- Details
- Category: ซุบซิบการลงทุน
- Published: Tuesday, 28 March 2017 20:17
- Hits: 14503
บล.เออีซี : เด็กแนว
เด็กแนว : ซื้อกันเถอะของดีๆ
- MOONG หุ้นพื้นฐานดีราคาถูกมากที่นักลงทุนไม่มองมานานแรมปี แต่หารู้มั้ยว่านี่คือหุ้นที่พื้นห่านทองคำตัวหนึ่งที่คนอิง Fundamental ควรมีสะสมไว้ในพอร์ต ธุรกิจของบริษัทมีผลิตภัณฑ์แม่และเด็กมากมาย ยี่ห้อเด่น เช่น Pigeon ที่ใครๆ จากการสัมภาษณ์ผู้บริหารพบว่าปี 60 นี้แนวโน้มกำไรจะทุบสถิติ อีกทั้งตั้งเป้าขายสินค้าแบบ E-Commerceจึงน่าจะมีอะไรดีๆ อีกเพียบ จุดเด่นคือค่า Forward PE ต่ำเพียง 8 เท่ากว่าๆ
เมื่อเทียบกับคู่แข่งสินค้าคล้ายๆ กันนี้ค่า PE ปาเข้าไปร่วม 90 เท่า จึงมองว่า MOONG ช่างถูกอะไรซะขนาดนี้เพราะหากประเมินเป็นมูลค่าที่เหมาะสมที่ PE เพียง 15 เท่าจะได้เป้า 9.32 บาทเลยขอบอก ขณะที่กราฟ Break out กรอบสามเหลี่ยมขึ้นมาแล้ว และสัญญาณซื้อใน Stochastic ค่อนข้างแข็งแกร่ง มองเป้าการดีตัวอย่างต่ำคือ 5.80 บาท ซื้อกันเถอะของดีๆ
- BKD เป็นหุ้นที่มีข่าวดีรออยู่ เรื่องการขายที่ดินและน่าจะมีการโอนกันประมาณ Q2 นี้ โดยคาดว่ากำไรที่จะรับรู้ราว 400 ล้านบาท จะทำให้บริษัทมีกำไรก้อนโตทุบสถิติ และพร้อมจ่ายปันผลพิเศษด้วยเช่นกัน ราคาหุ้นฟอร์มตัวเก็บเงียบมานาน ถ้าดูกราฟเป็นราย Week จะเห็นทรงที่น่าสนใจอย่างมากคือ W-shape มีแนวเป้าหมายคือ 4 บาท เพียงแต่เราต้องมาช่วยกันลุ้นให้ผ่าน 3.40 บาทไปให้ได้จะเกิดการ Break out ที่ชัดเจนขึ้น แนะนำว่าเก็งกำไรไปตามจังหวะ ทรงมาก็ว่าตามกัน Story ดีๆ มีรออยู่แล้วนั่นเอง
AEC Securities รณกฤต สารินวงศ์ Head of Research ID: 012234 [email protected]
บล.เออีซี : Action Strategy
AECS Market Outlook: แกว่งตัวสองทิศทาง
กราฟ SET ปรับขึ้นแต่ไม่สามารถสร้าง High ใหม่ได้ และอ่อนตัวลงเป็น Negative Star เกาะเส้นระนาบ ซึ่งเป็นจุดเดียวกับปลายแขนของ V-Shape พอดี ประกอบกับการติดแนว Overbought จึงทำให้มีแรงขายต่อต้านออกมา และเมื่อวอลุ่มไม่หนาแน่นพอจึงทำให้แรงขายกลับมาเหนือกว่า แนวโน้มวันนี้มีโอกาสเคลื่อนไหวสองทิศทาง สัญญาณที่ต้องระวังคือ การเริ่มโค้งตัวของ Stochastic หากวันนี้ไม่สามารถที่จะมี High ที่สูงขึ้น จะทำให้เกิด Sell Signal ต่อเนื่องถึงปลายสัปดาห์
กลยุทธ์
1. Hold Position และลดน้ำหนักหุ้นเมื่อหลุด 1,565 จุด
2. หากทรงตัวในกรอบแคบ ให้ถือหุ้นต่อไป
3. การเก็งกำไรเน้นซื้อเมื่ออ่อนตัว
4. ระวังการปิดต่ำ ควรถือหุ้นน้อยลง หากเจอสถานการณ์แบบนี้
บทสรุปการลงทุน:
Stock Picks: PJW, SAMTEL, MEGA
แนวรับ: 1,555 1,560
แนวต้าน: 1,575 1,580
PJW: ม้วนตัวขึ้น
ราคาปิด: 3.14 บาท
แนวรับ : 3.10 บาท
แนวต้าน: 3.30 3.70บาท
Stop Loss: 2.98 บาท
