- Details
- Category: ซุบซิบการลงทุน
- Published: Friday, 14 July 2017 16:49
- Hits: 4964
บล.เออีซี : เด็กแนว
เด็กแนว : ทรงนี้ต้องกล้าลุย
- LST ม้วนตัวรอบใหม่ ล่ำสูง ถือว่าเป็นตัวที่ขึ้นได้ค่อนข้างดีกว่าใครในกลุ่ม จากรอบที่ผ่านมา เป็นเพราะค่า PE ที่ต่ำกว่าตัวอื่น ล่าสุด 13.7 เท่า และผลประกอบการดูดี เฉลี่ยกำไรย้อนหลังอยู่ราวๆ 350 ล้านบาท จึงมีช่วงของการวิ่งได้ดีกว่าตัวอื่นในกลุ่มที่มีค่าพีอีสูงกว่า ที่ผ่านมาเก็งกำไรกันเรื่องของงบโต แต่รอบนี้มีการเก็งเรื่องผลประกอบการ Q2 และได้ข่าวดีจากที่ทางการต้องการส่งเสริมผู้ปลูกปาล์มในประเทศเป็นประเด็นใหญ่ จึงมีแนวโน้มว่ากระทรวงพลังงานจะเป็นแม่งานในการเสนอให้ใช้ปาล์มเป็นส่วนผสมในน้ำมันดีเซลเพิ่มขึ้น หรือไบโอดีเซลนั่นเอง โดยล่าสุดเราเรียกว่า B7 คือใส่น้ำมันปาล์มไป 7 ส่วนในร้อยส่วน
โดยคาดว่า จะมีการเสนอสูตรใหม่เป็น B10 เพิ่มปริมาณการผสมปาล์มเข้าไปอีกกว่า 40% ถือว่าเยอะเลยคราวนี้ ทำให้ผู้ที่ปลูกปาล์ม ผู้สกัดปาล์มได้อานิสงส์ตรงๆ ซึ่งทั้งกลุ่มก็ได้กันไป แต่เลือก พี่ล่ำ เพราะอย่างที่บอกคือค่า PE ไม่แพงกว่าใคร และมีการเหวี่ยงตัว อัตราเร่งที่ดีของราคาเด็กแนวจึงใช้เป็นตัวเลือกในวันนี้ ขณะที่กราฟเป็นใจ เพราะปรับฐานแล้ว และเด้งตัวเป็น W-Shaper จึงมีแววเด้งแรงลุ้นไป 7.20 บาทกันเลย ทรงนี้ต้องกล้าลุย
- PACE ฉากพร้อม ไฟพร้อม ราคาหุ้นในรอบเดือนทิ้งตัวลงมา เพราะเกิดความไม่มั่นใจว่าบริษัทจะเกิดปัญหากับตัว BE หรือไม่ และเกิดความไม่สบายใจลามไปทั่ว เด็กแนวทำการตรวจสอบแล้วเชื่อว่าปัญหาเหล่านี้ไม่เกิดกับ PACE แน่ เพราะในครึ่งปีหลังครึ่งปีหลัง ยอดโอนโครงการมหานคร และมหาสมุทรจะได้เห็น 7 พันล้านบาท จาก Backlog 1.5 หมื่นล้านบาท ล่าสุดถือเป็นข่าวใหญ่ เมื่อบริษัทจะได้ขายหุ้น PP ให้ ซิติค คอนสตรัคชั่น เป็นพันธมิตรคาดว่าได้เงินหลายพันล้านบาท นำมาขยาย
และเงินจากการโอนคอนโดก็นำมาเสริมสภาพคล่อง ทุกอย่างคลี่คลาย ปฏิเสธการมีปัญหา BE โดยสิ้นเชิง ขออย่าเป็นกังวล ราคาหุ้นควรจะตีกลับได้แล้ว ส่วนกราฟลงมาสู่แนวที่เคยดิ่งเมื่อเดือนตุลาคม ซึ่งเป็นแนวดีดตัวแรง ตรงนี้ควรจะเด้งตัวกลับอีกครั้งหนึ่ง และยังมี Divergence ใน RSI ด้วย ขอประเมินแนวฟื้นตัว 3 บาท เป็นอย่างน้อย แนะนำติดไม้ติดมือกันไว้ ให้มันรู้ไปซิว่าตึกหรูสูงสุดของประเทศ จะมีราคาหุ้นคล้ายบ้านเอื้ออาทรก็ให้มันรู้กันไปเลย
AEC Securities
รณกฤต สารินวงศ์
Head of Research
ID: 012234
[email protected]
บล.เออีซี : Derivatives Signals
SET50 Index Futures
มุมมองทางทฤษฎี: ความกล้ามากกว่าความกลัว
