- Details
- Category: ซุบซิบการลงทุน
- Published: Thursday, 22 June 2017 18:34
- Hits: 2311
บล.เออีซี : เด็กแนว
เด็กแนว : วิ่งน่าสนใจ
SIS กำไรทั้งปีมี New high วันนี้เริ่มต้นด้วยของเก่าที่เคยให้ไปเมื่อตอนต้นเดือน แต่ราคาหุ้นยังไมได้ไปไหนไกล อย่างไรก็ตามฟอร์มหุ้นยังถือว่าไม่ย่ำแย่ และมีสัญญาณเด้งตัวกลับมาอย่างน่าสนใจ ทั้งนี้เพราะ SIS เป็นหุ้นที่มีดีอยู่ในตัวเอง ในกลุ่มที่ขายอุปกรณ์ไอทีนั้นเหลือไม่กี่บริษัทที่ค่า PE และ PBV ต่ำๆ อีกทั้งผลประกอบการเติบโตจริง โดยราคาหุ้นยังขึ้นน้อย และมีอนาคตน่าจับตา คุณสมบัติทั้งหมดนี้มีรวมอยู่ใน SIS เลย เพราะQ1 กำไรโต 39% และทำท่าจะกำไรทั้งปี New high ซะด้วยซ้ำ มี Forward PE ที่ 10 เท่า ซึ่งค่อนข้างต่ำหุ้นในกลุ่มนี้ล้วนแล้วแต่มีค่า PE ที่สูงแล้ว เช่น SYNEX หรือ SVOA และหากประเมินมูลค่าที่ PE 12 เท่า เป้าหมายควรจะมี 9 บาท ถือว่าราคาหุ้นในกระดานมีช่วงในการวิ่งที่น่าสนใจไม่น้อย
CWT ถึงเวลาท่าจะลุย ข่าวบวกของหุ้นเบาะหนังถือว่าสวนตลาดหุ้นและภาวะอุตสาหกรรมโดยแท้ อันที่จริงแล้วมีข่าวเรื่องยอดการส่งออกรถยนต์ชะลอตัว 9.5% ในเดือนพฤษภาคม แต่ถือเป็นโชคของ CWT ที่กลับได้ผลบวกจากออเดอร์ที่ค้างมาจากรถยนต์ในประเทศ และชิ้นส่วนของโมเดลรถที่จะขายในต่างประเทศ โดยได้รับคำสั่งซื้อชิ้นส่วนประเภทเบาะหนัง พวงมาลัย ของรถยนต์ ISUZU และ HONDA ส่งผลให้แนวโน้มรายได้เติบโตสวนทางยอดการส่งออกรถยนต์ของไทย
แค่นั้นยังไม่พอ โรงงานฮอนด้าที่ญี่ปุ่นในเมืองสำคัญถูกโจมตีด้วยมัลแวร์ ทำให้ระบบต้องหยุดชะงัก โรงงานหยุดผลิตจนกว่าจะกู้ระบบได้ แต่โรงงานในต่างประเทศยังเดินต่อไป คล้ายช่วงเกิดสึนามิ ยังไงยังงั้น ถือเป็นนส้มหล่นของ CWT ที่มีโอกาสได้รับออเดอร์ด่วนของเครื่องหนังในช่วงนี้กันเลยทีเดียว ผู้บริหารให้ข้อมูลว่า Q2 นี้ผลงานจะเติบโตกว่าปีก่อนเป็น 100% เด็กแนวประเมินดูแล้ว ในปี 60 จึงน่าจะมีกำไรทุบสถิติในรอบ 4 ปี ส่วนธุรกิจโรงไฟฟ้า คาดว่าจะเห็นข่าวดี จากโรงไฟฟ้าขยะที่บริษัทเข้าไปร่วมประมูลสูงถึง 60 MW ที่ปั้นมานาน งานนี้ไม่ต้องอะไรมาก ขอได้แค่โรงเดียว 10 MW กำไรก็กระฉูดแล้ว รอข่าวดีรอบถัดไป น่าจะมีอะไรให้ชม ขณะที่กราฟม้วนตัวขึ้นชัดเจน งานนี้พร้อมลุยกันไปที่เป้าหมาย 3.60 บาท เป็นอย่างน้อย หุ้นเบาะหนังตัวอื่นแพงแล้ว ตัวนี้ยังถูก มาสะสมพร้อมลุยกันเถอะ
บล.เออีซี: Daily Focus
AECS Daily Focus
Technical: แกว่งตัวในกรอบแคบ
