- Details
- Category: ซุบซิบการลงทุน
- Published: Monday, 30 January 2017 18:10
- Hits: 4189
บล.เออีซี : เด็กแนว
เด็กแนว : คาดเข็มขัด นะบัดนาว
THAI เหินฟ้ารอบนี้ถือว่าแข็งแรง ท่ามกลางมรสุมรอบด้าน และการเด้งตัวเมื่อวันศุกร์ แสดงให้เห็นถึงแรงรับแล้วว่าไม่ธรรมดาเป็นแน่ ปัจจัยเดิมที่เกี่ยวกับเรื่องโรลส์รอยนั้น เด็กแนวบอกไปคราวก่อนแล้วว่าไม่กระทบอะไรกับตัวบริษัท ดังนั้นประเด็นนี้ตัดไปได้ ส่วนประเด็นล่าสุดที่มีการปรับขึ้นภาษีน้ำมันเครื่องบินภายในประเทศจาก 0.20 บาทต่อลิตรเป็น 3 บาทนั้น การบินไทยกระทบน้อยที่สุด แต่พวกที่บินในประเทศแบบ Low cost โดนกันไปเต็มๆ ที่ต้องแบกต้นทุนน้ำมัน ดังนั้นเรื่องนี้ถือว่าเหินฟ้ายังโชคดี และในต้นเดือนกุมภาพันธ์ เราคงได้เห็นรายชื่อ DD คนใหม่ เด็กแนวเชื่อว่ามรสุมนี้ TAHI น่าจะบินผ่านไปได้ด้วยผู้นำคนใหม่ วันนี้จึงมาเสนอให้เข้าซื้อ โดยกราฟสร้างรูป Hammer เชิงบวก โอกาสดีดตัวขึ้นได้ 22.80 บาท จากนั้นไปเจอกัน 24 บาทเลย ไม่มีอะไรเลวร้ายไปกว่านี้แล้ว โปรดคาดเข็มขัด นะบัดนาว
SITHAI ให้กลับไปย้อนดูตั้งแต่ไม้แรกๆ ที่เด็กแนวแนะนำตัวนี้เมื่อสัปดาห์ก่อนได้เลยว่าที่มาที่ไปอย่างไร ถึงกล้าให้สวนทางแนวโน้มขาลงได้ขนาดนี้ ประเด็นสำคัญคือการรับรู้ปัจจัยลบไปหมดแล้ว จนราคาลงสุด และโวลุ่มแห้ง จากนี้ไปผลประกอบการจะเริ่มฟื้นตัว ซึ่งถ้าเราไปรอให้กำไรเพิ่มมากขึ้น ราคาก็จะวิ่งไปไปก่อน การเข้าเก็งไม้แรกจึงควรทำ และความเสี่ยงต่ำ
ตอนนี้ราคาเริ่มเด็ง เห็นแนวโน้มข้างหน้าตามการวัดค่าแบบกล่องสี่เหลี่ยมจะเห็น 2.30 บาท ซึ่งหมายความว่ากราฟจะสิ้นสุดขาลงในระยะกลาง และกำลังตั้งทรง Pattern ใหม่ที่จะมีฐานราคาสูงขึ้น ใครมีอยู่ ไปเจอกันแถวๆ นั้นนะ ขอให้รวย
AEC Securities รณกฤต สารินวงศ์ Head of Research ID: 012234 [email protected]
บล.เออีซี : Action Strategy
SET Index
AECS Market Outlook: มีความผันผวน
กราฟ SET ส่งสัญญาณการปรับฐานตั้งแต่กลางสัปดาห์ที่ผ่านมา โดยเกิดรูปแบบ Counter Attack เชิงลบ บ่งบอกว่ามีการเทขายหุ้นในระดับสูง หมายความว่าหากดีดตัวขึ้นจะมีการขายหุ้นออกมา ขวางกั้นการสร้าง High ใหม่ในระยะนี้ อย่างไรก็ตามการร่วงลงเมื่อวันศุกร์ สามารถหยุดยั้งให้แกว่างตัวเพียงกรอบแคบ และสร้างรูป Positive Star ขึ้น ซึ่งอาจมีการ Rebound ในระยะต้นตลาด แต่ยังมีแรงกดดันจาก RSI ที่สร้าง Divergence เชิงลบ
เราประเมินได้ว่าสัญญาณลบในกราฟมีหลายตัว ทำให้การลงเกิดขึ้นได้มากกว่าการขึ้น
กลยุทธ์
1. การเก็งกำไรเน้นการซื้อเมื่ออ่อนตัว และเพิ่มหุ้นในระดับจำกัด
