Outright Trading: แนะนำ trading ในกรอบ 1085 –1,095 จุด โดยตั้ง Stop loss เมื่อหลุดกรอบมากกว่า 5 จุด
AECS Analyst อิศรา เลิศสุดคนึง (ID:033432)
บล.เออีซี : Daily Focus
AECS Daily Focus
Technical: แกว่งแคบ สองทิศทาง
Trading Idea: PSL
เด็กแนว: SQ , JKN
Technical: แกว่งแคบ สองทิศทาง
Trading Idea: PSL
เด็กแนว: SQ , JKN
Connect the World- (P.2)
เช้านี้ DJIA Futures บวกเด่น 200 จุด ขานรับร่างภาษีใหม่ผ่านมติวุฒิสภา
เช้านี้ DJIA Futures บวกเด่น 200 จุด ขานรับร่างภาษีใหม่ผ่านมติวุฒิสภา
Market Outlook
สัปดาห์นี้คาด SET แกว่งตัวกรอบระหว่าง 1,680-1,720 จุด ระหว่างรอตามปัจจัยชี้นำใหม่ๆ
สัปดาห์นี้คาด SET แกว่งตัวกรอบระหว่าง 1,680-1,720 จุด ระหว่างรอตามปัจจัยชี้นำใหม่ๆ
Market Factors
(-) ดัชนี DJIA ปิด -0.17%DoD ถูกกดดันจากปัจจัยการเมือง หลังมีข่าวนายไมเคิลฟลินน์ อดีตที่ปรึกษาความมั่นคงแห่งชาติให้การซัดทอดทรัมป์เป็นผู้สั่งการให้ติดต่อกับเจ้าหน้าที่รัสเซียในช่วงที่มีการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐฯ ปีที่แล้ว
(+) ราคาน้ำมันWTI ปิด +1.7%DoD ยังคงขานรับกลุ่มประเทศผู้ผลิตน้ำมันเห็นพ้องขยายเวลาลดกำลังผลิตน้ำมันจนถึงสิ้นปีหน้าจากเดิมกำหนดสิ้นสุดในเดือน มี.ค. 61
(+) วุฒิสภาสหรัฐฯ มีมติรับรองร่างกฎหมายปฏิรูปภาษีด้วยคะแนนเสียง 51-49
(+) กระทรวงการคลังเห็นชอบกรอบเงินเฟ้อปี 61 ตามที่ ธปท. เสนอระดับ 1-4% เชื่อช่วยสนับสนุนเศรษฐกิจขยายได้เต็มศักยภาพ 4-5% ตามที่รัฐบาลตั้งเป้าหมายไว้
(+/-) สัปดาห์นี้ติดตามข้อมูล ศก.สหรัฐฯ ที่สำคัญ อาทิ ดุลการค้า ต.ค., ตัวเลขจ้างงานภาคเอกชนและนอกภาคเกษตร พ.ย., สต็อกสินค้าคงคลังภาคค้าส่ง รวมทั้ง GDP 3Q60 ของญี่ปุ่นและอียู (ประมาณการครั้งที่ 3), ดัชนี PMI ภาคบริการของสหรัฐฯ, จีน และยุโรป
(-) ดัชนี DJIA ปิด -0.17%DoD ถูกกดดันจากปัจจัยการเมือง หลังมีข่าวนายไมเคิลฟลินน์ อดีตที่ปรึกษาความมั่นคงแห่งชาติให้การซัดทอดทรัมป์เป็นผู้สั่งการให้ติดต่อกับเจ้าหน้าที่รัสเซียในช่วงที่มีการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐฯ ปีที่แล้ว
(+) ราคาน้ำมันWTI ปิด +1.7%DoD ยังคงขานรับกลุ่มประเทศผู้ผลิตน้ำมันเห็นพ้องขยายเวลาลดกำลังผลิตน้ำมันจนถึงสิ้นปีหน้าจากเดิมกำหนดสิ้นสุดในเดือน มี.ค. 61
(+) วุฒิสภาสหรัฐฯ มีมติรับรองร่างกฎหมายปฏิรูปภาษีด้วยคะแนนเสียง 51-49
(+) กระทรวงการคลังเห็นชอบกรอบเงินเฟ้อปี 61 ตามที่ ธปท. เสนอระดับ 1-4% เชื่อช่วยสนับสนุนเศรษฐกิจขยายได้เต็มศักยภาพ 4-5% ตามที่รัฐบาลตั้งเป้าหมายไว้
