- Details
- Category: ซุบซิบการลงทุน
- Published: Monday, 20 November 2017 19:31
- Hits: 6865
เด็กแนว- ALT พร้อมแล้วที่จะแจก warrant
ผลงานใน Q3 ยังไม่ประทับใจ อย่าใจร้อนเพราะงานหลายอย่างเพิ่งเริ่มได้ไม่นานโดยเฉพาะงานวางสายใต้ดิน จะโดดเด่นในการบันทึกรายได้ Q4 รวมทั้งโอกาสในการได้งานในอนาคต หรือได้อยู่แล้วแต่ยังอุบไว้ จึงออกมาในเรื่องของการวางแผนการเงินในระยะยาวด้วยประกาศแจกวอร์แรนต์ฟรี 4 : 1 นี่เป็นการชี้โพรงว่าให้ซื้อหุ้นไว้ก่อนนะ เดี๋ยวจะไม่เห็นราคานี้
สิ่งที่เด็กแนวสนใจเป็นทั้งเรื่องของงานที่ตรงกับการขยายตัวของประเทศไทย ไปพร้อมๆ กับราคา Warrant ที่หากเข้าเทรดจะมีราคาดีราว 3 บาท โอกาสสร้างกำไรจึงเกิดทั้งแม่ที่ยังต่ำและลูกที่ประเมินราคาเข้าได้ตั้งแต่ชั่วโมงนี้ กราฟ ALT อยู่ในระยะตั้งลำ และปั้นโครงสร้างแบบ W-shape โดยมีแนวต้าน 6.50 บาท และ 7 บาท โดย MACD กำลังโค้งตัวขึ้น และใกล้ตัดเส้นสัญญาณ หากวันนี้สามารถปิดสูงกว่า 6.10 บาทจะยืนยันการปรับขึ้นในระยะต่อไป เด็กแนวว่าราคานี้น่าสนใจสะสมรับวอแรนต์ ก่อนที่จะแพงกว่านี้
สิ่งที่เด็กแนวสนใจเป็นทั้งเรื่องของงานที่ตรงกับการขยายตัวของประเทศไทย ไปพร้อมๆ กับราคา Warrant ที่หากเข้าเทรดจะมีราคาดีราว 3 บาท โอกาสสร้างกำไรจึงเกิดทั้งแม่ที่ยังต่ำและลูกที่ประเมินราคาเข้าได้ตั้งแต่ชั่วโมงนี้ กราฟ ALT อยู่ในระยะตั้งลำ และปั้นโครงสร้างแบบ W-shape โดยมีแนวต้าน 6.50 บาท และ 7 บาท โดย MACD กำลังโค้งตัวขึ้น และใกล้ตัดเส้นสัญญาณ หากวันนี้สามารถปิดสูงกว่า 6.10 บาทจะยืนยันการปรับขึ้นในระยะต่อไป เด็กแนวว่าราคานี้น่าสนใจสะสมรับวอแรนต์ ก่อนที่จะแพงกว่านี้
- MBK มองให้ไกล ใส่ในพอร์ต
ราคาหุ้นรูด เพราะความคาดหวังว่าผลงาน จะออกมาเด่น อันที่จริงการขึ้นแรงก่อนหน้านี้ ไม่ได้ถูกซื้อเพราะเรื่องแค่ระยะสั้น แต่เป็นเพราะการเตรียมเปิดห้างยักษ์ ICON SIAM ที่มียอดจองเกือบเต็มพื้นที่ ยังไม่นับโครงการคอนโดที่อีกกว่า 2 หมื่นล้านบาท ที่จะเพิ่มรายได้ก้อนโตระยะยาว จากปัจจุบันที่รายได้ศูนย์การค้าและโรงแรมอยู่แล้ว 55%
ขอบอกว่าอนาคตของ MBK นั้นไกลนักเมื่อเทียบค่า PE ของหุ้นที่ยังต่ำกว่าคู่แข่ง ถ้าประเมินแบบ Conservation ให้ EPS ปีนี้เพียง 1.20 บาท และ PE ที่ 25 เท่า ราคาเป้าควรจะไป 30 บาทอย่างหลีกเลี่ยงไม่พ้น และในปี 61 กำไรจะเพิ่มขึ้นกว่านี้ เป้าก็ต้องไกลขึ้น ราคาหุ้นช่างมีอนาคตมากกว่าการมองเพียงสั้นๆ ส่วนกราฟกำลังมีสัญญาณตั้งท้องพร้อมคลอด และจะกลับไปทดสอบ 23.50 บาทอีกครั้ง หากผ่านไปได้วิ่งยาวไร้รอยต่อกันเลย
