- Details
- Category: ซุบซิบการลงทุน
- Published: Tuesday, 10 April 2018 22:43
- Hits: 16706
บล.เออีซี : Action Strategy
MARKET OUTLOOK
ระมัดระวังแรงขายบริเวณแนวต้าน! .. ดัชนี SET วานนี้แกว่งตัวรีบาวด์แรง บวกกว่า 10 จุดในช่วงครึ่งวันเช้า ก่อนแกว่งตัวออกข้างช่วงบ่าย ปิดสิ้นวันที่ระดับดัชนี 1,751.27 จุด ปรับตัวเพิ่มขึ้น 11.35 จุด ด้วยมูลค่าซื้อขายราว 5.6 หมื่นล้านบาท ภาพรวมตลาดยังคงเป็นการรีบาวด์ในแนวโน้มขาลง โดยกราฟ 15 นาที ดัชนีได้ดีดตัวขึ้นมาจากบริเวณแนวรับ 1,720-1,730 จุด เคลื่อนตัวเข้าใกล้แนวต้านทั้งเส้นระนาบ และเส้น Downward Slope บริเวณระดับดัชนี 1,755-1,760 จุด ถือเป็นแนวต้านที่มีนัยยสำคัญ ประกอบกับทางเทคนิคเริ่มให้สัญญาณเชิงลบ จากสัญญาณ Bearish Divergence (สัญญาณพลิกกลับตัวของแนวโน้ม) จาก Modified Stochastic และ MACD เองพลิกกลับต่ำลงกว่าเส้น Signal อีกครั้ง สะท้อนให้เห็นถึงสัญญาณการรีบาวด์เริ่มอ่อนแรงลง ฉะนั้น คาดว่า SET วันนี้ น่าจะยังไม่สามารถผ่านแนวต้านบริเวณ 1,755-1,760 จุด
โดยมีแนวรับบริเวณ 1,720- 1,725 จุด นักลงทุน เน้นถือเงินสด โดยมีจุดเฝ้าระวังเพื่อรอดูสัญญาณการฟื้นตัวบริเวณกรอบแนวรับดังนี้ กรอบแรก 1,720-1,730 จุด หากปิดหลุด มองกรอบแนวรับถัดไป 1,680-1,690 จุด
ระมัดระวังแรงขายบริเวณแนวต้าน! .. ดัชนี SET วานนี้แกว่งตัวรีบาวด์แรง บวกกว่า 10 จุดในช่วงครึ่งวันเช้า ก่อนแกว่งตัวออกข้างช่วงบ่าย ปิดสิ้นวันที่ระดับดัชนี 1,751.27 จุด ปรับตัวเพิ่มขึ้น 11.35 จุด ด้วยมูลค่าซื้อขายราว 5.6 หมื่นล้านบาท ภาพรวมตลาดยังคงเป็นการรีบาวด์ในแนวโน้มขาลง โดยกราฟ 15 นาที ดัชนีได้ดีดตัวขึ้นมาจากบริเวณแนวรับ 1,720-1,730 จุด เคลื่อนตัวเข้าใกล้แนวต้านทั้งเส้นระนาบ และเส้น Downward Slope บริเวณระดับดัชนี 1,755-1,760 จุด ถือเป็นแนวต้านที่มีนัยยสำคัญ ประกอบกับทางเทคนิคเริ่มให้สัญญาณเชิงลบ จากสัญญาณ Bearish Divergence (สัญญาณพลิกกลับตัวของแนวโน้ม) จาก Modified Stochastic และ MACD เองพลิกกลับต่ำลงกว่าเส้น Signal อีกครั้ง สะท้อนให้เห็นถึงสัญญาณการรีบาวด์เริ่มอ่อนแรงลง ฉะนั้น คาดว่า SET วันนี้ น่าจะยังไม่สามารถผ่านแนวต้านบริเวณ 1,755-1,760 จุด
