- Details
- Category: ซุบซิบการลงทุน
- Published: Wednesday, 09 August 2017 16:53
- Hits: 3321
บล.เออีซี : เด็กแนว
เด็กแนว : มีเงินสดไว้ขยายธุรกิจ
FANCY แค่ชอบก็พอแล้ว บริษัททำธุรกิจหลายตัวอยู่เหมือนกัน ไม่ใช่แค่เฟอร์นิเจอร์ไม้ แต่ทำอสังหา สนามกอล์ฟในต่างประเทศ ล่าสุดประกาศข่าวสำคัญคือการขายสนามกอล์ฟซึ่งถือโดยบริษัทลูกที่บริษัทถือหุ้นอยู่เกือบ 100% ทำให้ได้เงินเข้ามา 253 ล้านบาท คาดว่า Q3 นี้จะบันทึกตัวเลขเข้าไปยังลูกและรับรู้เข้ามาเป็นส่วนกำไร ก้อนโตให้แม่ ทำให้บริษัทโชว์ตัวเลขส่วนงามบานตะไท มีเงินสดไว้ขยายธุรกิจอื่นๆ เพิ่มเติม
นอกจากนี้ ธุรกิจอสังหาก็น่าจะมีอะไรดีๆ ในไม่ช้าคาดว่าจะรับรู้รายได้เพิ่มขึ้น สำหรับธุรกิจไม้ เคยมีข่าวว่าจีนส่งออเดอร์ล็อตโตมาให้บริษัทและเผลอๆ อาจร่วมทุนซะด้วยซ้ำ ขณะที่กระแสข่าวห้องค้าก็เคยหึ่งๆ หลายเรื่องทั้งทำโรงไฟฟ้าจากเปลือกไม้ ทั้งการถูก Back door อะไรทำนองนี้ ต้องใช้เวลาพิสูจน์ แต่เห็นทรงราคาหุ้นแล้วก็ชอบจึงมองว่ารอบใหม่มีโอกาสเกิดได้ เพราะสัญญาณซื้อในกราฟกวักมือเรียก มองต้านเบาๆ 2.60 บาท มาให้ลุ้นกัน
UWC คือจุดสะสมไม้แรกๆ ที่เขียนแบบนี้ เพราะมองว่าจากนี้ไป (หลังงบไตรมาส 2) ทุกสิ่งจะพลิกกลับมาเป็นหนังคนละม้วน ยอมรับว่าครึ่งปีแรกยังอ่วม แต่ราคาหุ้นก็ลงไปเกินคุ้มแล้วเช่นกัน ตอนนี้งานเสาส่งไฟฟ้าแรงสูง มี Backlog ทุบสถิติหลายพันล้านบาท ผู้บริหารบอกว่างานแน่นอย่างไม่เคยมีมาก่อน เพราะโรงไฟฟ้าเกิดเยอะ และรอประมูลอีกราว 3 พันล้านบาท แต่ที่เด่นกว่าเรื่องนี้ก็คือการประกาศเมื่อวานนี้เรื่องการจ่ายไฟฟ้าครบ 3 โรง รวมแล้ว 22.5 MW นี่เอง ถือเป็นจุดเปลี่ยน
หลังจากที่บริษัทต้องแบกต้นทุนมานาน งานนี้ปลดภาระเกลี้ยง เพราะกำไรจากการจ่ายไฟในปีนี้ควรจะเห็นถึง 150 ล้านบาท ปีหน้าไม่ต่ำกว่า 350 ล้านบาท ผลงานพลิกรุนแรง และนี่เองที่เด็กแนวบอกว่า จุดนี้คือความแย่มันสุดไปแล้ว ราคาหุ้นที่ Bottom คือไม้แรกของการสะสมนั่นเอง และคอยดูข่าวเรื่องการรวมพาร์อาจะเกิด และอาจจะมี Surprise อื่นๆ ตามมา ส่วนราคาหุ้นคาดว่าหลังงบออกปลาย Week นี้ อาจเริ่มดีขึ้นเรื่อยๆ ไปยังฐานใหม่ที่ 0.20 บาท สะสมกันไว้ใจเย็นๆ เลยนะ
บล.เออีซี : Action Strategy
AECS Market Outlook : คงความอ่อนนุ่ม
