- Details
- Category: ซุบซิบการลงทุน
- Published: Wednesday, 06 September 2017 18:14
- Hits: 5994
บล.เออีซี : เด็กแนว
เด็กแนว : วิ่งยาววิ่งแรง
- MGT ปลดแคช ไปต่อ
ถือว่ารอบก่อนเราได้ไม้แรกสำหรับหุ้นตัวนี้ไปแล้ว วิ่งยาววิ่งแรง จนติดแคช ประเด็นไม่ใช่เรื่องผลประกอบการ แต่เป็นเรื่องการขยายธุรกิจและความโดดเด่นของสินค้า ซึ่งเป็นส่วนผสมทางเคมีต่างๆ รวมทั้งโอกาสบุกธุรกิจด้านความงาม แต่ที่แรงฝุดๆ เห็นจะเป็นเรื่องที่บริษัทมีแผนจะเข้า Take over บริษัทนอกตลาด ซึ่งมีขนาดของรายการไม่แพ้ของตัวเอง และทำให้ตลาดด้านสารเคมีกว้างขึ้นมาก เป็นตัวผลักดันให้ราคหุ้นโดดเด่นมาก รอบนี้ปลดแคชแล้วราคาหุ้นมีแวววิ่งกลับมาลุยกันต่อ มีโอกาสที่จะ Break out ไป New high ไม่ยาก ต้านสำคัญ 3.80 บาท ถ้าผ่านได้วิ่งยาว มือใครยาว สาวได้สาวเอา แต่ไม่ใช่ไม้แรกนะ รอบนี้ Follow Water
- AMC ไม้ต้น ๆ ถูกจุงเบย
หุ้นเหล็ก มีแววจะกลับมาร้อนแรงอีกครั้งจากนี้ เมื่อราคาเหล็กในตลาดโลกเดินหน้าสูงขึ้นกว่าช่วงที่ผ่านมา ส่งผลให้บริษัทค้าเหล็กมีต้นทุนราคาที่ต่ำกว่าราคาขาย นั่นหมายถึงอัตรา Margin สูงนั่นเอง อีกทั้งเป็นกลุ่มที่ราคาหุ้นไหลลงมาร่วมเท่าตัวและค่า PE ต่ำมาก เด็กแนวว่านี่คือจุดเล่นครั้งใหม่ที่ซื้อได้ในราคาสบายกระเป๋า
ขณะที่ AMC จะมีประเด็นร้อนจากบริษัทลูก Prime Steel ที่เตรียมเข้าตลาดส่งผลบวกในแง่ Hidden Asset ในอนาคต ประกอบกับมี PBV เพียง 0.87 เท่า ถูกแบบนี้ ไม่ซื้อเสียดายแย่ ด้านกราฟที่อ่อนตัวลงมาร่วม 100% จากต้นปีเข้าสู่แนว Oversold และกำลังม้วนตัวขึ้นแล้ว โดยมีต้านแรกจากตรงนี้ที่ 3.80 บาท แนะนำ "ซื้อสะสม"
AEC Securities
รณกฤต สารินวงศ์
Head of Research
ID: 012234
[email protected]
บล.เออีซี : Derivatives Signals
SET50 Index Futures
มุมมองทางทฤษฎี: ตลาดยังกังวลแรงขายทำกำไร
BASIS (S50U17-SET50): เมื่อวานนี้ Spot ลง แต่ S50U17 ขึ้น ส่งผลให้ Basis เพิ่มขึ้นจากวันก่อนหน้า 0.61 จุด โดยปัจจุบันอยู่ที่ระดับ 1.21 จุด สูงกว่า Theory Basis ที่ -0.08 จุด สะท้อนมุมมองเป็นบวกในระยะสั้นของนักลงทุนที่มีต่อ SET50 Index (อัพเดทผลกระทบจากการจ่ายเงินปันผลระหว่างกาล โดยข้อมูลจาก Bloomberg พบว่าในเดือน ก.ย. 60 หุ้นในกลุ่ม SET50 จะขึ้นเครื่องหมาย XD ทั้งหมด 6 บมจ. และคาดกระทบ SET50 Index 1.01 จุด)
PUT/CALL Ratio: แม้ปัจจุบันอัตราส่วนการเทรด SET50 Index Option ฝั่ง PUT เทียบกับฝั่ง CALL พบว่าปริมาณซื้อขาย (Volume) อยู่ที่ 1.38x ลดลงจากวันก่อนหน้า 0.56x และฝั่งสถานะคงค้าง (Open Interest) ปัจจุบันอยู่ที่ 1.62x ลดลงจากวันก่อนหน้า 0.03x อย่างไรก็ดีค่าปัจจุบัน PUT/CALL Ratio ฝั่ง OI มากกว่าค่าเฉลี่ยในอดีต บ่งชี้ถึงสถาวะความกลัวดัชนีจะปรับตัวลง หรือความกลัวว่าจะเป็นสภาวะ Bearish (ดูรายละเอียดหน้า 2)
