- Details
- Category: ซุบซิบการลงทุน
- Published: Tuesday, 24 October 2017 17:28
- Hits: 3051
เด็กแนว ZIGA : กราฟพร้อมขึ้น New high
วันก่อนบอกไปแล้วว่า ZIGA นี้เด่นกว่าใครในกลุ่ม เพราะความไฮเทคของผลิตภัณฑ์ที่ ใช้ทดแทนเหล็กและมีราคาที่ถูกกว่า เช่น Pre-zinc ใช้ทดแทนท่อดำ ท่อชุบสังกะสี เช่นเดียวกับสินค้าใหม่คือ Super Ziga ใช้ทดแทนท่อสแตนเลส และมีราคาต่ำกว่าร่วม 30% แบบนี้ยอดขายทะลักแน่ แค่นั้นยังไม่พอครับท่าน ตัวเด่นอีกอย่างคืออาคารสำเร็จรูป I-Retail ที่ประกอบเสร็จอย่างรวดเร็วกำลังได้รับความนิยมสูงมาก ตอนนี้ได้รับคำสั่งซื้อแล้วกว่า 100 รายการสำหรับร้านค้าชื่อดังในปั๊มน้ำมัน และจะเซ็นต์อีก 2-3 รายเหมือนส้มหล่น ทำอะไรคนก็สนใจ จนต้องเพิ่มกำลังการผลิตอีกถึง 50%
นักวิเคราะห์ประเมินกำไรปีนี้เฉียด 300 ล้านบาท และในปีหน้ามองเป้ากำไรราวๆ 350 ล้านบาท แนวโน้มกราฟกำลังจะพุ่งแรงโดยมีต้านสำคัญที่ 7.50 บาท ถ้าผ่านแนวนี้ไปได้ ต้องไปเจอกันแถว 8.50บาท หรือ New high นั่นเอง มีกันหรือยัง เข้าซื้อก่อนแพงกว่านี้เนอะ
SSP : ดีอย่างนี้ต้องเล่นซ้ำ
ขอย้ำซ้ำว่า SSP เป็นผู้ทำพลังงานทางเลือก และมีสัญญาขายไฟในมือเพียบ ทยอยก่อสร้างโรงไฟฟ้า และตามแผน เมื่อถึงปี 63 ควรจะมีโครงการในมือไม่ต่ำกว่า 200 MW และจุดเด่นก็คือความสามารถในการทำกำไรที่โดดเด่น ด้วยอัตรากำไรสูงถึง 50% ล่าสุดคาดว่าจะได้โรงไฟฟ้าเพิ่มจากโครงการองค์การทหารผ่านศึก
และเตรียมเข้าบิดโรงไฟฟ้าประเภท Hybrid ก้อนใหญ่ มีโอกาสได้ใบอนุญาตเพิ่ม ด้วยเหตุนี้ เด็กแนวจึงมองว่าอนาคตของบริษัทน่าสนใจ และเล็งเป้าหมาย 12 บาทเหมือนเดิมตามที่ให้ไปแล้ว ส่วนกราฟเกิด Buy signal ฟอร์มตัวเป็นสามเหลี่ยม หากตัดผ่านแนว 9.60 บาท จะทำให้เกิดสัญญาณ Follow buy signal ที่จะทำให้ราคาวิ่งไปทดสอบ 10.50 บาทต่อไป
วันก่อนบอกไปแล้วว่า ZIGA นี้เด่นกว่าใครในกลุ่ม เพราะความไฮเทคของผลิตภัณฑ์ที่ ใช้ทดแทนเหล็กและมีราคาที่ถูกกว่า เช่น Pre-zinc ใช้ทดแทนท่อดำ ท่อชุบสังกะสี เช่นเดียวกับสินค้าใหม่คือ Super Ziga ใช้ทดแทนท่อสแตนเลส และมีราคาต่ำกว่าร่วม 30% แบบนี้ยอดขายทะลักแน่ แค่นั้นยังไม่พอครับท่าน ตัวเด่นอีกอย่างคืออาคารสำเร็จรูป I-Retail ที่ประกอบเสร็จอย่างรวดเร็วกำลังได้รับความนิยมสูงมาก ตอนนี้ได้รับคำสั่งซื้อแล้วกว่า 100 รายการสำหรับร้านค้าชื่อดังในปั๊มน้ำมัน และจะเซ็นต์อีก 2-3 รายเหมือนส้มหล่น ทำอะไรคนก็สนใจ จนต้องเพิ่มกำลังการผลิตอีกถึง 50%