ราคาหุ้นรูด เพราะความคาดหวังว่าผลงาน จะออกมาเด่น อันที่จริงการขึ้นแรงก่อนหน้านี้ ไม่ได้ถูกซื้อเพราะเรื่องแค่ระยะสั้น แต่เป็นเพราะการเตรียมเปิดห้างยักษ์ ICON SIAM ที่มียอดจองเกือบเต็มพื้นที่ ยังไม่นับโครงการคอนโดที่อีกกว่า 2 หมื่นล้านบาท ที่จะเพิ่มรายได้ก้อนโตระยะยาว จากปัจจุบันที่รายได้ศูนย์การค้าและโรงแรมอยู่แล้ว 55%
ขอบอกว่าอนาคตของ MBK นั้นไกลนักเมื่อเทียบค่า PE ของหุ้นที่ยังต่ำกว่าคู่แข่ง ถ้าประเมินแบบ Conservation ให้ EPS ปีนี้เพียง 1.20 บาท และ PE ที่ 25 เท่า ราคาเป้าควรจะไป 30 บาทอย่างหลีกเลี่ยงไม่พ้น และในปี 61 กำไรจะเพิ่มขึ้นกว่านี้ เป้าก็ต้องไกลขึ้น ราคาหุ้นช่างมีอนาคตมากกว่าการมองเพียงสั้นๆ ส่วนกราฟกำลังมีสัญญาณตั้งท้องพร้อมคลอด และจะกลับไปทดสอบ 23.50 บาทอีกครั้ง หากผ่านไปได้วิ่งยาวไร้รอยต่อกันเลย
บล.เออีซี : Action Strategy
AECS Market Outlook : ดีดตัวขึ้นให้ลดเสี่ยง
กราฟ SET ดีดัวขึ้น หลังจากเกิดรูปแบบ Inverse Hammer ในแท่งเทียน และสามารถตัดผ่านแนวกดทับของกรอบสามเหลี่ยมขึ้นมา ส่งผลให้เกิดสัญญาณเชิงบวกต่อเนื่อง อย่างไรก็ตามวันนี้จะต้องปิดสูงขึ้นไปอีกเพื่อผลักดันให้ Stochastic ตัดผ่านเส้นเฉลี่ยสร้าง Buy signal ให้ได้ แต่หากกลับปิดลงต่อ จะทำให้แนวการปรับขึ้นมีโอกาสจบลงได้ โดยมีแนวรับสำคัญที่ 1,705 จุด หากหลุดจะเปลี่ยนเป็น Sell signal
กราฟ SET ดีดัวขึ้น หลังจากเกิดรูปแบบ Inverse Hammer ในแท่งเทียน และสามารถตัดผ่านแนวกดทับของกรอบสามเหลี่ยมขึ้นมา ส่งผลให้เกิดสัญญาณเชิงบวกต่อเนื่อง อย่างไรก็ตามวันนี้จะต้องปิดสูงขึ้นไปอีกเพื่อผลักดันให้ Stochastic ตัดผ่านเส้นเฉลี่ยสร้าง Buy signal ให้ได้ แต่หากกลับปิดลงต่อ จะทำให้แนวการปรับขึ้นมีโอกาสจบลงได้ โดยมีแนวรับสำคัญที่ 1,705 จุด หากหลุดจะเปลี่ยนเป็น Sell signal
กลยุทธ์
1. รอซื้อเมื่ออ่อนตัว โดยห้ามหลุด 1,705 จุด
2. หากทรงตัวเหนือ 1,710 จุด จนถึงระยะท้ายตลาด ให้สะสมหุ้นเพิ่ม
3. ยิ่งปิดต่ำ ยิ่งเป็นสัญญาณไม่ดี
1. รอซื้อเมื่ออ่อนตัว โดยห้ามหลุด 1,705 จุด
2. หากทรงตัวเหนือ 1,710 จุด จนถึงระยะท้ายตลาด ให้สะสมหุ้นเพิ่ม
3. ยิ่งปิดต่ำ ยิ่งเป็นสัญญาณไม่ดี
บทสรุปการลงทุน:
SET แนวโน้มผันผวน และอาจปรับฐานย่อย
SET Closed: 1,709.38
