WORLD7

smed PIONEER 720x100ใจฟู720x100pxgpf 720x100 66

ACESเด็กแนว- TASCO ย้ำว่านี่คือไม้ต้นราคาที่ลงลึกของหุ้น
 
     T ASCO  ขณะที่ผลประกอบการแจ้งออกมามีกำไรดูดีกำไรขยายตัวถึง 27%  แต่ราคาหุ้นกลับเดินหน้าเชื่องช้า  สิ่งที่น่าสนใจเมื่อฝ่ายบริหารเผยใน Q4 เป็นต้นไปจะมีการเติบโตอย่างมีนัย และเมื่อเทียบกราฟราคา Asphalt แล้วก็ถือว่าตรงกัน เหมือนเป็นการตอกย้ำว่าผลงานอนาคตโดดเด่นกว่านี้มาก ขณะที่ค่า PE ต่ำเพียง 11 เท่า อีกทั้งราคาหุ้นก็เพิ่งเริ่มขยับตัว  ซึ่งถ้ามองในเชิงกราฟก็ยิ่งน่าสนใจ  เพราะเกิด  Oversold  เต็มที่ เป็นจุดซื้อที่ถูกมากๆ และมีโอกาสที่จะเด้งตัวไปตาม  W-shape  มีแนวต้านแรก 23 บาท มองยังไงก็ถือว่าความเสี่ยงต่ำ ตรงนี้คิดกันดูให้ดีถ้าเป็นไม้ต้นๆ จะมีกำไรกันขนาดไหน
          - AJ  กำไรดี รอบนี้เก็งกำไร ผลกำไรไตรมาส 3 ยังเติบโตเด่นต่อเนื่องจากครึ่งแรก โดยขยายตัวราว 123% พุ่งขึ้นทั้งยอดขายและอัตราการทำกำไร เพราะราคาผลิตภัณฑ์เป็นใจ และต้นทุนที่ต่ำลง ทำให้ AJ รอบปีนี้ถือว่ามาแรง โดยกำไร 9 เดือน ฟันไปแล้ว 1,770 % อะไรจะเติบโตยังกับโกหกได้ขนาดนั้น ทั้งๆ ที่ฐานกำไรก็ไม่ใช่น้อย 319 ล้านบาทเมื่อรวมกัน 3   ไตรมาส
กำไรระดับนี้ทำให้เทียบ Fwd-PE เหลือ 14 เท่าจากเฉลียอดีตกว่า 22  เท่า กำไรโตค่า PE ต่ำมีแววที่ฐานราคาจะต้องขยับขึ้นไปได้อีกสบายๆ  แต่ยังไม่อยากมองไกลมากรอบนี้ให้เป้าเบาๆ ที่ PE 15  เท่า เพียง  16 บาท ด้านกราฟสัญญาณซื้อไปยังต้านแรก 16 บาท โอกาสผ่านได้ไม่ยาก และน่าจะวิ่งเลยไปได้อีก  แต่เนื่องจากกราฟเข้าใกล้ Overbought เล็กๆ จึงเน้นเก็งสั้นขยันซอยไปก่อน
          AEC Securities
          รณกฤต สารินวงศ์
          Head of Research
          ID: 012234
          [email protected]

บล.เออีซี : Action Strategy
 
AECS Market Outlook :  Rebound เพื่อลงต่อ
          กราฟ SET ดีดตัวขึ้นหลังจากการเกิด Positive star ในกราฟแท่งเทียน ส่งผลให้เกิดการฟื้นตัวอย่างแรงเมื่อวานนี้ อย่างไรก็ตาม Indicators  ส่วนใหญ่ยังคงมีทิศทางกดดัน จึงมีโอกาสที่วันนี้ SET จะกลับเข้าสู่ความผันผวน  โดยอาจเปิดตัวเด้งขึ้นระยะสั้น และจะปรับตัวลงเมื่อชนแนวต้าน 1,708 จุด  เราประเมินว่าแนวโน้มการปรับฐานตั้งแต่สัปดาห์ก่อนยังคงมีอิทธิพลต่อสัญญาณทางเทคนิค  จึงประเมินแนวโน้มการปรับตัวลงต่ำกว่า High ที่เกิดขึ้นเมื่อวานนี้
 
