- Details
- Category: ซุบซิบการลงทุน
- Published: Thursday, 29 June 2017 18:02
- Hits: 3460
บล.เออีซี : เด็กแนว
เด็กแนว : มีแววเด้งแรง
- LST มีข่าวดีมาเสริม ล่ำสูง ถือว่าเป็นตัวที่ขึ้นได้ค่อนข้างดีกว่าใครในกลุ่ม จากรอบที่ผ่านมา เป็นเพราะค่า PE ที่ต่ำกว่าตัวอื่น และผลประกอบการดูใช้ได้กว่าเพื่อน เฉลี่ยกำไรย้อนหลังอยู่ราวๆ 350 ล้านบาท อีกทั้งสิ้นปี 59 มีค่า PE ไม่เกิน 15 เท่าแค่นั้นเอง จึงมีช่วงของการวิ่งได้ดีกว่าตัวอื่นในกลุ่มที่มีค่าพีอีสูงกว่า ที่ผ่านมาเก็งกำไรกันเรื่องของงบโต แต่รอบนี้เด็กแนวว่าข่าวดีจากที่ทางการต้องการส่งเสริมผู้ปลูกปาล์มในประเทศเป็นประเด็นใหญ่ จึงมีแนวโน้มว่ากระทรวงพลังงานจะเป็นแม่งานในการเสนอให้ใช้ปาล์มเป็นส่วนผสมในน้ำมันดีเซลเพิ่มขึ้น หรือไบโอดีเซลนั่นเอง โดยล่าสุดเราเรียกว่า B7 คือใส่น้ำมันปาล์มไป 7 ส่วนในร้อยส่วน โดยคาดว่าจะมีการเสนอสูตรใหม่เป็น B10 เพิ่มปริมาณการผสมปาล์มเข้าไปอีกกว่า 40% ถือว่าเยอะเลยคราวนี้ ทำให้ผู้ที่ปลูกปาล์ม ผู้สกัดปาล์มได้อานิสงส์ตรงๆ ซึ่งทั้งกลุ่มก็ได้กันไป แต่เลือก พี่ล่ำ เพราะอย่างที่บอกคือค่า PE ไม่แพงกว่าใคร และมีการเหวี่ยงตัว อัตราเร่งที่ดีของราคาเด็กแนวจึงใช้เป็นตัวเลือกในวันนี้ ขณะที่กราฟเป็นใจ เพราะปรับฐานแล้ว และเด้งตัวเป็น Hammer ใน Oversold จึงมีแววเด้งแรงลุ้นไป 7 บาทกันเลย
- MGT เตรียมพร้อมควบกิจการ เมกะเคม เป็นหุ้นที่เด็กแนวเขี่ยขึ้นมาคนแรกก็ว่าได้และราคาก็จัดว่าร้อนแรงเอาเรื่อง จากระดับ 2.20 บาท ไปทะลุ 3 บาทอย่างรวดเร็ว คนเล่นตามก็งงๆ กันเป็นแถว ข้อดีของธุรกิจนี้เป็นการบริหารสต็อกด้วย ถ้าราคาผลิตภัณฑ์ถูกก็ทำให้ต้นทุนต่ำ ซึ่งราคาน้ำมันที่ลงส่งผลบวกต่อต้นทุนดำเนินงาน จุดเด่นของบริษัทคือมีสารผสมกว้างทำให้ลูกค้าต้องการอะไรก็จัดให้ได้หมด แนวโน้มผลประกอบการขยายตัวแบบ Conservative แต่บริษัทมีแผนงานสำคัญคือต้องการโตเท่าตัว
ดังนั้น วิธีการคือต้องไปรวบหัวรวบหางคนอื่นเข้ามา และเชื่อว่าต้องเล็งไว้แล้วจะไปแต่งงานกับใครเพื่อทำให้ตัวเองใหญ่ขึ้น โมเดลธุรกิจนี้เราเห็นใน WICE และ HARN ที่กำไรขึ้นมากว่า 100% ดังนั้นคิดง่ายๆ MGT ก็ต้องไปเท่าตัวจริงมะ ส่วนกราฟย่อลงมาให้เล่นรอบใหม่ ด้วยสัญญาณ Positive Hammer เช่นกัน คาดว่าจะเด้งตัวไปสร้าง High ใหม่ที่ 3.30 บาท ย้ำว่าเก็งกำไรนะ
AEC Securities รณกฤต สารินวงศ์ Head of Research ID: 012234 [email protected]