SET แนวโน้มผันผวน และอาจปรับฐานย่อย
SET Closed: 1,709.38
Support: 1,700 1,705
Resistant: 1,712 1,715
Resistant: 1,712 1,715
ZIGA ดีดตัวขึ้นทางเทคนิค
ราคาปิด 6.50 บาท
แนวรับ 6.45 บาท แนวต้าน: 6.80บาท
Stop Loss : เมื่อหลุด 6.40 บาท
ราคาปิด 6.50 บาท
แนวรับ 6.45 บาท แนวต้าน: 6.80บาท
Stop Loss : เมื่อหลุด 6.40 บาท
กราฟ ZIGA อยู่ในช่วงของการฟื้นตัวตามแนว V-shape โดยมีสัญญาณซื้อที่แข็งแรงเกิดขึ้นใน Stochastic และคาดว่าจะเด้งตัวต่อไปยังแนวไหล่ขวาที่มีแนวต้าน 7.30 บาท แนะนำ "ซื้อ"
บล.เออีซี : Derivatives Signals
SET50 Index Futures
มุมมองทางทฤษฎี: ตลาดมองดัชนีแกว่งขึ้น
BASIS (S50Z17-SET50): เมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมานี้ Spot ปิดบวกน้อยกว่า S50Z17 ส่งผลให้ Basis เพิ่มขึ้นจากวันก่อนหน้า 3.10 จุด โดยปัจจุบันอยู่ที่ระดับ +3.97 จุด มากกว่า Theory Basis ที่ +0.61 จุด สะท้อนระยะกลาง (2 เดือน) ตลาดมีมุมมองเป็นบวกต่อ SET50 Index ส่วน Calendar Spread (S50H18-S50Z17) ลดลงจากวันก่อนหน้า 1.30 จุด โดยปัจจุบันอยู่ที่ระดับ -1.8 จุด แต่ยังคงมากกว่า Theory Spread ที่ -2.91 จุด
PUT/CALL Ratio: ปัจจุบันอัตราส่วนการเทรด SET50 Index Option ฝั่ง PUT เทียบกับฝั่ง CALL พบว่าปริมาณซื้อขาย (Volume) อยู่ที่ 0.78x ลดลงจากวันก่อนหน้า 0.64x ขณะที่ฝั่งสถานะคงค้าง (Open Interest) ปัจจุบันอยู่ที่ 1.15x เพิ่มขึ้นจากวันก่อนหน้า 0.01x ซึ่งเราให้น้ำหนักกับการเปลี่ยนแปลงของ OI มากกว่า Volume เพราะสะท้อนถึงอุปสงค์ที่แท้จริงมากกว่า ดังนั้นสรุปว่านักลงทุนมีความต้องการป้องกันความเสี่ยงขาลงมากกว่าเดิมเมื่อเทียบกับวันก่อนหน้า
Fund Flow Analysis: เมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมานี้นักลงทุนต่างชาติ Net Long 12,790 สัญญา ใน Index Futures ส่งผลให้ Quarter to Date (QTD) มีสถานะ Net Short ใน Index Futures ลดลงเหลือ 46,155 สัญญา พร้อมกับซื้อสุทธิในตลาดหุ้น 236 ล้านบาท ทั้งนี้โดยรวม Exposure ใน QTD ของนักลงทุนต่างชาติฝั่งตลาดทุน (หุ้น + Index Futures) มีสถานะขายสุทธิลดลงเหลือ 32,284 ล้านบาท บ่งชี้นักลงทุนต่างชาติยังมีมุมมองเป็นลบต่อตลาดทุนไทย