กลยุทธ์
          1. เก็งกำไรในระยะสั้น แบ่งขายที่แนวต้าน 1,708 จุด
          2. หากปิดต่ำ ให้งดการถือหุ้นกลับบ้าน
          3. หากปิดสูง ถือหุ้นกลับบ้านได้
 
บทสรุปการลงทุน:
          SET แนวโน้มผันผวน และอาจปิดย่อตัวลง
          SET Closed: 1,702.63
          Support:   1,690   1,695
          Resistant: 1,708   1,715
          TIPCO   รูปชายธงเชิงบวก
          ราคาปิด  16.60 บาท
          แนวรับ  16.50 บาท     แนวต้าน: 17.50บาท
          Stop Loss : เมื่อหลุด 16.30 บาท
          กราฟ  TIPCO ดีดตัวขึ้นจากแนว Down Trend ทำให้กราฟแท่งเทียนเด้งตัวเป็น Tower  ซึ่งมี Pattern แบบชายธง และ Stochastic ตัดเส้นสัญญาณขึ้นเป็น   Buy signal คาดว่าราคาจะปรับขึ้นทดสอบ 17.50 บาท  แนะนำ "ซื้อ"
          AEC Securities
          รณกฤต สารินวงศ์
          Head of Research
          ID: 012234
          [email protected]

บล.เออีซี : Derivatives Signals
 
SET50 Index Futures
มุมมองทางทฤษฎี: ตลาดมองดัชนีหมดแรงรีบาวด์
          BASIS (S50Z17-SET50): เมื่อวานนี้ Spot ปิดบวกมากกว่า S50Z17 ส่งผลให้ Basis ลดลงจากวันก่อนหน้า 1.46 จุด โดยปัจจุบันอยู่ที่ระดับ +1.81 จุด เข้าใกล้ Theory Basis ที่ +0.83 จุด สะท้อนระยะกลาง (2 เดือน) ตลาดมีมุมมองเป็นกลางต่อ SET50 Index ส่วน Calendar Spread (S50H18-S50Z17) ลดลงจากวันก่อนหน้า 0.3 จุด โดยปัจจุบันอยู่ที่ระดับ -0.7 จุด แต่ยังคงมากกว่า Theory Spread ที่ -2.93 จุด
          PUT/CALL Ratio: ปัจจุบันอัตราส่วนการเทรด SET50 Index Option ฝั่ง PUT เทียบกับฝั่ง CALL พบว่าปริมาณซื้อขาย (Volume) อยู่ที่ 0.75x ลดลงจากวันก่อนหน้า 0.36x เช่นเดียวกับฝั่งสถานะคงค้าง (Open Interest) ปัจจุบันอยู่ที่ 1.14x ลดลงจากวันก่อนหน้า 0.01x ดังนั้นสรุปว่านักลงทุนมีความต้องการป้องกันความเสี่ยงขาลงน้อยกว่าเดิมเมื่อเทียบกับวันก่อนหน้า
          Fund Flow Analysis: เมื่อวานนี้นักลงทุนต่างชาติ Net Short 6,907 สัญญา ใน Index Futures ส่งผลให้ Quarter to Date (QTD) มีสถานะ Net Short ใน Index Futures เพิ่มเป็น 58,093 สัญญา พร้อมกับขายสุทธิในตลาดหุ้น 1,241 ล้านบาท ทั้งนี้โดยรวม Exposure ใน QTD ของนักลงทุนต่างชาติฝั่งตลาดทุน (หุ้น + Index Futures) มีสถานะขายสุทธิเพิ่มเป็น 31,785 ล้านบาท บ่งชี้นักลงทุนต่างชาติยังมีมุมมองเป็นลบต่อตลาดทุนไทย
Technical Analysis
 
มุมมองด้านเทคนิค: รอขายทำกำไรตรงต้าน!!!
          เมื่อวานนี้ S50Z17 ไต่ระดับขึ้นมาต่อเนื่องตามคาด โดยปัจจุบันขึ้นมายืนเหนือค่าเฉลี่ยในกรอบ Bollinger Band (BB) โดย Indicator ส่วนใหญ่ในกราฟ 120 นาที ส่งสัญญาณซื้อ ไม่ว่าจะเป็น Modified Stochastic ที่ %K ยังคงมากกว่า %D หรือ RSI ที่เริ่มไต่ระดับขึ้นจนเข้าสู่เขต Positive Zone ดังนั้นดูภาพระยะสั้นแล้ว (วันนี้) ทางขึ้นได้เปรียบ อย่างไรก็ดีภาพใหญ่ของ S50Z17 เป็นขาลง เพราะทั้ง High และ Low ที่กดต่ำลง ทำให้มีแนวโน้มแบบ Sideway Down ดังนั้นหากวันนี้ S50Z17 ขึ้นกลับไปแถวๆแนวต้าน 1,090 จุด เป็นโอกาสขายทำกำไร
          ดังนั้นวันนี้จึงแนะนำกลยุทธ์ Trading ในกรอบสามเหลี่ยม ที่ 1,078-1,094 จุด
 