โดยมีแนวรับบริเวณ 1,720- 1,725 จุด นักลงทุน เน้นถือเงินสด โดยมีจุดเฝ้าระวังเพื่อรอดูสัญญาณการฟื้นตัวบริเวณกรอบแนวรับดังนี้ กรอบแรก 1,720-1,730 จุด หากปิดหลุด มองกรอบแนวรับถัดไป 1,680-1,690 จุด
STRATEGY
นักลงทุนระยะสั้น : นักเก็งกำไรแนะนำถือเงินสดต่อ หรือเลือก Trading Short ในตราสารอนุพันธ์ แนวต้าน 1,755-1,760 จุด แนวรับ 1,720-1,730 จุด / กรอบแนวรับถัดไป 1,680-1,690 จุด
นักลงทุนระยะกลาง : แนะนำถือเงินสดต่อ รอสัญญาณการฟื้นตัว
นักลงทุนระยะสั้น : นักเก็งกำไรแนะนำถือเงินสดต่อ หรือเลือก Trading Short ในตราสารอนุพันธ์ แนวต้าน 1,755-1,760 จุด แนวรับ 1,720-1,730 จุด / กรอบแนวรับถัดไป 1,680-1,690 จุด
นักลงทุนระยะกลาง : แนะนำถือเงินสดต่อ รอสัญญาณการฟื้นตัว
SECTOR FOCUS
SECTOR ALERT! เบรก Previous High ! Sector Alert วันนี้เลือกกลุ่มการแพทย์ (HELTH) เป็นกลุ่มที่น่าจะไปต่อ จากกราฟรายวัน แท่งเทียนสิ้นวันปิดด้วยการทำ Bullish Engulfing ปิดทะลุแนวต้านเส้นระนาบ ขณะเดียวกันยังเคลื่อนไหวรูปแบบคล้าย Cup with Handle สนับสนุนด้วยสัญญาณเชิงบวกทางเทคนิค ทั้งจาก RSI ที่แกว่งตัวเข้าสู่ Positive Zone(RSI>60%) และ MACD > Signal Line เคลื่อนตัวบวกเพิ่มขึ้น ปัจจัยข้างต้นทำให้เราลุ้นว่ากลุ่มโรงพยาบาลจะ Outperform ตลาดต่อในวันนี้ โดยมี TOP PICK ได้แก่ LPH (แนวรับ : 6.85 บาท / แนวต้าน : 7.70 บาท) และ BCH (แนวรับ 17.30 บาท / แนวต้าน : 18.70 บาท )
SECTOR ALERT! เบรก Previous High ! Sector Alert วันนี้เลือกกลุ่มการแพทย์ (HELTH) เป็นกลุ่มที่น่าจะไปต่อ จากกราฟรายวัน แท่งเทียนสิ้นวันปิดด้วยการทำ Bullish Engulfing ปิดทะลุแนวต้านเส้นระนาบ ขณะเดียวกันยังเคลื่อนไหวรูปแบบคล้าย Cup with Handle สนับสนุนด้วยสัญญาณเชิงบวกทางเทคนิค ทั้งจาก RSI ที่แกว่งตัวเข้าสู่ Positive Zone(RSI>60%) และ MACD > Signal Line เคลื่อนตัวบวกเพิ่มขึ้น ปัจจัยข้างต้นทำให้เราลุ้นว่ากลุ่มโรงพยาบาลจะ Outperform ตลาดต่อในวันนี้ โดยมี TOP PICK ได้แก่ LPH (แนวรับ : 6.85 บาท / แนวต้าน : 7.70 บาท) และ BCH (แนวรับ 17.30 บาท / แนวต้าน : 18.70 บาท )
STOCK HUNTER