BASIS (S50Z17-SET50): เมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมานี้ Spot ปิดบวกน้อยกว่า S50Z17 ส่งผลให้ Basis เพิ่มขึ้นจากวันก่อนหน้า 3.10 จุด โดยปัจจุบันอยู่ที่ระดับ +3.97 จุด มากกว่า Theory Basis ที่ +0.61 จุด สะท้อนระยะกลาง (2 เดือน) ตลาดมีมุมมองเป็นบวกต่อ SET50 Index ส่วน Calendar Spread (S50H18-S50Z17) ลดลงจากวันก่อนหน้า 1.30 จุด โดยปัจจุบันอยู่ที่ระดับ -1.8 จุด แต่ยังคงมากกว่า Theory Spread ที่ -2.91 จุด
PUT/CALL Ratio: ปัจจุบันอัตราส่วนการเทรด SET50 Index Option ฝั่ง PUT เทียบกับฝั่ง CALL พบว่าปริมาณซื้อขาย (Volume) อยู่ที่ 0.78x ลดลงจากวันก่อนหน้า 0.64x ขณะที่ฝั่งสถานะคงค้าง (Open Interest) ปัจจุบันอยู่ที่ 1.15x เพิ่มขึ้นจากวันก่อนหน้า 0.01x ซึ่งเราให้น้ำหนักกับการเปลี่ยนแปลงของ OI มากกว่า Volume เพราะสะท้อนถึงอุปสงค์ที่แท้จริงมากกว่า ดังนั้นสรุปว่านักลงทุนมีความต้องการป้องกันความเสี่ยงขาลงมากกว่าเดิมเมื่อเทียบกับวันก่อนหน้า
Fund Flow Analysis: เมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมานี้นักลงทุนต่างชาติ Net Long 12,790 สัญญา ใน Index Futures ส่งผลให้ Quarter to Date (QTD) มีสถานะ Net Short ใน Index Futures ลดลงเหลือ 46,155 สัญญา พร้อมกับซื้อสุทธิในตลาดหุ้น 236 ล้านบาท ทั้งนี้โดยรวม Exposure ใน QTD ของนักลงทุนต่างชาติฝั่งตลาดทุน (หุ้น + Index Futures) มีสถานะขายสุทธิลดลงเหลือ 32,284 ล้านบาท บ่งชี้นักลงทุนต่างชาติยังมีมุมมองเป็นลบต่อตลาดทุนไทย
Technical Analysis
มุมมองด้านเทคนิค: Breakup Downtrend!!!
เมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมานี้ S50Z17 ปรับตัวขึ้นต่อเนื่องจนสามารถทะลุแนวต้านสำคัญ Downtrend Line ที่ 1,088 จุด ทำให้ภาพใหญ่สลาย Pattern แบบ Zigzag Down โดยภาพระยะสั้น (วันนี้) ดูเหมือนดัชนีจะยังคงได้รับอานิสงส์จากโมเมนตัมขาขึ้นอยู่ ซึ่ง Indicator ส่วนใหญ่ในกราฟ 120 นาที พลิกกลับมาส่งสัญญาณซื้อไม่ว่าจะเป็น Modified Stochastic ที่ %K สูงกว่า %D และ RSI เข้าสู่เขต Positive Zone โดยมีแนวต้านแรก 1,103 จุด และถ้าทะลุต่อเจอกันที่ 1,110 จุด
ดังนั้นวันนี้จึงแนะนำกลยุทธ์ Trading ในกรอบสามเหลี่ยม ที่ 1,078-1,094 จุด
เมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมานี้ S50Z17 ปรับตัวขึ้นต่อเนื่องจนสามารถทะลุแนวต้านสำคัญ Downtrend Line ที่ 1,088 จุด ทำให้ภาพใหญ่สลาย Pattern แบบ Zigzag Down โดยภาพระยะสั้น (วันนี้) ดูเหมือนดัชนีจะยังคงได้รับอานิสงส์จากโมเมนตัมขาขึ้นอยู่ ซึ่ง Indicator ส่วนใหญ่ในกราฟ 120 นาที พลิกกลับมาส่งสัญญาณซื้อไม่ว่าจะเป็น Modified Stochastic ที่ %K สูงกว่า %D และ RSI เข้าสู่เขต Positive Zone โดยมีแนวต้านแรก 1,103 จุด และถ้าทะลุต่อเจอกันที่ 1,110 จุด