นักวิเคราะห์ประเมินกำไรปีนี้เฉียด 300 ล้านบาท และในปีหน้ามองเป้ากำไรราวๆ 350 ล้านบาท แนวโน้มกราฟกำลังจะพุ่งแรงโดยมีต้านสำคัญที่ 7.50 บาท ถ้าผ่านแนวนี้ไปได้ ต้องไปเจอกันแถว 8.50บาท หรือ New high นั่นเอง มีกันหรือยัง เข้าซื้อก่อนแพงกว่านี้เนอะ
SSP : ดีอย่างนี้ต้องเล่นซ้ำ
ขอย้ำซ้ำว่า SSP เป็นผู้ทำพลังงานทางเลือก และมีสัญญาขายไฟในมือเพียบ ทยอยก่อสร้างโรงไฟฟ้า และตามแผน เมื่อถึงปี 63 ควรจะมีโครงการในมือไม่ต่ำกว่า 200 MW และจุดเด่นก็คือความสามารถในการทำกำไรที่โดดเด่น ด้วยอัตรากำไรสูงถึง 50% ล่าสุดคาดว่าจะได้โรงไฟฟ้าเพิ่มจากโครงการองค์การทหารผ่านศึก
และเตรียมเข้าบิดโรงไฟฟ้าประเภท Hybrid ก้อนใหญ่ มีโอกาสได้ใบอนุญาตเพิ่ม ด้วยเหตุนี้ เด็กแนวจึงมองว่าอนาคตของบริษัทน่าสนใจ และเล็งเป้าหมาย 12 บาทเหมือนเดิมตามที่ให้ไปแล้ว ส่วนกราฟเกิด Buy signal ฟอร์มตัวเป็นสามเหลี่ยม หากตัดผ่านแนว 9.60 บาท จะทำให้เกิดสัญญาณ Follow buy signal ที่จะทำให้ราคาวิ่งไปทดสอบ 10.50 บาทต่อไป
บล.เออีซี : Action Strategy
AECS Market Outlook : ยังอยู่ในโครงสร้างปรับฐาน
SET ดีดตัวขึ้นเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา ให้กราฟแท่งเทียนส่งสัญญาณ Rebound แบบ Counter attack เชิงบวก แต่ Indicators หลายตัวกลับยังคงมีทิศทางบ่งชี้ถึงความผันผวนในเชิงการอ่อนตัวต่อไป โดยเฉพาะ MACD ที่ตัดเส้นสัญญาณลงแล้วจะกดดันให้การปรับฐานของ SET มีโอกาสดำเนินต่อไป นอกจากนี้โครงสร้าง SET ยังอาจก่อตัวคล้าย Head&Shoulder ซึ่งจะทำให้กราฟปรับตัวลงสู่แนว 1,670-1,680 จุดได้ในระยะต้นสัปดาห์นี้
AECS Market Outlook : ยังอยู่ในโครงสร้างปรับฐาน
SET ดีดตัวขึ้นเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา ให้กราฟแท่งเทียนส่งสัญญาณ Rebound แบบ Counter attack เชิงบวก แต่ Indicators หลายตัวกลับยังคงมีทิศทางบ่งชี้ถึงความผันผวนในเชิงการอ่อนตัวต่อไป โดยเฉพาะ MACD ที่ตัดเส้นสัญญาณลงแล้วจะกดดันให้การปรับฐานของ SET มีโอกาสดำเนินต่อไป นอกจากนี้โครงสร้าง SET ยังอาจก่อตัวคล้าย Head&Shoulder ซึ่งจะทำให้กราฟปรับตัวลงสู่แนว 1,670-1,680 จุดได้ในระยะต้นสัปดาห์นี้
กลยุทธ์
1. ลดการถือครองหุ้นใหญ่ที่ต้นทุนสูงระยะ 1 สัปดาห์
2. ลดการถือครองตามจุดที่หลุด หากหลุด 1,670 จุด ถือหุ้น 75%
3. หากปิดต่ำกว่าเปิด ให้ถือหุ้นกลับบ้านน้อยลง
1. ลดการถือครองหุ้นใหญ่ที่ต้นทุนสูงระยะ 1 สัปดาห์
2. ลดการถือครองตามจุดที่หลุด หากหลุด 1,670 จุด ถือหุ้น 75%