Fund Flow Analysis: เมื่อวานนี้นักลงทุนต่างชาติซื้อสุทธิในตลาดหุ้น 348 ล้านบาท แต่กลับมา Short 3,960 สัญญา ใน Index Futures ส่งผลให้ Year to Date (YTD) มีสถานะ Net Short ใน Index Futures เพิ่มเป็น 44,950 สัญญา และ ส่งผลให้โดยรวม Exposure ของนักลงทุนต่างชาติในฝั่งตลาดทุน (หุ้น + Index Futures) เท่ากับขายสุทธิ 4,907.6 ล้านบาท บ่งชี้นักลงทุนต่างชาติมีมุมมองเป็นลบต่อตลาดทุนไทย
Technical Analysis
มุมมองด้านเทคนิค: ระวังแรง Take Profit เพราะ Sentiment ไม่ดี
แม้เมื่อวานนี้ S50U17 จะพยายามปรับตัวขึ้นต่อ แต่โมเมนตัมขาขึ้นหมดแรงแล้ว โดยดัชนียังคงไม่สามารถทะลุผ่านแนวต้าน 1,040 จุด นอกจากทางเทคนิคจะมีความกังวลจากสัญญาณ Overbought ผ่าน RSI และ Modified Stochastic พร้อมกับแรงขายทำกำไรออกมาจากฝั่งนักลงทุนต่างชาติติดต่อกันเป็นวันที่ 6 อีกทั้งวันนี้ตลาดหุ้นทั่วโลกได้รับ Sentiment เชิงลบจากความกังวลปัญหาคาบสมุทรเกาหลี ดังนั้นวันนี้เรามองว่า S50U17 จะเผชิญแรงขายกดดันให้ปรับตัวลงอีกครั้ง โดยมีแนวรับที่ 1,025 จุด ซึ่งเป็นแนวรับที่มีนัยสำคัญ เพราะอดีตเคยเป็นแนวต้านกรอบบน Uptrend Channel โดยหากหลุดอาจทำให้ S50U17 กลับลงมาเทรดตรงกรอบ Uptrend Channel เดิม โดยมีแนวรับถัดไปที่ 1,000 จุด (แนวรับกรอบล่าง Uptrend Channel และแนวรับจิตวิทยา)
กลยุทธ์การลงทุน
Outright Trading: นักเก็งกำไรระยะสั้น Trading Short เมื่อดัชนีเข้าใกล้แนวต้าน 1,040 จุด โดยมีแนวรับ 1,025 จุด และตั้ง Stop loss หากสูงกว่า 1,043 จุด
Spread Trading: เปิด Short Spread S50U17Z17 (Short S50Z17 Long S50U17) เมื่อ Spread สูงกว่า +4.7 จุด เพื่อรอปิดสถานะทำกำไรเมื่อ Spread ลงมาต่ำกว่า +2.7 จุด และ Stop Loss หากขาดทุนเกิน 0.5 จุด
AEC Securities
Technical Research Team
อิศรา เลิศสุดคนึง Analyst ID: 033432
บล.เออีซี : Action Strategy
AECS Market Outlook : แกว่งตัวกรอบแคบ
SET ยังคงแกว่งตัวในกรอบแคบ โดยปรับตัวขึ้นตั้งแต่ระยะต้นตลาด จากนั้นทดสอบ 1,623 จุด เป็นจำนวนมากกว่า 5 ครั้งระหว่างวันแต่ไม่สามารถผ่านไปได้ จึงทำให้เกิดแรงกดดันให้ปิดต่ำลง และกราฟแท่งเทียนปรับรูปแบบเป็นอ่อนตัว ขณะที่กราฟ 90 นาทีจะเห็นแนว Triple Top ที่เป็นแนวต้านสำคัญของรอบนี้ระหว่าง 1,623-1,625 จุด และมี Pattern ของการยกฐานสูงขึ้น แต่ MACD รวมถึง Indicators อื่นๆ กลับปักหัวลงแบบ Divergence เชิงลบ บ่งบอกว่า SET ไม่สามารถจะไปได้สูงกว่านี้ และมีโอกาสอ่อนตัวลง หากหลุด 1,610 จุด จะทำให้รอบการปรับขึ้นจบลง
กลยุทธ์ (เหมือนเดิม)
1. เก็งกำไรอย่างระมัดระวัง เน้นการลดพอร์ตจากนี้ไป
2. หากปิดต่ำกว่าเปิดให้ถือหุ้นน้อยลง หากปิดสูงกว่าเปิดให้ถือหุ้นข้ามวัน
3. เน้นการลดน้ำหนักหุ้น