SET ดีดตัวขึ้นสวนทางหลังจากสร้างสัญญาณขายเมื่อวันก่อนหน้า โดยการเด้งตัวเมื่อวานนี้ ขึ้นไปทดสอบแนวต้านของกรอบบนสามเหลี่ยมและไม่สามารถผ่านไปได้ แต่คงสภาพของแท่งเทียนที่เป็นรูปแบบ Harami+ และ RSI ที่เด้งปลาย ดังนั้นการ Rebound ตามสัญญาณนี้อาจเกิดต่ออีกเล็กน้อย แต่ปริมาณการซื้อขายที่ไม่หนาแน่น รวมทั้งโครงสร้างการโค้งตัวของแท่งเทียนจะยังคงกดดันให้แนวโน้มอ่อนตัวอาจเกิดขื้นได้ในวันนี้ โดยต้องระมัดระวัง 1,570 จุด ไม่ควรหลุด เพราะจะทำให้แนวด้านล่างมีโอกาสรั่วได้ เราประเมินว่าทิศทางอ่อนตัวจะได้เปรียบในวันนี้
กลยุทธ์
1. เก็งกำไรโดยควรซื้อเมื่ออ่อนตัว
2. หากหลุด 1,570 จุด ควรถือหุ้นเพียง 30% และลดการเก็งกำไร
3. หากปิดสูงกว่าเปิดให้ถือกลับบ้าน หากปิดต่ำกว่าเปิดถือหุ้นน้อยลง
บทสรุปการลงทุน:
SET ควรจะปรับตัวลงจากแรงกดดันของแนวโค้งตัว
SET Closed: 1,577.44
Support: 1,565 1,570
Resistant: 1,580 1,585
PRIN ยกฐานสูงขึ้น
ราคาปิด : 1.51 บาท
แนวรับ : 1.50 บาท แนวต้าน : 1.80 บาท
Stop Loss : เมื่อหลุด 1.48 บาท
กราฟ PRIN มีโครงสร้างแบบยกฐานทั้ง High และ Low โดยเกิดสัญญาณซื้อในหลายเครื่องมือ โดยคาดว่าจะปรับตัวขึ้นทดสอบแนวต้านของกรอบบนที่ 1.80 บาทได้ แนะนำ “ซื้อ”
AEC Securities Technical Research
รณกฤต สารินวงศ์ ID: 012234
บล.เออีซี : Derivatives Signals
SET50 Index Futures
มุมมองทางทฤษฎี: ความกลัวขาลงเท่าเดิม
BASIS (S50U17-SET50): เมื่อวานนี้ Spot ขึ้นมากกว่า S50U17 ส่งผลให้ Basis ลดลงจากวันก่อนหน้า 0.81 จุด โดยปัจจุบันอยู่ที่ระดับ -4.20 จุด ยังคงใกล้เคียง Theory Basis ที่ -3.79 จุด สะท้อนมุมมองเป็นกลางในระยะสั้นของนักลงทุนที่มีต่อ SET50 Index (อัพเดทผลกระทบจากการจ่ายเงินปันผลระหว่างกาล โดยข้อมูลจาก Bloomberg พบว่าในช่วง ส.ค.-ก.ย. 60 หุ้นในกลุ่ม SET50 จะขึ้นเครื่องหมาย XD ทั้งหมด 26 บมจ. และคาดกระทบ SET50 Index 6.8 จุด)
PUT/CALL Ratio: ปัจจุบันอัตราส่วนการเทรด SET50 Index Option ฝั่ง PUT เทียบกับฝั่ง CALL พบว่าปริมาณซื้อขาย (Volume) อยู่ที่ 1.54x เพิ่มขึ้นจากวันก่อนหน้า 0.38x และฝั่งสถานะคงค้าง (Open Interest) ปัจจุบันอยู่ที่ 1.29x เพิ่มขึ้นเล็กน้อยจากวันก่อนหน้าเพียง 0.01x ซึ่งเราให้น้ำหนักกับการเปลี่ยนแปลงของ OI มากกว่า Volume เพราะแสดงให้เห็นถึงอุปสงค์ที่แท้จริง ดังนั้นสรุปว่า นักลงทุนป้องกันความเสี่ยงขาลงไม่ต่างจากเดิม เมื่อเทียบกับวันทำการก่อนหน้า