3. หากปิดต่ำกว่าเปิด ให้ถือหุ้นกลับบ้านน้อยลง
บทสรุปการลงทุน:
SET คาดยังมีแรงกดดันจากสัญญาณขายที่เกิดขึ้นใน MACD
SET Closed: 1,692.58
Support: 1,670 1,680
Resistant: 1,696 1,700
SET คาดยังมีแรงกดดันจากสัญญาณขายที่เกิดขึ้นใน MACD
SET Closed: 1,692.58
Support: 1,670 1,680
Resistant: 1,696 1,700
BIG กำลังไปใน W-shape
ราคาปิด 3.90 บาท
แนวรับ 3.86 บาท แนวต้าน: 4.00 บาท
Stop Loss : เมื่อหลุด 3.82 บาท
ราคาปิด 3.90 บาท
แนวรับ 3.86 บาท แนวต้าน: 4.00 บาท
Stop Loss : เมื่อหลุด 3.82 บาท
BIG (week) ฟอร์มตัวเป็น W-shape ขณะที่ Stochastic เกิด Buy signal สนับสนุนการปรับตัวสูงขึ้นนี้ โดยมีแนวต้านที่มีโอกาสขึ้นทดสอบได้ที่ 5 บาท แนะนำ "ซื้อสะสม"
บล.เออีซี : Derivatives Signals
SET50 Index Futures
มุมมองทางทฤษฎี: ตลาดกลับมามีมุมมองเป็นบวกต่อดัชนี
BASIS (S50Z17-SET50): เมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมานี้ Spot ปิดบวกน้อยกว่า S50Z17 ส่งผลให้ Basis เพิ่มขึ้นจากวันก่อนหน้า 2.30 จุด โดยปัจจุบันอยู่ที่ระดับ +3.43 จุด มากกว่า Theory Basis ที่ +1.79 จุด สะท้อนระยะกลาง (3 เดือน) ตลาดกลับมามีมุมมองเป็นบวกต่อ SET50 Index ส่วน Calendar Spread (S50H18-S50Z17) เพิ่มขึ้นจากวันก่อนหน้า 0.4 จุด โดยปัจจุบันอยู่ที่ระดับ +1.00 จุด มากกว่า Theory Spread ที่ -2.95 จุด
PUT/CALL Ratio: ปัจจุบันอัตราส่วนการเทรด SET50 Index Option ฝั่ง PUT เทียบกับฝั่ง CALL พบว่าปริมาณซื้อขาย (Volume) อยู่ที่ 1.22x เพิ่มขึ้นจากวันก่อนหน้า 0.23x ขณะที่ฝั่งสถานะคงค้าง (Open Interest) ปัจจุบันอยู่ที่ 1.25x ลดลงจากวันก่อนหน้า 0.05x ซึ่งเราให้น้ำหนักกับการเปลี่ยนแปลงของ OI มากกว่า Volume เพราะแสดงให้เห็นถึงอุปสงค์ที่แท้จริง ดังนั้นสรุปว่านักลงทุนมีความต้องการป้องกันความเสี่ยงขาลงน้อยกว่าเดิมเมื่อเทียบกับวันก่อนหน้า
Fund Flow Analysis: แม้เมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมานี้นักลงทุนต่างชาติ Net LONG 922 สัญญา ใน Index Futures ส่งผลให้ Quarter to Date (QTD) มีสถานะ Net Short ใน Index Futures ลดลงเหลือ 39,793 แต่กลับขายสุทธิในตลาดหุ้น 3,275.52 ล้านบาท ทั้งนี้โดยรวม Exposure ใน QTD ของนักลงทุนต่างชาติฝั่งตลาดทุน (หุ้น + Index Futures) มีสถานะขายสุทธิเพิ่มเป็น 8,856.8 ล้านบาท บ่งชี้นักลงทุนต่างชาติยังมีมุมมองเป็นลบต่อตลาดทุนไทย