กราฟ PJW เคลื่อนไหวแนว Uptrend ระยะกลาง โดยล่าสุดย่อตัวลงที่แนวรับของเส้น Support ซึ่งเป็นจังหวะของการทยอยสะสมรอบใหม่ โดย Stochastic กำลังจะโค้งตัวขึ้น สร้าง Buy Signal แล้ว แนะนำเข้าซื้อสะสม
AEC Securities รณกฤต สารินวงศ์ Head of Research ID: 012234 [email protected]
กฤษณ์พงศ์ ปาทาน Technical Analyst ID: 049732 [email protected]
บล.เออีซี : Derivatives Signals
AECS Derivatives Signals
SET50 Futures: คาดติดต้าน!!! เมื่อวานนี้ SET50 Index (Spot) ปรับลดลง -0.28%DoD ขณะที่ S50H17 ปิด -0.12%DoD ส่งผลให้ Basis (S50H17-SET50) เพิ่มขึ้นจากวันก่อนหน้า 1.62 จุด โดย Basis ปัจจุบันอยู่ที่ระดับ -0.13 จุด ทั้งนี้ Basis จะเข้าหาค่าศูนย์ เพราะเริ่มเข้าใกล้วันซื้อขายวันสุดท้าย 30 มี.ค. 60 ดังนั้นต้องเปลี่ยนเป็น S50M17 ซึ่งพบว่า S50M17 ยังคงไม่สามารถแนวต้านกรอบบนของ Sideway ที่ 995 จุด ดังนั้นยังคงแนะนำทยอยเปิดสถานะ Short เพราะแนวโน้มหลักของ S50M17 ยังคงแกว่งแบบ Sideway ที่ 960-995 จุด
USDTHB Futures: ด้วย Dollar Index ยังคงอ่อนค่าลงต่อเนื่อง ล่าสุดทำ New Low คาดจะกดดันให้ค่าเงินบาทแข็งค่าขึ้นต่อ โดยปัจจุบันค่าเงินบาทยังคงต่ำกว่าแนวรับค่าเฉลี่ยทั้งระยะสั้นและระยะยาว (EMA5วัน, 20วัน, 60วัน และ 120วัน) อย่างไรก็ดี Weekly Chart ของค่าเงินบาทพบว่ากำลังทดสอบแนวรับที่ 34.3 THB/USD ซึ่งเป็นระดับกรอบล่างของ Downtrend Channel ดังนั้นอาจมีความเสี่ยงจากความผันผวนที่สูงจากแรงรีบาวด์
Gold Futures: ระวังแรงขายบริเวณแนวต้าน 1,260 USD/Oz!!! ราคาทองโลกขึ้นต่อ เพราะ Dollar Index ที่อ่อนค่าลง (ราคาทองโลกและ Dollar Index มีค่าสหสัมพันธ์ในรอบ 1 ปีที่ -0.39) หนุนให้ทองโลกขึ้นต่อจนเข้าใกล้แนวปะทะที่ 1,260 USD/Oz ระวังความผันผวนจากแรงขายทำกำไร
AEC Securities Technical Research Team
อิศรา เลิศสุดคนึง Analyst ID: 033432
บล.เออีซี : Daily Focus
AECS Daily Focus
Technical: แกว่งตัวสองทิศทาง
Stock Picks: PJW, SAMTEL, MEGA
เด็กแนว: MOONG, BKD
-------------------------------------------------------------------------------
Connect the World– (P.2)
• ความยากลำบากในการผลักดันนโยบายของทรัมป์กดดันตลาดหุ้นต่างประเทศ
Market Outlook
• วันนี้คาด SET แกว่งตัวระหว่าง 1,565-1,575จุด โดยมองดัชนีมีโอกาส Sideway-Sideway Up จากแรงหนุนของ FundFlow และแรงเก็งกำไรจากความหวังทำ Window Dressing
Market Factors
• (-) ตลาดหุ้น DJIA ปิด -0.22%DoD หลังวิตก ปธน. ทรัมป์ไม่สามารถผลักดันแผนกระตุ้นศก.อื่นๆ ได้ หลังต้องยอมถอนร่างกฎหมาย “อเมริกันเฮลธ์แคร์” ออกจากสภาผู้แทนฯ
• (-) ราคาน้ำมันดิบ WTI ปิด -0.5%DoD หลังกังวลประเทศผู้ผลิตน้ำมันจะไม่สามารถขยายกรอบเวลาการปรับลดกำลังผลิตเพิ่มอีก 6 เดือนได้
• (+) ต่างชาติซื้อสุทธิเป็นวันที่ 7ราว 1.67 พัน ลบ.รวมยอดซื้อสุทธิ 7 วันทำการ 7.5 พัน ลบ.
