- Details
- Category: ซุบซิบการลงทุน
- Published: Tuesday, 10 January 2017 10:48
- Hits: 4358
บล.เออีซี : เด็กแนว
เด็กแนว : จับตาดูให้ดี
- TVD เงียบไปนาน จนเกือบลืมไปซะแล้วว่ายังอยู่ในตลาด ผลประกอบการปี 59 ที่ผ่านมาขยายตัวรุนแรงในครึ่งปีแรก แต่ครึ่งปีหลังก็แผ่วไปซะงั้น ยิ่งมาเจอปัจจัยภายในทำให้ช่วงไตรมาสสุดท้ายที่ทำท่าจะดีก็เลยชะลอไป แต่บริษัทไม่ได้อยู่นิ่ง ถือโอกาสนี้ไปจับมือกับบริษัทค้าขายออนไลน์ยักษ์ใหญ่ของญี่ปุ่น และเข้าไปถือหุ้นทั้งหมด คือ JML Direct นั่นเอง ทำให้บริษัทสามารถที่จะมีสินค้าครัวเรือนของญี่ปุ่นมาในระบบมากขึ้น ข้อดีของการที่เงียบทำให้ราคาหุ้นพักตัวต่ำสุดๆ และกำลังจะ Take off จากนี้ไป เพราะในปี 60 ปัจจัยลบหมดไปแล้ว เด็กแนวกำลังมองว่าต่อไปบริษัทจะต้องไปทำ Logistic ด้วย ซึ่งครบวงจรอะไรกันขนาดนั้น จับตาดูให้ดี
ผลกระทบจากจอดำในช่วงต้นไตรมาส 4 หมดไปในขณะนี้และบริษัทจะกลับมาเร่งเพิ่มยอดขายจากออนไลน์อย่างรวดเร็วตั้งแต่ Q1 นี้ ราคาหุ้นจากกราฟที่หลุด Trend เริ่มทรงตัวและกำลังตั้งทรงดีดกลับขึ้นไป โดยมีแนวต้านสำคัญ 2.48 บาท ถ้าผ่านตรงนี้ไปได้จะม้วนตัวไประดับ 3 บาท ตรงนี้ถือว่าไม้ต้นๆ แล้วเข้าสะสมเถอะ
- KCM วันนี้ขอซ้ำหุ้น Bottom out ชื่อเล่นรถถึง ชื่อจริง เคซีเอ็ม จำได้ว่ากลับมาแนะนำหุ้นตัวนี้ในช่วงปลายเดือนธันวาคมที่ผ่านมา และสิ่งที่เริ่มเห็นชัดเจนคือราคาหุ้นไต่ระดับมาเรื่อยๆ ตั้งทรงเหมือนว่า ไม่ใช่มาเล่นๆ และให้จับตาการเปลี่ยนแปลงที่น่าสนใจของบริษัท ตั้งแต่ไปร่วมทุนพาร์ทเนอร์ทางธุรกิจ ถือหุ้นเหล็ก Steel 39% เพื่อเป็นวัตถุดิบในการทำงานหลังคาเหล็กของบริษัท นอกจากนี้ถือหุ้นใน 4G Metal 25% เพื่อขยายผลผลิตด้านโครงสร้างอาคารเหล็ก แสดงว่าเตรียมบุกธุรกิจคอนโดเป็นแน่ ยังไม่พอเข้าไปถือหุ้น SKSC Metal ของกัมพูชา 25% บุกงานในกัมพูชา อีกด้วย
ต้องบอกว่าแนวโน้มของ KCM คือจะดีขึ้นเรื่อยๆ ที่ผ่านมาพ้นจุดต่ำสุดไปแล้ว แถมยังได้อานิสงส์จากราคาเหล็กปรับตัวขึ้นทำให้ราคาขายมี Margin ดีกว่าเดิม ด้านกราฟเห็นการ Bottom out โดยโครงสร้างระยะสั้นเกิดรูปแบบ U-Curve ต่อเนื่อง เป้าหมายแนวต้านหน้า 1.35 บาท มีสัญญาณซื้อใน RSI ยืนยันการเดินหน้าต่อไป แนะนำเก็งกำไรจับทางตามรอบต่อเลย
AEC Securities
รณกฤต สารินวงศ์
Head of Research
ID: 012234
[email protected]
บล.เออีซี : Derivatives Signals
AECS Derivatives Signals