BASIS (S50Z17-SET50): เมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมานี้ Spot ปิดบวกน้อยกว่า S50Z17 ส่งผลให้ Basis เพิ่มขึ้นจากวันก่อนหน้า 2.30 จุด โดยปัจจุบันอยู่ที่ระดับ +3.43 จุด มากกว่า Theory Basis ที่ +1.79 จุด สะท้อนระยะกลาง (3 เดือน) ตลาดกลับมามีมุมมองเป็นบวกต่อ SET50 Index ส่วน Calendar Spread (S50H18-S50Z17) เพิ่มขึ้นจากวันก่อนหน้า 0.4 จุด โดยปัจจุบันอยู่ที่ระดับ +1.00 จุด มากกว่า Theory Spread ที่ -2.95 จุด
PUT/CALL Ratio: ปัจจุบันอัตราส่วนการเทรด SET50 Index Option ฝั่ง PUT เทียบกับฝั่ง CALL พบว่าปริมาณซื้อขาย (Volume) อยู่ที่ 1.22x เพิ่มขึ้นจากวันก่อนหน้า 0.23x ขณะที่ฝั่งสถานะคงค้าง (Open Interest) ปัจจุบันอยู่ที่ 1.25x ลดลงจากวันก่อนหน้า 0.05x ซึ่งเราให้น้ำหนักกับการเปลี่ยนแปลงของ OI มากกว่า Volume เพราะแสดงให้เห็นถึงอุปสงค์ที่แท้จริง ดังนั้นสรุปว่านักลงทุนมีความต้องการป้องกันความเสี่ยงขาลงน้อยกว่าเดิมเมื่อเทียบกับวันก่อนหน้า
Fund Flow Analysis: แม้เมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมานี้นักลงทุนต่างชาติ Net LONG 922 สัญญา ใน Index Futures ส่งผลให้ Quarter to Date (QTD) มีสถานะ Net Short ใน Index Futures ลดลงเหลือ 39,793 แต่กลับขายสุทธิในตลาดหุ้น 3,275.52 ล้านบาท ทั้งนี้โดยรวม Exposure ใน QTD ของนักลงทุนต่างชาติฝั่งตลาดทุน (หุ้น + Index Futures) มีสถานะขายสุทธิเพิ่มเป็น 8,856.8 ล้านบาท บ่งชี้นักลงทุนต่างชาติยังมีมุมมองเป็นลบต่อตลาดทุนไทย
Technical Analysis
มุมมองด้านเทคนิค: รีบาวด์เพื่อลงต่อ
เมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมานี้ S50Z17 เปิดเช้าแกว่งลงแป๊บเดียวแล้วค่อยๆแกว่งขึ้น โดยปลายสัปดาห์ที่ผ่านมาดัชนีลงแรงจนทำให้กราฟแท่งเทียนเสียทรงขาขึ้น อีกทั้งกราฟรายวัน ค่า MACD ตัดค่า Signal ลงแล้ว ทำให้สัปดาห์นี้เรายังคงมองว่าดัชนีมีโอกาสปรับฐานต่อ เราจึงแนะนำกลยุทธ์ดังนี้ 1) หากรีบาวด์รอจังหวะเปิด Short แถวๆ 1,092 จุด โดยตั้งจุด Stop Loss ที่ 1,095 จุด และ 2) หากหลุดแนวรับ 1,070 จุด กด Short ตาม หวังลงต่อทดสอบแนวรับเส้นระนาบที่ 1,064 จุด และ 1,053 จุด ตามลำดับ
มุมมองด้านเทคนิค: รีบาวด์เพื่อลงต่อ
เมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมานี้ S50Z17 เปิดเช้าแกว่งลงแป๊บเดียวแล้วค่อยๆแกว่งขึ้น โดยปลายสัปดาห์ที่ผ่านมาดัชนีลงแรงจนทำให้กราฟแท่งเทียนเสียทรงขาขึ้น อีกทั้งกราฟรายวัน ค่า MACD ตัดค่า Signal ลงแล้ว ทำให้สัปดาห์นี้เรายังคงมองว่าดัชนีมีโอกาสปรับฐานต่อ เราจึงแนะนำกลยุทธ์ดังนี้ 1) หากรีบาวด์รอจังหวะเปิด Short แถวๆ 1,092 จุด โดยตั้งจุด Stop Loss ที่ 1,095 จุด และ 2) หากหลุดแนวรับ 1,070 จุด กด Short ตาม หวังลงต่อทดสอบแนวรับเส้นระนาบที่ 1,064 จุด และ 1,053 จุด ตามลำดับ
กลยุทธ์การลงทุน
Outright Trading: หาจังหวะ Short S50Z17 ดังนี้ 1) เด้งขึ้นแถวต้าน 1,092 เป็นจังหวะเปิด Short รอบใหม่ และ 2) หลุดรับ 1,070 กด Short ตามน้ำ
Outright Trading: หาจังหวะ Short S50Z17 ดังนี้ 1) เด้งขึ้นแถวต้าน 1,092 เป็นจังหวะเปิด Short รอบใหม่ และ 2) หลุดรับ 1,070 กด Short ตามน้ำ
AEC Securities
Technical Research Team
Technical Research Team
อิศรา เลิศสุดคนึง
Analyst ID: 033432
Analyst ID: 033432
บล.เออีซี : Daily Focus
AECS Daily Focus
Technical: ยังอยู่ในโครงสร้างปรับฐาน
Trading Idea: BIG
เด็กแนว: ZIGA, SSP
---------------------------------------------------------------------------------
Connect the World– (P.2)
• สหรัฐฯ ปิดในแดนลบหลังผลประกอบการหุ้นกลุ่มเทคโนโลยีออกมาแย่
Technical: ยังอยู่ในโครงสร้างปรับฐาน
Trading Idea: BIG
เด็กแนว: ZIGA, SSP
---------------------------------------------------------------------------------
Connect the World– (P.2)
• สหรัฐฯ ปิดในแดนลบหลังผลประกอบการหุ้นกลุ่มเทคโนโลยีออกมาแย่
Market Outlook
• สัปดาห์นี้คาด SET แกว่งตัว Sideway ในกรอบ 1,680-1,715 จุด จากบรรยากาศซื้อขายที่ซบเซาในช่วงไว้อาลัย อีกทั้งอยู่ระหว่างรอปัจจัยหนุนใหม่และงบ 3Q60 บจ. ที่ทยอยออกมา
Market Factors
• (-) ดัชนี DJIA ปิด -0.23%DoD หลังผลประกอบการบริษัทช่วง 3Q60 ที่ทยอยประกาศออกมาแย่กว่าคาด
• (+) ราคาน้ำมัน WTI ปิด +0.1%DoD หลังจำนวนแท่นขุดเจาะน้ำมันสหรัฐฯ ลดลง 7 แท่นต่อเนื่องเป็นสัปดาห์ที่ 3 บวกกับความตึงเครียดในอิหร่านที่ยังไม่คลี่คลาย
• (+) นายชินโช อาเบะ พรรครัฐบาลญี่ปุ่น ได้รับชัยชนะในการเลือกตั้งทั่วไปเมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมา ด้วยคะแนนเสียงกว่า 2/3 หนุนคาดคงนโยบายการเงินแบบผ่อนคลาย
• (+/-) สัปดาห์นี้ติดตามข้อมูล ศก.สหรัฐฯ อาทิ ดัชนีราคาบ้าน, ดัชนีกิจกรรมเศรษฐกิจทั่วประเทศ และ ดัชนีฝ่ายจัดซื้อ Markit PMI