2. หากมีการ Rebound ไม่ควรเข้าไล่ซื้อหุ้น เนื่องจากเสี่ยงต่อการผันผวน
3. หากปิดต่ำกว่าเปิด ให้ลดการถือครองหุ้น
4. หากปิดสูงกว่าเปิดถือหุ้นกลับบ้านเล็กน้อย
บทสรุปการลงทุน:
Stock Picks:
BM, COMAN, PLANB
แนวรับ: 1,570 1,580
แนวต้าน: 1,598 1,605
BM: ยกฐานสูงขึ้น
ราคาปิด: 3.92 บาท
แนวรับ : 3.88 บาท
แนวต้าน: 4.10 บาท
Stop Loss: 3.84 บาท
กราฟ BM ดีดตัวตัดผ่านแนวกรอบสามเหลี่ยมขึ้นมาได้หลังจากดีดตัวตัดผ่านแนวกรอบ Sideway ก่อนหน้านี้ โดยการขึ้นคาดว่าจะทดสอบแนว 4.10 บาท โดยมีสัญญาณซื้อใน RSI และหากผ่านไปได้ จะสร้างจุดสูงสุดใหม่ในลำดับต่อไป แนะนำซื้อเก็งกำไร
AEC Securities รณกฤต สารินวงศ์ Head of Research ID: 012234 [email protected]
กฤษณ์พงศ์ ปาทาน Technical Analyst ID: 049732 [email protected]
บล.เออีซี : Derivatives Signals
AECS Derivatives Signals
SET50 Futures: Take Profit!!! เมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมานี้ SET50 Index (Spot) ปรับตัวลงตามแรงขายทำกำไร โดย Spot ปิด -0.23%DoD ขณะที่ S50H17 ปิด -0.10%DoD ส่งผลให้ Basis (S50H17-SET50) เพิ่มขึ้นจากวันก่อนหน้า 1.34 จุด โดย Basis ปัจจุบันอยู่ที่ระดับ -0.70 จุด ขณะที่ Theory Basis ซึ่งควรจะอยู่ที่ -4.41 จุด ยังคงสะท้อนนักลงทุนส่วนใหญ่มีมุมมองเชิงบวกต่อ SET50 Index อย่างไรก็ดี Price Action ของ S50H17 ไม่สามารถผ่านแนวต้านจิตวิทยาที่ 1,000 จุด คาดเผชิญแรงขายกดดันให้โมเมนตัมขาขึ้นชะลอตัวลง
USDTHB Futures: Dollar Index ยังคงยืนเหนือแนวรับจิตวิทยา 100 จุด โดย Dollar Index มีกรอบการเคลื่อนไหวที่ระดับ 100-102 จุด ส่งผลให้ค่าเงินบาทมีแนวโน้มแกว่งในกรอบ 35.15-35.45 THB/USD
Gold Futures: คาดแกว่งลง!!! ด้วย Dollar Index ที่กลับมาแข็งค่าขึ้นยืนเหนือ 100 จุด คาดจะกดดันให้ราคาทองโลกปรับตัวลง (ราคาทองโลกและ Dollar Index มีค่าสหสัมพันธ์ในรอบ 1 ปีที่ -0.39) ทั้งนี้หากพิจารณาจากกราฟรายวัน พบว่าราคาทองโลกยังคงปรับตัวลงต่ำกว่าค่าเฉลี่ยระยะสั้น EMA5วัน บวกกับมีสัญญาณปรับตัวลงจาก MACD Indicator (ค่า MACD ตัดค่า Signal ลง) ทั้งนี้ราคาทองโลกมีแนวรับถัดไปที่ 1,150 USD/Oz
AEC Securities อิศรา เลิศสุดคนึง Analyst ID: 033432 [email protected]
บล.เออีซี : Daily Focus
AECS Daily Focus
Technical: มีความผันผวน
Stock Picks: BM, COMAN, PLANB
เด็กแนว: THAI, SITHAI
-------------------------------------------------------------------------------
Connect the World– (P.2)