บล.เออีซี : Derivatives Signals
SET50 Index Futures
มุมมองทางทฤษฎี: ชะลอตัวในการปรับขึ้น
BASIS (S50M17-SET50): เมื่อวานนี้ Basis (S50M17-SET50) ปิดเพิ่มขึ้นจากวันก่อนหน้า 2.47 จุด โดยปัจจุบันอยู่ที่ระดับ 1.57 จุด อย่างไรก็ดี Series M จะซื้อขายวันสุดท้ายวันนี้ ทำให้ Basis เข้าหาค่าศูนย ส่วน Spread (S50U17-S50M17) ปิดลดลงจากวันก่อนหน้า 0.5 จุด โดยปัจจุบันอยู่ที่ระดับ -3.9 จุด มากกว่า Theory Spread ที่ -4.73 จุด สรุปว่า นักลงทุนลดมุมมองเชิงบวกต่อ SET50
PUT/CALL Ratio: ปัจจุบันอัตราส่วนการเทรด SET50 Index Option ฝั่ง PUT เทียบกับฝั่ง CALL พบว่าปริมาณซื้อขาย (Volume) อยู่ที่ 1.68x เพิ่มขึ้นจากวันก่อนหน้า 0.84x และฝั่งสถานะคงค้าง (Open Interest) ปัจจุบันอยู่ที่ 1.28x เพิ่มขึ้นจากวันก่อนหน้า 0.02x ดังนั้นสรุปว่านักลงทุนฝั่ง Options กลัวความเสี่ยงขาลงมากกว่าเดิม
Fund Flow Analysis: เมื่อวานนี้นักลงทุนต่างชาติซื้อสุทธิในตลาดหุ้น 973 ล้านบาท และ Short 1,930 สัญญา ใน Index Futures ส่งผลให้ Year to Date (YTD) มีสถานะ Net Short ใน Index Futures เพิ่มเป็น 11,226 สัญญา หรือคิดเป็นมูลค่า 1,860 ล้านบาท โดยรวม Exposure ของนักลงทุนต่างชาติทั้งฝั่งตลาดหุ้นและ Index Futures เท่ากับซื้อสุทธิ 8,791 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากวันก่อนหน้า 588 ล้านบาท บ่งชี้นักลงทุนต่างชาติมีมุมมองเชิงบวกต่อตลาดหุ้นไทยมากขึ้น
Technical Analysis
มุมมองด้านเทคนิค: มองลงเป็นต่อ
แม้ S50U17 จะมีแนวโน้มย่อยเป็นขาขึ้น แต่เมื่อวานนี้ S50U17 ปิดพอดีตรงระหว่างรอยต่อ Upper Uptrend Channel และ Lower Uptrend Channel ที่ 995 จุด อย่างไรก็ดีเราเริ่มเห็นสัญญาณ Overbought ของ RSI พร้อมกับการผงกหัวลง แสดงให้เห็นถึงโมเมนตัมขาขึ้นอ่อนแอลง ดังนั้นหากไม่สามารถผ่าน 995 จุด คาดจะลงมาแกว่งในกรอบ Lower Uptrend Channel ที่ 985-995 จุด ในกรณีพลิกผลันหากสามารถทะลุ 995 จุด คาดจะแกว่งขึ้นในกรอบ Upper Uptrend Channel ที่ 995-1,005 จุด
กลยุทธ์การลงทุนวันนี้
Outright Trading: จับตาแนวรอยต่อ 995 จุด 1) หาก S50U17 ยืนได้ แนะนำ Trading Long ในกรอบ 995-1,005 จุด และ 2) หากต่ำกว่า แนะนำ Trading Short ในกรอบ 985-995 จุด
Spread Trading (S50U17-S50M17): ชะลอการลงทุนเพราะ Series M วันนี้ซื้อขายวันสุดท้าย
AEC Securities Technical Research Team