SET50 Futures: จ่อตรงต้าน 985 จุด!!! เมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมานี้ SET50 Index (Spot) เริ่มชะลอการปรับตัวขึ้น โดย Spot ปิด -0.16%DoD ขณะที่ S50H17 ปิด +0.09%DoD ส่งผลให้ Basis (S50H17-SET50) เพิ่มขึ้นจากวันก่อนหน้า 2.52 จุด โดย Basis ปัจจุบันอยู่ที่ระดับ +1.29 จุด ขณะที่ Theory Basis ควรจะอยู่ที่ -3.71 จุด อย่างไรก็ดีค่า PUT/CALL Ratio (Volume) เพิ่มขึ้นจนมากกว่าค่าเฉลี่ย บ่งชี้ว่าระยะสั้นนักลงทุนมีมุมมองเป็นลบ แต่ระยะกลางมีมุมมองเป็นบวกต่อ SET50 Index สอดคล้องกับ Price Action ของ S50H17 ปิดตรงแนวต้าน 985 จุด ดังนั้นนักลงทุนต้องระมัดระวังความผันผวนทางลงที่จะเกิดขึ้นจากแรงขายทำกำไร
USDTHB Futures: แกว่งในกรอบ!!! คาดค่าเงินบาทมีแนวโน้มแกว่งในกรอบที่ระดับ 35.6-36.0 THB/USD ตาม Dollar Index ที่แกว่งในกรอบ 101-104 จุด
Gold Futures: เก็งกำไรก่อนตรุษจีน: คาดราคาทองโลกมีแนวโน้มขึ้นต่อ เพราะแรงซื้อเก็งกำไรก่อนช่วงเทศกาลตรุษจีน โดย 5 ปีที่ผ่านมา ในช่วงเดือน ม.ค. ของทุกปี ทองโลกจะให้ผลตอบแทนเฉลี่ยราว 4.76%MoM ซึ่งคิดเป็นราคาเป้าหมายของ Gold Spot ที่ 1,200 USD/Oz (คำนวณจากฐานราคาปิดของ Gold Spot เมื่อวันที่ 30 ธ.ค. 59 ที่ 1,150 USD/Oz)
AEC Securities
Technical Research Team
อิศรา เลิศสุดคนึง Analyst ID: 033432
กฤษณ์พงศ์ ปาทาน Technical Analyst ID: 049732
บล.เออีซี : Action Strategy
AECS Market Outlook: วนกันไป W-shape
SET ปรับตัวสูงขึ้นตลอดสัปดาห์ และมีการปรับฐานเล็กน้อยในวันศุกร์ จากภาวะตลาดที่ Overbought มากๆ แต่ปริมาณโวลุ่มยังหนาแน่น
กราฟแท่งเทียน (Month) ยังคงฟอร์มตัวเข้าสู่ปลายแขนขวาของ W-shape ที่จะมีแนวต้านบริเวณ 1,608-1,620 จุด ขณะที่โวลุ่มและ Momentum ยังค่อนข้างดี อีกทั้ง RSI-Month ยังคงชี้ขึ้น และต่ำกว่า high ก่อนหน้าจึงยังมีโอกาสที่จะปรับขึ้นไปทดสอบ high เดิมได้ อย่างไรก็ตามการขึ้นจากนี้ไปจะเหวี่ยงตัวมาก ปรับฐานระหว่างชั่วโมง เพราะ F-Stoch รายวัน เกิด Overbought ค้างอยู่นั่นเอง
กลยุทธ์
1. เก็งกำไรสั้นลง ทำกำไรเป็นรอบสั้น
2. หากมีต้นทุนต่ำ ถือต่อไปยังแนวต้าน
3. ลดน้ำหนักเมื่อหลุด 1,550 และลดมากขึ้นเมื่อหลุด 1,500 จุด
บทสรุปการลงทุน:
Stock Picks: KIAT, GFPT, ASEFA
แนวรับ: 1,560 1,565
แนวต้าน: 1,585 1,620
KIAT: Bottom out
ราคาปิด: 0.66 บาท