BASIS (S50U17-SET50): เมื่อวานนี้ Spot ปรับเพิ่มมากกว่า S50U17 ส่งผลให้ Basis ลดลงจากวันก่อนหน้า 0.86 จุด โดย Basis ปัจจุบันอยู่ที่ระดับ -6.55 จุด ยังคงใกล้เคียงกับ Theory Basis ที่ -5.31 จุด สะท้อนมุมมองระยะสั้นของนักลงทุนที่มีต่อ SET50 Index ว่าจะทรงตัว (อัพเดทผลกระทบจากการจ่ายเงินปันผลระหว่างกาล โดยข้อมูลจาก Bloomberg พบว่าในช่วง 3Q60 หุ้นในกลุ่ม SET50 จะขึ้นเครื่องหมาย XD ทั้งหมด 30 บมจ. และคาดกระทบ SET50 Index 10 จุด)
PUT/CALL Ratio: ปัจจุบันอัตราส่วนการเทรด SET50 Index Option ฝั่ง PUT เทียบกับฝั่ง CALL พบว่าปริมาณซื้อขาย (Volume) อยู่ที่ 0.85x ลดลงจากวันก่อนหน้า 0.01x เช่นเดียวกับฝั่งสถานะคงค้าง (Open Interest) ปัจจุบันอยู่ที่ 1.17x ลดลงจากวันก่อนหน้า 0.07x ดังนั้นสรุปว่า นักลงทุนป้องกันความเสี่ยงขาลงน้อยกว่าเดิม เมื่อเทียบกับวันทำการก่อนหน้า
Fund Flow Analysis: เมื่อวานนี้นักลงทุนต่างชาติซื้อสุทธิในตลาดหุ้น 1,425 ล้านบาท และกลับมา Long 11,042 สัญญา ใน Index Futures ส่งผลให้ Year to Date (YTD) มีสถานะ Net Short ใน Index Futures ลดลงเหลือ 45,575 สัญญา หรือคิดเป็นมูลค่า 8,671 ล้านบาท โดยรวม Exposure ของนักลงทุนต่างชาติทั้งฝั่งตลาดหุ้นและ Index Futures เท่ากับซื้อสุทธิ 7,792 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากวันก่อนหน้า 3,632 ล้านบาท บ่งชี้นักลงทุนต่างชาติมีมุมมองเชิงบวกต่อตลาดทุนไทยมากขึ้น
Technical Analysis
มุมมองด้านเทคนิค: Sideway Up
เมื่อวานนี้ S50U17 เปิดบวกแล้วขึ้นต่อจนปิดเขียว ตามการแกว่งแบบ Sideway Up ด้วยการยกทั้ง High และ Low ขึ้น ตามทฤษฎี Dow โดย Open Interest ของ Index Futures 4 Series หลัก (H,M,U และ Z) ปรับเพิ่มขึ้น 3.69%DoD นอกจากนี้ Modified Stochastic ส่งสัญญาณซื้อ จาก %K เกือบจะตัด %D ขึ้น ดังนั้นเราคงมองเหมือนเดิมว่า S50U17 จะขึ้นต่อคาดแตะต้านถัดไปที่ 1,000 จุด
กลยุทธ์การลงทุน
Outright Trading: เปิด Long ตามการแกว่งแบบ Sideway Up ในกรอบ 988-1,000 จุด Stop Loss หากหลุดแนวรับ 983 จุด
Spread Trading: เปิด Long Spread S50U17Z17 (Long S50Z17 Short S50U17) เมื่อ Spread ต่ำกว่า +0.6 จุด เพื่อรอขายทำกำไรเมื่อ Spread มากกว่า 2.6 จุด ขึ้นไป และ Stop Loss หากขาดทุนเกิน 0.5 จุด
AEC Securities
Technical Research Team
อิศรา เลิศสุดคนึง
Analyst
ID: 033432
บล.เออีซี : Action Strategy
AECS Market Outlook :ผันผวนในกรอบ เน้นเก็งกำไร