Point of view เริ่มยกโลว์ ยกไฮ! Stock Hunter วันนี้เลือก SVI โดยคาดหวังการรีบาวด์ต่อเนื่อง จากกราฟรายวัน ราคาเริ่มดีดตัวขึ้นมาจากกรอบล่างของ Uptrend Channel การเคลื่อนไหวราคาเริ่มยกโลว์ยกไฮต่อเนื่อง บ่งชี้ถึงสัญญาณแนวโน้มที่เป็นบวกยิ่งขึ้น ประกอบกับทางเทคนิคเริ่มเกิดสัญาณซื้อ จาก Modified Stochastic (%K>%D) และ MACD โค้งตัวเข้าใกล้ค่าศูนย์ สนับสนุนมุมมองต่อ SVI ว่าจะฟื้นตัวต่อเนื่อง มีโอกาสรีบาวด์ทดสอบแนวต้านกรอบบนมากกว่า 4.64 บาท โดยมีแนวรับ 4.40 บาท ทั้งนี้แนะนำให้ Stop Loss ก่อนหากราคาวกกลับปิดหลุด 4.32 บาท
Point of view เริ่มยกโลว์ ยกไฮ! Stock Hunter วันนี้เลือก SVI โดยคาดหวังการรีบาวด์ต่อเนื่อง จากกราฟรายวัน ราคาเริ่มดีดตัวขึ้นมาจากกรอบล่างของ Uptrend Channel การเคลื่อนไหวราคาเริ่มยกโลว์ยกไฮต่อเนื่อง บ่งชี้ถึงสัญญาณแนวโน้มที่เป็นบวกยิ่งขึ้น ประกอบกับทางเทคนิคเริ่มเกิดสัญาณซื้อ จาก Modified Stochastic (%K>%D) และ MACD โค้งตัวเข้าใกล้ค่าศูนย์ สนับสนุนมุมมองต่อ SVI ว่าจะฟื้นตัวต่อเนื่อง มีโอกาสรีบาวด์ทดสอบแนวต้านกรอบบนมากกว่า 4.64 บาท โดยมีแนวรับ 4.40 บาท ทั้งนี้แนะนำให้ Stop Loss ก่อนหากราคาวกกลับปิดหลุด 4.32 บาท
อิศรา เลิศสุดคนึง (เลขทะเบียน 033432) [email protected]
ธีรยุทธ ฤทธิเผ่าพันธุ์ (ผู้ช่วยนักวิเคราะห์เทคนิค)
จิรภัทร โบสุวรรณ (ผู้ช่วยนักวิเคราะห์เทคนิค)
ตฤณ สิทธิสวัสดิ์ (ผู้ช่วยนักวิเคราะห์เทคนิค)
ธีรยุทธ ฤทธิเผ่าพันธุ์ (ผู้ช่วยนักวิเคราะห์เทคนิค)
จิรภัทร โบสุวรรณ (ผู้ช่วยนักวิเคราะห์เทคนิค)
ตฤณ สิทธิสวัสดิ์ (ผู้ช่วยนักวิเคราะห์เทคนิค)
บล.เออีซี : Derivatives Signals
SET50 Index Futures
มุมมองทางทฤษฎี: ต่างชาติมีสถานะซื้อสุทธิในตลาดทุนเพิ่มขึ้น!!!
BASIS (S50M18-SET50): เมื่อวานนี้ S50M18 ปิดบวกมากกว่า Spot ส่งผลให้ Basis เพิ่มขึ้นจากวันทำการก่อนหน้า 1.11 จุด โดยปัจจุบันอยู่ที่ระดับ -3.50 จุด ใกล้เคียง Theory Basis ที่ -4.56 จุด สะท้อนมุมมองเป็นกลางในระยะสั้น (3 เดือน) ของนักลงทุนที่มีต่อ SET50 Index ส่วน Calendar Spread (S50U18-S50M18) เพิ่มขึ้นจากวันทำการก่อนหน้า 0.4 จุด โดยปัจจุบันอยู่ที่ระดับ -3.5 จุด ใกล้เคียง Theory Spread ที่ -4.50 จุด สะท้อนมุมมองเป็นกลางในระยะกลาง (6 เดือน) ของนักลงทุนที่มีต่อ SET50 Index
