เด็กแนว- สร้างสถิติใหม่

Details: Category: ซุบซิบการลงทุน; Published: Monday, 30 October 2017 17:49; Hits: 2294

เด็กแนว- PK สร้างสถิติใหม่

ธุรกิจของพัฒน์กล เราก็เห็นพัฒนาการอย่างชัดเจนมาตั้งแต่ต้นปี แค่กำไรใน 6 เดือน ก็พุ่งขึ้น 112 ล้านบาท จากขาดทุน โดยเครื่องผลิตน้ำแข็งมีคำสั่งซื้อจนผลิตไม่ทัน นอกจากนี้ยังได้รับอนุญาตให้ไปก่อตั้งโรงงานที่อินโดนีเซีย ซึ่งเป็นตลาดใหญ่มาก และจะทำให้ปีหน้ายอดขายจะแรงกว่านี้อีก อย่างไรก็ตามในปีนี้กำไรก็ถือว่าฟื้นตัวแรง เด็กแนวคาดว่ากำไร 9 เดือนควรจะเติบโตกว่า 220%
กำไรทั้งปี อาจทุบสถิติที่เคยมีมาตั้งแต่ชาติปางก่อนไม่น้อยกว่า 220 ล้านบาท มี EPS ราว 0.50 บาท คิดเป็นค่า FWD PE 11 เท่า ต่ำสุดของกลุ่มเครื่องจักร หากประเมินที่ PE 15-18 เท่า เป้าจึงอยู่ระหว่าง 7.5 - 9.0 บาท ดังนั้นราคาตรงนี้ต่ำไป ล่าสุดบุกเครื่องจักรในอุตสาหกรรมอาหาร คำสั่งซื้อไหลเข้า จับตาความแรงของผลงานกันต่อไป ส่วนกราฟกำลังกลับมาไต่ระดับงวดใหม่ หลังจากรูดลงมาจาก 7.50 บาท โดยสัญญาณซื้อนี้คาดว่าจะดันราคาชนเป้าหน้า 6.50 บาทไม่ยาก และราคาควรจะ New high หากกำไรปีนี้ ทุบสถิติอย่างว่า นะคร๊าบบบ

- ALT นั่นไง ได้แฟนเกาหลี
จุดเด่นของบริษัทคือได้งานวางสายใต้ดิน หลังจากเขตพญาไททำจบไปแล้วตอนนี้อยู่ระหว่างเดินสายเขตสุขุมวิทต่อไปอีก 25 กิโลเมตร สิ่งที่บริษักำลังมองการณ์ไกลก็คือการหารายได้แบบต่อเนื่องหรือเรียกว่า Recurring Income ซึ่งจะมาจากการให้เช่าระบบโทรคมนาคมนี่แหละ ที่จะทำให้นอนกินได้ยาวๆ
และนี่จึงเป็นที่มาที่ไปของการไปซุ่มจับมือกับเกาหลี Lotte Data Communication ที่ชำนาญทั้งเรื่องโครงข่าย และการจัดเก็บข้อมูล ดังนั้นงานนี้คอยดูกันไว้ถึงพัฒนาการของบริษัทที่ซุ่มทำไว้เงียบๆ ส่วนผลการดำเนินงาน Q3 ปีนี้ควรจะดีกว่าปีก่อน เพราะมีงานวางใต้ดิน และรายได้ประจำจากระบบเช่า ขณะที่ PE ถูกลงเหลือ 27 จากเคยสูงถึง 50 เท่า ส่วนกราฟเด้งตัวแล้ว แท่งเทียนส่งสัญญาณซื้อและอาจเกิด W-Shape โดยมีต้านแรกลุ้นกันได้ 7 บาท สะสมกันไว้

          AEC Securities
          รณกฤต สารินวงศ์
          Head of Research
          ID: 012234 [email protected]

บล.เออีซี : Action Strategy

AECS Market Outlook : ลุ้นทดสอบ High เดิม
SET ยังคงเดินหน้าปรับตัวสูงขึ้น หลังจากอ่อนตัวในช่วงสัปดาห์ก่อนหน้า โดยการดีดตัวกลับนี้ เข้าสู่แนว Uptrend เดิม และทำให้เกิดสัญญาณบวก 2 ส่วนได้แก่ V-shape ที่จะมีแนวต้าน 1,726 จุด หากผ่านไปได้จะวิ่งต่อไปยัง 1,760 จุด และสัญญาณซื้อส่วนที่สองคือการโค้งตัวของ Stochastic ซึ่งหากตัดขึ้นในสัปดาห์นี้ จะเกิด Strong Buy signal ยืนยันการเดินหน้า New high เว้นแต่สัปดาห์นี้สร้างระดับราคาต่ำลง จะทำให้โอกาสการเกิดแนวสูงสุดใหม่จะลดลง