• ตลาดเริ่มให้น้ำหนักนโยบายทรัมป์ ที่จะส่งผลต่อการค้าโลกและการผลิตน้ำมัน
Market Outlook
• สัปดาห์นี้คาด SET แกว่งตัวระหว่าง 1,570-1,605 จุด โดยให้น้ำหนักทางลงมากกว่า หลังทรัมป์เดินหน้าตามนโยบายที่หาเสียงไว้ต่อเนื่อง ซึ่งสร้างความกังวลต่อมาตรการ กีดกันการค้า และการเพิ่มกำลังผลิตน้ำมันของสหรัฐฯ อีกทั้งคาดนักลงทุนชะลอการลงทุนเพื่อจับตาการประชุมธ.กลางของญี่ปุ่น สหรัฐฯ และอังกฤษ ขณะที่ในประเทศยังไร้ปัจจัยหนุนใหม่นอกเหนือจากการเก็งกำไรการประกาศงบช่วง 4Q59 นี้
Market Factors
• (-) สหรัฐฯ ประกาศ GDP 4Q59 ของสหรัฐฯ ที่ออกมาโตต่ำกว่าคาด (Actual 1.9% vs. Expected 2.2%)
• (-) ตลาดหุ้นยุโรปปิดแดนลบ หลังความกังวลเรื่องการตั้งภาษีการค้าของสหรัฐฯ กดดันหุ้นกลุ่มยานยนต์
• (-) ราคาน้ำมันดิบตลาด WTI ปิด -1.1%DoD โดยตลาดกลับมากังวลด้าน Supply ฝั่งสหรัฐฯ
• (+/-) สัปดาห์นี้ติดตามการประชุมและแถลงมติอัตราดอกเบี้ยของ BOJ (31 ม.ค. 60), FED (1 ก.พ. 60) และ BOE (2 ก.พ.60)
Investment Strategy
• ด้วยระยะสั้นที่มีปัจจัยกดดันจากนโยบายกีดกันการค้าและการเพิ่มการผลิตน้ำมันของทรัมป์ อีกทั้งต้องติดตามการประชุมของ 3 ธ.กลางใหญ่ (ญี่ปุ่น สหรัฐฯ และอังกฤษ) จึงแนะนำให้ “เก็งกำไรสั้นลงและระมัดระวังมากขึ้น” โดยให้กำหนดจุดลดน้ำหนักลงทุนหากดัชนีหลุด 1,580 ทั้งนี้เลือกหุ้นรายตัวที่คาด Outperform ตลาดดังนี้
1) กลุ่มรับเหมาฯ ซึ่งมีประเด็นหนุนจากการประมูลโครงการรัฐฯ ได้แก่ CK, STEC, UNIQ, SEAFCO, PYLON
2) กลุ่ม Mid-Small Cap. ที่พื้นฐานเด่น ได้แก่ LPH, NDR, WICE, APCO, JWD, BKD
3) กลุ่มที่ให้ Div. yield สูง ได้แก่ ADVANC, PSH, ASK, LH
Fundamental Report
• BA (BUY:[email protected]): แม้เราจะปรับลดประมาณการเพื่อสะท้อนความเสี่ยงอุปสงค์การท่องเที่ยวที่มีแนวโน้มลดลง และค่าใช้จ่ายภาษีน้ำมันเครื่องบินที่เพิ่มขึ้น แต่ BA เป็น Diversified Company ที่มีมากกว่าธุรกิจสายการบิน ซึ่งทั้งหมดยังคงมีแนวโน้มโตสดใส อีกทั้งมี Upside 31.3% และคาดมีเงินปันผลจ่ายจากกำไรช่วง 2H59 ที่หุ้นละ 0.58 บาท
• PCSGH (SELL:[email protected]): แม้ปี 60 คาดผลประกอบการพลิกกลับมาโตอีกครั้ง แต่ด้วยอุตสาหกรรมยานยนต์มี Downside risk จากความเสี่ยง EV CAR มาเร็วกว่าที่คาด ซึ่งจะส่งผลลบต่อผู้รับจ้างผลิตชิ้นส่วนยานยนต์แบบดั้งเดิม (OEM) บวกกับ ราคาหุ้นปัจจุบันไม่เหลือ Upside จึงคงคำแนะนำ “ขาย”
Market Talks and News
