- Details
- Category: ซุบซิบการลงทุน
- Published: Thursday, 30 October 2014 17:01
- Hits: 3566
บล.คันทรี่ กรุ๊ป : เด็กแนว
เด็กแนว : ราคาน่าจะพุ่งขึ้นต่อไป
BWG เงียบไปนานสำหรับหุ้นตัวนี้ หลังจากที่ราคาร้อนแรงวิ่งแจ้นไปถึง 5.50 บาท รับกระแสเรื่อง คสช. เอาใจใส่การกำจัดขยะเป็นพิเศษ แต่อย่างว่าราคาหุ้นมีขึ้นก็มีลง พอกระแสเริ่มแผ่วราคาหุ้นก็เริ่มอ่อน ย่อลงมาถึง 4.40 บาทโดยประมาณเข้าสู่แนว Oversold ทางเทคนิค ทั้งๆ ที่ปัจจัยพื้นฐานบริษัทไม่ได้แย่ลง แต่กลับดีขึ้นด้วยซ้ำ เรื่องของรายได้ค่าบริการขยะนั้นเพิ่มขึ้น เพราะโรงงงานหันมาลดมลพิษ มิฉะนั้นอาจโดนตรวจสอบมีความผิดได้ ที่ผ่านมามีการแอบไปทิ้งขยะในที่ต่างๆ จนเกิดไฟไหม้ใหญ่โต นอกจากนี้รายได้จากการขายเชื้อเพลิงอัดก้อนหรือเรียกว่า RDF ก็กำลังไปได้ดี จนบริษัทอนุมัติโรงงานนำขยะมาอัดก้อนเป็นถ่านความร้อนสูงเฟสที่ 2 ซึ่งจะทำให้ในปี 58 รายได้ในส่วนนี้จะเพิ่มขึ้นอีกเท่าตัว ด้านผลประกอบการครึ่งปีโตขึ้นราว 30% และครึ่งหลังจะโตเด่นเผลอๆ ทั้งปีกำไรควรจะทะลุ 200 ล้านบาทไม่ยากและโตแรงในปีหน้าจากโรงงานเฟส 2
ด้านกราฟ BWG ดีตามรูปเลย ใครนะช่างรังสรรค์ ทำให้กราฟมีฟอร์มของการโค้งตัวตีวงเป็นถ้วยหงายอย่างชัดเจน ขณะที่ MACD ตัดสัญญาณขึ้นมาเป็น buy signal และเกิด divergence อีกตะหาก ซึ่งจะทำให้ราคาไต่ระดับเดินหน้าไป 5 บาทในรอบนี้อีกครั้งหนึ่ง ถ้าผลประกอบการไม่ดีอย่างคาดเราก็พอแค่นี้ แต่ถ้าออกมาดีเกินคาดราคาน่าจะพุ่งขึ้นต่อไป แต่ที่แน่ๆทางเทคนิคกวักมือเรียกให้เข้าเล่นตามน้ำแล้วอ่ะ
ESTAR อาการหุ้นอีกดาวเมื่อวานนี้ท้าทายนักเก็งกำไรอย่างมากเพราะช่วงบ่ายมีปริมาณการซื้อขายจัดหนักเข้าไปจำนวนมาก โดยปกติหุ้นตัวนี้ถ้าไม่มีข่าวดีไม่ขึ้นแรงขนาดนี้ แต่หากนับตั้งแต่ช่วงแรกๆ ที่เด็กแนวแนะนำก็ถือว่าเป็นหุ้นที่ลงทุนในระยะกลางได้เพราะราคาเดินหน้ามาต่อเนื่องเผลอแป๊บเดียวขึ้นมาเท่าตัวจากที่เคยแนะนำไปแล้ว ถึงตรงนี้น่าสนใจตรงที่ว่าทำไม Volume ถึงได้บานตะไท ก็ทำให้ประเมินข้อมูลเบื้องต้นว่า ด้านผลประกอบการ อาจจะกลับมาดูดีตามการโอนคอนโด 2 แห่งคือ The Breeze และ Vantage แต่สิ่งที่เด็กแนวตั้งข้อสังเกตคือ ESTAR มีที่ดินหลายพันไร่เป็นสินทรัพย์ที่มีค่า และทีดินก้อนสำคัญที่ระยองกว่า 600 ไร่อยู่ในระหว่างการเจรจาขายนั้น เป็นไปได้หรือไม่ที่จะหาผู้ซื้อได้แล้ว จึงทำให้ราคาหุ้นเคลื่อนไหวแรงขนาดนี้ ถ้าให้ราคาคร่าวๆ ที่ 4 ล้านบาท หากขายได้จะได้เงินเข้ากระเป๋ากว่า 2,400 ล้านบาท หากสมมุมติให้มีกำไรหลังภาษีที่ 1,200 ล้านบาท จะมีกำไรต่อหุ้นที่ 0.24 บาท หรือคิดเป็นมูลค่าหุ้นที่ PE 10 เท่าคือ 2.40 บาทเป็นอย่างน้อย ถ้ามองตามนี้เด็กแนวว่ามูลค่าของหุ้นตัวนี้ยังต้องไปอีกเท่าตัวละนั่น
ถ้าหากยังขายไม่ออกไม่ต้องง้อใครแล้ว แนะนำว่าให้เอาเปิดเป็น Solar Farm 50 MW สบายๆ รับรู้กำไรปีละไม่น้อยกว่า 300 ล้านเลยก็ได้ ต้องบอกว่าทางเลือกของน้องดาวมีเยอะแยะ เพราะที่ดินซ่อนค่าในมือจะทำอะไรตอนนี้ง่ายแล้ว ส่วนแนวโน้มราคาลุ้นจากกราฟจะเห็นว่าการปรับรูดตัวลงไปเมื่อต้นปีนั้นทำให้ฟอร์มกระทะหงายเสียไป แต่แล้วก็ตีกลับขึ้นมาเข้าวงโคจรเดิม ถือว่าคนปั้นกราฟทำได้เก่งมาก จึงกลับเข้ามายังรูปกระทะใหม่ ซึ่งจะมีแนวต้าน 1.40 และเลยไปคือ 2 บาท ถ้าเชื่อในทรงกราฟ ที่ทำได้เนียนอย่างนี้ มองระยะยาว หุ้นอีดาว ไปไกลแน่ เชื่อเถอะ