กลยุทธ์การลงทุน
          Outright Trading: รอ ปิด Long S50Z17 เมื่อขึ้นกลับไปตรงแถวๆแนวต้าน 1,090 จุด และ Stop Loss หากหลุด 1,075 จุด
          AEC Securities
          Technical Research Team
          อิศรา  เลิศสุดคนึง
          Analyst
          ID: 033432

บล.เออีซี : Daily Focus
 
AECS Daily Focus
          Technical:Rebound เพื่อลงต่อ
          Trading Idea:TIPCO
          เด็กแนว: TASCO, AJ
Connect the World- (P.2)
          สหรัฐฯ ปิดลบตามหุ้นกลุ่มพลังงานที่ร่วงลงและมีความกังวลในแผนปฏิรูปภาษี
 
Market Outlook
          วันนี้คาด SET แกว่งตัวกรอบ 1,685-1,710 จุด โดยทิศทางลงเป็นต่อหลังราคาน้ำมันดิบโลกปรับตัวลง กอรปกับ ช่วงสั้นยังขาดปัจจัยชี้นำการลงทุนใหม่ๆ
 
Market Factors
          (-) ดัชนี DJIA ปิด -0.13%DoD จากแรงขายหุ้นกลุ่มพลังงานหลังราคาน้ำมันดิบร่วง
          (-) ราคาน้ำมัน WTI  ปิด -1.9%DoD หลัง IEA ปรับลดคาดการณ์อุปสงค์น้ำมันปีนี้และ ปีหน้า อีกทั้งมีรายงานชี้การผลิตน้ำมันในสหรัฐฯ มีการปรับตัวขึ้น
          (+/-) วันนี้ติดตามข้อมูล ศก.สหรัฐฯ ที่สำคัญ อาทิ สต็อกน้ำมันดิบรายสัปดาห์จาก EIA, ดัชนีภาคการผลิต, ยอดค้าปลีกและดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) เดือน ต.ค.
 
Investment Strategy
          กลยุทธ์ลงทุนแนะหาจังหวะทยอยซื้อสะสมหุ้น Domestic Play ที่มีศักยภาพเติบโตดีดังนี้
          1) กลุ่มพลังงาน: รับอานิสงส์ราคาน้ำมันยังทรงตัวระดับสูง เลือก PTT, PTTEP
          2) กลุ่มธนาคาร: สินเชื่อมีโอกาสฟื้นตัวตามภาวะ ศก.ที่ดีขึ้น เลือก KBANK,KKP, BBL
          3) กลุ่มค้าปลีก: High Season/ช็อปช่วยชาติ เลือก CPALL, ROBINS, HMPRO, BJC
          4) กลุ่ม Mid-SmallCap: คาดกำไรยังโตสดใสปีหน้า เลือก BCH, WICE, HARN, SMPC
 