แนวรับ : 0.65 บาท
แนวต้าน: 0.75 บาท
Stop loss: 0.62 บาท
กราฟ KIAT ปรับตัวลดลงสู่ระดับต่ำสุดในรอบ 6 ปี และราคาหุ้นเริ่มถูกสะสมขึ้นในรอบ 2 สัปดาห์ ส่งผลให้ราคาหุ้นเข้าสู่ภาวะค่อยๆ ฟื้นตัว โดยกราฟ week ตั้งลำเป็นถ้วยหงาย มี MACD เกิด Positive Divergence ส่งสัญญาณการค่อยๆ ยกระดับจากนี้ไปแนะนำสะสม
AEC Securities รณกฤต สารินวงศ์ Head of Research
ID: 012234 [email protected]
กฤษณ์พงศ์ ปาทาน Technical Analyst
ID: 049732 [email protected]
บล.เออีซี : Daily Focus
AECS Daily Focus
Technical: วนกันไป W-shape
Stock Picks: KIAT, GFPT, ASEFA
เด็กแนว: TVD, KCM
-------------------------------------------------------------------------------
Connect the World– (P.2)
• ตัวเลข ศก. สหรัฐฯ และยุโรปที่ขยายตัวดี หนุนตลาดสินทรัพย์เสี่ยงทั่วโลก
Market Outlook
• สัปดาห์นี้คาด SET แกว่งตัวกรอบ 1,550-1,585 จุด ทั้งนี้มองดัชนีมีโอกาสพักฐานหลังเปิดปีใหม่ปรับขึ้นมากว่า 1.85%WoW จากแรงซื้อของ Fund Flow ที่เข้ามาในหุ้น Big Cap.
Market Factors
• (+) ดัชนี DJIA ปิด +0.32%DoD ส่วนดัชนี NASDAQ และ S&P500 ปิดที่ระดับสูงสุดใหม่
• (+) ราคาน้ำมัน WTI ปิด +0.43%DoD หลังมีสัญญาณกลุ่มโอเปกเดินหน้าลดกำลังผลิตตามข้อตกลง ส่วนราคาทองคำ COMEX ปิด -0.67%DoD หลังดอลล่าร์แข็งค่า
• (-) สหรัฐฯ เผยตัวเลขจ้างงานนอกภาคเกษตรเดือน ธ.ค. 59 เพิ่มขึ้น 1. 56 แสนตำแหน่ง น้อยกว่าคาด และอัตราการว่างงานเพิ่มขึ้นสู่ระดับ 4.70% ลดลงจากเดือน พ.ย. ที่ 4.60%
• (+/-) สัปดาห์นี้ติดตามตัวเลข ศก.สำคัญของสหรัฐฯ ได้แก่ ยอดค้าปลีกเดือน ธ.ค. 59 และความเชื่อมั่นผู้บริโภคเบื้องต้นเดือน ม.ค. 60
Investment Strategy
• ตลาดหุ้นไทยมีโอกาสผันผวนและพักฐาน หลังดัชนีปรับขึ้นแรงสัปดาห์ก่อนจนทำให้ปัจจุบัน SET เทรดบน PER ปี 60 ที่ 14.8x สูงเป็นอันดับ 6 ในภูมิภาค (ดูกราฟ P. 4) อีกทั้งทางเทคนิคเคิลยังเกิดสัญญาณ Overbought ทั้ง SET และหุ้น Big Cap. ดังนั้นช่วงสั้นจึงแนะนำ “ขึ้นขายลงซื้อ/เก็งกำไรสั้นลง” และลดน้ำหนักเมื่อ SET ปิดต่ำกว่า 1,550 จุด
• นักลงทุนระยะกลาง-ยาว แนะนำ “เข้าทยอยซื้อเมื่อดัชนีพักตัว” ในกลุ่ม/หุ้นที่พื้นฐานเด่นเฉพาะตัวและกำไรมีศักยภาพเติบโตดี อีกทั้งยังมี Upside น่าสนใจ ดังนี้
1) กลุ่มรับเหมาฯ ที่ได้อานิสงค์ความคืบหน้าการลงทุนโครงสร้างพื้นฐานภาครัฐ ได้แก่ CK, STEC, UNIQ, SEAFCO, ARROW