• CBG (BUY @ TP 85): ศักยภาพการเติบโตในระยะยาวของCBG ยังสดใส ด้วยกลยุทธ์การเพิ่มสินค้าใหม่ๆการเพิ่มจุดกระจายสินค้าและแผนรุกฆาตตลาดเครื่องดื่มบำรุงกำลังที่ประเทศอังกฤษด้วยFootball Marketing ส่งผลให้เรายังคงคาดช่วง3 ปีนี้ (ปี59-61) จะมีกำไรโตเฉลี่ยปีละ 24.3% + มีUpside 12.6% จึงคงคำแนะนำ “ซื้อ”
Quantitative Screening
• หุ้น High Alpha ซึ่งคาด Outperform ตลาดวันนี้เลือก RS, MEGA
27-Jan-17 Change (pts.) 26-Jan-17
SET Index 1,590.80 -0.20 1,591.00
SET50 Index 996.10 -2.34 998.44
SET100 Index 2,247.56 -3.63 2,251.19
High 1,592.51 Gainers 559
Low 1,586.01 Unchanged 395
Value (Bt m) 41,666.81 Losers 682
Volume (*000) 7,893,037
Market Valuation
SET Data 2016F 2017F Long Term
Fwd PER (x) 14.75 13.27 No Data
EPS Growth (%) 16.29 11.14 No Data
EV/EBITDA (x) 9.88 9.20 No Data
FWD PBV (x) 1.81 1.69 No Data
Dividend Yield (%) 3.09 3.40 No Data
ROE 10.18 10.81 No Data
Net Buy/Sell by Investor Types
Unit : M Bt 27-Jan-17 WTD MTD YTD
Institution 416.91 4,911.40 4,694.13 4,694.13
Proprietary (73.24) (1,012.29) 2,677.51 2,677.51
Foreign (1,055.00) (499.60) 7,635.03 7,635.03
Individual 711.33 (3,399.51) (15,006.67) (15,006.67)
AECS - Fundamental and Strategic Team
รณกฤต สารินวงศ์(ID. 012234) [email protected]
ณัฏฐ์วริน ไตรภพสกุล(ID. 027445) [email protected]
ชวิศ หวังมุทิตากุล (ID. 059559) [email protected]
อิศรา เลิศสุดคนึง (ID.033432) [email protected]
กฤษณ์พงศ์ ปาทาน (ID. 049732) [email protected]
สุวรรณา อัศวเหล่าวรพงศ์ Data Support / Secretary
บล.เออีซี : รายงานภาวะตลาดหุ้นรายวัน
AECS Daily Focus
Technical: มีความผันผวน
Stock Picks: BM, COMAN, PLANB
เด็กแนว: THAI, SITHAI
-------------------------------------------------------------------------------
Connect the World– (P.2)
ตลาดเริ่มให้นํ้าหนักนโยบายทรัมป์ ที่จะส่งผลต่อการค้าโลกและการผลิตนํ้ามัน
Market Outlook
สัปดาห์นี้คาด SET แกว่งตัวระหว่าง 1,570-1,605 จุด โดยให้นํ้าหนักทางลงมากกว่า หลังทรัมป์เดินหน้าตามนโยบายที่หาเสียงไว้ต่อเนื่อง ซึ่งสร้างความกังวลต่อมาตรการ กีดกันการค้า และการเพิ่มกำลังผลิตนํ้ามันของสหรัฐฯ อีกทั้งคาดนักลงทุนชะลอการลงทุนเพื่อจับตาการประชุมธ.กลางของญี่ปุ่น สหรัฐฯ และอังกฤษ ขณะที่ในประเทศยังไร้ปัจจัยหนุนใหม่นอกเหนือจากการเก็งกำไรการประกาศงบช่วง 4Q59 นี้
Market Factors
(-) สหรัฐฯ ประกาศ GDP 4Q59 ของสหรัฐฯ ที่ออกมาโตตํ่ากว่าคาด (Actual 1.9% vs. Expected 2.2%)