กราฟ SET ปิดแดนบวก และยังคงรูปแบบ V-Shape ไว้ได้ นั่นหมายความว่าทิศทางของ SET ยังมีโอกาสปรับตัวไปตามแนวไหล่ขวา อีกทั้งสัญญาณเชิงบวกใน Stochastic บ่งชี้แนวโน้มที่ดี และอยู่ในระดับต่ำ ทำให้ทิศทางการปรับขึ้นถือว่ายังได้เปรียบ แต่กราฟแท่งเทียนกลับมีปัญหา โดยเกิดรูปแบบ Evening Star ซึ่งจะกดดันให้ SET เผชิญแรงขายทางจิตวิทยา ดังนั้นสัญญาณทางเทคนิคจึงขึ้นแย้งกัน จำเป็นต้องวัดแนวโน้มกันที่ราคาปิด หากปิดต่ำกว่า 1,579 จุด จะส่งผลให้ต้นสัปดาห์หน้าปรับตัวลงต่อ แต่หากสามารถปิดสูงกว่า 1,580 จุด จะทำให้ทิศทางดีต่อเนื่องในสัปดาห์ถัดไป
กลยุทธ์
1. เก็งกำไรอย่างระมัดระวัง ไม่ควรไล่ตามซื้อหุ้น
2. หากปิดต่ำ ให้ถือหุ้นน้อยลง หากปิดสูง ให้ถือหุ้นกลับได้มากขึ้น
3. หากต่ำกว่า 1,975 จุด ให้ลดน้ำหนักมากเข้าไว้
บทสรุปการลงทุน:
SET มีสัญญาณขัดแย้งทางกราฟ จึงอาจผันผวนสองทาง
SET Closed: 1,579.41
Support: 1,575 1,572
Resistant: 1,585 1,590
GCAP ทหารมา
ราคาปิด: 4.46 บาท
แนวรับ : 4.42 บาท แนวต้าน: 4.80-5.00 บาท Stop Loss เมื่อหลุด: 4.38 บาท
กราฟ GCAP ปรับตัวขึ้น เข้าสู่แนว Uptrend อีกครั้งหลังจากปรับฐานก่อนหน้านี้ และสามารถประคองตัวตามแนวขาขึ้นได้ การขึ้นของกราฟแท่งเทียนนี้ จะเกิดเป็นแท่งที่สามแบบ 3 Soldiers จะทำให้กราฟรูปที่สามนี้ขึ้นไปทดสอบใกล้ 5 บาทได้ แนะนำ "ซื้อเก็งกำไร"
AEC Securities
รณกฤต สารินวงศ์
Head of Research
ID: 012234
[email protected]
บล.เออีซี : Daily Focus
AECS Daily Focus
Technical: ผันผวนในกรอบ เน้นเก็งกำไร
Trading Idea: GCAP
เด็กแนว: LST, PACE
Connect the World-
ตลาดหุ้น ตปท.ปิดบวกขานรับถ้อยแถลงของนางเจเน็ต เยลเลนเป็นวันที่ 2
Market Outlook
วันนี้คาด SET แกว่งตัวกรอบระหว่าง 1,570-1,590 จุด โดยแม้ดัชนีมีโมเมนตัมปรับขึ้นต่อได้แต่คาด Upside ยังค่อนข้างจำกัด และการลงทุนยังเป็นลักษณะเก็งกำไรเล่นรอบสั้นๆ
Market Factors
(+) ตลาดหุ้น DJIA ปิด+0.10%DoD จากแรงซื้อเก็งกำไรผลประกอบการของหุ้นกลุ่มแบงก์และค้าปลีก พร้อมยังรับแถลงการขึ้นอัตราดอกเบี้ยแบบค่อยเป็นค่อยไปของประธานเฟด
(+) ราคาน้ำมัน WTI ปิด +1.3%DoD รับ EIA ปรับเพิ่มตัวเลขคาดการณ์อุปสงค์น้ำมันปีนี้
(-) ดัชนีความเชื่อมั่นราคาทองคำเดือน ก.ค. อยู่ที่ 49.88 จุดลดลง 15.84%MoM โดยเป็นครั้งแรกที่ดัชนีปรับลงมาต่ำกว่าระดับ 50จุด นับตั้งแต่ ธ.ค. 59 จากผลการแข็งค่าเงินบาท
(-) KTB จัดชั้น EARTH เป็น NPL ในช่วง 2Q60 หลังผิดนัดชำระโดยตั้งสำรองหนี้ 100%
(+/-) วันนี้ติดตามข้อมูล ศก.สหรัฐฯ อาทิ ดัชนี CPI , ยอดค้าปลีก, การผลิตภาคอุตสาหกรรม,สต็อกสินค้าคงคลังภาคธุรกิจ รวมทั้งดุลการค้าเดือน พ.ค. ของอียู
Investment Strategy
