- Details
- Category: ซุบซิบการลงทุน
- Published: Thursday, 24 September 2015 17:43
- Hits: 5712
บล.คันทรี่ กรุ๊ป : เด็กแนว
เด็กแนว ; วิ่งยาวไปเลย
AJD ที่เงียบไปไม่ได้พูดถึงพระเอกมากว่า 2 week นี่ไม่ใช่เลิกแนะนำแล้วนะ แต่เพราะราคาหุ้นไม่ลงแบบให้ตั้งรับได้สวยๆ ก็เลยรอ จนกระทั่งเมื่อวานนี้ตลาดรูดแรงแต่พระเอกกลับไม่รู้ร้อนรู้หนาว ถึงเวลานี้จึงต้องกลับมาให้ข้อมูลเพิ่มเติมกันต่อเลยแล้วกัน ข่าวประกาศเรื่องการทำตู้เติมเงิน โดยมีเป้าหมายขายได้ขั้นต่ำ 2 หมื่นตู้ในปี 58 ขณะที่โอกาสยอดขายจริงเกินเป้าเป็นไปได้ เพราะมีเจ้าใหญ่หลายเจ้าเสนอซื้อตู้ปริมาณมาก คำถามว่าตู้ของ AJD เด่นกว่าเจ้าอื่นยังไง และจะสู้ได้หรือ
คำตอบอยู่ตรงที่ว่าราคาตู้ถูกกว่า ให้ผลตอบแทนผู้ซื้อมากกว่า จึงทำให้ได้เปรียบนั่นเอง ลองประเมินกำไรคร่าวๆ โดยตู้ขายขาดราคาที่ 4 หมื่นบาท ถ้าให้กำไร 2 หมื่นบาทต่อตู้เท่ากับปีนี้จะมีกำไรเข้าบริษัท 400 ล้านบาทเป็นอย่างน้อย ยังไม่นับรวมรายได้จากส่วนแบ่งรายได้ 1.5%ของชั่วโมงการใช้อีก หากยังไม่นับกำไรจากธุรกิจเดิม ราคาประเมินที่ PE 20 เท่าจะอยู่ 2.50 บาทเข้าไปแล้ว และต้องจับตาการไปเจรจาร่วมทุนกับ Alibaba น่าจะได้คำตอบเด็ดปลายเดือนนี้ และน่าจะเป็นธุรกิจที่ใหญ่มากด้านการทำขนส่งสินค้า E-commerce ใหญ่ที่สุดในประเทศไทย โดยจัดตั้งบริษัท JV ขึ้นมา และอาจสร้างรายได้ให้กับ AJD ปีละไม่ต่ำกว่า 2 หมื่นล้านบาทถ้าประเมินอัตรากำไรแค่ 8% จะทำกำไรอีกเป็นพันล้าน (คิดที่ AJD ถือหุ้น 50%)
ตอนนี้วงการนักวิเคราะห์มองกันว่าเอาแค่นี้ ราคาพระเอกจะก้าวกระโดดไป 7-8 บาท อย่าเชื่อข้อมูลพวกนี้ เพราะมันจะทำให้คนที่ชอบฝันชอบอิงเป้าหมายติดหุ้น เอาว่าใช้กลยุทธ์พอเพียงแล้วกัน แต่หากใครมองตรงกับเด็กแนวกล้าซื้อ กล้าถือ ก็เอาที่สบายใจเลย ส่วนกราฟพิจารณาราย 120 นาที เห็นการฟอร์มตัว W-shape และสัญญาณซื้อใน RSI ตัดผ่านแนวกดทับ จะทำให้ราคาน่าจะวิ่งไปชน 1.82 บาทได้อีกครั้งไม่วันนี้ก็วันหน้า แต่อาจจะเหวี่ยงๆ บ้าง เพราะราคาหุ้นเข้าใกล้เส้นแบ่งระหว่าง Cash balance หรือวิ่งยาวไปเลย
MILL ก้าวแรกของการทำกำไรก้อนโตเกิดขึ้นแล้ว เมื่อบริษัทแจ้งการขายที่ดินให้กับ GEL จำนวน 175 ไร่มูลค่า 1.27 พันล้านบาท โดยธุรกรรมนี้ทำการโอนยังกรมที่ดินเรียบร้อยโรงเรียนนมไปในวันที่ 21 กันยายน คว้ากำไรบันทึกใน Q3 หลังหักภาษีไม่น้อยกว่า 320 ล้านบาท สำหรับกำไรครึ่งแรกคว้าไปแล้ว 178 ล้านบาท คิดอย่าง conservative ในภาวะที่เศรษฐกิจชะลอตัวกำไรจากขายเหล็กราวๆ 280 ล้านทั้งปีรวมกำไรขายที่ เท่ากับ 600 ล้านบาท นี่ยังไม่นับรวมรายการขายที่ให้ KOBE อีก90 ไร่เร็วๆนี้กำไรจะเข้ามาอีกเท่าไร ถือว่าแค่เป็นน้ำจิ้ม แต่ในปี 59 นั้นเมื่อโรงเหล็ก TSSI ดำเนินการเต็มที่จะทำให้กำไรเพิ่มขึ้นอีกเพียบ แถมยังได้ประโยชน์จาก AD เหล็กเส้นที่รัฐเพิ่งประกาศมาตรการอีกด้วย จึงถือเป็นช่วงเวลาที่สบายใจสำหรับ MILL มากที่สุดบริษัทหนึ่ง เพราะคู่แข่งหลายเจ้ายังไม่มีกำไรฟื้นตัวได้เท่านี้
ถ้าอิงจากกำไรที่เด็กแนวประเมินเบื้องต้น ยังไม่นับรวมเหตุการณ์อีกหลายอย่างที่จะเกิดใน Q4 ให้คิดเป็น EPS ที่ 0.19 บาท ค่า PE ของกลุ่มเหล็กตอนนี้สูงลิบลิ่ว ไม่ว่าจะเป็น TYCN, TSTH, BSBMคู่แข่งเหล็กเส้น แต่หากให้ Conservative เพียง PE 15 เท่าราคาเหมาะสมควรจะอยู่ที่ 2.90 บาท ส่วนกราฟที่ไม่ค่อยเป็นทรงนั้น หากปรับรูปแบบเป็น W-shape จะมีแนว 1.86 และ 1.95 เป็นแนวต้านที่มองดูทั้งปัจจัยและเทคนิคก็น่าจะได้เห็นนะ เพราะฉะนั้นราคาแถวนี้ซื้อสะสม โอกาสลำไยในอนาคตมีอยู่แล้ว