PUT/CALL Ratio: ปัจจุบันอัตราส่วนการเทรด SET50 Index Option ฝั่ง PUT เทียบกับฝั่ง CALL พบว่าปริมาณซื้อขาย (Volume) อยู่ที่ 1.24x เพิ่มขึ้นจากวันทำการก่อนหน้า 0.02x ซึ่ง PUT/CALL Ratio ฝั่ง Volume มีค่าสูงว่า 1x บ่งชี้ถึงสภาวะความกลัวในตลาดหมี ขณะที่ฝั่งสถานะคงค้าง (Open Interest) ปัจจุบันอยู่ที่ 0.82x เพิ่มขึ้นจากวันทำการก่อนหน้า 0.05x (ดูรายละเอียดหน้า 2)
Fund Flow Analysis: เมื่อวานนี้นักลงทุนต่างชาติซื้อสุทธิในตลาดหุ้น 1,479 ล้านบาท พร้อมกับมีสถานะ Net Long 9,805 สัญญา ใน Index Futures โดยตั้งแต่เริ่มต้นช่วง 2Q61 นักลงทุนต่างชาติมียอดคงค้างเป็นสถานะซื้อสุทธิในตลาดทุน (หุ้น + Index Futures) เพิ่มเป็น 8,020 ล้านบาท
BASIS (S50M18-SET50): เมื่อวานนี้ S50M18 ปิดบวกมากกว่า Spot ส่งผลให้ Basis เพิ่มขึ้นจากวันทำการก่อนหน้า 1.11 จุด โดยปัจจุบันอยู่ที่ระดับ -3.50 จุด ใกล้เคียง Theory Basis ที่ -4.56 จุด สะท้อนมุมมองเป็นกลางในระยะสั้น (3 เดือน) ของนักลงทุนที่มีต่อ SET50 Index ส่วน Calendar Spread (S50U18-S50M18) เพิ่มขึ้นจากวันทำการก่อนหน้า 0.4 จุด โดยปัจจุบันอยู่ที่ระดับ -3.5 จุด ใกล้เคียง Theory Spread ที่ -4.50 จุด สะท้อนมุมมองเป็นกลางในระยะกลาง (6 เดือน) ของนักลงทุนที่มีต่อ SET50 Index
PUT/CALL Ratio: ปัจจุบันอัตราส่วนการเทรด SET50 Index Option ฝั่ง PUT เทียบกับฝั่ง CALL พบว่าปริมาณซื้อขาย (Volume) อยู่ที่ 1.24x เพิ่มขึ้นจากวันทำการก่อนหน้า 0.02x ซึ่ง PUT/CALL Ratio ฝั่ง Volume มีค่าสูงว่า 1x บ่งชี้ถึงสภาวะความกลัวในตลาดหมี ขณะที่ฝั่งสถานะคงค้าง (Open Interest) ปัจจุบันอยู่ที่ 0.82x เพิ่มขึ้นจากวันทำการก่อนหน้า 0.05x (ดูรายละเอียดหน้า 2)
Fund Flow Analysis: เมื่อวานนี้นักลงทุนต่างชาติซื้อสุทธิในตลาดหุ้น 1,479 ล้านบาท พร้อมกับมีสถานะ Net Long 9,805 สัญญา ใน Index Futures โดยตั้งแต่เริ่มต้นช่วง 2Q61 นักลงทุนต่างชาติมียอดคงค้างเป็นสถานะซื้อสุทธิในตลาดทุน (หุ้น + Index Futures) เพิ่มเป็น 8,020 ล้านบาท
Technical Analysis
มุมมองด้านเทคนิค: รีบาวด์แรง ผันผวนสูง!!!