Trading Idea: TNP
เด็กแนว: SIS, CWT
-------------------------------------------------------------------------------
Connect the World– (P.2)
• น้ำมันร่วงต่อต่ำสุดในรอบ 10 เดือน ฉุดหุ้นกลุ่มพลังงานปรับตัวลง
Market Outlook
• วันนี้คาด SET แกว่งตัวกรอบระหว่าง 1,570-1,585 จุด โดยดัชนียังมีโมเมนตัมปรับตัวลงต่อจากแรงกดดันในหุ้นกลุ่มพลังงานหลังราคาน้ำมันดิบปรับลง
Market Factors
• (-) ตลาดหุ้น DJIA ปิด -0.27%DoD หลังราคาน้ำมันดิบลงต่อเนื่องกดดันหุ้นกลุ่มพลังงาน
• (-) ราคาน้ำมันดิบ WTI ปิด -2.3%DoD ลงมาอยู่ที่ 42.53 ดอลลาร์/บาร์เรล ต่ำสุดในรอบกว่า 10 เดือน (ตั้งแต่ 10 ส.ค. 59) หลังสหรัฐฯ ผลิตน้ำมันเพิ่มขึ้นทำให้วิตกปัญหาอุปทานส่วนเกิน
• (-) ส.อ.ท.เผยดัชนีเชื่อมั่นภาคอุตสาหกรรม พ.ค.ลดลงต่อเป็นเดือนที่ 2 มาอยู่ที่ 85.5 จาก86.4 ใน เม.ย. หลังเอกชนกังวลบาทแข็งและ SME ขาดเงินทุนหมุนเวียน
• (-) ส.อ.ท.เผยเดือน พ.ค.ยอดส่งออกรถยนต์หดตัว 9.5%YoY แต่ยอดขายในประเทศโต 0.6%
• (+) คลังลดภาษีสรรพสามิตรถไฮบริด (21 มิ.ย.60 - 31 ธ.ค.68) โดยรถกระบะแค็บ/ดับเบิลแค็บลดลง 2%, รถเก๋งลดลงจาก 10-30% เหลือ 5-15%, รถยนต์ไฟฟ้าจาก 10% เหลือ 2%
• (+) วันนี้นายกรัฐมนตรีเป็นประธานเปิดงาน "Thailand's Big Strategic Move"
• (+/-) วันนี้ติดตามข้อมูล ศก.สหรัฐฯ อาทิ ดัชนีชี้นำ ศก.,ดัชนีราคาบ้านและจำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงาน รวมทั้งตัวเลขส่งออกของไทยเดือน พ.ค.
Investment Strategy
• หากดัชนีหุ้นไทยยังสามารถยืนเหนือ 1,565 จุด แนะนำ “Let Profit Run” ในหุ้นกลุ่มโรงแรม(MINT, ERW, CENTEL) และ รพ. (BCH, CHG, LPH) ที่ได้แนะนำซื้อไปในสัปดาห์ก่อน ขณะเดียวกันแนะนำ “ซื้อเมื่ออ่อนตัว” ในหุ้นที่มีปัจจัยบวกเฉพาะตัวชุดใหม่เพิ่ม ดังนี้
1) กลุ่มรับเหมาและวัสดุก่อสร้าง ซึ่งคาดได้อานิสงส์จากการใช้ ม.44 ปลดล็อคโครงการรถไฟความเร็วสูงไทย-จีน เลือก CK, STEC, UNIQ, SEAFCO, SCC
2) หุ้น Big Cap. ที่ราคาหุ้นยังมี Upside น่าสนใจ เลือก PTT, SCB, CPALL, BJC
3) หุ้น Mid-Small Cap. ที่คาดปีนี้กำไรโตสดใส เลือก MONO, COM7, KAMART
4) Trading Idea : หุ้นที่ได้อานิสงส์ราคาข้าวปรับขึ้น 22%YTD หลังประเทศผู้ผลิตข้าวอื่นประสบภัยธรรมชาติ หนุนเกษตรกรขอสินเชื่อขยายธุรกิจ เลือก GCAP, TK, AUCT
Market Talk and News