อิศรา เลิศสุดคนึง Analyst ID: 033432
บล.เออีซี : Action Strategy
AECS Market Outlook : Rebound เป็นโอกาสขาย
กราฟ SET อ่อนตัวลงตามสัญญาณ Counter attack ที่เกิดขึ้นในวันก่อนหน้า ก่อนอ่อนตัวนี้ ทำให้เครื่องมือระยะสั้น เช่น Stochastic ตัดเส้นค่าเฉลี่ยลง ซึ่งจะกดดันให้กราฟย่อตัวลงต่อได้ ทั้งนี้เราสามารถประเมินแนวโน้มของกราฟแท่งเทียนมีโอกาสเกิดรูปแบบของการลง 3 วัน หรือ 3 Crows ซึ่งจะมีแนว Support ที่ 1,575 จุด ไม่ควรหลุด เพราะจะทำให้เกิด Follow sell signal ถึง 1,560 จุด แม้ว่าสัญญาณเชิงลบจะได้เปรียบในวันนี้ แต่ปริมาณการซื้อขายที่เบาบาง จะทำให้การพลิกผันเกิดขึ้นได้ง่าย ทั้งนี้มีโอกาสเกิด Technical rebound ในระยะต้นตลาด และสัญญาณขายที่เกิดขึ้นในระยะนี้จะกดดันให้ SET อ่อนตัวลงในที่สุด
กลยุทธ์
1. เก็งกำไรจาก Technical Rebound ได้ในระยะต้นตลาด
2. ไม่เพิ่มปริมาณพอร์ตลงทุน แต่พอร์ต Day trade
3. หากปิดสูง ถือหุ้นกลับบ้าน หากปิดต่ำ ถือหุ้นน้อยที่สุด
บทสรุปการลงทุน:
SET อาจเกิด Technical Rebound แต่ให้เน้นขาย
SET Closed: 1,582.63
Support: 1,570 1,575
Resistant: 1,590 1,595
ILINK : Bottom out
ราคาปิด: 15.60 บาท
แนวรับ : 15.50 บาท แนวต้าน: 18.00 บาท Stop Loss เมื่อหลุด: 15.20 บาท
กราฟ ILINK (Week) มีการฟอร์มตัวเป็นสามเหลี่ยมที่แนว Support บริเวณ 14 บาท ขณะที่ Stochastic เด้งตัวขึ้นจากแนว Oversold ส่งสัญญาณการพร้อมที่จะฟื้นตัวจาก Bottom out ซึ่งถือว่าเป็นราคาเริ่มต้นขึ้น จึงแนะนำ "สะสม"
AEC Securities
รณกฤต สารินวงศ์
Head of Research
ID: 012234
[email protected]
บล.เออีซี : Daily Focus
Market Outlook
วันนี้คาด SET แกว่งตัวกรอบระหว่าง 1,575-1,590จุด โดยมองดัชนีมีโอกาสรีบาวด์ แต่ Upside ยังจำกัดหลังช่วงสั้นไร้ปัจจัยบวกใหม่เพิ่มเติม
Market Factors
(+) ตลาดหุ้น DJIA ปิด +0.68%DoD จากแรงซื้อหุ้นกลุ่มการเงินและกลุ่มเทคโนโลยี
(+) ราคาน้ำมันดิบ WTI ปิด +1.1%DoD หลังสต็อกน้ำมันดิบสหรัฐฯ ปรับลดลง
(+) BDI Index ปรับขึ้น +2.88%DoD สู่ระดับ 929 จุด เป็นบวกกลุ่มเรือเทกอง TTA, PSL
(+) สศช.เตรียมปรับเป้าส่งออกโตเกิน 3.6%YoY หลังตัวเลขส่งออก5เดือนแรกมีทิศทางดี
(-) DELTA เตรียมตั้งสำรอง 733 ลบ. ใน 2Q60 เหตุศาลฎีกาสั่งชำระภาษีให้กรมสรรพากร
