เด็กแนว : โอกาสดีดตัวมีลุ้น

Details: Category: ซุบซิบการลงทุน; Published: Friday, 03 March 2017 18:16; Hits: 10154

บล.เออีซี : เด็กแนว

เด็กแนว : โอกาสดีดตัวมีลุ้น

- VTE ใครกันนะ ขายได้ขายดี ไหนว่ามีเสี่ยคอยคุม สงสัยเสี่ยจะลืมประคองราคาหุ้นแล้วกระมัง เด็กแนวนั่งเสาะหาประเด็นเชิงลบก็ไม่พบอะไรที่ทำให้หุ้นต้องลงมาแบบนี้ เว้นแต่เป็นการ Take profit หรือเข้าใจผิดเรื่องงานอนาคต จึงขายออกมา แต่ตรวจสอบดูก็ไม่พบอะไรน่ากลัวเรื่องโรงไฟฟ้าโซล่าร์ที่กำลังเตรียมลงทุน 35 MW รวมทั้งโรงไฟฟ้าขยะก็ถือว่าน่าสนใจบริษัทวางเงินมัดจำในโครงการไปแล้ว

ส่วนงานรับสร้างโรงไฟฟ้าพม่า 220 MW ไม่มีปัญหา ทยอยรับรู้เป็นก้อนใน Q1 นี้เช่นกัน นอกจากนี้ใน Q1 อาจะมีกำไรจากการขายโรงไฟฟ้า Solar ที่ญี่ปุ่นด้วยประมาณ 2.5 MW จะได้เงินก้อนเข้ามากว่า 300 ล้านบาท ถือว่ายังมี Story อีดเพียบกล่าวในหน้ากระดาษคงไม่หมด ส่วนกราฟอยู่ในระหว่างก้ำกึ่ง ต่างฝ่ายต่างดึงดัน วันนี้ต้องยืนให้เหนือเส้นสำคัญเพื่อเข้าสู่แนว Break up area ไม่อย่างนั้นหากลงต่อจะเจอพวก Follow sell อย่างไรก็ตามการอยู่ใกล้แนว Oversold ของ Stoch และมี Divergence + จะทำให้โอกาสดีดตัวมีลุ้นได้มากในวันนี้

- KOOL บริษัทตั้งเป้าว่าปีนี้จะโตระเบิดระเบ้อด้วยยอดขายกว่า 40% โดยจะขยายช่องทางจัดจำหน่ายอีกเท่าตัวสู่ 800 ยังไม่นับยอดขายในต่างประเทศเขตร้อนที่เติบโตดีอย่างมากเช่นกัน นอกจากนี้จะกระจายความเสี่ยงด้วยการเพิ่มสินค้าเครื่องไฟฟ้าประเภทอื่น เพื่อมีทางเลือกอื่นๆ และกระจายโครงสร้างของรายได้ให้มั่นคงขึ้นฟังแล้วชื่นใจ ชอบตรงที่เป็นหุ้นจุดติดง่าย ใครๆ ก็ชอบ กราฟสวยอีกตะหาก ล่าสุดมีสัญญาณซื้อแบบชายธง แนวต้าน 8.80 บาท สำคัญมาก เพราะถ้าผ่านได้วิ่งยาวฉุดไม่อยู่แน่ เนื่องจาก MACD เพิ่งตัดขึ้น จึงจะทำให้ช่วงวิ่งกว้างขึ้นกว่าเดิม แนะเก็งกำไรจร้า

AEC Securities รณกฤต สารินวงศ์ Head of Research ID: 012234 [email protected]

บล.เออีซี : Action Strategy

AECS Market Outlook: แนวรับ 1,560 จุดต้องรับให้อยู่

กราฟ SET ดีดตัวขึ้นเป็นช่องว่างตั้งแต่เปิดตลาด และแกว่งตัวแคบตลอดวัน ทั้งนี้ปริมาณการซื้อขายเพิ่มขึ้นในระดับปานกลาง จึงทำให้ไม่สามารถเดินหน้าได้ต่อเนื่อง ส่งผลให้ท้ายตลาดกราฟแท่งเทียนเกิดรูปแบบ Negative Star ซึ่งจะกระทบต่อการเคลื่อนไหวในวันนี้ โดยอาจะมีการอ่อนตัวในช่วงต้นตลาด อย่างไรก็ตามการอยู่ใกล้ Oversold ทางเทคนิค และการเริ่มโค้งตัวขึ้นของหลายเครื่องมือตั้งแต่เมื่อวานนี้ จะทำให้ SET ยังมีโอกาสที่จะกลับมาปรับตัวขึ้นในช่วงท้ายได้ในวันนี้ ทั้งนี้หากวันนี้ SET สามารถปิดสูงกว่าเปิด จะส่งสัญญาณบวกมากขึ้นในสัปดาห์หน้า แต่หากปิดต่ำกว่า 1,560 จุด จะเป็นแนวโน้มไม่ดี