• สัปดาห์นี้คาด SET แกว่งตัว Sideway ในกรอบ 1,680-1,715 จุด จากบรรยากาศซื้อขายที่ซบเซาในช่วงไว้อาลัย อีกทั้งอยู่ระหว่างรอปัจจัยหนุนใหม่และงบ 3Q60 บจ. ที่ทยอยออกมา
Market Factors
• (-) ดัชนี DJIA ปิด -0.23%DoD หลังผลประกอบการบริษัทช่วง 3Q60 ที่ทยอยประกาศออกมาแย่กว่าคาด
• (+) ราคาน้ำมัน WTI ปิด +0.1%DoD หลังจำนวนแท่นขุดเจาะน้ำมันสหรัฐฯ ลดลง 7 แท่นต่อเนื่องเป็นสัปดาห์ที่ 3 บวกกับความตึงเครียดในอิหร่านที่ยังไม่คลี่คลาย
• (+) นายชินโช อาเบะ พรรครัฐบาลญี่ปุ่น ได้รับชัยชนะในการเลือกตั้งทั่วไปเมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมา ด้วยคะแนนเสียงกว่า 2/3 หนุนคาดคงนโยบายการเงินแบบผ่อนคลาย
• (+/-) สัปดาห์นี้ติดตามข้อมูล ศก.สหรัฐฯ อาทิ ดัชนีราคาบ้าน, ดัชนีกิจกรรมเศรษฐกิจทั่วประเทศ และ ดัชนีฝ่ายจัดซื้อ Markit PMI
Investment Strategy
• เรามองระยะยาวตลาดหุ้นไทยยังคงอยู่ในทิศทางขาขึ้นหลังสถานการณ์การเมืองและภาวะ ศก. มีสัญญาณที่ดีขึ้นชัดเจน อีกทั้งยังมีเม็ดเงินจากกองทุน LTF และ RMF ที่กำลังจะเริ่มทยอยไหลเข้าในช่วงสองเดือนสุดท้ายของปี กลยุทธ์ลงทุนจึงแนะนำ“ทยอยซื้อ เน้นช่วงอ่อนตัวและไม่ไล่ราคา” โดยเลือกหุ้น Domestic Play ที่มีศักยภาพเติบโตดี, Laggard หรือมีปัจจัยบวกเฉพาะดังนี้กลุ่มธนาคาร (KKP, BBL, TMB), กลุ่มนิคม (AMATA, WHA), กลุ่มโรงแรม (ERW, MINT) , กลุ่ม รพ.(BCH, LPH), กลุ่มค้าปลีก (CPALL, BEAUTY, HMPRO) และกลุ่ม Mid-Small Cap (ZIGA, WICE, JWD, JUBILE)
• กลุ่มเรือเทกอง (Trading Buy): อานิสงส์บวกจากดัชนี BDI ปรับเพิ่มขึ้นราว 65.6%YTD ขณะที่ต้นทุนน้ำมัน NYMEX ปรับลดลงราว 3.1%YTD เลือก TTA (Consensus [email protected]) และ PSL (Upper Band Consensus [email protected])
• เรามองระยะยาวตลาดหุ้นไทยยังคงอยู่ในทิศทางขาขึ้นหลังสถานการณ์การเมืองและภาวะ ศก. มีสัญญาณที่ดีขึ้นชัดเจน อีกทั้งยังมีเม็ดเงินจากกองทุน LTF และ RMF ที่กำลังจะเริ่มทยอยไหลเข้าในช่วงสองเดือนสุดท้ายของปี กลยุทธ์ลงทุนจึงแนะนำ“ทยอยซื้อ เน้นช่วงอ่อนตัวและไม่ไล่ราคา” โดยเลือกหุ้น Domestic Play ที่มีศักยภาพเติบโตดี, Laggard หรือมีปัจจัยบวกเฉพาะดังนี้กลุ่มธนาคาร (KKP, BBL, TMB), กลุ่มนิคม (AMATA, WHA), กลุ่มโรงแรม (ERW, MINT) , กลุ่ม รพ.(BCH, LPH), กลุ่มค้าปลีก (CPALL, BEAUTY, HMPRO) และกลุ่ม Mid-Small Cap (ZIGA, WICE, JWD, JUBILE)