Fund Flow Analysis: แม้เมื่อวานนี้นักลงทุนต่างชาติขายสุทธิในตลาดหุ้น 886 ล้านบาท แต่กลับมา Long 5,571 สัญญา ใน Index Futures ส่งผลให้ Year to Date (YTD) มีสถานะ Net Long ใน Index Futures 6,109 สัญญา หรือคิดเป็น Exposure มูลค่า 1,686 ล้านบาท และ ส่งผลให้โดยรวม Exposure ของนักลงทุนต่างชาติทั้งฝั่งตลาดหุ้นและ Index Futures เท่ากับซื้อสุทธิเพิ่มเป็น 776.3 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากวันก่อนหน้า 230.5 ล้านบาท บ่งชี้นักลงทุนต่างชาติมีมุมมองเป็นบวกต่อตลาดทุนไทยเพิ่มขึ้น
มุมมองด้านเทคนิค: โมเมนตัมขาขึ้นกำลังมา
จากกราฟ 60 นาที พบว่าเมื่อวานนี้ทั้ง S50U17 และ RSI ทั้งคู่สามารถ Breakup Downtrend Line สลายความกังวลดัชนีจะผงกหัวลงเพราะแรงเทขายทำกำไร วันนี้มองดัชนีขึ้นต่อจากโมเมนตัมขาขึ้นที่พึ่งเริ่มติดเครื่อง โดยมีแนวต้านรอให้ปะทะดังนี้ 1) 1,000 จุด แนวต้านจิตวิทยา และ 2) 1,002 จุด แนวต้าน Previous High หากทะลุ 2 แนวต้านนี้ได้จะยืนยันแนวโน้มขาขึ้นเพราะท้องฟ้าเปิดกว้างขึ้น
กลยุทธ์การลงทุน
Outright Trading: นักเก็งกำไรระยะสั้น Trading Long ลุ้นดัชนีขึ้นไปแตะแนวต้าน ที่ 1,000 จุด Stop Loss หากหลุด 994 จุด
Spread Trading: เปิด Long Spread S50U17Z17 (Long S50Z17 Short S50U17) เมื่อ Spread ต่ำกว่า +0.6 จุด เพื่อรอขายทำกำไรเมื่อ Spread มากกว่า 2.6 จุด ขึ้นไป และ Stop Loss หากขาดทุนเกิน 0.5 จุด
AECS Analyst อิศรา เลิศสุดคนึง (ID:033432)
บล.เออีซี : Daily Focus
AECS Daily Focus
Technical: คงความอ่อนนุ่ม
Trading Idea: PRIN
เด็กแนว: FANCY, UWC
---------------------------------------------------------------------------------
Connect the World–
• สหรัฐฯ ขู่ตอบโต้เกาหลีเหนือ สร้างแรงกดดันต่อตลาดหุ้นสหรัฐฯ
Market Outlook
• วันนี้คาด SET แกว่งตัวระหว่าง 1,570-1,585 จุด โดยมองดัชนีมีโอกาส Sideway Up แต่ยังอยู่ในกรอบแคบๆ หลังยังขาดปัจจัยบวกที่ชัดเจนในการช่วยหนุนบรรยากาศการลงทุน
Market Factors