(+/-) วันนี้ติดตามข้อมูล ศก.สหรัฐฯ อาทิ ประมาณการ GDP 1Q60 ครั้งสุดท้าย, จำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงาน รวมทั้งความเชื่อมั่นทางธุรกิจและทางเศรษฐกิจของอียู
Investment Strategy
ลุ้นขึ้นต่อเป้าหมายถัดไป 1,600 จุด โดยตั้งจุด Trailing Stop ที่ 1,572จุด คงแนะนำ "Let Profit Run" ในกลุ่มโรงแรม (MINT, ERW, CENTEL) และ รพ. ที่มีฐานผู้ป่วยประกันสังคม (BCH, CHG, LPH) ขณะที่แนะนำ "ซื้อเมื่ออ่อนตัว" หุ้นที่มีปัจจัยบวกเฉพาะตัวเพิ่ม ดังนี้
1) กลุ่มรับเหมาและกลุ่มนิคม ที่ได้ประโยชน์จากโครงการลงทุนภาครัฐและนโยบาย เขต ศก. EEC เลือก CK, STEC, UNIQ, SEAFCO, WHA, AMATA, ROJNA
2) กลุ่มโลจิสติกส์ ที่ได้อานิสงส์จากส่งออกสดใส เลือก WICE, JWD
3) หุ้น Big Cap. ลุ้น Window Dressing เลือก PTT, ADVANC, SCB, CPALL, BJC
4) หุ้น Mid-Small Cap. ที่คาดปีนี้กำไรโตสดใส เลือก MONO, PLANB, KAMART
Market Talk and News
TTA (BUY: Consensus [email protected]): ช่วง 2H60 คาดค่าระวางเรือจะฟื้นตัวดีขึ้นและผ่านจุดต่ำสุดปีนี้มาแล้ว (ล่าสุด BDI Index ปรับขึ้น 45%YoY) หลังปัญหา Oversupply ลดลงจากการปลดระวางเรือที่เพิ่มขึ้น อีกทั้งยังเข้าสู่ฤดูกาลนำเข้าถ่านหินและแร่เหล็กของจีน จึงคาดหนุนปี 60 TTA พลิกมีกำไรได้ในรอบ 2 ปี + มี Upside 22.2% จึงแนะนำ "ซื้อ"
NDR (BUY:[email protected]): ปี 60 คาดกำไรเติบโต 11.7%YoY จากปัจจัยหนุนแผนแย่งชิง ส่วนแบ่งตลาดด้วยกลยุทธ์ Fighting Brand (การเพิ่มสินค้าคุณสมบัติเดิมแบรนด์ใหม่แต่ราคาถูกกว่าโดยใช้แบรนด์ใหม่ "แมสเคซี่") และแนวโน้มสดใสในตลาดต่างประเทศ + ราคาหุ้นปัจจุบันยังมี Upside 24.4% และคาดให้ Div. Yield ปีนี้ 2.3% จึงคงแนะนำ "ซื้อ"
IHL (BUY: Consensus [email protected]) : ปี 60 คาดกำไรโต 33.9%YoY หนุนด้วยการเพิ่มธุรกิจใหม่มาร์จิ้นสูงคือธุรกิจผลิตโปรตีน (ผลิตหนัง) โดยปีนี้จะเป็นปีแรกที่รับรู้แบบเต็มปี โดยตั้งเป้ารายได้จากธุรกิจนี้ไว้ที่ 700 ลบ. + มี Upside 8.2% และคาดให้ Div.Yield ปีนี้ 2.6%
Quantitative Screening
หุ้น High Alpha ซึ่งคาด Outperform ตลาดวันนี้เลือก RCL, WHA
AECS - Fundamental and Strategic Team
รณกฤต สารินวงศ์ (ID. 012234) [email protected]
ณัฏฐ์วริน ไตรภพสกุล (ID. 027445) [email protected]
อิศรา เลิศสุดคนึง (ID.033432) [email protected]
ตฤณ สิทธิสวัสดิ์ Asst. Analyst
จิรภัทร โบสุวรรณ Asst. Analyst
สุวรรณา อัศวเหล่าวรพงศ์ Data Support / Secretary