• (+) ดัชนี BDI ปรับขึ้นแรง +3.39%DoD สู่ 1,282จุด สูงสุดรอบ 2 ปี 4 เดือน (ตั้งแต่วันที่ 25 พ.ย. 57) ดีต่อกลุ่มเรือเทกองนำโดย TTA, PSL
• (+/-) วันนี้จับตาถ้อยแถลงของนางเยลเลน ประธานเฟดเพื่อหาสัญญาณปรับขึ้นดอกเบี้ย และพรุ่งนี้ติดตามการประชุม กนง. ซึ่งคาดยังคงดอกเบี้ยตามเดิม
Investment Strategy
• ภายใต้ภาวะตลาดหุ้นที่ยังขาดปัจจัยหนุนเด่นชัดและมีโอกาสพักตัวกลยุทธ์ลงทุนแนะนำ “Selective Buy” หุ้นที่มีพื้นฐานดีและคาดยัง Outperform ได้ ดังนี้
1) หุ้น Commodity Play ได้แก่ IVL, TTA
2) หุ้นอิงประโยชน์ไข้หวัดนกระบาดในเกาหลีใต้ ได้แก่ CPF, GFPT
3) หุ้นอิงประโยชน์นโยบาย ศก. พิเศษตะวันออก (EEC) ได้แก่ WHA, ROJNA, WICE
4) หุ้น Mid-Small ที่คาดกำไรโตดีปีนี้ ได้แก่ BJC, BA, TASCO, SEAFCO, JWD
Market Talks and News
• กลุ่มสายการบิน (Overweight): ด้วยอานิสงส์บวกจากราคาน้ำมันเครื่องบินSingapore Jet Kerosene ที่ลดลง 7.5%YTD และบาทแข็งค่าเมื่อเทียบกับดอลลาร์ฯ 4.5%YTD บวกกับปริมาณผู้โดยสายเครื่องบิน 6 สนามบินหลักของประเทศ (สุวรรณภูมิ, ดอนเมือง, ภูเก็ตเชียงใหม่, เชียงราย และหาดใหญ่) ในเดือน ม.ค.-ก.พ. 60 โต 7.7%YoY จึงคาดหนุนช่วง 1Q60 กำไรกลุ่มฯ โต YoY เลือก BA ([email protected]) และ AAV (Consensus [email protected])
• TTA (BUY: Consensus [email protected]): ล่าสุด BDI Index ปรับขึ้น 33%YTD และ 2.15 เท่าจากช่วงเดียวกันปีก่อน ซึ่งมองเป็นสัญญาณบวกต่อค่าระวางเรือเทกองและผลดำเนินงานช่วง 1Q60 อีกทั้งปัญหา oversupply ยังมีแนวโน้มลดลง หนุนปี 60 คาดพลิกกำไรอีกครั้ง + ราคาหุ้นมี Upside 20.5% และจ่ายเงินปันผล 0.05 บาท (XD 23 พ.ค.นี้) จึงแนะนำ “ซื้อ”
• ROJNA (BUY:Consensus [email protected]): ปี 60 คาดกำไรฟื้นตัวเด่นถึง 264.7%YoY จากรับรู้รายได้ขายไฟฟ้าจากโรงไฟฟ้า SPP3 (110MW) ซึ่งจะเริ่ม COD ในช่วง มิ.ย.60 และรับรู้ยอดขายที่ดินราว 400-500 ไร่ อีกทั้งมีประเด็นบวกจากนโยบาย EEC เพราะมีพื้นที่ 2 แห่งใน จ.ชลบุรี คือบ่อวินและแหลมฉบัง +ราคาหุ้นมี Upside 27.7% จึงแนะนำ “ซื้อ”
Quantitative Screening