เมื่อวานนี้ S50M18 เปิดบวกแล้วแกว่งขึ้นต่อเนื่องตลอดทั้งวัน จนปิด +1.13%DoD ซึ่งสูงกว่า SET50 Index (+1.03%DoD) และ SET Index (+0.65%DoD) สังเกตว่ารอบนี้หุ้น Big Cap ดันตลาดโดยรวมขึ้น โดยแรงรีบาวด์ของ S50M18 ที่เกิดขึ้นสามารถทะลุแนวต้านค่าเฉลี่ยEMA5วันที่ 1,152 จุด ซึ่งกราฟรายวัน Modified Stochastic เริ่มมีสัญญาณซื้อจาก %K พลิกกลับมามากกว่า %D ทำให้เรากลับมุมมองว่า S50M18 จะเปลี่ยน Price Pattern แบบ Double Top (M-Shape) เป็นแกว่งผันผวนสูงในกรอบกว้าง Sideway โดยนักลงทุนที่รับความเสี่ยงได้ต่ำแนะนำหลีกเลี่ยงการลงทุนออกไปก่อน ส่วนนักลงทุนที่รับความเสี่ยงได้สูงแนะนำรอเปิดสถานะในกลยุทธ์ขาขึ้น ฉวยโอกาสเมื่อดัชนีแกว่งผันผวนเพื่อให้ได้ต้นทุนที่ต่ำ
เมื่อวานนี้ S50M18 เปิดบวกแล้วแกว่งขึ้นต่อเนื่องตลอดทั้งวัน จนปิด +1.13%DoD ซึ่งสูงกว่า SET50 Index (+1.03%DoD) และ SET Index (+0.65%DoD) สังเกตว่ารอบนี้หุ้น Big Cap ดันตลาดโดยรวมขึ้น โดยแรงรีบาวด์ของ S50M18 ที่เกิดขึ้นสามารถทะลุแนวต้านค่าเฉลี่ยEMA5วันที่ 1,152 จุด ซึ่งกราฟรายวัน Modified Stochastic เริ่มมีสัญญาณซื้อจาก %K พลิกกลับมามากกว่า %D ทำให้เรากลับมุมมองว่า S50M18 จะเปลี่ยน Price Pattern แบบ Double Top (M-Shape) เป็นแกว่งผันผวนสูงในกรอบกว้าง Sideway โดยนักลงทุนที่รับความเสี่ยงได้ต่ำแนะนำหลีกเลี่ยงการลงทุนออกไปก่อน ส่วนนักลงทุนที่รับความเสี่ยงได้สูงแนะนำรอเปิดสถานะในกลยุทธ์ขาขึ้น ฉวยโอกาสเมื่อดัชนีแกว่งผันผวนเพื่อให้ได้ต้นทุนที่ต่ำ
กลยุทธ์การลงทุน
Outright Trading: รอเปิด Long เมื่อดัชนีแกว่งผันผวนเข้าใกล้ Support Zone 1,140-1,150 จุด โดยมีแนวต้านแรกที่ 1,160 และถัดไปที่ 1,190 จุด ตามลำดับ พร้อมกับตั้ง Stop Loss หากหลุด 1,130 จุด
Outright Trading: รอเปิด Long เมื่อดัชนีแกว่งผันผวนเข้าใกล้ Support Zone 1,140-1,150 จุด โดยมีแนวต้านแรกที่ 1,160 และถัดไปที่ 1,190 จุด ตามลำดับ พร้อมกับตั้ง Stop Loss หากหลุด 1,130 จุด
นักวิเคราะห์: อิศรา เลิศสุดคนึง (ID:033432)
บล.เออีซี : Daily Focus
AECS Daily Focus
Trading Idea: SVI
Trading Idea: SVI
Connect the World- (P.2)
ตลาดต่างประเทศ Rebound หลังนักลงทุนเริ่มคลายความกังวลเรื่องสงครามการค้า
ตลาดต่างประเทศ Rebound หลังนักลงทุนเริ่มคลายความกังวลเรื่องสงครามการค้า
Market Outlook