2) กลุ่มธุรกิจดาวรุ่งด้านการดูแลสุขภาพและความงาม ได้แก่ BH, BDMS, LPH, APCO, KAMART
3) กลุ่มที่คาดให้ Div. yield ช่วง 2H59 สูงเกิน 3% (ประกาศจ่ายเงินปันผลช่วง ก.พ. นี้) และ/หรือปี 60 คาดให้ Div. yield สูงเกิน 5% ได้แก่ ADVANC, PSH, ASK, MC, LH
Market Talks and News
• TU (BUY: Consensus TP@25): แม้ปี 59 คาดกำไรหด 5.6%YoY จากผลขาดทุนในธุรกิจแซลมอนหลังต้นทุนวัตถุดิบสูงขึ้น แต่ปี 60 คาดพลิกโต 19.3%YoY หลังดีล M&A เริ่มส่งผลบวก และบริษัทยังเดินหน้าสร้าง Inorganic Growth ต่อเนื่อง อีกทั้งยังได้ประโยชน์จากค่าเงินบาทอ่อนเพราะมีรายได้กว่า 90% จาก ตปท. + Upside 21% จึงแนะนำ “ซื้อ”
• SAWAD (BUY TP@65): แนวโน้มผลประกอบการโตต่อเนื่อง จากแผนการขยายสาขา และขยายฐานลูกค้าเข้าสู่เพื่อนบ้านมากขึ้น ขณะที่ธุรกิจบริหารหนี้เสียคาดเริ่มเห็นกำไร ดีขึ้นหลังยังซื้อหนี้เสียเพิ่มเข้าพอร์ต โดยคาดปี 59 คาดกำไรโต 37.7%YoY และโตต่อ 32.2%YoY + มี Upside 57.6% จึงแนะนำ “ซื้อ”
Quantitative Screening
• หุ้น High Alpha ซึ่งคาด Outperform ตลาดวันนี้เลือก BWG, CPF
06-Jan-17 Change (pts.) 05-Jan-17
SET Index 1,571.48 0.43 1,571.05
SET50 Index 983.91 -1.62 985.53
SET100 Index 2,220.84 -2.40 2,223.24
High 1,575.62 Gainers 602
Low 1,566.78 Unchanged 370
Value (Bt m) 61,142.63 Losers 613
Volume (*000) 12,254,030
Market Valuation
SET Data 2016F 2017F Long Term
Fwd PER (x) 14.66 13.09 13.16
EPS Growth (%) 15.86 11.98 -0.49
EV/EBITDA (x) 9.78 9.09 9.16
FWD PBV (x) 1.80 1.68 1.68
Dividend Yield (%) 3.12 3.44 3.50
ROE 10.16 10.95 10.88
Net Buy/Sell by Investor Types
Unit : M Bt 06-Jan-17 WTD MTD YTD
Institution (373.65) 3,992.83 3,992.83 3,992.83
Proprietary 155.69 213.60 213.60 213.60
Foreign 1,911.40 7,076.95 7,076.95 7,076.95
Individual (1,693.44) (11,283.38) (11,283.38) (11,283.38)
AECS - Fundamental and Strategic Team
รณกฤต สารินวงศ์(ID. 012234) [email protected]
ณัฏฐ์วริน ไตรภพสกุล(ID. 027445) [email protected]
ชวิศ หวังมุทิตากุล (ID. 059559) [email protected]
อิศรา เลิศสุดคนึง (ID.033432) [email protected]
กฤษณ์พงศ์ ปาทาน (ID. 049732) [email protected]
สุวรรณา อัศวเหล่าวรพงศ์ Data Support / Secretary