• หุ้น High Alpha ซึ่งคาด Outperform ตลาดวันนี้เลือก MINT, ROJNA
AECS Daily Focus
Technical: แกว่งตัวสองทิศทาง
Stock Picks: PJW, SAMTEL, MEGA
เด็กแนว: MOONG, BKD
-------------------------------------------------------------------------------
Connect the World– (P.2)
• ความยากลำบากในการผลักดันนโยบายของทรัมป์กดดันตลาดหุ้นต่างประเทศ
Market Outlook
• วันนี้คาด SET แกว่งตัวระหว่าง 1,565-1,575จุด โดยมองดัชนีมีโอกาส Sideway-Sideway Up จากแรงหนุนของ FundFlow และแรงเก็งกำไรจากความหวังทำ Window Dressing
Market Factors
• (-) ตลาดหุ้น DJIA ปิด -0.22%DoD หลังวิตก ปธน. ทรัมป์ไม่สามารถผลักดันแผนกระตุ้นศก.อื่นๆ ได้ หลังต้องยอมถอนร่างกฎหมาย “อเมริกันเฮลธ์แคร์” ออกจากสภาผู้แทนฯ
• (-) ราคาน้ำมันดิบ WTI ปิด -0.5%DoD หลังกังวลประเทศผู้ผลิตน้ำมันจะไม่สามารถขยายกรอบเวลาการปรับลดกำลังผลิตเพิ่มอีก 6 เดือนได้
• (+) ต่างชาติซื้อสุทธิเป็นวันที่ 7ราว 1.67 พัน ลบ.รวมยอดซื้อสุทธิ 7 วันทำการ 7.5 พัน ลบ.
• (+) ดัชนี BDI ปรับขึ้นแรง +3.39%DoD สู่ 1,282จุด สูงสุดรอบ 2 ปี 4 เดือน (ตั้งแต่วันที่ 25 พ.ย. 57) ดีต่อกลุ่มเรือเทกองนำโดย TTA, PSL
• (+/-) วันนี้จับตาถ้อยแถลงของนางเยลเลน ประธานเฟดเพื่อหาสัญญาณปรับขึ้นดอกเบี้ย และพรุ่งนี้ติดตามการประชุม กนง. ซึ่งคาดยังคงดอกเบี้ยตามเดิม
Investment Strategy
• ภายใต้ภาวะตลาดหุ้นที่ยังขาดปัจจัยหนุนเด่นชัดและมีโอกาสพักตัวกลยุทธ์ลงทุนแนะนำ “Selective Buy” หุ้นที่มีพื้นฐานดีและคาดยัง Outperform ได้ ดังนี้
1) หุ้น Commodity Play ได้แก่ IVL, TTA
2) หุ้นอิงประโยชน์ไข้หวัดนกระบาดในเกาหลีใต้ ได้แก่ CPF, GFPT
3) หุ้นอิงประโยชน์นโยบาย ศก. พิเศษตะวันออก (EEC) ได้แก่ WHA, ROJNA, WICE
4) หุ้น Mid-Small ที่คาดกำไรโตดีปีนี้ ได้แก่ BJC, BA, TASCO, SEAFCO, JWD
Market Talks and News