บทสรุปการลงทุน:
SET ส่งสัญญาณเชิงลบ โอกาสย่อตัว
SET Closed: 1,620.42
Support: 1,610 1,615
Resistant: 1,625 1,630
ECL ตั้งแนวขึ้นใหม่
ราคาปิด 3.60 บาท
แนวรับ 3.56 บาท แนวต้าน: 3.80, 4.20 บาท
Stop Loss : เมื่อหลุด 3.52 บาท
กราฟ ECL ส่งสัญญาณการดีดตัวทางเทคนิค โดยฟอร์มตัวแบบสามเหลี่ยม โดยมี Stochastic โค้งตัวทำท่าจะดีดขึ้นสนับสนุนการปรับขึ้นนี้ มีแนวต้านสูงถึง 4.20 บาท แนะนำ "ซื้อเก็งกำไร"
AEC Securities
รณกฤต สารินวงศ์
Head of Research
ID: 012234
[email protected]
บล.เออีซี : Daily Focus
AECS Daily Focus
Technical: แกว่งตัวกรอบแคบ
Trading Idea: ECL
เด็กแนว: MGT, AMC
---------------------------------------------------------------------------------
Connect the World–
• ตลาดหุ้นสหรัฐฯ ปิดลบจากความกังวลในคาบสมุทรเกาหลี ขณะที่น้ำมันดีดตัว 3%
Market Outlook
• วันนี้คาด SET แกว่งตัวระหว่าง 1,610-1,625 จุด โดยมองดัชนีมีโอกาส Sideway-Sideway Down จากสถานการณ์ตึงเครียดบนคาบสมุทรเกาหลี และยังรอปัจจัยบวกใหม่ๆ
Market Factors
• (-) ดัชนี DJIA ปิด -1.07%DoD หลังวิตกการทดสอบอาวุธนิวเคลียร์ของเกาหลีเหนือและเผขิญแรงกดดันจากความล่าช้าในการผลักดันมาตรการกระตุ้นศก. ของนายโดนัล ทรัมป์
• (+) ราคาน้ำมัน WTI ปิด +2.9%DoD หลังโรงกลั่นบางแห่งในแถบอีสต์โคสต์เริ่มกลับมาดำเนินการผลิตอีกครั้งและรับข่าวรัสเซียและซาอุฯ กำลังเจรจาขยายเวลาปรับลดกำลังผลิต
• (+/-) วันนี้บอร์ดดีอีมีการประชุมวาระสำคัญเรื่อง โครงการพัฒนาเมืองอัจฉริยะ เพื่อเสนอนำสายสื่อสารของ TOT ลงใต้ดิน (โครงการท่อร้อยสาย) ซึ่งมีระยะทางราว 2 พัน กม.
• (+/-) วันนี้ติดตามข้อมูล ศก. สหรัฐฯ ที่สำคัญ ได้แก่ ดุลการค้าเดือน ก.ค., ดัชนี PMI ภาคบริการ และรายงานสรุปภาวะ ศก. (Beige Book) จากเฟด
Investment Strategy
• สัปดาห์นี้มองการขึ้นของดัชนีมีจำกัดการลงทุนไม่เหมาะกับทุ่มพอร์ตกลยุทธ์ลงทุนเน้น “เก็งกำไรเล่นสั้น”โดยกำหนดจุด Stop Loss หาก SET ปิดต่ำกว่า 1,600 จุด อย่างไรก็ดี นักลงทุนระยะกลาง-ยาวยัง Let Profit Run พร้อมหาจังหวะซื้อหุ้นที่มีปัจจัยเด่นเฉพาะ ดังนี้
1) กลุ่มรับเหมาฯ ซึ่งคาดได้ประโยชน์จากการเริ่มเปิดประมูล e-auction รถไฟทางคู่สายต่างๆ ในช่วงวันที่ 1-10 ก.ย. นี้ มูลค่าราว 7.3 หมื่นลบ. : STEC, CK, ITD, UNIQ
2) หุ้นซึ่งคาดได้ประโยชน์จากนโยบาย EEC :กลุ่มนิคม AMATA, WHA กลุ่มโลจิสติกส์JWD, WICE
3) หุ้นที่กำไรครึ่งปีหลังแนวโน้มโตสดใส :CBG, CPN, BCH, LIT, CPALL, COM7
Market Talk and News
• STEC (BUY:Consensus [email protected]): ปี 60-61 คาดกำไรโตเฉลี่ยปีละ 6.7% จาก Backlog ในมือ 1 แสน ลบ. ซึ่งคาดรับรู้ได้ถึงปี 63 และล่าสุดได้งานสร้างรถไฟทางคู่สายประจวบฯ-ชุมพร สัญญา 2 มูลค่า 5.99 พัน ลบ. อีกทั้งมี Upside Risk จากเข้าร่วม e-Auction รถไฟทางคู่สายลพบุรี-ปากน้ำโพ ราคากลาง 1.01 หมื่น ลบ.ในวันที่ 7 ก.ย. + Upside 19.4%