วันนี้คาด SET Index แกว่งกรอบ 1,740-1,760 จุด โดยแม้ดัชนีจะมี Momentum ให้ขึ้นต่อได้ จาก Sentiment บวกในตลาดต่างประเทศและการฟื้นตัวของหุ้นกลุ่มพลังงานตามราคาน้ำมันดิบที่สูงขึ้น แต่คาดมี Upside จำกัดและทิศทางขาลงยังเป็นต่อ หลังในประเทศยังไร้ปัจจัยใหม่และคาดวอลุ่มจะชะลอตัวจากใกล้เข้าสู่วันหยุดยาวเทศกาลสงกรานต์
วันนี้คาด SET Index แกว่งกรอบ 1,740-1,760 จุด โดยแม้ดัชนีจะมี Momentum ให้ขึ้นต่อได้ จาก Sentiment บวกในตลาดต่างประเทศและการฟื้นตัวของหุ้นกลุ่มพลังงานตามราคาน้ำมันดิบที่สูงขึ้น แต่คาดมี Upside จำกัดและทิศทางขาลงยังเป็นต่อ หลังในประเทศยังไร้ปัจจัยใหม่และคาดวอลุ่มจะชะลอตัวจากใกล้เข้าสู่วันหยุดยาวเทศกาลสงกรานต์
Market Factors
(+) ตลาดหุ้น DJIA ปิด +0.19%DoD หลังนักลงทุนคาดหวังต่อการเจรจาข้อตกลงทางการค้าร่วมกันระหว่างสหรัฐฯ-จีน เพื่อยกเลิกมาตรการกีดกันทางการค้า
(+) ตลาดน้ำมัน WTI ปิด +2.2%DoD จากความกังวลต่อทิศทางอุปสงค์น้ำมันดิบจากจีนที่บรรเทาลง หลังสหรัฐฯ มีท่าทีประนีประนอมด้านการค้ากับจีนมากขึ้น
World Bank คาดอัตราโตของ GDP ไทยปี 61 ที่ 4.1% สูงสุดในรอบ 6 ปี หนุนด้วยภาคส่งออกที่โตเน้น และการฟื้นตัวของภาคธุรกิจ
จับตา ครม. เตรียมพิจารณามาตรการช่วยเหลือผู้ประกอบการมือถือและดิจิตอลทีวี
(+/-) วันนี้ติดตามข้อมูล ศก. สหรัฐฯ ที่สำคัญ ได้แก่ ดัชนีราคาผู้ผลิต, สต็อกสินค้าคงคลังภาคธุรกิจ และสต็อกน้ำมันดิบรายสัปดาห์จาก API
(+) ตลาดหุ้น DJIA ปิด +0.19%DoD หลังนักลงทุนคาดหวังต่อการเจรจาข้อตกลงทางการค้าร่วมกันระหว่างสหรัฐฯ-จีน เพื่อยกเลิกมาตรการกีดกันทางการค้า
(+) ตลาดน้ำมัน WTI ปิด +2.2%DoD จากความกังวลต่อทิศทางอุปสงค์น้ำมันดิบจากจีนที่บรรเทาลง หลังสหรัฐฯ มีท่าทีประนีประนอมด้านการค้ากับจีนมากขึ้น
World Bank คาดอัตราโตของ GDP ไทยปี 61 ที่ 4.1% สูงสุดในรอบ 6 ปี หนุนด้วยภาคส่งออกที่โตเน้น และการฟื้นตัวของภาคธุรกิจ
จับตา ครม. เตรียมพิจารณามาตรการช่วยเหลือผู้ประกอบการมือถือและดิจิตอลทีวี
(+/-) วันนี้ติดตามข้อมูล ศก. สหรัฐฯ ที่สำคัญ ได้แก่ ดัชนีราคาผู้ผลิต, สต็อกสินค้าคงคลังภาคธุรกิจ และสต็อกน้ำมันดิบรายสัปดาห์จาก API
Investment Strategy