• กลุ่มสายการบิน (Overweight): ด้วยอานิสงส์บวกจากราคาน้ำมันเครื่องบินSingapore Jet Kerosene ที่ลดลง 7.5%YTD และบาทแข็งค่าเมื่อเทียบกับดอลลาร์ฯ 4.5%YTD บวกกับปริมาณผู้โดยสายเครื่องบิน 6 สนามบินหลักของประเทศ (สุวรรณภูมิ, ดอนเมือง, ภูเก็ตเชียงใหม่, เชียงราย และหาดใหญ่) ในเดือน ม.ค.-ก.พ. 60 โต 7.7%YoY จึงคาดหนุนช่วง 1Q60 กำไรกลุ่มฯ โต YoY เลือก BA ([email protected]) และ AAV (Consensus [email protected])
• TTA (BUY: Consensus [email protected]): ล่าสุด BDI Index ปรับขึ้น 33%YTD และ 2.15 เท่าจากช่วงเดียวกันปีก่อน ซึ่งมองเป็นสัญญาณบวกต่อค่าระวางเรือเทกองและผลดำเนินงานช่วง 1Q60 อีกทั้งปัญหา oversupply ยังมีแนวโน้มลดลง หนุนปี 60 คาดพลิกกำไรอีกครั้ง + ราคาหุ้นมี Upside 20.5% และจ่ายเงินปันผล 0.05 บาท (XD 23 พ.ค.นี้) จึงแนะนำ “ซื้อ”
• ROJNA (BUY:Consensus [email protected]): ปี 60 คาดกำไรฟื้นตัวเด่นถึง 264.7%YoY จากรับรู้รายได้ขายไฟฟ้าจากโรงไฟฟ้า SPP3 (110MW) ซึ่งจะเริ่ม COD ในช่วง มิ.ย.60 และรับรู้ยอดขายที่ดินราว 400-500 ไร่ อีกทั้งมีประเด็นบวกจากนโยบาย EEC เพราะมีพื้นที่ 2 แห่งใน จ.ชลบุรี คือบ่อวินและแหลมฉบัง +ราคาหุ้นมี Upside 27.7% จึงแนะนำ “ซื้อ”
Quantitative Screening
• หุ้น High Alpha ซึ่งคาด Outperform ตลาดวันนี้เลือก MINT, ROJNA
AECS Daily Focus
Technical: แกว่งตัวสองทิศทาง
Stock Picks: PJW, SAMTEL, MEGA
เด็กแนว: MOONG, BKD
-------------------------------------------------------------------------------
Connect the World– (P.2)
• ความยากลำบากในการผลักดันนโยบายของทรัมป์กดดันตลาดหุ้นต่างประเทศ
Market Outlook
• วันนี้คาด SET แกว่งตัวระหว่าง 1,565-1,575จุด โดยมองดัชนีมีโอกาส Sideway-Sideway Up จากแรงหนุนของ FundFlow และแรงเก็งกำไรจากความหวังทำ Window Dressing
Market Factors
• (-) ตลาดหุ้น DJIA ปิด -0.22%DoD หลังวิตก ปธน. ทรัมป์ไม่สามารถผลักดันแผนกระตุ้นศก.อื่นๆ ได้ หลังต้องยอมถอนร่างกฎหมาย “อเมริกันเฮลธ์แคร์” ออกจากสภาผู้แทนฯ
• (-) ราคาน้ำมันดิบ WTI ปิด -0.5%DoD หลังกังวลประเทศผู้ผลิตน้ำมันจะไม่สามารถขยายกรอบเวลาการปรับลดกำลังผลิตเพิ่มอีก 6 เดือนได้
• (+) ต่างชาติซื้อสุทธิเป็นวันที่ 7ราว 1.67 พัน ลบ.รวมยอดซื้อสุทธิ 7 วันทำการ 7.5 พัน ลบ.