(+/-) สัปดาห์นี้ติดตามข้อมูล ศก.สหรัฐฯ ที่สำคัญ อาทิ ดุลการค้า ต.ค., ตัวเลขจ้างงานภาคเอกชนและนอกภาคเกษตร พ.ย., สต็อกสินค้าคงคลังภาคค้าส่ง รวมทั้ง GDP 3Q60 ของญี่ปุ่นและอียู (ประมาณการครั้งที่ 3), ดัชนี PMI ภาคบริการของสหรัฐฯ, จีน และยุโรป
Investment Strategy
แม้ตลาดหุ้นไทยอยู่ในช่วงพักฐานแต่เรามองเดือน ธ.ค.นี้ SET Index มีโอกาส Sideway Up จากเม็ดเงิน LTF/RMF ที่ไหลเข้ามาช่วงท้ายปี กอรปกับ ศก. ไทยยังส่งสัญญาณฟื้นตัวที่ชัดเจนต่อเนื่อง ดังนั้นการอ่อนตัวลงจึงเป็นโอกาสดีเข้าซื้อสะสมหุ้นพื้นฐานดี ดังนี้
1) กลุ่มพลังงานและปิโตรเคมี: รับอานิสงส์บวกจากราคาน้ำมันยังทรงตัวระดับสูง เลือก PTT, PTTEP, PTTGC
2) กลุ่มธนาคาร : สินเชื่อเร่งตัวขึ้นหลัง ศก. ฟื้นตัวชัดเจนเลือก KBANK,KKP, BBL
3) กลุ่มค้าปลีก: ความเชื่อมั่นผู้บริโภคฟื้นตัว/อานิสงส์ช็อปช่วยชาติ เลือก CPALL, ROBINS, HMPRO, BJC, MC
4) กลุ่ม Mid-SmallCap: คาดกำไรโตสดใส เลือก BCH, WICE, JWD, APCO, JKN
แม้ตลาดหุ้นไทยอยู่ในช่วงพักฐานแต่เรามองเดือน ธ.ค.นี้ SET Index มีโอกาส Sideway Up จากเม็ดเงิน LTF/RMF ที่ไหลเข้ามาช่วงท้ายปี กอรปกับ ศก. ไทยยังส่งสัญญาณฟื้นตัวที่ชัดเจนต่อเนื่อง ดังนั้นการอ่อนตัวลงจึงเป็นโอกาสดีเข้าซื้อสะสมหุ้นพื้นฐานดี ดังนี้
1) กลุ่มพลังงานและปิโตรเคมี: รับอานิสงส์บวกจากราคาน้ำมันยังทรงตัวระดับสูง เลือก PTT, PTTEP, PTTGC
2) กลุ่มธนาคาร : สินเชื่อเร่งตัวขึ้นหลัง ศก. ฟื้นตัวชัดเจนเลือก KBANK,KKP, BBL
3) กลุ่มค้าปลีก: ความเชื่อมั่นผู้บริโภคฟื้นตัว/อานิสงส์ช็อปช่วยชาติ เลือก CPALL, ROBINS, HMPRO, BJC, MC
4) กลุ่ม Mid-SmallCap: คาดกำไรโตสดใส เลือก BCH, WICE, JWD, APCO, JKN
Market Talk and News
KKP (BUY: Consensus TP@82): ปี 60 คาดกำไรโต 12.6%YoY และโตต่อ 6.7%YoY ในปี 61 หนุนด้วยเป้าขยายพอร์ตสินเชื่อปีละ 5% พร้อมเตรียมปรับแผนธุรกิจมาเน้นปล่อยสินเชื่อ Spread สูงเช่นสินเชื่อรายย่อยและสินเชื่อส่วนบุคคลมากขึ้นขณะที่ NPL คาดปรับตัวดีขึ้นจากณสิ้นช่วง 3Q60 ที่ 5.6% ตามภาวะ ศก. ที่ฟื้นตัว + Upside 8.6% และคาดให้ Div. Yield จากกำไรช่วง 2H60 อีก 5.3% จึงแนะนำ "ซื้อ"
JKN (BUY:[email protected]): แม้ปี 60 คาดกำไรทรงตัว YoY แต่จะโตเด่น 36.6%YoY ในปี 61 จากดีมานด์ Content หนังและซีรีย์เอเชียจากกลุ่มผู้ให้บริการดิจิตอลทีวีที่ยังแข็งแกร่ง (มาร์จิ้นสูง) บวกกับต้นทุนการเงินที่ปรับลดลงหลังชำระหนี้หุ้นกู้ด้วยเงิน IPO และคาดเห็นความคืบหน้าของแผนขยายธุรกิจไปยัง CLMV ที่มีศักยภาพโตสูง +Upside 36.4% คงแนะนำ ซื้อ