กลยุทธ์

1. ซื้อเมื่ออ่อนตัว เก็งกำไรสั้นๆ ตามตลาด เน้นหุ้นเล็ก

2. หากปิดสูงกว่าเปิด ถือหุ้นกลับบ้าน

3. หากปิดต่ำกว่าเปิด ให้ถือหุ้นน้อยลง หรือหากหลุด 1,560 จุด ควรขายหุ้นออก 50%

บทสรุปการลงทุน:

Stock Picks: SR, JWD, UTP

แนวรับ: 1,555 1,560

แนวต้าน: 1,575 1,582

SR: กำลังสร้างตึก

ราคาปิด: 3.30 บาท

แนวรับ : 3.20 บาท

แนวต้าน: 3.50 3.70บาท

Stop Loss: 3.05 บาท

กราฟ SR ดีดตัวขึ้นผ่านแนวกดดันของแนวขาลงได้สำเร็จ อีกทั้งฟื้นตัวจากแนว Oversold ซึ่งจะทำให้มีโอกาสฟื้นตัวต่อไปได้ นอกจากนี้การสร้าง Tower จะผลักดันให้เดินหน้าต่อ แม้จะมีย่อบ้างระหว่างวัน หากไม่หยุด 3.50 บาทยังคงให้สะสม

AEC Securities รณกฤต สารินวงศ์ Head of Research ID: 012234 [email protected]

กฤษณ์พงศ์ ปาทาน Technical Analyst ID: 049732 [email protected]

บล.เออีซี : Derivatives Signals

AECS Derivatives Signals

SET50 Futures: ลงซื้อ-ขึ้นขาย!!! เมื่อวานนี้ SET50 Index (Spot) ปิดใกล้เคียงกับวันก่อนหน้า แต่ S50H17 ปิด -0.18%DoD ส่งผลให้ Basis (S50H17-SET50) ลดลงจากวันก่อนหน้า 1.79 จุด โดย Basis ปัจจุบันอยู่ที่ระดับ -1.93 จุด ใกล้เคียง Theory Basis ที่ -0.15 จุด ซึ่ง Price Action ของ S50H17 มีแนวโน้มการแกว่งตัวแบบ Sideway ในกรอบกว้าง 970-1,000 จุด ดังนั้นดำเนินกลยุทธ์ หากดัชนีปรับเพิ่มขึ้นเข้าใกล้กรอบบนเป็นโอกาสเปิด Short ในทางกลับกันหากดัชนีปรับตัวลงจะเป็นโอกาสเข้าเปิดสถานะ Long

USDTHB Futures: เนื่องจาก Dollar Index แข็งค่าขึ้น โดยคาดว่าจะแกว่งแบบ Sideway Up ในกรอบการเคลื่อนไหว 101-103 จุด ประกอบค่าเงินบาทรีบาวด์หลังทดสอบแนวรับ 34.8 THB/USD (Low ในรอบ 4 เดือน) ทั้งนี้ปัจจัยดังกล่าวจะส่งผลให้ค่าเงินบาทอ่อนค่าลงทดสอบแนวต้าน 35.2 THB/USD

Gold Futures: แม้ Dollar Index จะแข็งค่าขึ้น กดดันให้ราคาทองโลกปรับตัวลง อย่างไรก็ดีทองโลกยังคงอยู่ในแนวโน้มขาขึ้น โดยทองโลกมีแนวรับถัดไปที่ 1,230 USD/Oz (Uptrend Line: Low to Low)

AEC Securities Technical Research Team

อิศรา เลิศสุดคนึง Analyst ID: 033432

บล.เออีซี : Daily Focus

AECS Daily Focus

Technical: แนวรับ 1,560 ต้องรับให้อยู่

Stock Picks: SR, JWD, UTP

เด็กแนว: VTE, KOOL

-------------------------------------------------------------------------------

Connect the World– (P.2)

• ตลาดหุ้นสหรัฐฯ ปรับลงจากแรงขายทำกำไรและกังวลเฟดขึ้นดอกเบี้ย

Market Outlook

• วันนี้คาด SET แกว่งตัวระหว่าง 1,560-1,580 จุด โดยมองดัชนีมีโอกาส Sideway Down หลังไร้ปัจจัยใหม่และรอฟังสุนทรพจน์ประธานเฟดคืนนี้ เพื่อหาสัญญาณปรับขึ้นดอกเบี้ย

Market Factors

• (-) ตลาดหุ้น DJIA ปิด -0.53%DoDจากแรงขายทำกำไรและคาดเฟดขึ้นดอกเบี้ย มี.ค. นี้

• (-) ราคาน้ำมันดิบ WTI ปิด 2.3%DoD หลังลสต็อกน้ำมันดิบสหรัฐสูงสุดเป็นประวัติการณ์