• (+) ดัชนี BDI ปรับขึ้นแรง +3.39%DoD สู่ 1,282จุด สูงสุดรอบ 2 ปี 4 เดือน (ตั้งแต่วันที่ 25 พ.ย. 57) ดีต่อกลุ่มเรือเทกองนำโดย TTA, PSL
• (+/-) วันนี้จับตาถ้อยแถลงของนางเยลเลน ประธานเฟดเพื่อหาสัญญาณปรับขึ้นดอกเบี้ย และพรุ่งนี้ติดตามการประชุม กนง. ซึ่งคาดยังคงดอกเบี้ยตามเดิม
Investment Strategy
• ภายใต้ภาวะตลาดหุ้นที่ยังขาดปัจจัยหนุนเด่นชัดและมีโอกาสพักตัวกลยุทธ์ลงทุนแนะนำ “Selective Buy” หุ้นที่มีพื้นฐานดีและคาดยัง Outperform ได้ ดังนี้
1) หุ้น Commodity Play ได้แก่ IVL, TTA
2) หุ้นอิงประโยชน์ไข้หวัดนกระบาดในเกาหลีใต้ ได้แก่ CPF, GFPT
3) หุ้นอิงประโยชน์นโยบาย ศก. พิเศษตะวันออก (EEC) ได้แก่ WHA, ROJNA, WICE
4) หุ้น Mid-Small ที่คาดกำไรโตดีปีนี้ ได้แก่ BJC, BA, TASCO, SEAFCO, JWD
Market Talks and News
• กลุ่มสายการบิน (Overweight): ด้วยอานิสงส์บวกจากราคาน้ำมันเครื่องบินSingapore Jet Kerosene ที่ลดลง 7.5%YTD และบาทแข็งค่าเมื่อเทียบกับดอลลาร์ฯ 4.5%YTD บวกกับปริมาณผู้โดยสายเครื่องบิน 6 สนามบินหลักของประเทศ (สุวรรณภูมิ, ดอนเมือง, ภูเก็ตเชียงใหม่, เชียงราย และหาดใหญ่) ในเดือน ม.ค.-ก.พ. 60 โต 7.7%YoY จึงคาดหนุนช่วง 1Q60 กำไรกลุ่มฯ โต YoY เลือก BA ([email protected]) และ AAV (Consensus [email protected])
• TTA (BUY: Consensus [email protected]): ล่าสุด BDI Index ปรับขึ้น 33%YTD และ 2.15 เท่าจากช่วงเดียวกันปีก่อน ซึ่งมองเป็นสัญญาณบวกต่อค่าระวางเรือเทกองและผลดำเนินงานช่วง 1Q60 อีกทั้งปัญหา oversupply ยังมีแนวโน้มลดลง หนุนปี 60 คาดพลิกกำไรอีกครั้ง + ราคาหุ้นมี Upside 20.5% และจ่ายเงินปันผล 0.05 บาท (XD 23 พ.ค.นี้) จึงแนะนำ “ซื้อ”
• ROJNA (BUY:Consensus [email protected]): ปี 60 คาดกำไรฟื้นตัวเด่นถึง 264.7%YoY จากรับรู้รายได้ขายไฟฟ้าจากโรงไฟฟ้า SPP3 (110MW) ซึ่งจะเริ่ม COD ในช่วง มิ.ย.60 และรับรู้ยอดขายที่ดินราว 400-500 ไร่ อีกทั้งมีประเด็นบวกจากนโยบาย EEC เพราะมีพื้นที่ 2 แห่งใน จ.ชลบุรี คือบ่อวินและแหลมฉบัง +ราคาหุ้นมี Upside 27.7% จึงแนะนำ “ซื้อ”
Quantitative Screening
• หุ้น High Alpha ซึ่งคาด Outperform ตลาดวันนี้เลือก MINT, ROJNA
27-Mar-17 Change (pts.) 24-Mar-17
SET Index 1,570.50 -3.01 1,573.51
SET50 Index 995.43 -2.82 998.25
SET100 Index 2,239.48 -6.21 2,245.69
High 1,576.12 Gainers 351
Low 1,568.48 Unchanged 450
Value (Bt m) 30,964.38 Losers 711
Volume (*000) 6,538,759
Market Valuation
SET Data 2017F 2018F Long Term
Fwd PER (x) 15.42 13.84 12.59
EPS Growth (%) 9.84 11.39 9.96
EV/EBITDA (x) 9.84 9.16 8.55
FWD PBV (x) 1.88 1.75 1.64
Dividend Yield (%) 2.98 3.26 3.49
ROE 10.48 10.96 11.84
Net Buy/Sell by Investor Types
Unit : M Bt 27-Mar-17 WTD MTD YTD
Institution (1,678.42) (1,678.42) 19,624.12 28,578.06
Proprietary 160.55 160.55 1,062.04 316.22
Foreign 1,672.32 1,672.32 (8,603.54) (5,920.77)
Individual (154.45) (154.45) (12,082.62) (22,973.51)
AECS - Fundamental and Strategic Team
รณกฤต สารินวงศ์(ID. 012234) [email protected]
ณัฏฐ์วริน ไตรภพสกุล(ID. 027445) [email protected]
ชวิศ หวังมุทิตากุล (ID. 059559) [email protected]
อิศรา เลิศสุดคนึง (ID.033432) [email protected]
กฤษณ์พงศ์ ปาทาน (ID. 049732) [email protected]
สุวรรณา อัศวเหล่าวรพงศ์ Data Support / Secretary