• TTW (BUY:[email protected]) : ช่วง 2H60 คาดกำไรดีขึ้นทั้ง YoY และ HoH หลังยอดจ่ายน้ำใน พื้นที่ให้บริการเพิ่มขึ้นหลังร่วมบริหารจัดการน้ำกับ กปภ. และคาดส่วนแบ่งกำไรจาก CKP จะดีขึ้นหลัง BIC2 เริ่ม COD ตั้งแต่ มิ.ย. 60 หนุนให้ปีนี้คาดกำไรพลิกโต 7.1%YoY และโตต่อ 3.9%YoY ในปี 61 + Upside 8.3% และคาดให้ Div. Yield ราวปีละ 6% แนะนำ “ซื้อ”
• WHAUP (BUY:Consensus [email protected]) : ด้วยแรงหนุนจากการ COD โรงไฟฟ้า กัลฟ์ ทีเอส 2 กำลังผลิต 130MW เมื่อวันที่ 1 ก.ย. 60 ทำให้ปัจจุบันบริษัทมีโรงไฟฟ้าที่ COD แล้วกำลังผลิตรวม 447.1MW บวกกับ ธุรกิจสาธารณูปโภคในเขตนิคมกลุ่มเหมราช 8 แห่งยังโตต่อเนื่องด้วยการขยายตัวของโรงงานในพื้นที่และนโยบาย EEC จึงคาดหนุนกำไรปี 60-61 โตเฉลี่ยปีละ 29% + Upside 14.6% และ Div Yield. ปีนี้ 2.2% จึงแนะนำ “ซื้อ”
• MCS (BUY: Consensus [email protected]): แม้ปี 60 คาดกำไรจะหดตัว 57.6%YoY เพราะงานที่ผลิตไว้บางส่วนยังไม่ถึงเวลากำหนดส่งมอบ แต่จะพลิกกลับมาโต 103.1%YoY ในปี 61 หนุนด้วยอานิสงส์การแข่งขันกีฬาโอลิมปิก ปี 63 ที่ประเทศญี่ปุ่น ส่งผลให้ต้องเร่งส่งมอบสินค้าเหล็กโครงสร้าง + Upside 41% และคาดให้ Div. yield ปีละราว 6% จึงแนะนำ “ซื้อ”
Quantitative Screening
• หุ้น High Alpha ซึ่งคาด Outperform ตลาดวันนี้เลือก ASK, TTA
5-Sep-17 Change (pts.) 4-Sep-17
SET Index 1,620.42 1.31 1,619.11
SET50 Index 1,033.79 -0.11 1,033.90
SET100 Index 2,321.17 0.41 2,320.76
High 1,578.96 Gainers 577
Low 1,574.71 Unchanged 441
Value (Bt m) 50,346.10 Losers 645
Volume (*000) 8,628,637
Market Valuation
SET Data 2017F 2018F Long Term
Fwd PER (x) 16.12 14.60 13.30
EPS Growth (%) 5.24 10.44 9.76
EV/EBITDA (x) 10.58 9.73 9.26
FWD PBV (x) 1.92 1.80 1.68
Dividend Yield (%) 2.93 3.10 3.38
ROE 10.03 10.78 11.27
Net Buy/Sell by Investor Types
Unit : M Bt 5-Sep-17 WTD MTD YTD
Institution (1,722.32) (2,747.79) (3,351.76) 56,292.01
Proprietary 427.12 1,220.99 1,928.69 3,675.55
Foreign 348.41 1,218.71 1,371.97 4,066.95
Individual 946.79 308.10 51.11 (64,034.51)
AECS ( Fundamental and Strategic Team )
รณกฤต สารินวงศ์ (ID. 012234) [email protected]
ณัฏฐ์วริน ไตรภพสกุล (ID. 027445) [email protected]
อิศรา เลิศสุดคนึง (ID.033432) [email protected]
ตฤณ สิทธิสวัสดิ์ (ID. 091364) [email protected]
จิรภัทร โบสุวรรณ (ID. 040051) [email protected]
สุวรรณา อัศวเหล่าวรพงศ์ Data Support / Secretary