ดังนั้นวันนี้จึงแนะนำกลยุทธ์ Trading ในกรอบสามเหลี่ยม ที่ 1,078-1,094 จุด
กลยุทธ์การลงทุน
Outright Trading: Trading Long S50Z17 ตามแรงโมเมนตัมขาขึ้นระยะสั้น โดยมีแนวต้านแรก 1,103 จุด และ Stop Loss หากเจอกรณีพลิกผันไว้ที่ 1,085 จุด
Outright Trading: Trading Long S50Z17 ตามแรงโมเมนตัมขาขึ้นระยะสั้น โดยมีแนวต้านแรก 1,103 จุด และ Stop Loss หากเจอกรณีพลิกผันไว้ที่ 1,085 จุด
AEC Securities
Technical Research Team
Technical Research Team
อิศรา เลิศสุดคนึง
Analyst
ID: 033432
Analyst
ID: 033432
บล.เออีซี : Daily Focus
AECS Daily Focus
Technical: ดีดตัวขึ้นให้ลดเสี่ยง
Trading Idea: ZIGA
เด็กแนว: ALT, MBK
Technical: ดีดตัวขึ้นให้ลดเสี่ยง
Trading Idea: ZIGA
เด็กแนว: ALT, MBK
Connect the World- (P.2)
สหรัฐฯ ปิดลบจากความกังวลในแผนปฏิรูปภาษี ส่วนน้ำมันทองคำปิดบวกเด้งสวนทางMarket Outlook
สัปดาห์นี้คาด SET แกว่งตัวไซด์เวย์ในกรอบ1,690-1,720จุดระหว่างรอปัจจัยชี้นำใหม่ อย่างไรก็ดีคาดแรงซื้อหุ้นพลังงานหลังราคาน้ำมันดิบปรับขึ้นจะช่วยหนุนตลาดแกว่งขึ้นได้
สหรัฐฯ ปิดลบจากความกังวลในแผนปฏิรูปภาษี ส่วนน้ำมันทองคำปิดบวกเด้งสวนทางMarket Outlook
สัปดาห์นี้คาด SET แกว่งตัวไซด์เวย์ในกรอบ1,690-1,720จุดระหว่างรอปัจจัยชี้นำใหม่ อย่างไรก็ดีคาดแรงซื้อหุ้นพลังงานหลังราคาน้ำมันดิบปรับขึ้นจะช่วยหนุนตลาดแกว่งขึ้นได้
Market Factors
(-) ดัชนี DJIA ปิด -0.43%DoDหลังยังกังวลว่าการผลักดันร่างกฎหมายปฎิรูปภาษีของพรรครีพับลิกันจะผ่านการอนุมัติจากวุฒิสภาได้หรือไม่
(+) ราคาน้ำมัน WTI ปิด+2.6%DoDหลังซาอุดิอาระเบียออกมาส่งสัญญาณว่าโอเปกและรัสเซียต่างสนับสนุนให้มีการขยายเวลาปรับลดกำลังผลิตน้ำมันออกไป
(+/-) วันนี้ติดตามสภาพัฒน์ฯ แถลงตัวเลข GDP 3Q60 ของไทย
(+/-) สัปดาห์นี้ติดตามข้อมูล ศก.สหรัฐฯ ที่สำคัญ อาทิ ดัชนีชี้นำ ศก. เดือน ต.ค., ยอดขายบ้านมือสอง รวมทั้งดัชนี PMI ภาคบริการและภาคการผลิตเบื้องต้นของสหรัฐฯ และประเทศในแถบยุโรป, รายงานการประชุมนโยบายการเงินของ FOMC
(-) ดัชนี DJIA ปิด -0.43%DoDหลังยังกังวลว่าการผลักดันร่างกฎหมายปฎิรูปภาษีของพรรครีพับลิกันจะผ่านการอนุมัติจากวุฒิสภาได้หรือไม่
