- Details
- Category: ซุบซิบการลงทุน
- Published: Monday, 27 July 2015 17:11
- Hits: 5269
บล.คันทรี่ กรุ๊ป : เด็กแนว
เด็กแนว : ไม่ควรมองมูลค่า
CEN ถึงวันนี้ก็ต้องบอกว่าเป็นหุ้นที่ไม่ทำให้ผิดหวัง เพราะเริ่มแรกที่กลับมาแนะนำช่วงมิถุนายนนั้น ราคาหุ้นย่ำแย่ ท่ามกลางข้อกังขาต่างๆ แต่ก็แข็งใจเขียนบทความสะท้อนมูลค่าของบริษัทไปไหลครั้ง จนกระทั่งราคาหุ้นก็แสดงความจริงในมูลค่าบริษัทออกมา ย้อนเล่าให้ฟังหน่อยว่า CEN เป็นพ่อของ UWC, RWI และ EMC เมื่อประเมินมูลค่าเป็น Book value ของ CEN ได้ที่ 3.70 บาท แต่ถ้าลูกมีผลประกอบการ turnaround จะทำให้แม่มีมูลค่ากระโดดขึ้น เช่น EMC เด็กแนวคาดหมายล่าสุดจากการได้สัมภาษณ์ผู้บริหาร ปี 58 รับรู้กำไร 300 ล้านบาท ส่วน UWC คาดปีนี้กำไร 200 ล้านบาท แต่ปี 59 กระโดดเป็น 800 ล้านบาท ซึ่งจะทำให้มูลค่า CEN สูงขึ้นมาก ข้อได้เปรียบคือบริษัทลูกรับงานก่อสร้าง ทั้งเอกชน และรัฐ มีงานเสาส่ง และงานวางระบบไอซีที จึงถือว่าเป็นกลุ่มบริษัทที่มีความพร้อมในทุกๆ ด้าน อย่าลืมว่า พวกพลังงานทดแทนต้องการสายส่งเพิ่มขึ้นมาก
ดังนั้น กลุ่มบริษัทนี้จึงมีโอกาสรับงานบานตะไท หากประเมินมูลค่าหุ้น ณ.เวลานี้ จาก Book value ปัจจุบัน ให้ค่าที่ PBV 1.5 เท่าจะได้เป้าเบาๆ ที่ 5.50 บาท แต่อนาคตราคานี้คงไม่ได้อ่ะนะ ส่วนกราฟคราวก่อนที่ให้เป็นช่วงถุงทอง แต่ตอนนี้กราฟแปรสภาพเป็น หัวและไหล่ไปแล้วถือว่าตามคาดหมายทุกประการ แนวต้านหน้าเจอกัน 5 บาทสบายๆ ส่วนกระแสข่าวลือต่างๆ ที่เอาบริษัทไปพัวพันด้วยนั้น ขอให้นักลงทุนมองกันที่พื้นฐาน ไม่ควรมองมูลค่าบริษัทจากข่าวโคมลอยนะ
TFD ถ้าดูในรอบเกือบ 3 ปี ราคาหุ้นตัวนี้อยู่ต่ำกว่า 4 บาทเพียงไม่กี่ครั้ง และดีดกลับไปทุกครั้ง ในคราวนี้การลงต่ำกว่า 4 บาทแต่ปริมาณโวลุ่มหายไปเกลี้ยง และราคาดูเหมือนกำลังจะตั้งลำได้แล้ว เหตุของราคาตกมาจากความล่าช้าของการพิจารณาเรื่องต่างๆ จากภาครัฐ ทำให้โครงการที่พร้อมโอนต่างรอประกาศสำคัญออกมาก่อน โดยเฉพาะที่ดินใน TFD Industrial Park ที่บริษัทซื้อไว้ 1.8 พันไร่ มียอดพร้อมโอนไม่น้อยกว่า 300 ล้านบาท คาดว่าเดือนสิงหาคมเมื่อกฤษฏีกาประกาศใช้การเปลี่ยนสีพื้นที่ บริษัทจะโอนให้กับนักลงทุนทันที มูลค่าที่จะโอนราว 2 พันล้านบาทอันนี้จะเป็นข่าวร้อนสุดๆ เมื่อเวลามาถึง แต่สิ่งที่จะเกิดอย่างแน่นอนคือคอนโดตึกสูงสุขุมวิท 15 มูลค่า 2 พันล้านบาทพร้อมโอนครบในปีนี้ และการนำโรงงานให้เช่า 6 แห่งไปเข้ากองทุน REIT มูลค่า 2 พันล้านบาทจะมีกำไรราว 600 ล้านบาท
เท่ากับว่าเรามีโอกาสเห็นการรับรู้รายได้ราว 4,000 ล้านบาท และกำไรจากตั้งกองทุนอีกก้อน จะช้าหรือเร็วขึ้นกับสถานการณ์แล้วแต่หากช้า ปีหน้าก็โตกระโดดเต็มที่เพราะทุกอย่างจะไปกระจุกตัวปี 59 ทันที แนวโน้มทางเทคนิคตรงนี้ถือว่าค่อนข้างต่ำ แต่จะต่ำกว่านี้อีกหรือไม่นั้นบอกยาก เอาว่าถึงจุด Oversold และราคาต่ำกว่า 4 บาทเห็นไม่บ่อยนัก แนวต้านตามเส้นกดทับอยู่ที่ 3.96 บาท ใครจะรับเก็งกำไร หรือถือโอกาสเก็บไว้ลืมๆ ก็ไม่เลว ข่าวดีกำลังจะออกมาอีกไม่นานนี้ละ