• AUCT (BUY:TP 9.70): ด้วยอานิสงส์โครงการรถคันแรกครบรอบ 5 ปี ส่งผลให้ยอดขายรถยนต์ในประเทศเดือน ม.ค. - พ.ค.60 เติบโต 12.4%YoY ทำให้มีปริมาณรถหมุนเวียนในระบบเพิ่มขึ้นอีกทั้งบริษัทมีแผนจะเพิ่มสัดส่วนรายได้ประมูลรถจากEnd User หนุนให้ปี 60 คาดกำไรโตเด่น 75.0%YoY + มีUpside สูงถึง 25.2% และคาดให้ Div.Yield ปีนี้ 5.2%
• PLANB (BUY: [email protected]:) ปี 60 คาดกำไรโตเด่น 63.9%YoY จากการฟื้นตัวของอุตสาหกรรมสื่อนอกบ้านที่สดใส (Ads. Expenditure โต22.7%YTD) บวกกับ ล่าสุดร่วมทุนกับพันธมิตรจัดตั้งบริษัทให้บริการสื่อนอกบ้านในลาว (ทุนจดทะเบียน 2.8 ล้านเหรียญสหรัฐฯ, PLANB ถือหุ้น 50%) ซึ่งจะเซ็น MOU ในวันนี้คาดหนุนรายได้ ตปท. โตสดใสตามแผนขยายพื้นที่จอโฆษณาใน AEC ที่เข้มข้นขึ้น +ราคาหุ้นมี Upside 18.4% จึงแนะนำ “ซื้อ”
• UNIQ (BUY: Consensus [email protected]): ปี 60-61 คาดกำไรโตเฉลี่ยปีละ14.4%ด้วยแรงหนุนจาก Backlog ในมือ (31 มี.ค.) ราว 3 หมื่น ลบ.ซึ่งคาดจะทยอยรับรู้ในช่วง 2 ปีนี้บวกกับช่วง2H60 มีโอกาสได้งานก่อสร้างโครงสร้างพื้นฐานภาครัฐเพิ่มเติมเช่นงานรถไฟฟ้าสายสีต่างๆ, รถไฟรางคู่ 5 สาย, สนามบินสุวรรณภูมิเฟส 2 และมอเตอร์เวย์ + มีUpside 19%
Quantitative Screening
• หุ้น High Alpha ซึ่งคาด Outperform ตลาดวันนี้เลือก CENTEL, TMB
บล.เออีซี: Market Outlook
AECS Market Outlook : แกว่งตัวในกรอบแคบ
กราฟ SET อ่อนตัวลงตั้งแต่ต้นตลาด แต่ยังประคองตัวในแนวรับ 1,572 จุดได้ อีกทั้งสามารถเด้งตัวปิดตลาดที่สูงขึ้นทำให้กราฟแท่งเทียนมีรูปแบบ Positive Star ซึ่งจะส่งผลให้มีโอกาสดีดตัวทางบวกในระยะต้นตลาดได้ โดยมีแนวต้านไม่เกิน 1,585 จุด อย่างไรก็ตามเครื่องมือ Stochastic ที่ปรับลง และการเกิด Divergence ในทางลบจะกดดันให้ SET อาจปิดต่ำลงในวันนี้ เราประเมินว่าการดีดตัวของกราฟไม่น่าจะมีกำลังมากนัก และปรับฐานลงต่อไป
กลยุทธ์
1. รอซื้อเมื่ออ่อนตัว หากดีดขึ้นในระยะแรกให้ขายหุ้นออกมารอรับที่ต่ำลง
2. หากปิดต่ำกว่าเปิด หรือต่ำกว่า 1,572 จุด ให้ถือหุ้นไม่เกินกึ่งหนึ่งของพอร์ต
3. หากปิดสูงกว่าเปิด ถือหุ้นกลับบ้านได้
TNP : Break out แนวขึ้น
ราคาปิด: 3.04 บาท
แนวรับ : 3.02 บาท แนวต้าน: 3.30 บาท Stop Loss เมื่อหลุด: 2.98 บาท
กราฟ TNP (week) เริ่มดีดตัวขึ้นมาสู่ระดับสูงสุดในรอบสัปดาห์ ทำให้ Stochastic เด้งตัวตัดเส้นค่าเฉลี่ยเป็น Buy signal ซึ่งจะทำให้ราคาหุ้นมีโอกาสดีดตัวต่อไปยังแนวต้าน 3.30 บาท เป็นอย่างน้อย แนะนำ “ซื้อเก็งกำไร”