Fundamental Reports
          RS (BUY:TP@25): ช่วง 3Q60 พลิกมีกำไร 124 ลบ. จากขาดทุน 61 ลบ. ในช่วง 3Q59 หลังรายได้ธุรกิจสุขภาพและความงามเติบโตก้าวกระโดดlส่วนทั้งปี 60 คาดมีกำไร 282 ลบ. และยังคงโตเด่นต่อ 132.2%YoY ในปี 61  + มีUpside 9.2% จึงคงแนะนำ "ซื้อ"
          FORTH (BUY:[email protected]): แม้ช่วง 3Q60 กำไรหด 43.0%YoY จากศักยภาพทำกำไรที่แย่ลงกดดันให้ปี 60 คาดหดตัว 23.5%YoY แต่คาดจะพลิกกลับมาโตอีกครั้งราว 30.8%YoY ใน  ปี 61 จากแผนขยายตู้บุญเติมและการฟื้นตัวของธุรกิจโทรคมนาคม + ยังมี Upside 18.3%
          SEAFCO (BUY:[email protected]): ช่วง 3Q60 กำไรโตก้าวกระโดด 256.1%YoY จากมาร์จิ้นรับเหมาและรายได้อื่นเพิ่มขึ้นส่วนปี60-61คาดกำไรโตเฉลี่ยปีละ 31.4% จาก Backlog ในมือที่ยังมีอยู่ 2.5 พัน ลบ. + ราคาหุ้นยังมี Upside 6.4% จึงคงแนะนำ "ซื้อ"
          KAMART (BUY:TP@9): ช่วง3Q60 กำไรสุทธิหด 8.3%YoY จากฐานปีก่อนที่สูงหลังมีรายการกลับภาษี แต่ EBT กลับมาพลิกโต 9.1%YoY ส่วนทั้งปี 60 คาดกำไรยังโต 5.5%YoY และโตต่อ 10.8%YoY ในปี 61 จากกำลังซื้อดีขึ้น + ยังมี Upside 13.2%
          BA (HOLD:TP@18): ช่วง 3Q60 พลิกขาดทุน 157 ลบ. จากกำไรในช่วง 3Q59 ที่ 662 ลบ. เพราะแข่งขันสูงและต้นทุนเชื้อเพลิงเพิ่มส่วนปี 60 คาดขาดทุน 593 ลบ. ก่อนพลิกกำไร 942 ลบ. ในปี 61 จากแผนทำตลาดสมุยและเจาะตลาดสหรัฐฯ อย่างไรก็ดีมี Upside จำกัด
          CENTEL (HOLD:TP@48): ช่วง 3Q60 กำไรโต 14.5%YoY จากธุรกิจอาหารฟื้นตัวและสองธุรกิจหลักมีมาร์จิ้นที่ดี ส่งผลให้คาดหนุนปี60 กำไรโต 9.5 %YoY และโตต่อ 7.6%YoY ใน  ปี 61 อย่างไรก็ดีราคาหุ้นมี Upside จำกัดแล้ว จึงปรับลดคำแนะนำ "ถือ"
          D (HOLD:[email protected]): ช่วง 3Q60 กำไรโต 23.6%QoQ ตามผลฤดูกาล ส่วนช่วง 4Q60 คาดกำไรยังโต YoY หนุนทั้งปี 60 คงคาดกำไรโต 10.4%YoY และโตต่อ 10.6%YoY ในปี 61หลังจะรับรู้รายได้สาขาใหม่ที่มีเพิ่มขึ้น อย่างไรก็ดี Upside เพียง 3.7% จึงปรับลดเป็น "ถือ"
          M (HOLD:TP@78): ช่วง 3Q60 กำไรโต 27.7%YoY หลังยอดขายสาขาเดิมพลิกบวกและต้นทุนวัตถุดิบหลักยังลด ส่วนทั้งปี 60 คาดกำไรโต 21.5%YoY และโตต่อ 8.1%YoY ใน     ปี 61แต่ราคาหุ้นเต็มมูลค่าแล้ว จึงคงแนะนำ "ถือรับปันผล" โดยคาด Div. Yield ปีละ 3.4%
          ZIGA (HOLD:[email protected]): ช่วง 3Q60 กำไรหด 51.4%YoY จากมาร์จิ้นที่ลดลงและมี SG&Aเพิ่มและคาดยังกดดันให้ปี60กำไรหดตัว 29.9%YoY ก่อนกลับมาโต 56.8%YoY ในปี 61ด้วยยอดสั่งซื้อเหล็กที่กลับมาดีขึ้น อย่างไรก็ดีเหลือ Upside ไม่มาก จึงปรับลดเป็น "ถือ"
Quantitative Screening
          หุ้น High Alpha ซึ่งคาด Outperform ตลาดวันนี้เลือก MINT, SYNEX
 
AECS - Fundamental and Strategic Team
รณกฤต สารินวงศ์ (ID. 012234)          [email protected]
ณัฏฐ์วริน ไตรภพสกุล (ID. 027445)        [email protected]
อิศรา เลิศสุดคนึง (ID.033432)           [email protected]
ตฤณ  สิทธิสวัสดิ์                        Asst. Analyst
จิรภัทร  โบสุวรรณ                      Asst. Analyst
สุวรรณา อัศวเหล่าวรพงศ์                 Data Support / Secretary
OO2410

apm

 

 

Facebook

5 ข่าวฮอตนิวส์!