แม้ต้นสัปดาห์ SET Index จะฟื้นตัวต่อ แต่ดัชนียังต่ำกว่า 1,760 จุด และช่วงสั้นยังขาดปัจจัยหนุนที่ชัดเจน ทำให้เรามองบรรยากาศลงทุนในตลาดหุ้นไทยยังคงมีความผันผวนสูงและทิศทางลงยังเป็นต่อ (ดัชนียังมีโอกาสเด้งเพื่อลงต่อ)ดังนั้นกลยุทธ์ลงทุนจึงแนะนำ "ดีดขึ้นขายเพื่อถือเงินสดเพิ่ม และค่อยกลับมาทยอยซื้อสะสมเมื่อดัชนีลงมาแนวรับสำคัญ 1,690+/-" ทั้งนี้ มองกลุ่มหุ้นที่น่าสนใจและคาดจะ Outperform ตลาดได้ ดังนี้
1) หุ้น Domestic Play ที่ยังโตแกร่ง พร้อมเป็นหลุมหลบภัยยามตลาดผันผวน: กลุ่มค้าปลีก (HMPRO, CPALL, BJC), กลุ่ม รพ. (BCH, RJH), กลุ่มโรงแรม (MINT, ERW)
2) หุ้น ธพ. ซึ่งคาดราคาจะเริ่มกลับมาทยอยฟื้นตัวได้หลังปรับตัวลงแรงมากแล้ว : KBANK, SCB, BBL, TMB
3) หุ้นจ่าย Div. Yield เกิน 3% โดยจะขึ้น XD เม.ย.-พ.ค. นี้ : KKP, AIT, SC, AP, LH
แม้ต้นสัปดาห์ SET Index จะฟื้นตัวต่อ แต่ดัชนียังต่ำกว่า 1,760 จุด และช่วงสั้นยังขาดปัจจัยหนุนที่ชัดเจน ทำให้เรามองบรรยากาศลงทุนในตลาดหุ้นไทยยังคงมีความผันผวนสูงและทิศทางลงยังเป็นต่อ (ดัชนียังมีโอกาสเด้งเพื่อลงต่อ)ดังนั้นกลยุทธ์ลงทุนจึงแนะนำ "ดีดขึ้นขายเพื่อถือเงินสดเพิ่ม และค่อยกลับมาทยอยซื้อสะสมเมื่อดัชนีลงมาแนวรับสำคัญ 1,690+/-" ทั้งนี้ มองกลุ่มหุ้นที่น่าสนใจและคาดจะ Outperform ตลาดได้ ดังนี้
1) หุ้น Domestic Play ที่ยังโตแกร่ง พร้อมเป็นหลุมหลบภัยยามตลาดผันผวน: กลุ่มค้าปลีก (HMPRO, CPALL, BJC), กลุ่ม รพ. (BCH, RJH), กลุ่มโรงแรม (MINT, ERW)
2) หุ้น ธพ. ซึ่งคาดราคาจะเริ่มกลับมาทยอยฟื้นตัวได้หลังปรับตัวลงแรงมากแล้ว : KBANK, SCB, BBL, TMB
3) หุ้นจ่าย Div. Yield เกิน 3% โดยจะขึ้น XD เม.ย.-พ.ค. นี้ : KKP, AIT, SC, AP, LH
Market Talk and News
SEAFCO (BUY@10) : ช่วง 1Q61 คาดกำไรโต QoQ หลังเริ่มรับรู้งานรถไฟฟ้าสายสีส้มและงานก่อสร้างตึกสูงหนุนทั้งปี 61 กำไรปกติโต 59.3%YoY จาก Backlog ที่คาดราว 3.7 พันลบ. ซึ่งคาด Secured Revenue ปีนี้ 95% + มี Upside 13.6% และมีเงินปันผลจ่ายหุ้นละ0.10 บาท (XD 9 พ.ค.) แนะนำ "ซื้อ"
PLAT (Consensus BUY: TP 8.7): ปี 61 คาดกำไรโต 5.1%YoY จากการขยายพื้นที่เช่าและการปรับอัตราค่าเช่าศูนย์การค้า เดอะ แพลทินัม แฟชั่นมอลล์เฉลี่ย 4-5%YoY อีกทั้งในช่วง 4Q61 เตรียมเปิดศูนย์การค้าปลีก เดอะ มาร์เก็ต แบงก์ค็อก หนุนให้ปี 62 คาดกำไรโตต่อ 31.9%YoY + มี Upside 11.1% และมีเงินปันผลจ่ายจากกำไรปี 60 หุ้นละ 0.20 บาท (XD 7 พ.ค. และจ่ายเงินปันผล 23 พ.ค. นี้) คิดเป็น Div. Yield 2.6% จึงแนะนำ "ซื้อ