(-) ตลาดหุ้นยุโรปปิดแดนลบ หลังความกังวลเรื่องการตั้งภาษีการค้าของสหรัฐฯ กดดันหุ้นกลุ่มยานยนต์
(-) ราคานํ้ามันดิบตลาด WTI ปิด -1.1%DoD โดยตลาดกลับมากังวลด้าน Supply ฝั่งสหรัฐฯ
(+/-) สัปดาห์นี้ติดตามการประชุมและแถลงมติอัตราดอกเบี้ยของ BOJ (31 ม.ค. 60), FED (1 ก.พ. 60) และ BOE (2 ก.พ.60)
Investment Strategy
ด้วยระยะสั้นที่มีปัจจัยกดดันจากนโยบายกีดกันการค้าและการเพิ่มการผลิตนํ้ามันของทรัมป์ อีกทั้งต้องติดตามการประชุมของ 3 ธ.กลางใหญ่ (ญี่ปุ่น สหรัฐฯ และอังกฤษ) จึงแนะนำให้ “เก็งกำไรสั้นลงและระมัดระวังมากขึ้น” โดยให้กำหนดจุดลดนํ้าหนักลงทุนหากดัชนีหลุด 1,580 ทั้งนี้เลือกหุ้นรายตัวที่คาด Outperform ตลาดดังนี้
1)กลุ่มรับเหมาฯ ซึ่งมีประเด็นหนุนจากการประมูลโครงการรัฐฯ ได้แก่ CK, STEC, UNIQ, SEAFCO, PYLON
2)กลุ่ม Mid-Small Cap. ที่พื้นฐานเด่น ได้แก่ LPH, NDR, WICE, APCO, JWD, BKD
3)กลุ่มที่ให้ Div. yield สูง ได้แก่ ADVANC, PSH, ASK, LH
Fundamental Report
BA (BUY:[email protected]): แม้เราจะปรับลดประมาณการเพื่อสะท้อนความเสี่ยงอุปสงค์การท่องเที่ยวที่มีแนวโน้มลดลง และค่าใช้จ่ายภาษีนํ้ามันเครื่องบินที่เพิ่มขึ้น แต่ BA เป็น Diversified Company ที่มีมากกว่าธุรกิจสายการบิน ซึ่งทั้งหมดยังคงมีแนวโน้มโตสดใส อีกทั้งมี Upside 31.3% และคาดมีเงินปันผลจ่ายจากกำไรช่วง 2H59 ที่หุ้นละ 0.58 บาท
PCSGH (SELL:[email protected]): แม้ปี 60 คาดผลประกอบการพลิกกลับมาโตอีกครั้ง แต่ด้วยอุตสาหกรรมยานยนต์มี Downside risk จากความเสี่ยง EV CAR มาเร็วกว่าที่คาด ซึ่งจะส่งผลลบต่อผู้รับจ้างผลิตชิ้นส่วนยานยนต์แบบดั้งเดิม (OEM) บวกกับ ราคาหุ้นปัจจุบันไม่เหลือ Upside จึงคงคำแนะนำ “ขาย”
Market Talks and News
CBG (BUY @ TP 85): ศักยภาพการเติบโตในระยะยาวของCBG ยังสดใส ด้วยกลยุทธ์การเพิ่มสินค้าใหม่ๆการเพิ่มจุดกระจายสินค้าและแผนรุกฆาตตลาดเครื่องดื่มบำรุงกำลังที่ประเทศอังกฤษด้วยFootball Marketing ส่งผลให้เรายังคงคาดช่วง3 ปีนี้ (ปี59-61) จะมีกำไรโตเฉลี่ยปีละ 24.3% + มีUpside 12.6% จึงคงคำแนะนำ “ซื้อ” Quantitative Screening
หุ้น High Alpha ซึ่งคาด Outperform ตลาดวันนี้เลือก RS, MEGA
AECS - Fundamental and Strategic Team
รณกฤต สารินวงศ์(ID. 012234)
[email protected]
ณัฏฐ์วริน ไตรภพสกุล(ID. 027445)
[email protected]
ชวิศ หวังมุทิตากุล (ID. 059559)
[email protected]
อิศรา เลิศสุดคนึง (ID.033432)
[email protected]
กฤษณ์พงศ์ ปาทาน (ID. 049732)
[email protected]
สุวรรณา อัศวเหล่าวรพงศ์
Data Support / Secretary