• (-) ตลาดหุ้น DJIA ปิด-0.15%DoD จากความตึงเครียดที่พุ่งสูงขึ้นระหว่างสหรัฐฯ และเกาหลีเหนือหลังประธานาธิบดีโดนัลด์ทรัมป์ขู่ตอบโต้เกาหลีเหนือ
• (-) ราคาน้ำมัน WTI ปิด-0.5%DoD หลังบ่อน้ำมันหลักของลิเบียกลับมาดำเนินงาน
• (+) สนง.ศุลกากรเผยจีนมียอดเกินดุลการค้าเดือน ก.ค.3.212 แสนล้านหยวนโต 1.4%YoY
• (+) ครม.มีมติเห็นชอบร่างพ.ร.บ.พัฒนารัฐวิสาหกิจมุ่งยกระดับประสิทธิภาพการดำเนินงาน
• (-) ม.หอการค้าเผยดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคเดือน ก.ค.อยู่ที่ 73.9 ต่ำสุดในรอบ 7 เดือนหลังผู้บริโภคกังวลการฟื้นตัวของเศรษฐกิจไทย
• (+/-) วันนี้ติดตามข้อมูล ศก.สำคัญอาทิ สต็อกสินค้าคงคลังภาคค้าส่งเดือน มิ.ย. และสต็อกน้ำมันรายสัปดาห์จาก EIA ของสหรัฐฯ รวมทั้งดัชนี CPI และ PPI เดือน ก.ค. ของจีน
Investment Strategy
• หาก SET Index ยังยืนเหนือ 1,570 จุด แนะนำ “Trading Buy” ในหุ้นที่น่าสนใจ ดังนี้
1) หุ้น รพ. ที่ครึ่งปีหลังเป็น High Season และผลบวกขึ้นเหมาจ่าย: BCH, CHG, LPH
2) หุ้นวัสดุก่อสร้างที่ได้อานิสงส์ซ่อมแซมที่อยู่อาศัย/พื้นถนนหลังน้ำท่วม:DRT, TASCO
3) หุ้นที่คาดจ่ายปันผลระหว่างกาลงวดนี้เกิน 2% : TTW, SNC, INTUCH, TCAP, QH
4) หุ้นที่คาดช่วง 2Q60 กำไรโตเด่น : BJC, BEAUTY, COM7, JWD, MONO, SAWAD
Fundamental Reports
• PCSGH (SELL:[email protected]) :ด้วยแรงหนุนจากโครงการใหม่ในสินค้ากลุ่ม Non-Pick Up และแผนลดต้นทุน ส่งผลให้มาร์จิ้นออกมาสดใส ทำให้ช่วง 2Q60 กำไรโต 227.1%YoY และคาดหนุนปี 60-61 กำไรโตเฉลี่ยปีละ 32.3% อย่างไรก็ดีราคาหุ้นปรับขึ้นมา 48%YTD ซึ่งคาดสะท้อนผลบวกดังกล่าวแล้ว จนไม่เหลือ Upside จากพื้นฐานปี 61 คงแนะนำ “ขาย”
• MAKRO (HOLD:TP@37) :ช่วง 2Q60 กำไรโต 8.7%YoY ด้วยแรงหนุนยอดขายสาขาใหม่และบริหารสินค้าได้มีประสิทธิภาพมากขึ้น ส่วนช่วง 2H60 คาดดีกว่าช่วง 1H60 หลังเข้าสู่ High Season ของการจับจ่ายในไตรมาสสี่และยังมีการขยายสาขาต่อเนื่อง คาดหนุนปี 60 กำไรยังโต 10.2%YoY อย่างไรก็ดีราคาหุ้นมี Upside จำกัด จึงคงแนะนำ “ถือรับปันผล”
• TWPC (HOLD:[email protected]): แม้ช่วง 2Q60 กำไรหดตัว 2.3%YoY เพราะ SG&A เพิ่มและช่วง 2H60 คาดกำไรหด 7.1%YoY จากแนวโน้มเกษตรกรไทยจะหันไปปลูกพืชเศรษฐกิจอื่นแทนมันสำปะหลังกดดันให้ปี60 คาดกำไรหด8.9%YoY แต่คาดจะพลิกมาโต 11.2%YoY ในปี 61 ด้วยแผนขยายกำลังการผลิตและเพิ่มสินค้าใหม่ +ราคาหุ้นกลับมามี Upside 4.7% เราจึงปรับเพิ่มคำแนะนำเป็น