กลยุทธ์
          1. เก็งกำไรตามจังหวะตลาด เน้น Short term Trading
          2. สำหรับต้นทุนใหม่ เลือกทำกำไรใกล้ 1,726 จุด
          3. หากปิดสูงกว่าเปิดให้ถือหุ้นต่อ หากปิดต่ำกว่าเปิดถือหุ้นน้อยลง

บทสรุปการลงทุน:
          SET มีแนวโน้มเปิดดีดตัวขึ้นทดสอบใกล้ high 1,726 จุด
          SET Closed: 1,716.03
          Support:   1,705   1,710
          Resistant: 1,720   1,726
          ACAP เมื่อ Oversold ต้องซื้อราคาปิด 17.00 บาท
          แนวรับ 16.75 บาท     แนวต้าน: 19.00 บาท
          Stop Loss : เมื่อหลุด 16.00 บาท

กราฟ ACAPทิ้งตัวลงต่ำสุดในรอบ 6 เดือน ลงสู่แนว Oversold ใน Stochastic ซึ่งทุกครั้งที่ลงมาแนวดังกล่าวจะเกิดการดีดตัวขึ้นราว 2 บาท ดังนั้นจึงมีโอกาสเกิดในรอบนี้เช่นกัน มองแนวการฟื้นตัวที่ 19 บาท แนะนำ "ซื้อ"

          AEC Securities
          รณกฤต สารินวงศ์
          Head of Research
          ID: 012234
          [email protected]

บล.เออีซี : Derivatives Signals
SET50 Index Futures

มุมมองทางทฤษฎี: ตลาดมองดัชนีขึ้นต่อ
          BASIS (S50Z17-SET50): เมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมานี้ Spot ปิดบวกน้อยกว่า S50Z17 ส่งผลให้ Basis เพิ่มขึ้นจากวันก่อนหน้า 0.39 จุด โดยปัจจุบันอยู่ที่ระดับ +4.44 จุด มากกว่า Theory Basis ที่ +1.56 จุด สะท้อนระยะกลาง (3 เดือน) ตลาดมีมุมมองเป็นบวกต่อ SET50 Index ส่วน Calendar Spread (S50H18-S50Z17) ลดลงจากวันก่อนหน้า 0.1 จุด โดยปัจจุบันอยู่ที่ระดับ +1.0 จุด มากกว่า Theory Spread ที่ -2.91 จุด
          PUT/CALL Ratio: ปัจจุบันอัตราส่วนการเทรด SET50 Index Option ฝั่ง PUT เทียบกับฝั่ง CALL พบว่าปริมาณซื้อขาย (Volume) อยู่ที่ 0.76x เพิ่มขึ้นจากวันก่อนหน้า 0.04x ขณะที่ฝั่งสถานะคงค้าง (Open Interest) ปัจจุบันอยู่ที่ 1.24x เท่ากับวันก่อนหน้า ซึ่งเราให้น้ำหนักกับการเปลี่ยนแปลงของ OI มากกว่า Volume เพราะแสดงให้เห็นถึงอุปสงค์ที่แท้จริง ดังนั้นสรุปว่านักลงทุนมีความต้องการป้องกันความเสี่ยงขาลงเท่าเดิมเมื่อเทียบกับวันก่อนหน้า
          Fund Flow Analysis: แม้เมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมานี้นักลงทุนต่างชาติ Net Long 220 สัญญา ใน Index Futures ส่งผลให้ Quarter to Date (QTD) มีสถานะ Net Short ใน Index Futures ลดลงเหลือ 41,583 แต่กลับมาขายสุทธิในตลาดหุ้น 2,186 ล้านบาท ทั้งนี้โดยรวม Exposure ใน QTD ของนักลงทุนต่างชาติฝั่งตลาดทุน (หุ้น + Index Futures) มีสถานะขายสุทธิเพิ่มเป็น 12,805.5 ล้านบาท บ่งชี้นักลงทุนต่างชาติยังมีมุมมองเป็นลบต่อตลาดทุนไทย