ภายใต้ภาวะตลาดที่คาดอยู่ในช่วงพักฐานและบรรยากาศลงทุนอยู่ในโหมด Wait and See กลยุทธ์ลงทุนจึงแนะนำ "ซื้อเมื่ออ่อนตัว" ในหุ้นที่มีพื้นฐานดีหรือมีปัจจัยบวกเฉพาะ ดังนี้
1) หุ้นที่ได้ประโยชน์แผนลงทุนภาครัฐ : CK, STEC, UNIQ, SEAFCO
2) หุ้นที่คาดช่วง 2Q60 โตเด่น : IRPC, BJC, COM7, MTLS, SAWAD
3) Top Picks ในกลยุทธ์ 3Q60 : BCH, MONO, PLANB, BR, TPCH, TSR, HARN
Market Talk and News
ARROW (BUY:[email protected]): ช่วง 2Q60 คาดแรงกดดันจากต้นทุนเหล็กที่พุ่งสูงขึ้นจะลดลงหลังช่วงที่ผ่านมาบริษัททยอยปรับขึ้นราคาสินค้าให้สอดคล้องกับราคาเหล็กในตลาดบวกกับได้อานิสงส์จากโครงการลงทุนโครงสร้างพื้นฐานภาครัฐรวมถึงโครงการย้ายสายไฟลงดินของ กฟน. จึงคาดหนุนปี60กำไรโต8.8%YoY +Upside 8.2%คงแนะนำ "ซื้อ"
LIT (BUY:[email protected]): ช่วง 2Q60 คาดกำไรโตเด่นทั้ง QoQ และ YoY จากพอร์ตสินเชื่อProject Finance ที่แข็งแกร่ง (Spread สูงสุดในกลุ่ม) หลังได้สัญญาปล่อยเงินกู้ให้กับผู้รับเหมา SME ที่มีมูลค่าเกิน 200 ลบ. พร้อมแผนเพิ่มสัดส่วน Recurring Income ด้วยการขยายสินเชื่อเช่าซื้อไปยังกลุ่มสินค้านอกจากสินค้า IT มากขึ้น +Upside 24% คงแนะนำ ซื้อ
HANA (BUY: Consensus TP@56):ช่วง 2Q60 คาดกำไรโต YoY หนุนด้วยความต้องการที่แข็งแกร่งของอุตสาหกรรมเซมิคอนดัคเตอร์ทั่วโลกโดยรายงาน Semiconductor Industry Association พบว่ายอดขาย Semiconductor ทั่วโลกช่วง เม.ย.-พ.ค. 60 โต 22%YoY จากลูกค้ากลุ่มโทรศัพท์มือถือและคาดว่าแนวโน้มยอดขายยังคงโตต่อเนื่องตลอดปีนี้หนุนให้ ปี 60 คาดกำไรโต 28.35%YoY + มีUpside 9.3% และคาดให้ Div. Yield ปีนี้ 4.5%
TACC (BUY: Consensus [email protected]) ปี60 คาดกำไรโต 41.9%YoY หนุนด้วยเป้ารายได้ ปีนี้ที่ตั้งเป้าโต 10%YoY จากการส่งสินค้าใหม่เข้าสู่ตลาดทั้งในส่วนสินค้าที่วางจำหน่ายใน7-11 และตลาดต่างประเทศได้แก่เครื่องดื่มชูกำลัง Jump Start ที่กัมพูชา (เริ่มจำหน่ายต้น ปีนี้) และเครื่องดื่มผงรสชาติทุเรียนและมะม่วงภายใต้แบรนด์ Sawasdee (เริ่มจำหน่ายก.พ. 60) + มีUpside 14.5% และคาดให้ Div. Yield ปีนี้2.8% จึงแนะนำ "ซื้อ"
Quantitative Screening
หุ้น High Alpha ซึ่งคาด Outperform ตลาดวันนี้เลือก TTW, TMB
AECS - Fundamental and Strategic Team
รณกฤต สารินวงศ์ (ID. 012234) [email protected]
ณัฏฐ์วริน ไตรภพสกุล (ID. 027445) [email protected]
อิศรา เลิศสุดคนึง (ID.033432) [email protected]
ตฤณ สิทธิสวัสดิ์ Asst. Analyst
จิรภัทร โบสุวรรณ Asst. Analyst
สุวรรณา อัศวเหล่าวรพงศ์ Data Support / Secretary