“ถือรับเงินปันผล” โดยคาดให้ Div. Yield ปีนี้ 3.1%
• MTLS (BUY:[email protected]): ช่วง 2Q60 กำไรโตเด่น 90.2%YoY จากพอร์ตลูกหนี้ที่ขยายตัวดี สอดคล้องกับจำนวนสาขาที่เพิ่มขึ้นเป็น 2,046 สาขา และความสามารถคุมค่าใช้จ่ายดีขึ้น + ราคาหุ้นยังมี Upside 6.4% พร้อมคาดให้ Div. Yield ปีนี้อีก 1.2% จึงคงแนะนำ “ซื้อ”
Market Talk and News
• SPALI (BUY:[email protected]): แจ้งกำไร 2Q60 ที่ 1,343 ลบ. สูงกว่าที่เราคาด 16.9% แม้ยอดการโอนต่ำกว่าคาด 3% แต่ค่าใช้จ่ายในการขายและบริหารลดลง 3% กำไรครึ่งปีคิดเป็น 37% จากที่เราประเมินกำไรปี 60 ที่ 5,422 ล้านบาท คาดว่าครึ่งปีหลังจะกลับมาดีขึ้นมากจากการโอนตามแผน + ปัจจุบันราคาหุ้นมี Upside 15% จึงแนะนำ ”ซื้อ”
Quantitative Screening
• หุ้น High Alpha ซึ่งคาด Outperform ตลาดวันนี้เลือก AMATA, TSR
8-Aug-17 Change (pts.) 7-Aug-17
SET Index 1,577.44 3.77 1,573.67
SET50 Index 1,002.40 2.61 999.79
SET100 Index 2,247.69 6.01 2,241.68
High 1,578.96 Gainers 534
Low 1,574.71 Unchanged 412
Value (Bt m) 35,858.58 Losers 562
Volume (*000) 10,834,046
Market Valuation
SET Data 2017F 2018F Long Term
Fwd PER (x) 15.58 14.09 12.82
EPS Growth (%) 4.44 10.61 9.88
EV/EBITDA (x) 10.13 9.39 8.94
FWD PBV (x) 1.87 1.75 1.63
Dividend Yield (%) 2.94 3.18 3.49
ROE 10.11 10.96 11.44
Net Buy/Sell by Investor Types
Unit : M Bt 8-Aug-17 WTD MTD YTD
Institution 1,443.57 1,042.44 4,006.14 50,044.97
Proprietary (989.62) (1,069.75) (264.60) (4,725.88)
Foreign (886.39) (1,610.41) (7,775.69) (909.30)
Individual 432.44 1,637.72 4,034.16 (44,409.80)
AECS ( Fundamental and Strategic Team )
รณกฤต สารินวงศ์ (ID. 012234) [email protected]
ณัฏฐ์วริน ไตรภพสกุล (ID. 027445) [email protected]
อิศรา เลิศสุดคนึง (ID.033432) [email protected]
ตฤณ สิทธิสวัสดิ์ (ID. 091364) [email protected]
จิรภัทร โบสุวรรณ (ID. 040051) [email protected]
สุวรรณา อัศวเหล่าวรพงศ์ Data Support / Secretary