Technical Analysis

มุมมองด้านเทคนิค: Sideway ออกข้าง
เมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมานี้ S50Z17 เปิดแล้วแกว่งขึ้นหลังจากนั้นยืนในแดนบวกตลอดทั้งวัน ทั้งนี้หากพิจารณาการเคลื่อนไหวในรอบ 1 เดือนที่ผ่านมาจะพบว่ามีความผันผวนที่สูงมาก โดยมีกรอบการเคลื่อนไหว High-Low ค่อนข้างกว้างซึ่งอยู่ที่ 1,070-1,110 จุด ขณะที่ราคาปัจจุบันเริ่มขยับขึ้นเข้าหากรอบบนเล็กน้อย โดยตลอดสัปดาห์นี้เราคาดว่า S50Z17 จะแกว่ง Sideway ออกข้างตามกรอบการเคลื่อนไหวที่ผ่านมา ด้วยเหตุผลดังนี้ 1) กรอบ Bollinger Band บีบเข้าหากัน และ 2) RSI เข้าใกล้ 50% ดังนั้นแนะนำรอหาจังหวะการลงทุน โดยรอเปิด Short เมื่อเข้าใกล้แนวต้านที่ 1,110 จุด และรอเปิด Long เมื่อเข้าใกล้แนวรับที่ 1,070 จุด

กลยุทธ์การลงทุน
Outright Trading: หาจังหวะ Trading S50Z17 ในกรอบ 1,070-1,110 โดยพิจารณาจากความได้เปรียบ Gain/Loss Ratio ตั้ง Stop loss เมื่อหลุดกรอบมากกว่า 5 จุด

AEC Securities
Technical Research Team

          อิศรา เลิศสุดคนึง
          Analyst
   ID: 033432

บล.เออีซี : Daily Focus
AECS Daily Focus
          Technical: ลุ้นทดสอบ High เดิม
          Trading Idea: ACAP
          เด็กแนว: PK, ALT

Connect the World- (P.2)
ตลาดหุ้นส่วนใหญ่ปิดแดนบวก สะท้อนความคาดหวังต่อกำไรช่วง 3Q60

Market Outlook
สัปดาห์นี้คาด SET แกว่งตัวกรอบ 1,700-1,730 จุด โดยดัชนีมีโอกาส Sideway Up จากแรงซื้อเก็งกำไรในกลุ่มพลังงานหลังราคาน้ำมันปรับขึ้นและหุ้นรายตัวที่คาดงบจะออกมาดี

Market Factors
          (+) ดัชนี DJIA ปิด +0.14%DoD ขานรับงบ 3Q60 ของ บจ.กลุ่มเทคโนโลยีที่ออกมาดี และ GDP ช่วง 3Q60 ของสหรัฐฯ โต 3.0%YoY ดีกว่าที่ตลาดคาคไว้ที่ 2.5%YoY
          (+) ราคาน้ำมัน WTI ปิด +2.4%DoD หลังซาอุฯ และรัสเซียสนับสนุนให้ขยายเวลาลดกำลังการผลิตน้ำมันไปจนถึงสิ้นปีหน้าจากเดิมที่กำหนดสิ้นสุดสิ้น มี.ค. 61
          (+/-) สัปดาห์นี้ติดตามข้อมูล ศก.สำคัญ อาทิ ดุลการค้าสหรัฐฯ, การประกาศชื่อประธานเฟดคนใหม่, ผลประชุมนโยบายการเงินของเฟด, BOJ, BOE รวมทั้ง ดัชนี PMI ภาคการผลิตและภาคบริการของสหรัฐฯ จีน และอียู