บล.เออีซี: Derivatives Signals
มุมมองทางทฤษฎี: Spread ชี้ว่าไม่ไปไหน
BASIS (S50M17-SET50): เมื่อวานนี้ Basis (S50M17-SET50) ปิดเพิ่มขึ้นจากวันก่อนหน้า 0.32 จุด โดยปัจจุบันอยู่ที่ระดับ +1.90 จุด อย่างไรก็ดี Series M จะหมดอายุอีก 8 วัน จะทำให้ Basis เข้าหาค่าศูนย์มากขึ้น ส่วน Spread (S50U17-S50M17) ปิดเพิ่มขึ้นจากวันก่อนหน้า 0.2 จุด โดยปัจจุบันอยู่ที่ระดับ -5.2 จุด ขยับเข้าใกล้ Theory Spread ที่ -4.74 จุด สรุปตลาดมองว่า ระยะกลางแกว่งทรงตัว
PUT/CALL Ratio: ปัจจุบันอัตราส่วนการเทรด SET50 Index Option ฝั่ง PUT เทียบกับฝั่ง CALL พบว่าปริมาณซื้อขาย (Volume) อยู่ที่ 1.30x ลดลงจากวันก่อนหน้า 0.58x ขณะที่ฝั่งสถานะคงค้าง (Open Interest) ปัจจุบันอยู่ที่ 1.31x เพิ่มขึ้นจากวันก่อนหน้า 0.01x ซึ่งเราให้น้ำหนักกับการเปลี่ยนแปลงของ OI มากกว่า Volume เพราะแสดงให้เห็นถึงอุปสงค์ที่แท้จริง ดังนั้นสรุปว่านักลงทุนฝั่ง Options กลัวความเสี่ยงขาลงมากกว่าเดิม
Fund Flow Analysis: เมื่อวานนี้นักลงทุนต่างชาติขายสุทธิในตลาดหุ้น 599 ล้านบาท และ Short 5,880 สัญญา ใน Index Futures ส่งผลให้ Year to Date (YTD) มีสถานะ Net Short ใน Index Futures เพิ่มเป็น 19,312 สัญญา หรือคิดเป็นมูลค่า 3,470 ล้านบาท โดยรวม Exposure ของนักลงทุนต่างชาติทั้งฝั่งตลาดหุ้นและ Index Futures เท่ากับซื้อสุทธิ 5,279 ล้านบาท ลดลงจากวันก่อนหน้า 1,767 ล้านบาท บ่งชี้นักลงทุนต่างชาติมีมุมมองเชิงบวกต่อตลาดหุ้นไทยลดลง
มุมมองด้านเทคนิค: แกว่งแบบ Sideway Up
เรายังคงมีมุมมองเชิงบวกต่อ S50M17 เพราะแนวโน้มย่อยเป็นขาขึ้น เพียงแต่ว่าปัจจุบันกลับมาแกว่งในกรอบตรงกลาง 990-1,000 จุด ดังนั้นการเลือกกลยุทธ์เทรดควบคู่กับการพิจารณา Gain/Loss Ratio จึงเป็นสิ่งสำคัญ โดยหากดัชนีย่อมาเข้าใกล้กรอบล่างเป็นโอกาส Trading Long ในทางกลับกันหากเข้าใกล้กรอบบนเป็นโอกาส Trading Short
*** ระมัดระวัง Series M จะซื้อขายวันสุดท้ายวันที่ 29 มิ.ย. นี้
กลยุทธ์การลงทุนวันนี้
Outright Trading: Trading S50M17 ในกรอบ 990-1,000 จุด พร้อมกับตั้ง Stop Loss หากหลุดกรอบมากกว่า 5 จุด
Spread Trading: รอเปิด Long Spread S50M17U17 (Long S50U17 Short S50M17) เมื่อ Spread ต่ำกว่า -6.8 จุดเพื่อรอทำกำไรเมื่อ Spread มากกว่า -4.8 จุดขึ้นไป
AECS Analyst อิศรา เลิศสุดคนึง (ID:033432)