(+) ราคาน้ำมัน WTI ปิด+2.6%DoDหลังซาอุดิอาระเบียออกมาส่งสัญญาณว่าโอเปกและรัสเซียต่างสนับสนุนให้มีการขยายเวลาปรับลดกำลังผลิตน้ำมันออกไป
(+/-) วันนี้ติดตามสภาพัฒน์ฯ แถลงตัวเลข GDP 3Q60 ของไทย
(+/-) สัปดาห์นี้ติดตามข้อมูล ศก.สหรัฐฯ ที่สำคัญ อาทิ ดัชนีชี้นำ ศก. เดือน ต.ค., ยอดขายบ้านมือสอง รวมทั้งดัชนี PMI ภาคบริการและภาคการผลิตเบื้องต้นของสหรัฐฯ และประเทศในแถบยุโรป, รายงานการประชุมนโยบายการเงินของ FOMC
Investment Strategy
เรามองระยะยาวตลาดหุ้นไทยยังอยู่ในทิศทางขาขึ้น ดังนั้นการอ่อนตัวลงของดัชนีหรือราคาหุ้น จึงเป็นโอกาสเข้าทยอยซื้อสะสม โดยเน้นเลือกหุ้นพื้นฐาดีและมีศักยภาพเติบโต ดังนี้
1) กลุ่มพลังงาน: รับอานิสงส์ราคาน้ำมันยังทรงตัวระดับสูง เลือก PTT, PTTEP
2) กลุ่มธนาคาร: สินเชื่อมีโอกาสฟื้นตัวตามภาวะ ศก.ที่ดีขึ้น เลือก KBANK,KKP, BBL
3) กลุ่มค้าปลีก: High Season/ช็อปช่วยชาติ เลือก CPALL, ROBINS, HMPRO, BJC
4) กลุ่ม Mid-SmallCap: คาดกำไรยังโตสดใสปีหน้า เลือก BCH, LPH, WICE, HARN, MONO, MALEE, LIT
1) กลุ่มพลังงาน: รับอานิสงส์ราคาน้ำมันยังทรงตัวระดับสูง เลือก PTT, PTTEP
2) กลุ่มธนาคาร: สินเชื่อมีโอกาสฟื้นตัวตามภาวะ ศก.ที่ดีขึ้น เลือก KBANK,KKP, BBL
3) กลุ่มค้าปลีก: High Season/ช็อปช่วยชาติ เลือก CPALL, ROBINS, HMPRO, BJC
4) กลุ่ม Mid-SmallCap: คาดกำไรยังโตสดใสปีหน้า เลือก BCH, LPH, WICE, HARN, MONO, MALEE, LIT
Market Talk and News
MONO (BUY:[email protected]): ช่วง 4Q60 คาดกำไรโต YoY หนุนด้วยการขึ้นค่าโฆษณาหลังRating ช่อง MONO29 ดีขึ้น (+8.8%YoY) บวกกับมีต้นทุนค่าใบอนุญาตลดลงตามมติใหม่ของ กสทช. ทำให้คาดปี 60 จะพลิกมีกำไร 209 ลบ. จากขาดทุน 250 ลบ. ในปี 59 และคาดโตเด่น 121.8%YoY ในปี 61 จากเม็ดเงินโฆษณาที่ฟื้นและเริ่มรับรู้รายได้จาก Platform ใหม่ + Upside 12.7% และมีปันผลระหว่างกาลหุ้นละ 0.03บาท (XD 23 พ.ย. นี้) แนะนำ "ซื้อ"
MALEE (BUY:TP@53): แม้ปีนี้คาดกำไรจะหดตัว 28.9%YoY จากปริมาณการผลิตและจำหน่ายที่ลดลงแต่คาดจะพลิกโตสดใส 49.0%YoY ในปี 61 หลังพ้นช่วงปรับปรุงคุณภาพน้ำมะพร้าวทั้งระบบ Supply Chain และมีโอกาสรับออเดอร์รับจ้างผลิตน้ำผลไม้จากลูกค้าใหม่ๆ + Upside 19.8% และคาดให้ Div. Yield ราวปีละ 2% จึงคงแนะนำ "ซื้อ"