Investment Strategy
          เรามองระยะยาวตลาดหุ้นไทยยังคงอยู่ในทิศทางขาขึ้นหลังสถานการณ์การเมืองและภาวะ ศก. มีสัญญาณที่ดีขึ้นชัดเจน อีกทั้งยังมีเม็ดเงินจากกองทุน LTF และ RMF ที่กำลังจะเริ่มทยอยไหลเข้าในช่วงสองเดือนสุดท้ายของปี
          กลยุทธ์ลงทุนยังคงแนะนำ "ทยอยซื้อ เน้นช่วงอ่อนตัวและไม่ไล่ราคา" โดยเลือกหุ้น Domestic Play ที่มีศักยภาพเติบโตดี, Laggard หรือมีปัจจัยบวกเฉพาะดังนี้
          1) กลุ่มพลังงาน: รับอานิสงส์มีโอกาสขยายเวลาลดกำลังผลิต เลือก PTT, PTTEP
          2) กลุ่มธนาคาร: สินเชื่อมีโอกาสฟื้นตัวตามภาวะศก.ที่ดีขึ้น เลือก KBANK,KKP, BBL
          3) กลุ่มบริการ : เข้าสู่ High Season ทั้งนี้กลุ่มโรงแรม เลือก MINTกลุ่ม รพ. เลือก BCHกลุ่มค้าปลีก เลือก CPALL, BJC และกลุ่มสื่อ เลือก MAJOR
          4) กลุ่ม Mid-Small Cap: กำไรมีแนวโน้มโตสดใส เลือก AMA, WICE, JUBILE

Fundamental Reports

          JKN (IPO STOCK:[email protected]) : เป็นผู้นำตลาด Content หนังละครและซีรีย์ในไทยซึ่งมีศักยภาพทำกำไรสูงกว่าอุตสาหกรรมโดยปีนี้แม้คาดกำไรทรงตัว YoY จากลงทุนเชิงรุกในContent เอเชียแต่คาดปี 61-62 จะกลับมาโตเฉลี่ยปีละ 30.6% หลังมีแผนนำเงิน IPO ไปใช้ลงทุนใน Content ใหม่ๆ, ลงทุนในบริษัทย่อยพร้อมทั้งนำเงินส่วนที่เหลือมาเป็นเงินทุนหมุนเวียนและชำระคืนหนี้เงินกู้บางส่วน (อ่านเพิ่มในบทวิเคราะห์)
          หมายเหตุ : บมจ. หลักทรัพย์เออีซีอาจเป็นผู้ร่วมจัดจำหน่ายและรับประกันการจำหน่ายหุ้นสามัญเพิ่มทุนของ JKN ในครั้งนี้โดยการจัดทำเอกสารฉบับนี้เพื่อวัตถุประสงค์ในการนำเสนอข้อมูลและบทความการวิเคราะห์เท่านั้นการตัดสินใจลงทุนขึ้นกับดุลยพินิจของนักลงทุน
          SYNTEC (HOLD:TP@6):ข่วง 3Q60 คาดกำไรหดตัว 15.5%YoY หลังจะทยอยกันสำรองDefect & Error ในงานใหม่ที่เริ่มหลายโครงการในไตรมาสนี้ ส่วนปี 61-62 แม้มี Backlog ที่จะรับรู้ถึง 1.25 หมื่น ลบ. แต่ราคาหุ้นปรับขึ้นจนไม่มี Upside แล้ว จึงปรับลดคำแนะนำเป็น"ถือ" โดยคาดมีปันผลจ่ายจากกำไรช่วง 2H60 หุ้นละ 0.10 บาท คิดเป็น Div Yield 1.6%

Market Talk and News
TNP (BUY: Consensus TP@3): ปี 60 คาดกำไรโต 14%YoY หนุนด้วยแผนเปิดสาขาเพิ่มปีนี้อีก 4 สาขาจากปี 59 ที่ 15 สาขาพร้อมกับเดือน มิ.ย. ที่ผ่านมาได้เปิดศูนย์กระจายสินค้าแห่งใหม่บนพื้นที่10,000 ตร.ม. เพื่อเสริมประสิทธิภาพการกระจายสินค้าให้ดีขึ้นหนุนศักยภาพการทำกำไรในระยะยาว + ราคาหุ้นยังมี Upside 12.8% จึงคงแนะนำ "ซื้อ"

Quantitative Screening
หุ้น High Alpha ซึ่งคาด Outperform ตลาดวันนี้เลือก EASTW, TISCO

AECS - Fundamental and Strategic Team
รณกฤต สารินวงศ์ (ID. 012234)          [email protected]
ณัฏฐ์วริน ไตรภพสกุล (ID. 027445)        [email protected]
อิศรา เลิศสุดคนึง (ID.033432)           [email protected]
ตฤณ สิทธิสวัสดิ์                        Asst. Analyst
จิรภัทร โบสุวรรณ                      Asst. Analyst

สุวรรณา อัศวเหล่าวรพงศ์ Data Support / Secretary

OO1712

Facebook

5 ข่าวฮอตนิวส์!

สถานที่ติดต่อ