• (+) ดัชนีBDI ปิด +3.79%DoDสู่ระดับ904จุดสูงสุดรอบ 1 เดือน ดีต่อ TTA, PSL

• (-) ดอลล่าร์ฯ ยังแข็งค่าขึ้น และล่าสุดผลสำรวจจาก Bloomberg มีโอกาสถึง 78% ที่เฟดจะขึ้นดอกเบี้ยในการประชุม มี.ค.นี้ กดดันให้ Fund Flow ยังมีทิศทางไหลออกจากตลาด TIPs

• (+/-) คืนนี้ติดตามประธานเฟดกล่าวสุนทรพจน์ที่ Executives' Club of Chicago เพื่อหาสัญญาณการปรับขึ้นดอกเบี้ย รวมทั้งดัชนี PMI ภาคบริการของสหรัฐฯ จีน และยุโรป

Investment Strategy

• ช่วงสั้นตลาดหุ้นไทยยังแกว่งตัวในกรอบและมีโอกาสพักฐานหลังไร้ปัจจัยหนุนใหม่ จึงคงแนะนำ “เทรดดิ้งในกรอบ/ขึ้นขาย-ลงซื้อ” โดยมีกลุ่มหุ้นที่น่าสนใจดังนี้

1) กลุ่ม Big Cap. ที่กำไรปกติยังโตปีนี้ ได้แก่ IVL, GLOBAL, ROBINS, WHA, MINT

2) กลุ่ม Mid-Small Cap. ที่โตเด่นปีนี้ ได้แก่ JWD, WICE, SAWAD, WORK, MAJOR

3) กลุ่มที่จ่าย Div. yield ล่าสุดเกิน 4% ได้แก่ AIT, ASK, ASP, TKS, NYT

Market Talks and News

• FTSE ประกาศทบทวนหุ้นไทยเพื่อใช้คำนวณดัชนีFTSE Asia Pacific ex Japan โดยจะมีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 20 มี.ค. นี้ (มองบวกต่อแรงเก็งกำไรในหุ้นใหม่ที่นำเข้า) ดังนี้

1) Large Cap: หุ้นนำเข้าใหม่ ได้แก่ BJC, IVL และไม่มีหุ้นนำออกคำนวณ

2) Mid Cap: ไม่มีหุ้นนำเข้าใหม่ แต่มีหุ้นนำออกคำนวณ ได้แก่ BJC, IVL

3) Small Cap: หุ้นนำเข้าใหม่ ได้แก่ TLGF, TKN, TFG, BEAUTY และไม่มีหุ้นนำออก

• IVL (BUY: Consensus TP@41): ปี 60 คาดกำไรโต 10%YoY จากกำลังผลิตที่เพิ่มขึ้นหลังรวมกำลังผลิตของAlpha PET 2 ในสหรัฐฯ และ CEPSA ในสเปน อีกทั้งยังมี Upside Risk หากอัตราภาษีนิติบุคคลของสหรัฐฯ ปรับลดลง หลังมี EBITDA Margin จากสหรัฐฯสูงถึง 32% +ราคาหุ้นยังมี Upside 13% และจ่ายเงินปันผล 0.36 บาท (XD 3 พ.ค.) จึงแนะนำ“ซื้อ”

• SQ (BUY: Consensus [email protected]):ช่วง4Q59 กำไรโตเด่น57.9%YoY จากเร่งโครงการเหมืองหลังฤดูฝนหมดตั้งแต่ปลายช่วง3Q59 หนุนให้ปี59 โต 263.7%YoY ส่วนปี 60 คาดโตต่อ15.9%YoY จากBacklog ที่มีอยู่ 3.9 หมื่น ลบ.หนุนรายได้มั่นคงอีก7-8 ปีและผลของการประหยัดต่อขนาดหนุนมาร์จิ้นขยับเพิ่มขึ้น + มีUpside 18.5% จึงแนะนำ “ซื้อ”

• SEAFCO (BUY:[email protected]): มองผ่านจุดเลวร้ายสุดไปแล้วและจะกลับมาโตสดใสตั้งแต่ ปี60 โดยปี 60-61 คาดกำไรโตต่อปีละ 32.9% จากแรงหนุนโครงการลงทุนต่างๆของภาครัฐซึ่งคาดเริ่มหนุนงานฐานราก(เฉพาะค่าแรง) กว่า 3 พัน ลบ.เข้าสู่ตลาดตั้งแต่ช่วง 3Q60 + ราคาหุ้นยังมี Upside 26% และจ่ายเงินปันผล0.15บาท (XD 3 พ.ค.) คงแนะนำ“ซื้อ”