COMAN (BUY: Consensus TP@7) ปี 61 หนุนด้วยภาวะท่องเที่ยวที่ขยายตัวดี ทำให้ลูกค้ากลับมาขยายสาขาโรงแรมตามปกติ บวกกับรายได้ค่าบริการที่เพิ่มขึ้นหลังรวมงบของ บ.ย่อย SYNATURE เข้ามาเต็มปี (COMAN ถือหุ้น 51%) พร้อมแผนรุกตลาดโรงแรมขนาด กลาง-เล็ก ที่ยังเติบโตได้อีกมาก + Upside 18.6%
SEAFCO (BUY@10) : ช่วง 1Q61 คาดกำไรโต QoQ หลังเริ่มรับรู้งานรถไฟฟ้าสายสีส้มและงานก่อสร้างตึกสูงหนุนทั้งปี 61 กำไรปกติโต 59.3%YoY จาก Backlog ที่คาดราว 3.7 พันลบ. ซึ่งคาด Secured Revenue ปีนี้ 95% + มี Upside 13.6% และมีเงินปันผลจ่ายหุ้นละ0.10 บาท (XD 9 พ.ค.) แนะนำ "ซื้อ"
PLAT (Consensus BUY: TP 8.7): ปี 61 คาดกำไรโต 5.1%YoY จากการขยายพื้นที่เช่าและการปรับอัตราค่าเช่าศูนย์การค้า เดอะ แพลทินัม แฟชั่นมอลล์เฉลี่ย 4-5%YoY อีกทั้งในช่วง 4Q61 เตรียมเปิดศูนย์การค้าปลีก เดอะ มาร์เก็ต แบงก์ค็อก หนุนให้ปี 62 คาดกำไรโตต่อ 31.9%YoY + มี Upside 11.1% และมีเงินปันผลจ่ายจากกำไรปี 60 หุ้นละ 0.20 บาท (XD 7 พ.ค. และจ่ายเงินปันผล 23 พ.ค. นี้) คิดเป็น Div. Yield 2.6% จึงแนะนำ "ซื้อ
COMAN (BUY: Consensus TP@7) ปี 61 หนุนด้วยภาวะท่องเที่ยวที่ขยายตัวดี ทำให้ลูกค้ากลับมาขยายสาขาโรงแรมตามปกติ บวกกับรายได้ค่าบริการที่เพิ่มขึ้นหลังรวมงบของ บ.ย่อย SYNATURE เข้ามาเต็มปี (COMAN ถือหุ้น 51%) พร้อมแผนรุกตลาดโรงแรมขนาด กลาง-เล็ก ที่ยังเติบโตได้อีกมาก + Upside 18.6%
Quantitative Screening
หุ้น High Alpha ซึ่งคาด Outperform ตลาดวันนี้เลือก AOT, BDMS
หุ้น High Alpha ซึ่งคาด Outperform ตลาดวันนี้เลือก AOT, BDMS
AECS - Fundamental and Strategic Team
ณัฏฐ์วริน ไตรภพสกุล (ID. 027445) [email protected]
อิศรา เลิศสุดคนึง (ID.033432) [email protected]
ตฤณ สิทธิสวัสดิ์ (ID. 091364) [email protected]
จิรภัทร โบสุวรรณ (ID. 040051) [email protected]
ธีรยุทธ ฤทธิเผ่าพันธุ์ ผู้ช่วยนักวิเคราะห์
สุวรรณา อัศวเหล่าวรพงศ์ Data Support / Secretary
OO7348
ณัฏฐ์วริน ไตรภพสกุล (ID. 027445) [email protected]
อิศรา เลิศสุดคนึง (ID.033432) [email protected]
ตฤณ สิทธิสวัสดิ์ (ID. 091364) [email protected]
จิรภัทร โบสุวรรณ (ID. 040051) [email protected]
ธีรยุทธ ฤทธิเผ่าพันธุ์ ผู้ช่วยนักวิเคราะห์
สุวรรณา อัศวเหล่าวรพงศ์ Data Support / Secretary
OO7348