• กลุ่มเรือเทกอง (Trading Buy): อานิสงส์บวกจากดัชนี BDI ปรับเพิ่มขึ้นราว 65.6%YTD ขณะที่ต้นทุนน้ำมัน NYMEX ปรับลดลงราว 3.1%YTD เลือก TTA (Consensus [email protected]) และ PSL (Upper Band Consensus [email protected])
Market Talk and News
• ANAN (BUY:[email protected]): ช่วง 3Q60 คาดกำไรฟื้นตัวต่อเนื่อง QoQ และเข้าสู่พีคช่วง 4Q60ด้วย Backlog 11 โครงการใหม่ที่เริ่มโอนในช่วง 2H60 มูลค่า 1.75 หมื่น ลบ.อีกทั้งส่วนแบ่งกำไร (ขาดทุน) จากการร่วมทุนคาดพลิกกำไรจากการเริ่มโอน 5 โครงการซึ่งคาดหนุนปีนี้มีกำไรปกติโต 22.8%YoY + Upside 15.8% และมี Div. Yield ปีนี้ 2.8% คงแนะนำ “ซื้อ”
• RJH (BUY: Consensus [email protected]) ปี 60-62 คาดกำไรโตเฉลี่ยปีละ 17.9% หนุนด้วยอานิสงส์การปรับขึ้นค่าบริการของสำนักงานประกันสังคม และแผนขยายกำลังการให้บริการ โดยตั้งเป้าปี 63 ทั้ง รพ.ราชธานีและรพ.ราชธานีโรจนะจะมีจำนวนเตียงรวม 500 เตียง (จากปี 59 ที่ 185 เตียง) + มี Upside 25.1% และคาดให้ Div.Yield ในช่วง 2H60 ที่ 0.76%
• MACO (BUY: Consensus [email protected]): ปี 60-61 คาดกำไรโตเฉลี่ยปีละ 63.3% หนุนด้วยเม็ดเงินโฆษณาในสื่อนอกบ้านที่โตดี (ช่วง 9M60 โต 12.7%YoY สวนทางอุตสาหกรรมสื่อที่หดตัว 8.7%YoY) พร้อมแผนขยายสื่อดิจิตอลให้ครอบคลุมพื้นที่ CBD มากขึ้น โดยตั้งเป้าติดตั้งจอ LED เพิ่มอีก 50 จอภายในปี 61 (ณ สิ้นช่วง 3Q60 มี 21 จอ) + Upside 16.3%
• Quantitative Screening
หุ้น High Alpha ซึ่งคาด Outperform ตลาดวันนี้เลือก EA, LH
• ANAN (BUY:[email protected]): ช่วง 3Q60 คาดกำไรฟื้นตัวต่อเนื่อง QoQ และเข้าสู่พีคช่วง 4Q60ด้วย Backlog 11 โครงการใหม่ที่เริ่มโอนในช่วง 2H60 มูลค่า 1.75 หมื่น ลบ.อีกทั้งส่วนแบ่งกำไร (ขาดทุน) จากการร่วมทุนคาดพลิกกำไรจากการเริ่มโอน 5 โครงการซึ่งคาดหนุนปีนี้มีกำไรปกติโต 22.8%YoY + Upside 15.8% และมี Div. Yield ปีนี้ 2.8% คงแนะนำ “ซื้อ”
• RJH (BUY: Consensus [email protected]) ปี 60-62 คาดกำไรโตเฉลี่ยปีละ 17.9% หนุนด้วยอานิสงส์การปรับขึ้นค่าบริการของสำนักงานประกันสังคม และแผนขยายกำลังการให้บริการ โดยตั้งเป้าปี 63 ทั้ง รพ.ราชธานีและรพ.ราชธานีโรจนะจะมีจำนวนเตียงรวม 500 เตียง (จากปี 59 ที่ 185 เตียง) + มี Upside 25.1% และคาดให้ Div.Yield ในช่วง 2H60 ที่ 0.76%
• MACO (BUY: Consensus [email protected]): ปี 60-61 คาดกำไรโตเฉลี่ยปีละ 63.3% หนุนด้วยเม็ดเงินโฆษณาในสื่อนอกบ้านที่โตดี (ช่วง 9M60 โต 12.7%YoY สวนทางอุตสาหกรรมสื่อที่หดตัว 8.7%YoY) พร้อมแผนขยายสื่อดิจิตอลให้ครอบคลุมพื้นที่ CBD มากขึ้น โดยตั้งเป้าติดตั้งจอ LED เพิ่มอีก 50 จอภายในปี 61 (ณ สิ้นช่วง 3Q60 มี 21 จอ) + Upside 16.3%