APCO (BUY:[email protected]): แม้ปี 60 คาดกำไรหดตัว 7.2%YoY แต่จะพลิกโต 6.5%YoY ใน ปี 61 จากแผนเพิ่มผลิตภัณฑ์ใหม่ในช่วงต้นปี 61 และเตรียมเปิดศูนย์บริการดูแลสุขภาพBalancing Immunity Center จานวน 5 แห่งซึ่งเน้นขายผลิตภัณฑ์อาหารเสริมและเครื่องสำอางภายใต้แบรนด์ Gold Shape รวมทั้งเตรียมขายสินค้าผ่านช่องทาง Dropship (Platform จัดจำหน่ายออนไลน์) ซึ่งคาดจะมีพัฒนาการดีขึ้นเรื่อยๆ + มี Upside 12.8%
KKP (BUY: Consensus TP@82): ปี 60 คาดกำไรโต 12.6%YoY และโตต่อ 6.7%YoY ในปี 61 หนุนด้วยเป้าขยายพอร์ตสินเชื่อปีละ 5% พร้อมเตรียมปรับแผนธุรกิจมาเน้นปล่อยสินเชื่อ Spread สูงเช่นสินเชื่อรายย่อยและสินเชื่อส่วนบุคคลมากขึ้นขณะที่ NPL คาดปรับตัวดีขึ้นจากณสิ้นช่วง 3Q60 ที่ 5.6% ตามภาวะ ศก. ที่ฟื้นตัว + Upside 8.6% และคาดให้ Div. Yield จากกำไรช่วง 2H60 อีก 5.3% จึงแนะนำ "ซื้อ"
JKN (BUY:[email protected]): แม้ปี 60 คาดกำไรทรงตัว YoY แต่จะโตเด่น 36.6%YoY ในปี 61 จากดีมานด์ Content หนังและซีรีย์เอเชียจากกลุ่มผู้ให้บริการดิจิตอลทีวีที่ยังแข็งแกร่ง (มาร์จิ้นสูง) บวกกับต้นทุนการเงินที่ปรับลดลงหลังชำระหนี้หุ้นกู้ด้วยเงิน IPO และคาดเห็นความคืบหน้าของแผนขยายธุรกิจไปยัง CLMV ที่มีศักยภาพโตสูง +Upside 36.4% คงแนะนำ ซื้อ
APCO (BUY:[email protected]): แม้ปี 60 คาดกำไรหดตัว 7.2%YoY แต่จะพลิกโต 6.5%YoY ใน ปี 61 จากแผนเพิ่มผลิตภัณฑ์ใหม่ในช่วงต้นปี 61 และเตรียมเปิดศูนย์บริการดูแลสุขภาพBalancing Immunity Center จานวน 5 แห่งซึ่งเน้นขายผลิตภัณฑ์อาหารเสริมและเครื่องสำอางภายใต้แบรนด์ Gold Shape รวมทั้งเตรียมขายสินค้าผ่านช่องทาง Dropship (Platform จัดจำหน่ายออนไลน์) ซึ่งคาดจะมีพัฒนาการดีขึ้นเรื่อยๆ + มี Upside 12.8%
Quantitative Screening
หุ้น High Alpha ซึ่งคาด Outperform ตลาดวันนี้เลือก EPG, IVL
หุ้น High Alpha ซึ่งคาด Outperform ตลาดวันนี้เลือก EPG, IVL
AECS - Fundamental and Strategic Team
รณกฤต สารินวงศ์ (ID. 012234) [email protected]
ณัฏฐ์วริน ไตรภพสกุล (ID. 027445) [email protected]
อิศรา เลิศสุดคนึง (ID.033432) [email protected]
ตฤณ สิทธิสวัสดิ์ Asst. Analyst
จิรภัทร โบสุวรรณ Asst. Analyst
สุวรรณา อัศวเหล่าวรพงศ์ Data Support / Secretary
OO3180
รณกฤต สารินวงศ์ (ID. 012234) [email protected]
ณัฏฐ์วริน ไตรภพสกุล (ID. 027445) [email protected]
อิศรา เลิศสุดคนึง (ID.033432) [email protected]
ตฤณ สิทธิสวัสดิ์ Asst. Analyst
จิรภัทร โบสุวรรณ Asst. Analyst
สุวรรณา อัศวเหล่าวรพงศ์ Data Support / Secretary
OO3180