FTE (BUY: Consensus [email protected]): ปี60 คาดกำไรโต 37.8%YoY หนุนด้วย Backlog ปัจจุบัน 380 ลบ. โดย 40% คาดจะรับรู้เป็นรายได้ช่วง 4Q60 และมีโครงการอยู่ระหว่างรอผลพิจารณางานออกแบบติดตั้งระบบดับเพลิงอีก 10 โครงการอีกทั้งเตรียมรุกตลาด CLMV ตามอุปสงค์งานระบบดับเพลิงเพิ่มขึ้นจากงานก่อสร้างที่ขยายตัว + มีUpside 32.4%
MONO (BUY:[email protected]): ช่วง 4Q60 คาดกำไรโต YoY หนุนด้วยการขึ้นค่าโฆษณาหลังRating ช่อง MONO29 ดีขึ้น (+8.8%YoY) บวกกับมีต้นทุนค่าใบอนุญาตลดลงตามมติใหม่ของ กสทช. ทำให้คาดปี 60 จะพลิกมีกำไร 209 ลบ. จากขาดทุน 250 ลบ. ในปี 59 และคาดโตเด่น 121.8%YoY ในปี 61 จากเม็ดเงินโฆษณาที่ฟื้นและเริ่มรับรู้รายได้จาก Platform ใหม่ + Upside 12.7% และมีปันผลระหว่างกาลหุ้นละ 0.03บาท (XD 23 พ.ย. นี้) แนะนำ "ซื้อ"
MALEE (BUY:TP@53): แม้ปีนี้คาดกำไรจะหดตัว 28.9%YoY จากปริมาณการผลิตและจำหน่ายที่ลดลงแต่คาดจะพลิกโตสดใส 49.0%YoY ในปี 61 หลังพ้นช่วงปรับปรุงคุณภาพน้ำมะพร้าวทั้งระบบ Supply Chain และมีโอกาสรับออเดอร์รับจ้างผลิตน้ำผลไม้จากลูกค้าใหม่ๆ + Upside 19.8% และคาดให้ Div. Yield ราวปีละ 2% จึงคงแนะนำ "ซื้อ"
FTE (BUY: Consensus [email protected]): ปี60 คาดกำไรโต 37.8%YoY หนุนด้วย Backlog ปัจจุบัน 380 ลบ. โดย 40% คาดจะรับรู้เป็นรายได้ช่วง 4Q60 และมีโครงการอยู่ระหว่างรอผลพิจารณางานออกแบบติดตั้งระบบดับเพลิงอีก 10 โครงการอีกทั้งเตรียมรุกตลาด CLMV ตามอุปสงค์งานระบบดับเพลิงเพิ่มขึ้นจากงานก่อสร้างที่ขยายตัว + มีUpside 32.4%
Quantitative Screening
หุ้น High Alpha ซึ่งคาด Outperform ตลาดวันนี้เลือก COM7, ORI
หุ้น High Alpha ซึ่งคาด Outperform ตลาดวันนี้เลือก COM7, ORI
AECS - Fundamental and Strategic Team
รณกฤต สารินวงศ์ (ID. 012234) [email protected]
ณัฏฐ์วริน ไตรภพสกุล (ID. 027445) [email protected]
อิศรา เลิศสุดคนึง (ID.033432) [email protected]
ตฤณ สิทธิสวัสดิ์ Asst. Analyst
จิรภัทร โบสุวรรณ Asst. Analyst
สุวรรณา อัศวเหล่าวรพงศ์ Data Support / Secretary
OO2558
รณกฤต สารินวงศ์ (ID. 012234) [email protected]
ณัฏฐ์วริน ไตรภพสกุล (ID. 027445) [email protected]
อิศรา เลิศสุดคนึง (ID.033432) [email protected]
ตฤณ สิทธิสวัสดิ์ Asst. Analyst
จิรภัทร โบสุวรรณ Asst. Analyst
สุวรรณา อัศวเหล่าวรพงศ์ Data Support / Secretary
OO2558