• Quantitative Screening
หุ้น High Alpha ซึ่งคาด Outperform ตลาดวันนี้เลือก EA, LH
20-Oct-17 Change (pts.) 19-Oct-17
SET Index 1,692.58 9.15 1,683.43
SET50 Index 1,079.07 4.70 1,074.37
SET100 Index 2,430.09 11.84 2,418.25
High 1,578.96 Gainers 807
Low 1,574.71 Unchanged 344
Value (Bt m) 68,766.14 Losers 621
Volume (*000) 11,052,411
Low 1,574.71 Unchanged 344
Value (Bt m) 68,766.14 Losers 621
Volume (*000) 11,052,411
Market Valuation
SET Data 2017F 2018F Long Term
Fwd PER (x) 16.83 15.28 13.87
EPS Growth (%) 5.82 10.19 10.11
EV/EBITDA (x) 11.02 10.08 9.57
FWD PBV (x) 1.97 1.82 1.70
Dividend Yield (%) 2.81 2.95 3.23
ROE 10.21 10.74 11.31
SET Data 2017F 2018F Long Term
Fwd PER (x) 16.83 15.28 13.87
EPS Growth (%) 5.82 10.19 10.11
EV/EBITDA (x) 11.02 10.08 9.57
FWD PBV (x) 1.97 1.82 1.70
Dividend Yield (%) 2.81 2.95 3.23
ROE 10.21 10.74 11.31
Net Buy/Sell by Investor Types
Unit : M Bt 20-Oct-17 WTD MTD YTD
Institution 313.15 (5,261.72) (2,822.96) 59,700.14
Proprietary 144.24 (1,250.40) 1,675.86 11,748.38
Foreign (3,275.52) (7,197.05) (145.96) 9,515.39
Individual 2,818.13 13,709.17 1,293.07 (80,963.91)
Unit : M Bt 20-Oct-17 WTD MTD YTD
Institution 313.15 (5,261.72) (2,822.96) 59,700.14
Proprietary 144.24 (1,250.40) 1,675.86 11,748.38
Foreign (3,275.52) (7,197.05) (145.96) 9,515.39
Individual 2,818.13 13,709.17 1,293.07 (80,963.91)
AECS ( Fundamental and Strategic Team )
รณกฤต สารินวงศ์ (ID. 012234) [email protected]
ณัฏฐ์วริน ไตรภพสกุล (ID. 027445) [email protected]
อิศรา เลิศสุดคนึง (ID.033432) [email protected]
ตฤณ สิทธิสวัสดิ์ (ID. 091364) [email protected]
จิรภัทร โบสุวรรณ (ID. 040051) [email protected]
สุวรรณา อัศวเหล่าวรพงศ์ Data Support / Secretary
OO1584
ณัฏฐ์วริน ไตรภพสกุล (ID. 027445) [email protected]
อิศรา เลิศสุดคนึง (ID.033432) [email protected]
ตฤณ สิทธิสวัสดิ์ (ID. 091364) [email protected]
จิรภัทร โบสุวรรณ (ID. 040051) [email protected]
สุวรรณา อัศวเหล่าวรพงศ์ Data Support / Secretary
OO1584